ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 11 ตระกูลชิงของเราพ้นจากภัยเสียที
“เป็นไปไม่ได้ ทำไมนางถึงถูกเลือก นางจะเข้าไปได้อย่างไร !”
ไป๋เฉิงพูดไม่ออกเมื่อเขาได้ยินผู้อาวุโสจากนิกายกระบี่ล่องนภาเรียกชื่อของชิงอี้ เขารู้ว่าการเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภานั้นยากเพียงใด ในความเป็นจริง แม้ว่าตระกูลไป๋และผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ล่องนภาจะเคยเป็นคนรู้จักกันมาก่อน แต่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาสามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้ก็เพราะผู้อาวุโสผู้นั้นเป็นหนี้บุญคุณต่อตระกูลของเขา
ตระกูลไป๋ไม่ได้ขอร้องผู้อาวุโสผู้นี้มาหลายปีแล้ว เพราะพวกเขารู้ว่าเมื่อใช้ไปแล้วมันจะหายไปตลอดกาล
บอกตามตรง ไป๋เฉิงกำลังเสแสร้งเมื่อเขาคุยโม้เกี่ยวกับการขอให้ผู้อาวุโสจากนิกายกระบี่ล่องนภาเพื่อช่วยตระกูลชิง ไป๋เฉิงสามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้และผู้อาวุโสก็ได้ตอบแทนคืนไปแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป ผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ล่องนภาก็ไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับตระกูลไป๋อีกต่อไป
เหตุผลที่เขากล้าพูดว่าเขาจะจัดการเรื่องของตระกูลชิงเพราะเขารู้สึกว่าด้วยสถานะของศิษย์นิกายกระบี่ล่องนภา แค่เขาคนเดียวก็เกินพอแล้วที่จะจัดการมัน
“มีปัญหากับคนที่ข้าเลือกเป็นศิษย์หรือ?” เสียงที่แผ่วเบาปรากฏอยู่ในหูของไป๋เฉิง
“ใครกัน !” ไป๋เฉิงตกใจมากและหันกลับทันทีเพื่อดูว่าผู้นั้นเป็นใคร
เมื่อหันไปรอบ ๆ ไป๋เฉิงก็ต้องตกตะลึงเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าผู้นั้นก็คือเซวียนห่าว ผู้ที่ยืนอยู่ข้างจ้าวนิกายก่อนหน้านี้ในช่วงเริ่มการทดสอบ
แรงกดดันที่ไป๋เฉิงรู้สึกนั้นหนักอึ้งเมื่อเขารู้ว่าผู้อาวุโสคนไหนที่เลือกชิงอี้ไปเป็นศิษย์
ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
ยิ่งกว่านั้น เขาเพิ่งจะอายุครบยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้น เซวียนห่าวอายุยี่สิบเอ็ดปี ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด แค่นี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อัจฉริยะทุกคนรู้สึกต่ำต้อย
ชิงอี้เองก็รู้สึกมีความสุขอย่างฉับพลันเมื่อรู้ว่าใครรับนางเป็นศิษย์ ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด ด้วยการสนับสนุนที่แข็งแกร่งนี้ ตระกูลชิงของนางจะปลอดภัยอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแม้แต่นิกายนวาระทมิฬที่อยู่เบื้องหลังตระกูลไป๋ก็มียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้นแรกเพียงคนเดียว
รุ่นเยาว์ที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็หันมามองที่ชิงอี้ด้วยความอิจฉา ถ้าพวกเขาได้ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคอยสนับสนุน พวกเขาคงจะไปถึงสวรรค์ได้ในก้าวเดียว แม้ว่าพวกเขาจะเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้แต่ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างศิษย์ฝ่ายนอกและศิษย์ส่วนตัวของยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
คนหนึ่งเป็นผู้ที่อยู่จุดสูงสุดของนิกายกระบี่ล่องนภาในขณะที่อีกคนหนึ่งอยู่ที่จุดต่ำสุดของนิกาย
“ชิงอี้ เจ้าอยากตามข้ากลับไปที่นิกายกระบี่ล่องนภาเพื่อลงทะเบียนอย่างเป็นทางการหรือไม่ ตระกูลของเจ้าสามารถอยู่รอที่นี่ในลานฝึกได้ หากเจ้าต้องการ มันใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองชั่วโมงเท่านั้น”
เซวียนห่าวเมินเฉยต่อไป๋เฉิงโดยสิ้นเชิงและมุ่งความสนใจไปที่ชิงอี้ในขณะที่เขาอดทนรอให้นางตอบ
เซวียนห่าวเคยบอกจ้าวนิกายเกี่ยวกับการที่เขาเลือกชิงอี้เป็นศิษย์ก่อนหน้านี้และแม้ว่าเขาจะค่อนข้างประหลาดใจว่าทำไมเซวียนห่าวถึงเลือกคนธรรมดาเช่นนี้เป็นศิษย์คนแรกของเขา แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเห็นด้วยกับเขา
ท้ายที่สุดแล้ว การเลือกคนธรรมดาเป็นศิษย์คนแรกของเขาก็ถือว่าดีเช่นกัน เขาสามารถเรียนรู้วิธีการสอนศิษย์ก่อนที่จะรับศิษย์คนอื่นที่มีความสามารถมากกว่า
เมื่อคิดเช่นนี้ จ้าวนิกายก็ได้แจ้งให้ผู้อาวุโสประกาศเลือกศิษย์
“เจ้าค่ะ !” ชิงอี้พูดตะกุกตะกักเล็กน้อยด้วยความกระวนกระวายใจ นางยิ้มออกมาด้วยความดีใจขณะที่นางรีบเดินไปยืนข้างเซวียนห่าวและไม่ลืมที่จะส่งยิ้มอาฆาตไปทางไป๋เฉินซึ่งยังคงแช่แข็งด้วยความตกใจในขณะนี้
ชิงเฉินอี้และรุ่นเยาว์ของตระกูลชิงไม่ได้ดีไปกว่าไป๋เฉิงและรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออก ชิงอี้สามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้อย่างไร มิหนำซ้ำนางยังมีอาจารย์เป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดอีกด้วย
“น่าทึ่งมาก เมื่อคิดว่าชิงอี้ถูกผู้อาวุโสหลักจากนิกายกระบี่ล่องนภารับมาเป็นศิษย์”
“ข้าสงสัยว่าทำไมนางถึงถูกรับเป็นศิษย์ นางไม่ได้เก่งกว่าเราด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับเฉินอี้ !”
“บางทีผู้อาวุโสอาจเห็นบางสิ่งที่เรามองไม่เห็น เขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเลยนะ”
“อย่างนั้นหรือ...”
ขณะที่ผู้คนจากตระกูลชิงค่อย ๆ ฟื้นขึ้นจากสภาพตกใจ พวกเขาก็เริ่มปรึกษาหารือกันว่าชิงอี้สามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้อย่างไร
“อย่างไรกัน...”
ชิงเฉินอี้รู้สึกถึงอารมณ์ที่หลากหลายในขณะที่เขามองไปยังทิศทางที่ชิงอี้หายตัวไป
เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเหนือกว่าชิงอี้ แม้ว่านางจะเป็นลูกสาวของเจ้าตระกูลแต่นางก็ยังอ่อนแอมาก ไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะหรือพรสวรรค์ เขาก็ล้วนเหนือกว่าชิงอี้
แต่เดี๋ยวนะ ผู้อาวุโสจากนิกายกระบี่ล่องนภาเลือกนางเป็นศิษย์และเขาผู้นั้นก็เป็นถึงผู้อาวุโสหลักผู้อยู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด
“ในที่สุดตระกูลชิงของเราก็ปลอดภัย !”
เมื่อเทียบกับรุ่นเยาว์จากตระกูลชิงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ผู้อาวุโสใหญ่ก็มีความสุขกับผลลัพธ์อย่างแท้จริง เนื่องจากตระกูลชิงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับตระกูลไป๋และนิกายนวาระทมิฬที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาอีกต่อไป
ด้วยยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดที่คอยสนับสนุนชิงอี้ ไม่ว่าจะเป็นนิกายนวาระทมิฬหรือตระกูลไป๋จะกล้าทำอะไรตระกูลชิงของพวกเขาหรือ
“ทุกคน มารอที่นี่จนกว่าชิงอี้จะกลับมา !”
ผู้อาวุโสใหญ่ของตระกูลชิงยิ้มกว้างและบอกคนหนุ่มสาวในขณะที่เขารีบหาม้านั่งใกล้ ๆ เพื่อนั่งลงและพักผ่อน
เหล่ารุ่นเยาว์ของตระกูลชิงรีบหาที่นั่งอย่างรวดเร็วในขณะที่พวกเขากลับมาคุยกันต่อเช่นกัน
ในทางกลับกัน ชิงเฉินอี้เพียงแค่จ้องมองไปในอากาศอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าก่อนจะหันไปทางไป๋เฉิงด้วยรอยยิ้มเยาะที่ปรากฏบนริมฝีปากของเขา
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ต้องการความช่วยเหลืออีกต่อไปแล้ว !”
ในที่สุดไป๋เฉิงก็สามารถฟื้นคืนจากอาการตกใจจากการปรากฏตัวของเซวียนห่าว เมื่อหันมา เขาเห็นการเย้ยหยันบนใบหน้าของชิงเฉินอี้
“อย่างน้อยข้าก็สามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้” ด้วยคำพูดเหล่านั้น ไป๋เฉิงรีบวิ่งไปที่ทางเข้าของนิกายกระบี่ล่องนภาเพื่อลงทะเบียน
ชิงเฉินอี้เพียงแค่จ้องมองเขาอย่างเย็นชาสองสามวินาทีก่อนที่จะถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้คือรอให้ชิงอี้ลงทะเบียนกับอาจารย์คนใหม่ของนางให้เสร็จสิ้นและเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาอย่างเป็นทางการ...