ตอนที่แล้วบทที่ 29 - การบีบอัดพลังเวทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 31 - อีกหนึ่งการวิวัฒนาการ

บทที่ 30 - ดวงเวทย์สีทองดวงแรก


“นี่มันเป็นเพราะเธอเข้าใจวิธีการบีบอัดพลังเวทย์ ธาตุแสงเริ่มเปลี่ยนแปลงร่างกายของเธอ และอีกประเด็น ร่างกายของเธอก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนมาก แบ่งตามการเรียนเวทย์มนต์ คนที่เรียนเวทย์มนต์ต่างธาตุกันจะมีร่างกายที่ต่างกัน อธิบายได้ด้วยความแตกต่างของสีที่เปล่งประกายออกมา อย่างเช่น นักเวทย์ไฟจะมีสีแดง นักเวทย์น้ำจะมีสีน้ำเงิน นักเวทย์ดินเป็นสีเหลือง นักเวทย์ลมเป็นสีฟ้า และแน่นอนนักเวทย์แสงอย่างพวกเราเป็นสีขาว ตอนที่ร่างกายของเธอทั้งหมดถูกคลุมด้วยแสงสีขาว นั่นหมายความว่าเธอประสบความสำเร็จในการบีบอัดพลังเวทย์ทั้งหมดในร่างกายเธอ ถ้ามีนักเวทย์ที่ทำเรื่องนี้ได้สำเร็จเกิดขึ้น สหพันธ์เวทย์ก็จะให้ความสนใจอย่างมาก และจะส่งเจ้าหน้าที่มาเป็นการส่วนตัวเพื่อทดสอบระดับของผู้ที่ทำสำเร็จ อาจารย์เชื่อว่าเธอจะเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่ทำเรื่องนี้สำเร็จ เธอเพิ่งอายุ 11 ขวบปีนี้ใช่มั้ย?” อาจารย์ตี้พูดอย่างพอใจมาก

“ใช่ครับอาจารย์ ผมอายุ 11 ปีนี้ แล้วอาจารย์ล่ะครับ?”

“เธอรู้มั้ย อาจารย์บีบอัดพลังเวทย์ทั้งหมดสำเร็จตอนอายุเท่าไร? อายุ 26 ปี ตอนนั้น ความสำเร็จของอาจารย์ทำให้ทั้งประเทศตกใจ อาจารย์เร็วที่สุด แพ้แค่เพียงเมธีเวทย์มิติอันดับ 1 ของทวีป ‘หลุนตี้นั่ว’ เขาเป็นคนที่เร็วที่สุด เขาอายุ 20 ปี ตอนที่เขาบีบอัดพลังเวทย์ได้อย่างสมบูรณ์”

“แล้วทำไมผมถึงทำได้เร็วจัง?” ถ้ามันยากอย่างนั้น ทำไม?

“อาจารย์ก็ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้เหมือนกัน บางทีมันอาจเป็นเพราะเธอได้รับการยอมรับจากธาตุแสง”

“ต้องใช้เวลานานเท่าไรครับ ถึงจะสามารถบีบอัดพลังเวทย์ธาตุแสงได้อย่างสมบูรณ์?”

“มันไม่สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำนัก การบีบอัดพลังเวทย์เป็นเรื่องที่ยากมากในตอนเริ่มต้น มันต้องการความเข้าใจในแบบของตัวเอง นั่นคือเหตุผลที่อาจารย์ไม่สอนเธอโดยตรง แต่หลังจากที่เรียนรู้จนเข้าใจแล้ว จะสามารถบีบอัดได้เร็วมาก ถ้าเธอพยายามอย่างเต็มที่ เธอน่าจะสามารถทำได้ภายใน 1 เดือน”

“อาจารย์ครับ หลังจากผมบีบอัดเสร็จแล้ว ผมจะไม่โดนมองเป็นตัวประหลาดเหรอครับ? ถ้าธาตุแสงรวมอยู่รอบ ๆ ตัวทั้งวัน” ผมไม่อยากโดนมองว่าเป็นตัวประหลาด

“ไม่ต้องกังวล เรื่องนั้นจะไม่เกิดขึ้น หลังจากการบีบอัดพลังเวทย์ได้อย่างสมบูรณ์ ร่างกายของเธอจะกลับไปเป็นเหมือนก่อนที่เธอจะบีบอัดพลังเวทย์”         อาจารย์ตี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“โอ! ถ้าอย่างนั้นก็ดี อาจารย์ครับ ผมต้องไปทดสอบกับสหพันธ์เวทย์มนต์มั้ยครับ?”

อาจารย์ตี้นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “น่าจะดีกว่าที่จะไม่ทดสอบในตอนนี้ เทคนิคการใช้เวทย์ของเธอยังไม่ดีพอ อีกอย่าง ถ้าเธอเข้าร่วมทดสอบกับสหพันธ์เวทย์มนต์ เธอจะกลายเป็นคนดัง นั่นจะทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งยาก อาจารย์หวังว่าเธอจะสามารถทุ่มเทให้กับการฝึกได้อย่างเต็มที่ เธอต้องเข้าใจว่า ถ้าเธอบีบอัดพลังเวทย์ได้อย่างสมบูรณ์ นั่นคือพลังของเธอจะเทียบเท่ากับอาจารย์เวทย์ เด็กอายุประมาณ 10 ขวบเป็นอาจารย์เวทย์ น่าจะทำให้ทั้งอาณาจักรแตกตื่นแน่ ๆ”

“นั่นก็ใช่ครับ ผมไม่อยากเป็นคนดัง” นึกถึงตอนที่ผมสอบได้อันดับ 1 ในการสอบเข้าโรงเรียนยังทำให้ผมรู้สึกกลัวอยู่ (ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าในอนาคต ผมจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในทวีป)

“งานของเธอสำหรับช่วงเดือนนี้คือการบีบอัดพลังเวทย์ของเธอ ตอนที่เธอกลับไปเรียนที่ชั้นเรียน เธอจะต้องไม่ให้คนอื่น ๆ รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่เธอบีบอัดพลังเวทย์เสร็จ อาจารย์จะสอนเธอบางอย่างเกี่ยวกับการใช้เวทย์มนต์ เธอน่าจะได้ใช้มันในการประลอง” อาจารย์ตี้หยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนกล่าวต่อ “ตอนแรก อาจารย์ไม่หวังว่าเธอจะสามารถเรียนรู้วิธีบีบอัดพลังเวทย์ได้เร็วนัก อาจารย์คิดที่จะเริ่มด้วยการสอนเธอใช้เวทย์มนต์บางอย่าง ไม่ได้คิดว่าอัจฉริยะอย่างอาจารย์ จะได้ลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงด้วย”

ว้าว! ไม่มีทาง ผมประหลาดใจ เขาดูจะหลงตัวเองมากกว่าผมอีก สมแล้วที่เป็นอาจารย์ของผม ให้คำเดียวเลย ‘น่าชื่นชม’

“อาจารย์ครับ อัจฉริยะน่ะ! มันผมไม่ใช่เหรอครับ?” ผมถามอย่างระมัดระวัง

อย่างไม่คาดคิด อาจารย์ตี้เริ่ม ‘จัดใหญ่’ “อะไรนะ! เจ้าเด็กน้อย ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะอาจารย์มีเจตนาดีที่จะรับเธอเป็นศิษย์ ไม่ใช่เป็นเพราะอาจารย์ให้คำแนะนำอย่างตั้งใจ เธอจะสามารถทำความเข้าใจได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง? เจ้าเด็กนี่...เธอ เธอทำให้อาจารย์โกรธแล้วนะ” หลังจากได้ยินคำพูดผม เขาเริ่มเป่าหนวด จ้องผมตาเขม็ง

“ใช่แล้วครับ ขอบคุณสำหรับคำสั่งสอนของอาจารย์มาก เป็นคำสั่งสอนที่มีประโยชน์มากจริง ๆ” เพื่ออนาคตที่สดใส ผมไม่มีทางเลือก ต้องยอมไปก่อน ถ้าผมไม่ยอม เขาน่าจะสั่งสอนผมหนักแน่ ๆ มันไม่มีอะไรดีเลย เนอะ!

“ดีขึ้น! นั่นถือว่าดีขึ้น เอาล่ะเธอทำสมาธิต่อได้แล้ว อาจารย์จะกลับไปก่อน” ผมมองตามเงาของอาจารย์ตี้ที่เดินจากไปทั้งที่ยังโมโหอยู่เล็กน้อย ช่วยไม่ได้! ผมหยุดสนใจเขา กลับมาเริ่มต้นทำสมาธิแทน อันที่จริง อาจารย์ก็เป็นคนดีทีเดียว อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำโทษผม เขาแค่ปล่อยให้ผมคิดของผมเอง

ผมนั่งไขว้ขาอยู่บนเตียง หยุดคิดฟุ้งซ่าน ตั้งใจแบ่งธาตุแสงที่อยู่ในร่างกายออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นเริ่มบีบอัดพวกมันเข้าสู่ทรงกลมธาตุแสงภายในจุดสะสมพลังของผม ผมค่อย ๆ ผ่อนคลาย ปล่อยให้พลังวิญญาณทำงานโดยจิตใต้สำนึก ผมผลักดันให้ธาตุแสงมาร่วมตัวกัน ธาตุแสงในสภาพแก๊สเริ่มรวมตัวกับธาตุแสงที่แข็งตัวแล้ว ไม่เลว ผลลัพธ์ค่อนข้างดี

พลังวิญญาณของผมยังไม่หมด ผมจะทำมันเพิ่มอีกสักนิด อีกครั้ง ผมเริ่มชักนำกลุ่มแก๊สธาตุแสงอีกกลุ่มมา แล้วใช้วิธีเดิมในการรวมมันเข้าด้วยกัน ดวงแสงทรงกลมเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเมื่อวาน น่าจะพอแล้ว! ได้เวลานอน ผมเหนื่อยมากจนนึกว่าผมจะตาย

มันเป็นอย่างนี้เหมือนกันทุกวัน นอกจากกินข้าวและเข้าห้องน้ำ ผมจะใช้เวลาทั้งหมดในการควบแน่นธาตุแสง พอพลังวิญญาณของผมหมด ผมหลับ (มันจะกลายเป็นการทำสมาธิโดยอัตโนมัติ) หลังจากผมตื่นขึ้นมา ธาตุแสงในร่างกายของผมก็จะเต็มเปี่ยมอีกครั้ง หลังจากนั้นผมก็ควบแน่นต่อไป

เมื่อดวงแสงมีขนาดใหญ่ขึ้น และใหญ่ขึ้น ชั้นแสงสีขาวรอบตัวผมก็ยิ่งเข้มขึ้น ทุกวันอาจารย์ตี้น่าจะสังเกตดูผมระหว่างที่นำอาหารมาส่ง แต่เขาไม่ได้รบกวนผมเลย ด้วยสภาพแวดล้อมที่สงบแบบนี้เหมาะสมอย่างมากต่อการทำสมาธิ

ต้องขอบคุณที่ผมได้รับการยอมรับจากธาตุแสง และรับรู้ความหมายที่แท้จริงของแสงโดยไม่ได้ตั้งใจ ความเร็วในการรวบรวมธาตุแสงของผมนั้นมหัศจรรย์มาก

ในที่สุด ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดก็มาถึง ธาตุแสงทั้งหมดในร่างกายของผมถูกบีบอัดอยู่ในรูปของของแข็งจนสำเร็จ ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของธาตุแสง ทั้งร่างกายของผมเหมือนประกอบขึ้นมาด้วยธาตุแสงเพียงอย่างเดียว ธาตุแสงในร่างกายของผมส่งผ่านความรู้สึกให้รับรู้ได้ว่าพวกมันกำลังมีความสุข ผมสัมผัสได้ว่าพวกมันกำลังจะเปลี่ยนแปลง

โดยไม่คาดคิด ดวงแสงที่ดูเหมือนเป็นของแข็งเริ่มเคลื่อนไหว ตอนแรกผมรู้สึกว่ามันแข็งมาก แต่ตอนนี้มันเริ่มอ่อนตัวลง นอกจากนั้น มันยังเริ่มวิ่งวนไปทั่วทุกที่ในร่างกายของผม สีของมันเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ไม่! ไม่ถูกต้อง มันเริ่มเปลี่ยนสี จากธาตุแสงสีขาวในตอนแรกเปลี่ยนมาเป็นสีทอง อย่างไรก็ตาม ขนาดของทรงกลมค่อย ๆ เล็กลง เล็กลง จนสุดท้ายมันดูเหมือนสายน้ำที่ไหลวนอยู่ภายในตัวของผมผ่านจุดชีพจร มันวนอยู่ 7 รอบก่อนที่จะกลายเป็นดวงเวทย์สีทองขนาดเล็ก อยู่ในจุดสะสมพลังของผม

ถ้ามีคนมองผมอยู่ตอนนี้ จะพบว่ารัศมีสีขาวบนตัวผมค่อย ๆ กระจายตัวออก

ผมรู้สึกถึงลมหายใจที่อบอุ่นเต็มเปี่ยมอยู่ในร่างกาย ผมพยายามรวบรวมธาตุแสงเพิ่ม แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน ผมก็ไม่สามารถทำได้ ทำไมผมทำไม่ได้? อย่าบอกนะว่า...มันคืออีกหนึ่งคอขวด?

ไม่เพียงแต่ผมรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเท่านั้น ในร่างกายผมก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เสี่ยวจิน เหมือนว่ามันค้นพบว่าธาตุแสงในร่างการของผมแปลกไป มันตื่นขึ้นมาจากการหลับลึกและให้ข้อมูลที่น่ายินดีกับผม หลังจากที่มันเริ่มดูดซับพลังเวทย์จากร่างกายของผม ดวงเวทย์สีทองเริ่มวนไปทั่วร่างกายผมอีกครั้ง ผมสามารถรวบรวมธาตุแสงได้อีกครั้ง กลายเป็นว่าจริง ๆ แล้วดวงเวทย์สีทองสามารถดูดซับพลังงานได้

เหมือนกับว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่เสี่ยวจินดูดซับคือพลังงานของดวงเวทย์สีทอง และดวงเวทย์สีทองเคลื่อนไปทั่วร่างกายของผมเพื่อเติมพลัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด