ตอนที่แล้วบทที่ 148: เด็กตระกูลหลงทั้ง 5
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 150: เด็กน้อยผู้น่ารัก

บทที่ 149: เสี่ยวเหยากำลังแปลงร่าง


หลงเซียวดึงมือของพี่ชายออกและยักไหล่ “พี่ใหญ่ ลองเดาดูสิว่าอีกนานแค่ไหนที่ท่านแม่จะรู้ว่ามือท่านหัก”

เมื่อหลงอวี้ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย จู่ ๆ เขาก็นึกถึงสีหน้าบึ้งตึงของหูเจียวเจียว ก่อนที่เขาจะส่ายหัวพร้อมซ่อนมือข้างหนึ่งไว้ด้านหลังทันที

“ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน”

ต่อมา ผู้เป็นพี่ใหญ่เข้าไปช่วยพยุงน้องชายคนรองให้ลุกขึ้น จากนั้นทั้งคู่ก็หยุดพูดกันไปโดยปริยาย และเดินกลับบ้านเงียบ ๆ

ทว่า…

ไม่นานหลังจากที่เด็กหนุ่มทั้ง 2 คนจากไป

ในตอนนั้นเอง ต้นไม้สูงตระหง่านที่ถูกหลงอวี้ชกนับพันครั้งก็แสดงอาการแตกร้าวโดยเริ่มจากกิ่งที่สูงที่สุดบนยอดของต้นไม้

แคร็ก! แคร็ก! ครึ่ก...

รอยแตกที่ไม่เด่นชัด 2 รอยเป็นเหมือนเส้นหยักค่อย ๆ ขยายลงมาหลาย 10 เซนติเมตรแล้วในที่สุดก็หยุดลง

...

เมื่อยามที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า

หูเจียวเจียวเดินออกไปส่งเหล่าภูตชายที่มาช่วยสร้างบ้านหิน แล้วเธอก็กลับมาที่ลานบ้านเพื่อเริ่มทำอาหารเย็น

ปัจจุบันความคืบหน้าของบ้านหินเร็วกว่าที่เธอคาดไว้จากเดิม 2 วัน ส่วนฐานรากใช้เวลาอีกเพียงไม่นานก็เสร็จสิ้น เธอรู้สึกว่าถ้าหลงโม่ยังอยู่ช่วยงานที่นี่ ฐานรากอาจจะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันนี้เลย

หญิงสาวไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่าตอนที่ตนเองอธิบายโครงสร้างของบ้านหินให้กลุ่มภูตที่มาช่วยงานฟัง พวกเขาก็เข้าใจทุกอย่าง จากสมองที่ไม่สามารถรับข้อมูลอะไรได้เมื่อวานของคนเหล่านี้ดูเหมือนจะรู้แจ้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น

หากทุกอย่างยังเป็นไปได้ด้วยดีเช่นนี้ต่อไป บ้านหินของครอบครัวทั้ง 7 อาจสร้างเสร็จภายในเวลาไม่ถึงเดือน

ถัดมา พอหูเจียวเจียวมองเข้าไปในบ้านก็เห็นลูก 2-3 คนนอนสลบเหมือดอยู่ เธอจึงปรุงปลาย่างของโปรดเป็นอาหารเย็นให้ทุกคน

ในยามที่เจ้าตัวเล็กทั้งหลายเดินไปนั่งลงที่โต๊ะกินข้าว เมื่อทุกคนเห็นปลาย่าง ทันใดนั้นพวกเขาก็มีพลังวังชากลับมา พร้อมกับดวงตาที่ลุกเป็นไฟ รวมถึงความอยากอาหารของแต่ละคนก็พลุ่งพล่าน

แม้แต่หลงเซียวที่ได้กลิ่นหอมของปลาย่างยังอดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากของตนเอง

ส่วนแม่จิ้งจอกที่ได้เห็นปฏิกิริยาของลูก ๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เลี้ยงลูกมังกรกับลูกสุนัขจิ้งจอก แต่ได้เลี้ยงลูกแมวจอมหยิ่งผยอง เย็นชาและชอบกินปลาครอกหนึ่งเสียมากกว่า

ยามนี้ปลาย่างที่เพิ่งเสิร์ฟกำลังร้อนได้ที่ มันจึงส่งกลิ่นหอมของกระเทียมสับและเนื้อปลา ทำให้เหล่าเด็กน้อยที่กำลังเฝ้ารออาหารต่างก็น้ำลายสอ

ในเวลาเดียวกัน หัวของหลงเหยากำลังวางเกยอยู่บนขอบโต๊ะ จากนั้นดวงตาสีทับทิมก็เป็นประกาย อ้าปากกว้าง แล้วมีกองน้ำลายเปียกอยู่บนโต๊ะ...

เนื่องจากเจ้าตัวเล็กทั้ง 5 กินอาหารรสเผ็ดไม่ได้ ปลาที่หูเจียวเจียวทำมาให้พวกเขาจึงแค่เติมพริกไทยกับเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ ส่วนของเธอเองก็ปรุงรสเผ็ดตามปกติ

ทันทีที่มังกรน้อยลองขยับไปดมปลาของผู้เป็นแม่ก็สำลักจนน้ำตาไหล...

“ฮ่า ๆๆๆ! เสี่ยวเหยา น้ำหูน้ำตาของเจ้าไหลออกมาแล้วนั่น”

“เสี่ยวเหยา เจ้านี่ตะกละเสียจริง”

หลงหลิงเอ๋อกุมท้องหัวเราะ ส่วนหลงอวี้ที่อยู่ข้าง ๆ เอื้อมมือไปช่วยน้องชายคนเล็กเช็ด ‘น้ำตา’ ของเขา ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้อีกฝ่ายออกห่างจากโต๊ะเล็กน้อย “อย่าเข้าไปดมใกล้แบบนั้นสิ ปลาของท่านแม่มีกลิ่นฉุน”

จากนั้นคนเป็นพี่ใหญ่ก็นำผ้ามาเช็ดน้ำลายของเจ้ามังกรตัวเล็กบนโต๊ะด้วย

เมื่อแม่จิ้งจอกนำอาหารจานสุดท้ายออกมาวางบนโต๊ะ เธอก็เห็นดวงตาของหลงเหยาเป็นสีแดงก่ำเพราะสำลักกลิ่นของพริกที่รุนแรง แต่เธอไม่ได้เดินเข้าไปหาเขา

“เหยาเอ๋อเป็นยังไงบ้าง?” หูเจียวเจียวถามอย่างขบขัน ขณะที่วางไข่ตุ๋นไว้ข้างหน้าลูกโดยที่แต่ละคนมีไข่ตุ๋นชามหนึ่ง ถ้าปลาที่กินมีรสจัดเกินไป พวกเขาสามารถกินไข่ตุ๋นเพื่อเปลี่ยนรสชาติได้

“เสี่ยวเหยาตะกละจนสำลัก” หลงหลิงเอ๋อแกว่งขาไปมาเบา ๆ พลางอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น

จากนั้นจิ้งจอกสาวก็หันไปเห็นว่าหลงเหยากลัวอาหารเผ็ดมากจนไม่กล้าดมกลิ่นอย่างอื่นอีก

เธอจึงขยับปลาย่างที่มีกลิ่นฉุนของตนออกไปไกล ๆ ก่อนจะเกลี้ยกล่อมลูกชายคนเล็ก “แค่นี้ก็ไม่เป็นไรแล้ว เหยาเอ๋อ มากินข้าวกันเถอะ”

ถัดมา หลงเหยาขยับจมูกสีดำเล็กน้อย พอได้กลิ่นหอมของไข่ตุ๋น เขาก็เด้งตัวลุกขึ้นบินไปที่ชาม แล้วหันมามองผู้เป็นแม่อย่างกระตือรือร้น

“กินได้เลย นั่นเป็นของเจ้าทั้งหมด”

หูเจียวเจียวแย้มยิ้มอ่อนโยนพร้อมพยักหน้าให้มังกรน้อย หลังจากที่เด็กทุกคนได้ยินคำพูดของเธอ พวกเขาก็เริ่มลงมือกินอาหารตรงหน้า

หลงเหยาออกตัวแรงเป็นคนแรก เขาม้วนหางยกช้อนขึ้นและตักอาหารส่งเข้าปากทีละคำ เมื่อเทียบกับปลาย่าง เขาชอบไข่ตุ๋นที่นุ่มฟูมากกว่า

“ฮ่า~”

มีความสุขจัง!

ดวงตาสีแดงเล็กมีความสุขจนหรี่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว หลังจากที่เจ้าตัวเล็กกินข้าวไป 2-3 คำ เขาก็รู้สึกว่ามันไม่ทันใจ

มังกรน้อยใช้ช้อนเลาะไข่ที่ติดอยู่ขอบชาม ก่อนจะกวนไข่ให้เละ เสร็จแล้วก็เอาหัวจุ่มลงไปในชาม

“งั่ม ๆ~”

ในทางกลับกัน หลงเซียวมักจะกินข้าวช้า ๆ เนื่องจากเขากลัวคราบน้ำมันและไข่ตุ๋นเลอะติดเสื้อผ้าของตัวเอง ดังนั้นเขาเลยใช้มือซ้ายรองที่ใต้ช้อนทุกคำที่ตักข้าวเข้าปาก

ส่วนหลงอวี้กับหลงจงแบ่งเนื้อส่วนท้องปลาให้หลงหลิงเอ๋อ โดยจัดการแกะเนื้อรวมถึงนำเงี่ยงปลาออกเพื่อไม่ให้นางกินแล้วติดคอ

เวลานี้เด็กทั้ง 5 กินข้าวกันอย่างมีความสุข

วันนี้ท่านพ่อไม่อยู่บ้าน รู้สึกดีมาก~

พอทุกคนทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย ลูก ๆ ก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องหลังจากอาบน้ำเสร็จ ในขณะที่หูเจียวเจียวไปยังแม่น้ำเพื่อล้างหม้อและชามตามปกติ

เมื่อหญิงสาวกลับมาที่กระท่อม เธอก็พบร่างสีดำอยู่ภายในห้อง

“เหยาเอ๋อ ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

แม่จิ้งจอกมองเข้าไปใกล้ ๆ ก็เห็นว่าเจ้ามังกรน้อยที่ท้องป่องกำลังกลิ้งอยู่บนเตียงของเธอ

“งือ...”

หลงเหยาส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรง และขดตัวไม่ต่างจากยาจุดกันยุง โดยที่หัวของเขาซุกเข้ากับร่างกาย เผยให้เห็นเพียงรูม่านตาสีแดงคู่หนึ่ง

หูเจียวเจียวที่เห็นสภาพของลูกชายก็ตกใจรีบวิ่งเข้าไปดู

“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ้าไม่สบายตรงไหน?”

“โฮ~” มังกรตัวเล็กพยักหน้า จากนั้นส่ายหัวอีกครั้ง

จิ้งจอกสาวไม่ได้ตั้งใจจะถามเพื่อเอาคำตอบจากหลงเหยา เธอเอื้อมมือไปแตะหัวอีกฝ่าย ก่อนจะพบว่ามันร้อนกว่าปกติ

“ทำไมตัวร้อนจัง ตอนกินข้าวยังดี ๆ อยู่เลย” เธอขมวดคิ้วและรีบหยิบแผ่นเจลลดไข้ออกจากมิติมาแปะไว้ที่หน้าผากของมังกรน้อย

จากนั้นเธอเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดตัวให้ลูกชาย

ยามนี้คนตัวเล็กนอนนิ่งเฉยขณะปล่อยให้ผู้เป็นแม่เช็ดตัว เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก เขาก็เกลือกกลิ้งเพราะความเจ็บปวดเป็นครั้งคราว พอเธอเช็ดตัวให้เขาเสร็จ เขาก็ม้วนตัวไปอยู่ในท่าทางป้องกันอีกครั้ง

เด็กคนนี้ต้องทรมานมากแค่ไหนถึงได้มาหาเธอ

อาการไม่สู้ดีของลูกชายคนสุดท้องทำให้หัวใจของหูเจียวเจียวปวดร้าวไปชั่วขณะ แม้ว่าเธอจะรู้สึกแย่ ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ

แต่ทำไมหลงเหยาถึงมีไข้ล่ะ?

“เป็นไปได้ไหมว่าอาหารเย็นบูดไปแล้ว?” หญิงสาวพึมพำพลางสัมผัสท้องกลม ๆ ของคนตัวเล็กที่ซ่อนอยู่ใต้ร่าง แล้วส่ายหัวอย่างไม่มั่นใจ

ถ้ากินของไม่ดี เด็กคนอื่นน่าจะท้องเสียกันทั้งหมด

อีกทั้งเจ้าตัวเล็กมีพุงกลม ๆ แบบนี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขากินจนพุงกางเลย

ขณะที่หูเจียวเจียวกำลังคิดว่าจะพาหลงเหยาไปหาหมอดีหรือไม่ ทันใดนั้นเสียงของลูกที่เหลือก็ดังมาจากนอกบ้าน

“เสี่ยวเหยา เจ้าอยู่ที่ไหน!?”

“เสี่ยวเหยา ออกมาเดี๋ยวนี้ อย่าเล่นอะไรแผลง ๆ นะ!”

“ท่านแม่! แย่แล้ว เสี่ยวเหยาหายไปแล้ว—”

บัดนี้เสียงของเด็กตัวเล็กดังก้องไปทั่วบ้าน ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ค้นหาบริเวณนอกบ้านแล้ว แต่ก็ไม่พบตัวหลงเหยา ดังนั้นพวกพี่ ๆ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกไปตามหาน้องชาย

ในตอนนั้นเอง หลงหลิงเอ๋อที่ตาแดงก่ำมุ่งหน้าไปยังกระท่อมหลังเล็กของแม่จิ้งจอกแล้วชะโงกหน้ามองคนที่อยู่ข้างในก่อนจะพูดอย่างกังวลใจ ไม่นานนางก็สังเกตเห็นมังกรน้อยนอนอยู่ข้างหน้าแม่ของตน

“เสี่ยวเหยา?”

เสียงที่กังวลปนสะอื้นไห้ของเด็กสาวหยุดลงทันที และนางก็หันกลับไปตะโกนบอกพี่น้องอย่างมีความสุข “พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม เสี่ยวเหยาไม่ได้หลงทาง เสี่ยวเหยาอยู่กับท่านแม่ที่นี่!”

เมื่อสิ้นเสียงของสาวน้อย ร่างเล็ก ๆ อีก 3 ร่างก็พุ่งเข้ามาในกระท่อมอย่างรวดเร็ว

“เสี่ยวเหยา เจ้าเป็นอะไรไป?” หลงอวี้ขมวดคิ้วมองน้องชายคนเล็กที่มีสีหน้าเจ็บปวด

“ท่านทำอะไรกับเสี่ยวเหยา!?” ใบหน้าของหลงจงมืดลง เขาฉีกแผ่นหน้าตาแปลกประหลาดบนหัวของหลงเหยาออก และถามหูเจียวเจียวด้วยน้ำเสียงโกรธ

พอเด็กหนุ่มได้เห็นท่าทางที่ทุกข์ทรมานของหลงเหยา เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปในใจตัวเองยามที่ใบหน้าของเขาถูกไฟไหม้ ซึ่งมันทำให้เขาคิดโดยไม่รู้ตัวว่าแม่ใจยักษ์กำลังจะทรมานพวกเขาอีกครั้ง

ทว่า…

ในเวลาเดียวกัน หลงหลิงเอ๋อขยับเข้าไปมองมังกรตัวเล็กใกล้ ๆ จากนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้างพร้อมกับอุทานด้วยความประหลาดใจ

“เสี่ยวเหยาไม่เป็นไร เสี่ยวเหยากำลังจะแปลงร่าง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด