ตอนที่แล้วระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 1 ภารกิจแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 3 ชายผู้นั้นคือใครกัน

ระบบยอดอาจารย์บ่มเพาะศิษย์ ตอนที่ 2 บุตรีตระกูลชิงแห่งเมืองอาทิตย์สาดส่อง


เมื่อมาถึงทางเข้าของนิกาย เซวียนห่าวก็พบกับเมืองที่คับคั่งไปด้วยผู้คนยาวสุดลูกหูลูกตา นี่คือเมืองกระบี่ล่อง หนึ่งในหลาย ๆ เมืองที่อยู่ภายใต้การดูแลโดยนิกายกระบี่ล่องนภา

“เฮ้อ”

เซวียนห่าวถอนหายใจเล็กน้อย มองออกไปจากเมืองที่พลุกพล่านและมุ่งความสนใจไปที่ลานฝึกซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้านิกายเพียงเล็กน้อย

ลานฝึกคึกคักไปด้วยผู้คน เมื่อเด็กรุ่นเยาว์จากทั่วทั้งเขตเหนือของอาณาจักรนภาสวรรค์เพื่อลองเสี่ยงโชคในการเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของนิกายกระบี่ล่องนภา

เซวียนห่าวไม่สนใจผู้คนที่อยู่ตรงนั้นและเดินตรงไปยังศาลาที่มองเห็นลานฝึกทั้งหมด นี่คือที่พักของยอดฝีมือที่แท้จริงของนิกาย

ผู้อาวุโสหลักสองคน, รองจ้าวนิกายและจ้าวนิกายก็อยู่ที่นั่น ผู้อาวุโสฝ่ายนอกและฝ่ายในส่วนน้อยพักอยู่ด้านข้าง เนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่เดินไปรอบ ๆ ลานฝึกเพื่อเตรียมการทดสอบรอบแรก

“นั่นใครกัน?”

“ข้าก็ไม่รู้ แต่เขาสามารถที่จะเข้าไปในศาลาที่ผู้อาวุโสหลักอยู่ได้... บางทีเขาอาจจะเป็นศิษย์หลักก็ได้ !”

“ศิษย์หลักหรือ ไม่มีทาง !”

รุ่นเยาว์ทุกคนที่มีอายุระหว่างสิบสองถึงสิบแปดปีต่างมองไปที่ศาลาโดยหวังว่าหนึ่งในผู้อาวุโสที่ทรงพลังจะสังเกตเห็นพวกเขาและรับพวกเขาเป็นศิษย์ส่วนตัว ดังนั้น เมื่อเห็นคนที่อายุมากกว่าพวกเขาเพียงไม่กี่ปีเข้าไปในศาลานั้นโดยตรงก็ทำให้เหล่ารุ่นเยาว์รู้สึกปั่นป่วน ขณะที่พวกเขาสรุปอย่างรวดเร็วว่าเด็กหนุ่มลึกลับคนนั้นคือใคร

“ทุกคน การทดสอบรอบแรกจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า ไปรายงานตัวของเจ้าเพื่อเข้าสู่ลานฝึก !”

เสียงดังก้องไปทั่วทั้งลานฝึกในขณะที่ผู้คนที่กำลังพูดรีบหุบปากและเดินไปยังพื้นที่ที่กำหนดด้วยทั้งความคาดหวังและความกังวลใจ

พวกเขาจะล้มเหลวหรือก้าวข้ามประตูมังกรและขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการทดสอบครั้งนี้

“ผู้อาวุโสเซวียน ข้าไม่คาดคิดว่าเจ้าจะเข้าร่วมการทดสอบในครั้งนี้ เจ้ากำลังมองหาศิษย์อยู่หรือ?”

ขณะที่เซวียนห่าวเข้าไปในศาลา เขาก็ถูกขวางโดยชายร่างยักษ์สูงตระหง่านเหนือเขา

“ผู้อาวุโสหวังไม่เจอกันนานเลยนะ ใช่แล้วล่ะ ข้ามาเพื่อหาคนที่เหมาะสม”

เซวียนห่าวถอนหายใจในขณะที่เขาตอบ

คนที่อยู่ต่อหน้าเขาคนนี้มีชื่อว่าหวังหู่ เป็นหนึ่งในสองผู้อาวุโสหลักของนิกายกระบี่ล่องนภา ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด

“อย่างนั้นหรือ เจ้าก็จะรับศิษย์ใช่หรือไม่”

“ข้าจะไปนั่งแล้ว เพราะการทดสอบรอบแรกกำลังเริ่มขึ้น”

หวังหู่กระพริบตาขณะที่เขาจ้องมองที่เซวียห่าวด้วยความประหลาดใจ

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว... มันคงถึงเวลาที่เจ้าจะต้องรับศิษย์สักคนแล้ว”

เมื่อฟังคำพูดนั้น เซวียห่าวก็รีบเดินไปนั่งและทักทายผู้อื่นในนิกายกระบี่ล่องนภา

จ้าวนิกาย เฟิงเฉิน ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 7

รองจ้าวนิกาย จู๋เฟย ยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 5

ผู้อาวุโสหลักอีกคนหวังหลัน เป็นพี่ชายของผู้อาวุโสหลักคนที่สอง หวังหู่ ทั้งคู่อยู่ในขั้นที่สามของขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด

เซวียนห่าวพบว่ามันน่าประหลาดใจที่พี่น้องหวังคู่นี้ตัวใหญ่จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าพวกเขามีสายเลือดของยักษ์ไหลอยู่ในตัว

ในไม่ช้า การทดสอบรอบแรกก็เริ่มขึ้นและเซวียนห่าวก็แผ่สัมผัสเทวะของเขาออกไปเพื่อตรวจดูลานฝึกโดยหวังจะพบศิษย์ที่เหมาะสม

หวังหู่และคนอื่น ๆ ก็หยุดสนทนาและมุ่งความสนใจไปที่ลานฝึก คนหนุ่มสาวจะกลายเป็นศิษย์ใหม่ฝ่ายนอกของนิกายกระบี่ล่องนภา

“เจ้าเห็นชายหนุ่มคนนั้นที่เข้ามาในศาลาหรือไม่ ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงฐานการบ่มเพาะของเขาได้เลย ข้าคิดว่าเขาน่าจะอยู่เหนือขอบเขตควบแน่นแก่นแท้ขั้น 3 เมืองวิหคเพลิงของเราไม่มีแม้แต่คนที่อยู่ขอบเขตก่อตั้งรากฐานขั้น 7 ด้วยซ้ำ แต่ศิษย์ของนิกายกระบี่ล่องนภากลับสามารถอยู่ในระดับนั้นได้ !”

“ฮ่าฮ่า ถ้าข้าสามารถเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ล่องนภาได้ ในอนาคต ข้าจะได้รับการสนับสนุนจากยอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิด เมื่อข้ากลับไปยังบ้านเกิด แม้แต่บรรพบุรุษของตระกูลก็ยังต้องก้มหัวให้กับข้า !”

“ว่ากันว่าจ้าวนิกายกระบี่ล่องนภาไม่เพียงแต่อยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดขั้น 7 เท่านั้น เขาอยู่ห่างจากขั้น 8 เพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น”

มีเสียงอุทานด้วยความกลัวและชื่นชมจากฝูงชนเมื่อได้ยินว่าจ้าวนิกายกระบี่ล่องนภาแข็งแกร่งเพียงใด ในโลกนี้ที่ศิลปะการต่อสู้ได้รับการเคารพเหนือสิ่งอื่นใด เหล่ายอดฝีมือย่อมถูกพูดถึงโดยธรรมชาติ

“ไม่ต้องพูดถึงจ้าวนิกาย ยังมีรองจ้าวนิกายและผู้อาวุโสหลักอีกสองคนที่อยู่ขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดเหมือนกัน”

“ข้ายังได้ยินข่าวลือที่ว่านิกายกระบี่นภาล่องได้มีผู้อาวุโสหลักเพิ่มขึ้นมาอีกคน”

“เขาแข็งแกร่งแค่ไหนกัน ถ้าข้าสามารถเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่ล่องนภาได้ วิกฤตของตระกูลก็จะถูกแก้ไขได้อย่างง่ายดาย แม้ว่านิกายนวาระทมิฬจะแข็งแกร่ง แต่นิกายกระบี่ล่องนภาก็ยังแข็งแกร่งกว่ามาก”

ในลานฝึกที่มีผู้คนพลุกพล่าน หญิงสาวอายุประมาณสิบห้าถึงสิบหกปีจ้องมองไปยังศาลาที่ตั้งอยู่ใจกลางลานฝึกอย่างตั้งใจ

หญิงคนนั้นชื่อชิงอี้ นางคือลูกสาวของจ้าวตระกูลชิงในเมืองอาทิตย์สาดส่อง ตระกูลชิงที่นางอยู่ไม่ใช่ตระกูลเล็ก ๆ ในเมืองอาทิตย์สาดส่อง แต่เป็นหนึ่งในสองกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ในเมืองอาทิตย์สาดส่อง

เมืองอาทิตย์สาดส่องเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเขตเหนือ แม้ว่าจะตั้งอยู่ในเขตเหมือนกับนิกายกระบี่ล่องนภา ระยะห่างระหว่างทั้งสองกลับห่างไกลยิ่งนัก ชิงอี้และรุ่นเยาว์คนอื่น ๆ ของตระกูลชิงใช้เวลาเกือบสองเดือนในการไปถึงนิกายกระบี่ล่องนภาจากเมืองอาทิตย์สาดส่อง

ในฐานะลูกสาวของจ้าวตระกูลชิงคนปัจจุบัน สถานะของนางจึงสูงส่งอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เกียรติยศและสถานะนี้ถูกจำกัดไว้เฉพาะเมืองอาทิตย์สาดส่องและเมืองใกล้เคียงเท่านั้น

ชิงอี้รู้ดีว่าตัวตนของนางยังคงมีความสำคัญในเมืองอาทิตย์สาดส่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อนางออกจากเขตอิทธิพลที่ตระกูลชิงมีแล้ว นางก็จะไม่มีค่าอะไรมากนักและจะไม่มีใครยอมให้นางเหมือนแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินแดนของนิกายกระบี่ล่องนภาที่มียอดฝีมือขอบเขตวิญญาณก่อกำเนิดคุ้มกันอยู่

ดังนั้น นางจึงรู้จักประมาณตนตั้งแต่แรกเริ่มของการเดินทาง โดยพยายามไม่ก่อให้เกิดปัญหาใด ๆ

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด