ตอนที่แล้วระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 16 เคล็ดวิชาใดกันที่จะเหมาะกับศิษย์ของข้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 18 ผู้ที่ได้เป็นคนรับใช้ของชิงอี้

ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 17 เคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์


ชั้นที่ห้าของหอคำภีย์นั้นมีไว้สำหรับยอดผีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดของนิกายกระบี่ล่องนภา กำแพงที่เซวียนห่าวผ่านไปก่อนหน้านี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้งนิกายและสามารถฆ่าผู้ฝึกตนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดระดับกลางได้อย่างง่ายดาย แม้แต่ผู้ฝึกฝนขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นกลางระดับสูงสุดอย่างขั้น 6 ก็จะมีโอกาสรอดชีวิตเพียงน้อยนิด

เซวียนห่าวมองไปรอบ ๆ ห้องที่ค่อนข้างเล็กในขณะที่เขาพบหนังสือไม่กี่เล่มที่อยู่ในห้องนั้น

หนังสือเหล่านั้นเป็นเคล็ดวิชาขั้นสวรรค์ที่นิกายกระบี่ล่องนภารวบรวมมาเป็นเวลาหลายปี ว่ากันว่ากว่าเก้าสิบส่วนของเคล็ดวิชาขั้นสวรรค์ที่นี่ล้วนเป็นของที่ผู้ก่อตั้งนำเข้ามาเมื่อเขาก่อตั้งนิกายในสมัยนั้น

ในยุคปัจจุบัน การได้ครอบครองเคล็ดวิชาขั้นสวรรค์นั้นยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีก เคล็ดวิชาขั้นสวรรค์เป็นสัญลักษณ์ของเส้นทางสู่ขอบเขตราชัน

เซวียนห่าวมาที่นี่เพื่อเคล็ดวิชาโดยเฉพาะ เขาจำได้ว่าเคยเห็นที่นี่เมื่อมาเยือนครั้งแรกหลังจากที่เขาเข้าสู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด

“เคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์ !”

เคล็ดวิชาบ่มเพาะขั้นสวรรค์ระดับสูง แค่เคล็ดวิชาบ่มเพาะขั้นสวรรค์ระดับต่ำธรรมดาก็สร้างความเดือดดาลทันทีที่ปรากฏในอาณาจักรนภาสวรรค์ นับประสากับเคล็ดวิชาบ่มเพาะขั้นสวรรค์ระดับสูงที่อาจดึงดูดความสนใจแม้กระทั่งอาณาจักรที่เหนือกว่าอาณาจักรนภาสวรรค์

เคล็ดวิชาบ่มเพาะเป็นสิ่งที่ผู้ก่อตั้งนำมาด้วยเมื่อเขาก่อตั้งนิกายเป็นครั้งแรกและเป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่เซวียนห่าวและยอดผีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคนอื่น ๆ ของนิกายกระบี่ล่องนภาคิดว่าผู้ก่อตั้งของพวกเขาน่าจะเป็นบุคลสำคัญจากอาณาจักรที่แข็งแกร่ง

แต่เหตุใดเขาจึงหลบหนีมายังอาณาจักรนภาสวรรค์เพื่อก่อตั้งนิกายกระบี่ล่องนภากันล่ะ

เซวียนห่าวส่ายหัวเล็กน้อยขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดถึงมัน นั่นมันเรื่องกว่าห้าพันปีที่แล้วนับตั้งแต่ผู้ก่อตั้งเสียชีวิตไปแล้ว

เซวียนห่าวหยิบเคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์ขึ้นมาเพื่อดูว่ามันเหมาะกับชิงอี้หรือไม่

เคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์มีข้อกำหนดที่รุนแรง ไม่ใช่ใครก็ได้ที่สามารถฝึกฝนมัน หนึ่งในข้อกำหนดเหล่านั้นคือผู้ที่ฝึกฝนมันนั้นจะต้องมีกายาศักดิ์สิทธิ์ที่สอดคล้องกับธาตุไฟ

แค่ข้อกำหนดแรกก็มากเกินพอที่จะตัดสิทธิ์ผู้คนเกือบทั้งหมดที่ต้องการฝึกฝนมัน

โชคดีที่ชิงอี้มีกายาศักดิ์สิทธิ์ตะวันเจิดจรัส กายาศักดิ์สิทธิ์ของชิงอี้เป็นกายาศักดิ์สิทธิ์ธาตุไฟและนางจะไม่มีปัญหาใด ๆ ในการฝึกตนด้วยเคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์

เซวียนห่าวยิ้มกับตัวเองเล็กน้อย เขาหยิบเคล็ดวิชาเพลิงสวรรค์และเดินกลับลงไปที่ชั้นสี่ก่อนที่จะเดินออกจากหอคัมภีย์

ศิษย์ที่อยู่บนชั้นหนึ่งและชั้นสองยังคงวิ่งไปรอบ ๆ เพื่อมองหาเคล็ดวิชาที่เหมาะกับพวกเขา แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะลงเอยด้วยการใช้เคล็ดวิชาบ่มเพาะหลักของนิกาย นั่นคือเคล็ดวิชากระบี่ล่องนภา

“ท่านพบสิ่งที่ท่านกำลังมองหาแล้วหรือ ผู้อาวุโสเซวียน”

ก่อนที่จะออกจากหอคัมภีย์ เซวียนห่าวก็หันไปทางต้นเสียง

“ผู้อาวุโสเหมิง ข้าหาสิ่งที่ต้องการได้แล้ว โชคดีที่มันค่อนข้างง่ายและใช้เวลาไม่นานเท่าที่ข้าคาดไว้”

“ข้ายินดีด้วย เอาล่ะ ข้าจะไม่รบกวนเวลาเจ้าล่ะ ลาก่อนอีกครั้งผู้อาวุโสเซวียน”

“ฮ่าฮ่า ลาก่อนผู้อาวุโสเมิ่ง”

เขากล่าวอำลาผู้อาวุโสผู้อวุโสอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเซวียนห่าวก็เดินไปที่เขตชานเมืองของนิกาย

สถานที่ที่เขากำลังจะไปคือที่ตั้งของที่พักคนใช้ของนิกาย

ที่เรือนคนรับใช้ของนิกายกระบี่ล่องนภาไม่ได้เป็นสถานที่เล็ก ๆ แต่เนื่องจากมันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของนิกายโดยตรง จึงตั้งอยู่ที่เขตชานเมืองของนิกาย

คนรับใช้จากเรือนคนรับใช้ส่วนใหญ่ได้รับการฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อยและต่อมาจะถูกว่าจ้างโดยนิกายกระบี่ล่องนภาเมื่อมีความจำเป็น เฉพาะเมื่อคนรับใช้ได้รับการว่าจ้างจากศิษย์หรือผู้อาวุโส เขาหรือนางจึงจะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นทางการว่าเป็นส่วนหนึ่งของนิกายกระบี่ล่องนภา

เซวียนห่าวยืนอยู่หน้าเรือนคนรับใช้ เขามุ่งหน้าไปยังแผนกต้อนรับซึ่งตั้งอยู่กลางของเรือน

“ท่านมีอะไรให้ข้าช่วยไหม?”

หญิงสาวยิ้มอย่างสดใสและถามเซวียนห่าวเพราะนางเป็นคนเดียวที่อยู่ในเรือนคนรับใช้

เมื่อหยุดอยู่หน้าโต๊ะที่หญิงสาวนั่งอยู่ เซวียนห่าวก็หยิบเหรียญผู้อาวุโสหลักของเขาออกมาและแสดงให้หญิงสาวคนนั้น นางยืดตัวขึ้นทันทีและมองไปที่เซวียนห่าวด้วยความเคารพ

“ผู้อาวุโสเซวียน มีอะไรให้ข้าช่วยท่านไหม เจ้าคะ?” หญิงสาวพูดติดอ่างเล็กน้อยเนื่องจากความกังวลใจ หญิงสาวอดทนรอคำตอบของเขา

“ข้าต้องการคนรับใช้ให้ศิษย์ของข้า หากเป็นหญิงสาวอายุประมาณสิบห้าปีจะดีมาก” เมื่อพูดเช่นนั้น เซวียนห่าวก็เฝ้าดูขณะที่หญิงสาวพยักหน้าอย่างลนลานก่อนที่จะพุ่งออกจากห้องและเข้าไปในห้องที่เหล่าคนรับใช้พักและฝึกฝน

เขายิ้มเมื่อเห็นหญิงสาววิ่งด้วยความเร็วดังกล่าว เซวียนห่าวพบนั่งลงและรอให้หญิงสาวผู้นั้นกลับมา

ในขณะเดียวกัน หญิงสาวก็วิ่งตรงไปที่หัวหน้าเรือนคนรับใช้และบอกเขาว่าผู้อาวุโสเซวียนมาหาคนรับใช้สำหรับศิษย์ของเขา

พายุได้พัดถาโถมเข้าเรือนคนรับใช้ เนื่องจากทุกคนต้องการที่จะเป็นคนรับใช้ของศิษย์ของเซวียนห่าว

หลังจากผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง หญิงสาวก็กลับมาและบอกเซวียนห่าวว่าคนรับใช้จะถูกส่งไปที่ตำหนักของเขาในหนึ่งถึงสองวัน

เซวียนห่าวไม่ได้โวยวาย เพราะปกติจะใช้เวลาสองสามวันกว่าที่เรือนคนรับใช้จะเลือกว่าผู้ที่เหมาะสมที่สุดให้เขา

ด้วยเหตุนี้เซวียนห่าวจึงออกจากเรือนคนรับใช้และกลับไปที่ตำหนักของเขา โดยไม่รู้ว่าพายุลูกใหญ่แค่ไหนที่ถาโถมในเรือนคนรับใช้

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด