ตอนที่แล้วตอนที่ 165: นักแสดงยอดเยี่ยม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 167: ไม่ต้องห่วง

ตอนที่ 166: ถูกโจมตี


ตอนที่ 166: ถูกโจมตี

“แย่แล้ว! น้องสามกำลังตกอยู่ในอันตราย!!”

ความเชื่อมโยงกันระหว่างฝาแฝดเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถอธิบายได้ เพราะทันทีที่หลิงเฟิงที่เฝ้าอยู่ด้านนอกคฤหาสน์ได้พบกับอันตราย หลิงหยุนซึ่งอยู่ในศูนย์บัญชาการก็สามารถสัมผัสถึงอันตรายของพี่น้องได้ในทันที

เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันหลิงหยุนกับเซี่ยเฟยก็รีบออกมาจากรถและมุ่งหน้าตรงไปทางทิศใต้ของทะเลสาบแบล็ควอเตอร์

“พี่สามอยู่ที่ไหน?” เซี่ยเฟยถามอย่างกังวลใจ เนื่องมาจากว่าเขาเป็นผู้ใช้ความเร็วถ้าหากว่าเขายังคงรอไปกับหลิงหยุนแบบนี้มันอาจจะชักช้าไม่ทันการณ์ แล้วมันก็คงจะดีกว่าถ้าหากว่าเขาเร่งนำหน้าไปคนเดียว

“อยู่ตรงนั้น! น้องสามกำลังสู้กับพวกมันอยู่” หลิงหยุนกล่าวออกมาอย่างรีบร้อนพร้อมกับชี้มือไปที่ป่าสนซึ่งอยู่ห่างออกไปมากกว่า 10 กิโลเมตร

เสียงที่หลิงหยุนพูดออกมาค่อนข้างดังแต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย นั่นก็เพราะว่าพี่น้องของเขากำลังตกอยู่ในอันตรายในฐานะพี่ชายเขาย่อมต้องรู้สึกกังวลเป็นเรื่องธรรมดา

เซี่ยเฟยถีบขาใส่พื้นอย่างรุนแรงพร้อมกับวิ่งไปยังป่าทึบด้านหน้าด้วยความเร็วสูงสุด โดยพยายามเงี่ยหูฟังเสียงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นภายในป่า

โชคดีที่ในตอนนี้เขาได้สวมชุดต่อสู้ที่ยืมมาจากผางชิงเป็นการชั่วคราว ซึ่งแม้ว่าชุดนี้จะไม่ได้ดีเหมือนกับชุดวินด์ชาโดว์และไม่ใช่ชุดที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ความเร็ว แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดจากแรงต้านลมเมื่อเขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง

10 กิโลเมตรในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที!

เซี่ยเฟยเคลื่อนที่ภายในป่าราวกับสายฟ้าแลบและพยายามมองหาร่องรอยการต่อสู้ของหลิงเฟิง

ตรงนั้น!

ทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ห่างไปไม่ไกล เขาจึงรีบมุ่งหน้าไปตามเสียงอย่างรวดเร็ว

หลังจากเคลื่อนที่ออกตามหาในพื้นที่ 200 ตารางเมตร ชายหนุ่มก็ได้พบกับหลิงเฟิงที่ยืนพิงต้นไม้ด้วยใบหน้าอันซีดเซียวโดยที่มือข้างหนึ่งของเขากุมไหล่ที่บาดเจ็บเอาไว้

เซี่ยเฟยรีบเข้าไปทำการตรวจสอบว่าเขาสามารถจะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง ซึ่งในเวลาเดียวกันเขาก็ตรวจสอบสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูลอบโจมตี

“พี่เป็นไงบ้าง?”

“โดนฟันที่ไหล่นิดหน่อยแต่โชคดีมันเป็นแผลแค่ที่ผิวหนัง”

เซี่ยเฟยขยับแขนของหลิงเฟิงออกและพยายามสังเกตบาดแผลที่อยู่บนไหล่ ก่อนที่เขาจะได้พบว่าบาดแผลนี้ถูกตัดจากของมีคมเข้าไปค่อนข้างลึก และถ้าหากว่าบาดแผลลึกลงไปกว่านี้อีกประมาณครึ่งนิ้วมันก็คงจะเข้าไปทำลายกระดูกด้านใน

รูปร่างของแผลนี้แปลกมากเพราะมันเป็นแผลที่มีรูปร่างคล้ายกับพระจันทร์เสี้ยว ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็รู้สึกคุ้น ๆ เพียงแต่เขายังนึกไม่ออกว่าเขาเคยเห็นบาดแผลแบบนี้มาจากที่ไหน

“สำนักวิหคสังหาร!” อันธอุทานออกมาเสียงดัง

“แน่ใจนะ?”

“ชัวร์! บาดแผลแบบนี้มันเป็นบาดแผลจากดาบจันทร์วิหค นอกเหนือจากอาวุธชนิดนี้ไม่มีอาวุธชนิดไหนสร้างบาดแผลแบบนี้ได้อีกแล้ว” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างจริงจัง

“ดาบจันทร์วิหค?” เซี่ยเฟยอุทานอย่างสงสัย

“มันคืออาวุธชนิดเดียวกันกับที่พวกนักฆ่าที่ลักพาตัวแอวริลใช้ มันคืออาวุธประจำสำนักวิหคสังหาร เรียกได้ว่ามันเป็นอาวุธที่ช่วยสร้างชื่อให้กับพวกเขาเลย”

“สิ่งที่น่ากลัวคืออาวุธชนิดนี้มีพิษร้อนแฝงเอาไว้ ลองอ้าปากเขาดูว่ามีจุดแดงอยู่ใต้ลิ้นเขาหรือเปล่า” อันธกล่าวอธิบาย

เซี่ยเฟยขอให้หลิงเฟิงอ้าปากเพื่อทำการตรวจสอบตามคำแนะนำของอันธ จากนั้นเขาก็ใช้แสงสว่างจากดวงจันทร์ก่อนที่จะมองเห็นจุดสีแดงกำลังแพร่กระจายอยู่ใต้ลิ้นของหลิงเฟิงอย่างรวดเร็ว

“แบบนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าเขาถูกจู่โจมจากดาบจันทร์วิหคจริง ๆ โชคดีที่สถานการณ์ยังไม่เลวร้ายนัก รีบให้เขากินผลเนตรนาคาเข้าไป 3 ผลเร็วเข้า!”

เซี่ยเฟยรีบหยิบผลเนตรนาคาออกมาจากแหวนมิติโยนใส่ปากของตัวเองในทันทีก่อนที่จะยื่นให้หลิงเฟิงอีกสามลูก

“รีบกินผลไม้พวกนี้เข้าไปเร็ว ๆ เข้า อาวุธพวกนี้มันมีพิษ!”

ผลเนตรนาคามีสรรพคุณในการชำระล้างพิษได้เล็กน้อยและถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถกำจัดพิษได้อย่างสมบูรณ์ แต่มันก็ช่วยชะลอการแพร่กระจายของพิษจนก่อให้เกิดอันตราย

หลิงเฟิงฝึกฝนการต่อสู้อยู่เป็นประจำ ดังนั้นประสาทสัมผัสเกี่ยวกับการถูกพิษของเขาจึงดีกว่าคนทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเองเช่นกัน เขาจึงรีบกินผลเนตรนาคาเข้าไปโดยไม่ลังเล

“พวกเราควรจะทำยังไงต่อไปดี?” เซี่ยเฟยถามอันธผ่านความคิด

“ขั้นแรกให้ตัดเนื้อชั้นนอกสุดของบาดแผลออกไปก่อนแล้วรีบนำเขาส่งโรงพยาบาลโดยพยายามทำให้เขาอยู่นิ่ง ๆ ให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าหากว่าเลือดหมุนเวียนเร็วขึ้นการแพร่กระจายของพิษก็จะรุนแรงขึ้นตามไปด้วย” อันธอธิบาย

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่จะหยิบมีดเล่มหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ โดยมีดเล่มนี้เป็นมีดที่เขามักจะเอาไว้ใช้ทำอาหารและถึงแม้ว่าคุณภาพของมันจะไม่ค่อยดีนัก แต่อย่างน้อยใบมีดก็มีความคมมากพอที่จะตัดเนื้อของมนุษย์ได้

ป๊อก!

“มันอาจจะเจ็บนิดหน่อยนะครับ” เซี่ยเฟยหักกิ่งไม้เข้ามายัดภายในปากของหลิงเฟิง

หลิงเฟิงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร เพราะเมื่อเขาเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดของชายหนุ่มเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้ชายหนุ่มปฐมพยาบาลบาดแผลของเขาไปโดยไม่ต้องการคำอธิบาย

เชือบ!

เซี่ยเฟยใช้คมมีดกรีดรอบ ๆ บาดแผลอย่างรวดเร็ว โดยกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไปเพียงแค่ 0.01 วินาที ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขามีความแม่นยำมากทำให้เนื้อที่เขาตัดเฉือนออกไปไม่ได้สัมผัสกับกล้ามเนื้อทางด้านในเลย

เซี่ยเฟยมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมเป็นทุนเดิมบวกกับเขาเป็นผู้ใช้พลังพิเศษสายความเร็ว เขาจึงสามารถรักษาบาดแผลได้ราวกับแพทย์ผ่าตัดชำนาญการเพียงแต่เขาสามารถที่จะเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งกว่า

“เอาล่ะต่อไปพี่ก็มาขึ้นหลังผม”

“ไม่เป็นไรฉันเดินเองได้ ฉันก็เป็นผู้ใช้ความเร็วเหมือนกัน อีกอย่างบาดแผลก็ไม่ได้อยู่ที่ขา” หลิงเฟิงโต้กลับเพราะการถูกหามกลับถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอัปยศอยู่เล็กน้อย

“พี่เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว อย่าลืมว่าตอนนี้พี่กำลังโดนพิษ!” เซี่ยเฟยตะโกนกลับอย่างไม่ไว้หน้า

หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็แบกหลิงเฟิงเอาไว้บนหลังพร้อมกับรีบวิ่งกลับมาด้วยความรวดเร็ว อย่างไรก็ตามร่างกายของเขาก็ยังไม่ได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และเขาก็กำลังแบกชายร่างสูงที่มีน้ำหนักมากกว่า 80 กิโลกรัมไว้บนหลังพร้อมกับเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง มันจึงทำให้เขารู้สึกปวดกล้ามเนื้อไปจนถึงกระดูก แต่เซี่ยเฟยก็ไม่ได้สนใจความเจ็บปวดของตัวเองมากนักเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องช่วยชีวิตหลิงเฟิงเอาไว้ก่อน

หน้าห้องผ่าตัดในโรงพยาบาล

ด้วยเหตุผลเรื่องการรักษาความลับเซี่ยเฟยจึงไม่ได้ส่งหลิงเฟิงไปที่โรงพยาบาลในเครือของตระกูลเจี่ยน แต่นำเขามาส่งที่โรงพยาบาลของรัฐทั่ว ๆ ไปแทน

นักฆ่าที่ลักพาตัวแอวริลปรากฏตัวห่างจากคฤหาสน์แบล็ควอเตอร์ไม่ไกลนัก มันจึงทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกสงสัยในตัวแบ็ตตี้มากยิ่งขึ้น และมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ปลอดภัยหากเขาได้นำหลิงเฟิงเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลของตระกูลเจี่ยน

ถึงยังไงแบ็ตตี้ก็มีลูกชายและภรรยาที่เขาอยากจะนำเข้าตระกูล ดังนั้นถึงแม้ว่าโจวหยูฉิงจะไม่ได้ยุยงแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าแบ็ตตี้จะไม่ได้มีความทะเยอทะยาน

ขณะเดียวกันเนื่องจากพิษได้ไหลเวียนเข้าสู่กระแสเลือดทางทีมแพทย์จึงจำเป็นจะต้องทำการฟอกเลือดให้กับหลิงเฟิงทันที เซี่ยเฟยกับหลิงหยุนจึงทำได้เพียงแต่เฝ้าอยู่ที่นอกประตูห้องผ่าตัด

“เกิดอะไรขึ้น?” หลิงเซียวรีบถามขณะวิ่งมายังห้องผ่าตัด

“น้องสามกำลังฟอกเลือดเนื่องจากโดนยาพิษ ต้องขอบคุณน้องเฟยที่ช่วยปฐมพยาบาลให้กับน้องสามแล้วเอาเขามารักษาที่โรงพยาบาล ไม่อย่างนั้น…” หลิงหยุนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

หลิงเซียวผงะไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหันมาก้มตัวขอบคุณเซี่ยเฟยอย่างสุดซึ้งจนชายหนุ่มต้องรีบไปหยุดเขาเอาไว้

“พี่หนึ่งคุณจะทำอะไร! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่าพวกพี่เข้ามาช่วยงานผม ถ้าพวกพี่ไม่ได้เข้ามาช่วยงานผมพี่สามก็คงจะไม่เป็นแบบนี้”

“มันไม่ใช่แบบนั้น ถึงยังไงหน้าที่ของพวกเราก็คือการทำตามคำสั่งของอาจารย์ทูรามอยู่แล้ว เรื่องนี้จึงมีเพียงแค่นายช่วยน้องชายของฉันเอาไว้ พูดง่าย ๆ คือพวกเราสามพี่น้องติดหนี้บุญคุณนายครั้งใหญ่ จากนี้ไปไม่ว่านายจะต้องการทำอะไรขอเพียงแค่บอกมาพวกเราพร้อมจะทำตามคำสั่ง” หลิงเซียวกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ทันใดนั้นเองห้องผ่าตัดก็เปิดออกพร้อมกับหลิงเฟิงที่เดินออกมาโดยที่มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบแขนของเขา

“น้องสามเป็นยังไงบ้าง?” หลิงเซียวรีบเข้าไปพยุงน้องชาย

“ไม่เป็นไรแค่ต้องถ่ายเลือดแล้วเย็บแผลนิดหน่อย หลังจากผ่านคืนนี้ไปผมก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย” หลิงเฟิงพยายามเหยียดแขนให้พี่น้องของเขารู้สึกสบายใจ

แม้ว่าพิษจากดาบจันทร์วิหคจะรุนแรงแต่มันก็เป็นการโจมตีระลอกเดียว ตราบใดก็ตามที่ผู้โดนพิษสามารถทนการโจมตีในระลอกแรกได้ พวกเขาก็จะหายกลับมาเป็นปกติในเวลาเพียงแค่ไม่นาน

“น้องสามตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? นายไปต่อสู้กับใครมา?” หลิงเซียวกล่าวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ตอนนั้นผมกำลังลาดตระเวนอยู่รอบนอกของคฤหาสน์เพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมก่อนทำการวางแผนแทรกซึมเข้าไปด้านใน แต่เมื่อผมเข้าไปในป่าจู่ ๆ ผมก็สังเกตเห็นสิ่งแปลก ๆ ผมจึงเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ก่อนที่ผมจะได้เห็นคนสามคนซ่อนตัวอยู่ในป่า ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลามืดมากแล้วการมีอยู่ของพวกเขาคงจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่”

“ผมจึงตัดสินใจซ่อนตัวในความมืดแล้วแอบย่องเข้าไปเรื่อย ๆ เพื่อหวังว่าจะได้ยินในสิ่งที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน แต่ผมก็ถูกพบตัวเข้าเสียก่อน สิ่งที่ผมได้ยินในระหว่างนั้นคือคำว่า ‘นาตาชา’ เพียงคำเดียว ก่อนที่ผมจะถูกทั้งสามคนรุมโจมตี”

“หนึ่งในนั้นเป็นผู้ใช้ความเร็วเหมือนกันและดูเหมือนว่าความเร็วของเขาจะสูงกว่าผมด้วย บาดแผลที่ผมได้รับมาเกิดจากผู้ใช้ความเร็วคนนั้น ซึ่งหลังจากที่ผมถูกโจมตีได้ไม่นานเซี่ยเฟยกับพี่สองก็เข้ามาพอดี”

“พวกมันคงเห็นว่าผมมีกำลังเสริมเข้ามาช่วยพวกมันเลยรีบวิ่งหนีไป ผมอยากจะไล่ตามพวกมันไปอยู่ แต่จู่ ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนกับความคิดในหัวกลายเป็นความว่างเปล่า ร่างกายผมร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างกะทันหันจนไม่มีแรงแม้แต่จะไล่ตามพวกนั้นไป ผมจึงพิงตัวเองไว้กับต้นไม้ก่อนที่เซี่ยเฟยจะเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลแล้วส่งผมมาที่โรงบาลนี้ โดยสรุปผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าคนพวกนั้นเป็นใคร” หลิงเฟิงอธิบายสถานการณ์ที่เขาได้พบเจอ

หลิงเซียวกับหลิงหยุนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก สิ่งที่สำคัญคือในตอนนั้นหลิงเฟิงถูกวางยาพิษและถ้าหากว่าพวกเขาเคลื่อนไหวช้าอีกนิดเดียว มันก็คงจะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือหลิงเฟิงได้

ต้องขอบคุณพลังความเร็วของเซี่ยเฟยที่สามารถเข้าถึงตัวหลิงเฟิงได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาก็จะเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อยากคาดคิดเลยจริง ๆ

หลังจากทำความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดพี่น้องตระกูลหลิงก็รู้สึกขอบคุณเซี่ยเฟยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“คนพวกนั้นคือนักฆ่าจากสำนักวิหคสังหาร คนที่ต้องการลักพาตัวแอวริลไปก็เป็นคนพวกนั้นด้วยเหมือนกัน” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“สำนักวิหคสังหาร?” สามพี่น้องอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

“สำนักวิหคสังหารคือใคร? พวกเขามาจากไหน?” หลิงเซียวถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“สำนักวิหคสังหารเป็นองค์กรนักฆ่าที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด ตัวตนของพวกเขาจึงถือว่าเป็นความลับแม้แต่ภายในพันธมิตร”

“ความจริงแล้วองค์กรของพวกเขาไม่ต่างไปจากองค์กรนักสู้ทั่ว ๆ ไปเลย เพียงแต่พวกเขายินดีที่จะสังหารใครก็ตามหากพวกเขาได้รับค่าตอบแทนที่ดีพอ จะเรียกได้ว่าพวกเขาคือนักฆ่ารับจ้างที่ปราศจากอารมณ์ในระหว่างปฎิบัติภารกิจก็ได้”

“ว่ากันว่าผู้ก่อตั้งสำนักวิหคสังหารขึ้นมาเป็นคนจากอาณาจักรฮงหยาน อาณาจักรนี้เป็นอาณาจักรที่แปลกมากเพราะผู้ปกครองของพวกเขาทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงที่ต้องถือกำเนิดขึ้นมาจากราชินีขององค์กร ดังนั้นในสำนักจึงใช้ชื่อของอดีตราชินีเป็นรหัสลับ ชื่อ ‘นาตาชา’ ที่พี่สามได้ยินก็เป็นชื่อของอดีตราชินีของพวกเขาด้วยเช่นกัน ถ้าผมจำไม่ผิดรหัสลับคำนี้มีความหมายว่า ‘ทำลายศัตรู’”

“นอกจากนี้บาดแผลที่พี่สามได้รับมายังเป็นบาดแผลจากอาวุธพิเศษของพวกเขาที่มีชื่อว่าดาบจันทร์วิหค หากรวมหลักฐานทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วก็สรุปได้ว่าคนลงมือคือคนจากสำนักวิหคสังหารอย่างแน่นอน”

“น้องเฟยนายรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง…” หลิงเซียวถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

***************

เอ่อนั่นสิ อธิบายซะละเอียดเชียวแล้วเตรียมคำแก้ตัวที่น่าเชื่อถือไว้รึยัง? 5555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด