ตอนที่แล้วระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 7 เข้าสู่การทดสอบรอบสอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 9 สูญสิ้นความหวัง

ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 8 การต่อสู้ครั้งแรกของสาวน้อยชิงอี้


“เหวินหลู่นั้นก็ไม่เลวนัก เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตรวมปราณขั้น 8 แล้ว แม้ว่าจะต่อสู้กับอสูรขอบเขตรวมปราณขั้น 9 เพียงลำพัง เขาก็คงสามารถเอาชนะพวกมันได้โดยไม่ยากเย็น เขาคืออัจฉริยะที่ดีที่สุดในปีนี้ !”

คนที่พูดคือผู้อาวุโสฝ่ายใน แม้ว่าจะมีคนอีกสองสามคนที่มาถึงขอบเขตรวมปราณขั้น 8 เหมือนอย่างเขา แต่เหวินหลู่ก็ยังคงเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดจนถึงตอนนี้

“จริงสิ หากเปรียบเทียบแล้ว เฟิงหลี่ผู้นั้นด้อยกว่าเพียงเล็กน้อย เดิมทีข้าคิดว่าแม้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะไม่อยู่ในระดับเดียวกับเหวินลู่ แต่ก็คงไม่ห่างกันมากนัก แต่ดูเหมือนวาข้าจะประเมินเขาสูงเกินไป เขาอยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตรวมปราณขั้น 8 แล้ว แต่เขายังต้องทุ่มสุดตัวเพื่อต่อกรกับอสูรขอบเขตรวมปราณขั้น 8 ระดับต้นเพียงเท่านั้น”

นอกจากเซวียนห่าวแล้ว เฟิงเฉินก็ส่ายหัวและมองไปที่ชายหนุ่มในชุดสีเขียวบนภาพฉายด้วยความรู้สึกผิดหวัง

ในขณะนี้ ชายหนุ่มที่ถูกกล่าวถึงกำลังถูกไล่ล่าโดยอสูรขอบเขตรวมปราณขั้น 8 ระดับต้นสองตัว การกล่าวว่าสารรูปของเขาน่าสังเวชดูจะเป็นการกล่าวที่น้อยไป...

“เฟิงหลี่ผู้นี้น่าจะพึ่งเม็ดยาบางอย่างเพื่อเข้าถึงขอบเขตปัจจุบันของเขา ในขั้นเดียวกัน ใคร ๆ ก็สามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดาย...” เซวียนห่าวกล่าวในขณะที่เขามองไปยังชายหนุ่มในชุดเขียวอย่างผิดหวัง

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผู้ที่พึ่งพาเม็ดยาเพื่อกระตุ้นฐานการบ่มเพาะของเขาก็จะไม่สามารถเข้าสู่นิกายกระบี่ล่องนภาได้โดยง่าย เฟิงหลี่ผู้นี้แม้ว่าเขาจะไปถึงจุดสูงสุดของขอบเขตรวมปราณขั้น 8 แต่ก็ไม่น่าจะติดอันดับหนึ่งในหนึ่งพันอันดับแรกเพื่อเข้าสู่นิกาย

การทดสอบรอบแรกคือวัดฐานการบ่มเพาะของผู้เข้าร่วมและอายุกระดูกเท่านั้น ไม่มีการทดสอบความสามารถของพวกเขาแต่อย่างใด

แต่การทดสอบรอบสองแตกต่างจากรอบแรก

อัจฉริยะที่พึ่งพาเม็ดยาจำนวนมากเพื่อกระตุ้นฐานการบ่มเพาะของพวกเขาจะถูกเปิดโปงโดยทันที

เซวียนห่าวไม่ได้สนใจคนเหล่านี้และมุ่งความสนใจกลับไปที่ชิงอี้แทน

นอกจากเซวียนห่าวแล้ว ไม่มีผู้อาวุโสอื่นใดจากนิกายกระบี่ล่องนภาที่มุ่งความสนใจไปที่นาง พวกเขาเพียงแค่มองนางผ่าน ๆ เท่านั้น

แน่นอนว่านางไม่น่าจะไปถึงหนึ่งในหนึ่งพันอันดับอย่างแน่นนอน

แม้แต่เซวียนห่าวก็ไม่คาดคิดว่านางจะผ่านการทดสอบรอบสองได้เช่นกัน ก่อนที่กายาศักดิ์สิทธิ์แห่งตะวันเจิดจรัสของนางจะตื่นขึ้น พรสวรรค์ของนางก็จะอยู่ในระดับปานกลางในหมู่คนนับหมื่นที่เข้าร่วมการทดสอบเพียงเท่านั้น

ย้อนกลับไปก่อนเริ่มการทดสอบรอบสอง ชิงอี้มองดูป่าอสูรที่อยู่ตรงหน้านางอย่างกระวนกระวายใจ

นี่คือป่าอสูรของนิกายกระบี่ล่องนภา ในนั้นมีอสูรที่อยู่ระหว่างขอบเขตรวมปราณขั้น 1 และขั้น 9

เพียงแค่มีโอกาสที่จะเจออสูรขอบเขตรวมปราณขั้น 9 มันก็ทำให้ชิงอี้รู้สึกกลัวมากแล้ว

“พวกเจ้าทุกคนจะได้เข้าไปตอนนี้ พวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้รวมกลุ่มและควรพยายามล่าอสูรพวกนี้ให้ได้มากที่สุดก่อนที่เวลาจะหมดลง อย่างที่พวกเจ้าทุกคนรู้ อสูรที่นี่มีเพียงขอบเขตรวมปราณเท่านั้น ดังนั้น จะไม่มีอันตรายใด  ๆ ต่อพวกเจ้า !”

ผู้อาวุโสของนิกายกระบี่ล่องนภาผู้นำรุ่นเยาว์ตระกูลชิงและผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ บอกพวกเขาก่อนที่จะเริ่มเดินเข้าไปที่ป่าอสูร

“จำไว้ด้วยว่ายิ่งเจ้าเข้าไปลึกเท่าใด อสูรก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น เอาล่ะ ไปได้แล้ว รีบล่าอสูรให้ได้มากที่สุดเท่าที่พวกเจ้าจะทำได้ ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เจ้าก็ยิ่งได้รับคะแนนมากเท่านั้น”

ก่อนที่ผู้อาวุโสจะหายตัวไป กลุ่มรุ่นเยาว์ก็ได้ยินเสียงคำเตือนของเขา พวกเขาตระหนักได้ว่าการทดสอบรอบสองได้เริ่มขึ้นแล้ว

“ข้าต้องรีบแล้ว มิฉะนั้น โอกาสเข้านิกายกระบี่ล่องนภาของข้าก็จะหมดลง”

“ป่าอสูร ข้ามาแล้ว หวังว่าจะมีอสูรเพียงพอสำหรับข้านะ !”

“ดูนั่นสิ คนอื่น ๆ ได้เข้าไปในป่าอสูรแล้ว เราก็ต้องรีบไปเช่นกัน !”

ในไม่ช้า รุ่นเยาว์จากตระกูลชิงและคนอื่น ๆ ก็หายเข้าไปในป่าอสูร มีเพียงชิงอี้เท่านั้นที่ถูกทิ้งอยู่หน้าทางเข้าป่าอสูร

ชิงอี้ปลดฝักกระบี่ของนางและมองดูเพื่อให้แน่ใจว่ามันอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก่อนที่นางจะกำมือของนางไว้รอบด้าม

นางหายใจเข้าลึก ๆ และในที่สุดนางก็มุ่งหน้าไปยังป่าอสูร

ชิงอี้ค่อย ๆ เดินผ่านใบไม้หนาทึบของป่าและคอยมองไปด้านข้างของนางเป็นระยะ ๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่มีอสูรแอบเข้ามาใกล้นางโดยไม่ทันได้สังเกตเห็น

“กรร !”

หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เสียงคำรามก็ดังขึ้นใกล้ ๆ และชิงอี้ก็เกร็งขึ้นอย่างรวดเร็ว นางกำกระบี่แน่นขึ้นขณะที่นางเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ในไม่ช้า ต้นกำเนิดของเสียงคำรามก็ปรากฏต่อหน้านาง

อสูรที่มีรูปร่างแมวยักษ์ มันส่งรัศมีอำมหิตที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือด ฟันที่แหลมคมของอสูรมากเกินพอที่จะข่มขวัญชิงอี้ อสูรขอบเขตรวมปราณขั้น 2

อสูรแมวนี้ก็สังเกตเห็นชิงอี้และเริ่มเข้าใกล้นางอย่างระมัดระวัง

ชิงอี้กำกระบี่แน่นขึ้นในมือขณะที่นางตัดสินใจพุ่งเข้าหาอสูรเป็นครั้งแรก

นางยกมือขึ้นและกระบี่สีเงินก็พุ่งออกไป

กระบี่สีเงินนี้ไม่ได้เร็วมากนัก อย่างไรก็ตาม อสูรตัวนี้ก็ไม่กล้าที่จะประเมินมันต่ำไป ขณะที่มันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบการโจมตีนี้

แต่อสูรตัวนี้ก็ไม่สามารถหลบการโจมตีนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อจู่ ๆ กระบี่ก็เร่งความเร็วและแทงเข้าที่ขาของอสูร

“กรร !”

มันปล่อยคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว อสูรตัวนี้พยายามล่าถอย แต่ชิงอี้ก็โจมตีมันอีกครั้ง

แทงทะลุหัวของอสูรได้โดยตรงและปิดชีวิตมัน

“แฮกแฮก….”

ชิงอี้นอนลงอย่างหมดแรง นางดูไม่มีความสุขเลย

นางใช้พลังปราณของนางไปมากในการโจมตีสองครั้งก่อนหน้านี้และทำได้เพียงฆ่าอสูรที่ไม่ทันตั้งตัว

นี่เป็นเพียงอสูรขอบเขตรวมปราณขั้น 2 เพียงเท่านั้น

หากนางไม่ฆ่าสิ่งที่แข็งแกร่งกว่านี้ นางจะเข้าสู่หนึ่งพันอันดับแรกและกลายเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ล่องนภาได้อย่างไรกัน

“เฮ้อ...”

ชิงอี้ถอนหายใจด้วยความหดหู่เล็กน้อยและรีบลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

นางจะไม่ยอมให้เรื่องนี้มาหยุดยั้งนางได้ นางจะเข้าสู่หนึ่งพันอันดับแรกและกลายเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ล่องนภา และด้วยวิธีนี้ พ่อและตระกูลของนางจะปลอดภัยจากตระกูลไป๋และนิกายนวาระทมิฬ

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด