ตอนที่แล้วบทที่ 18 – กำเนิดสัตว์เวทย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 20 – เวทย์มนต์ของสัตว์เวทย์

บทที่ 19 - เข้าเรียนครั้งแรก


“นักเรียน เริ่มจากวันนี้ ห้องของเราจะมีนักเรียนใหม่ 2 คน อันดับ 1 ของการสอบเข้าปีนี้ เว่ยจางกง และอีกคนคือ ไซหม่าเคอ มา! แสดงความต้อนรับพวกเขาหน่อย” เสียงปรบมือกังวานไปทั่วห้อง

เช้าวันนี้ อาจารย์จากฝ่ายการศึกษา ลงทะเบียนให้ผมอยู่ในชั้นปี 2 ห้อง A นี้ ผมคิดไม่ถึงว่า หม่าเคอ ก็เข้าเรียนในชั้นปี 2 ด้วย แถมยังอยู่ห้องเดียวกับผมด้วย อีกทั้ง พี่ใหญ่หัวเขียวที่ผมเพิ่งยอมรับมาเมื่อวาน ก็ดันอยู่ในห้องนี้ด้วย เฮ้อ! อะไรจะรอผมอยู่บ้างเนี่ย?

ผมนั่งครุ่นคิดโดยไม่ได้สนใจว่าอาจารย์พูดอะไรจนหมดคาบเรียน หลังจากนั้นอาจารย์บอกผมกับหม่าเคอถึงระบบการศึกษาของโรงเรียน ในช่วงบ่ายจะเป็นการฝึกฝนด้วยตัวเอง ทั้งนักเรียนและอาจารย์ของที่นี่ค่อนข้างจะยืดหยุ่นมาก นักเรียนสามารถเลือกวิธีการฝึกฝนได้เองตามที่ตัวเองชอบ ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการเรียน หรือการฝึกฝน สามารถขอให้อาจารย์ช่วยอธิบาย หรือไปหาข้อมูลในห้องสมุดได้ นี่มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับภาพความเข้มงวด ที่ผมเคยคิดอยุ่ในหัว

“พี่ใหญ่ พี่อยู่พักอยู่ห้องไหน? ผมอยู่ห้อง 209” หลังจากที่เราผ่านประตูออกมา หม่าเคอเริ่มชวนผมคุย

“ฉันอยู่ห้อง 208 เราเป็นเพื่อนบ้านกัน เพื่อนร่วมห้องนายรังแกนายบ้างมั้ย?”

“ไม่มีทาง พวกเขายุ่งอยู่กับการฝึกเวทย์ แล้วก็ทำสมาธิ พวกเขาไม่ได้สังเกตุด้วยซ้ำว่าผมอยู่ในห้อง พี่ใหญ่ พี่ยังโกรธผมอยู่หรือเปล่า?”

“ฉันดูเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเหรอ? ฉันลงโทษนายไปแล้วระหว่างการทดสอบ มันผ่านไปแล้ว แต่ในอนาคต นายต้องระวัง อย่าปากพล่อย”

“ตกลง ตกลง”

แขกไม่ได้รับเชิญแทรกเข้ามาตอนนั้นเอง “เจ้าหนู มานี่ มาช่วยฉันทำเวรทำความสะอาด” โอ้! พี่ใหญ่ผมเขียว

“แกเป็นใคร กล้ามาพูดกับพี่ใหญ่ของฉันอย่างนี้?” หม่าเคอ ค่อนข้างดูดุร้ายทีเดียว

“แล้วแกล่ะเป็นใคร? แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย? มันเป็นลูกน้องที่ฉันเพิ่งรับไว้เมื่อวาน ฉันจะให้มันช่วยทำธุระเล็ก ๆ นี่ ทำไม ทันเป็นอะไร?” ผมเขียวพูดจบก่อนถ่มน้ำลายไปด้านข้าง

“อะไรนะ แกกล้าเอาพี่ใหญ่ของฉันไปเป็นลูกน้อง!? อย่างงั้นฉันก็กลายเป็นลูกน้องของลูกน้อง? ไม่ได้ อย่างงี้รับไม่ได้ มา เรามาดวลกัน”

“นึกว่าฉันกลัวเหรอ? ถ้าคิดว่าแกเก่ง มาเลย! แกมันก็แค่เด็กใหม่ มันจะเก่งสักแค่ไหนเชียว” ระหว่างการโต้เถียงนี้ ผมรู้สึกว่าพี่ใหญ่หัวเขียวจะออกอาการเกร็ง ๆ เขาไม่น่าจะ....

“ธาตุแห่งไป ฟังคำสั่งข้า รวมตัวเป็นบอลไฟ ทำลายล้างศัตรูของข้า” เพราะทั้งคู่ไม่รู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย หม่าเคอเริ่มด้วยการร่ายเวทย์ขนาดเล็กเพื่อลองเชิงก่อน

“อย่านะ!!! ฉันผิดไปแล้ว! ให้อภัยผมด้วย พ่อผมเป็นนายก ไปหาอ่านดูได้ในหนังสือพิมพ์.....(ยังมีอีกประมาณ 300 คำ)” ไม่มีทาง ผมกับหม่าเคอมองหน้ากัน กลายเป็นว่าเขาเป็นแค่ลูกแหง่ นึกถึงเมื่อวานที่ถูกเจ้าลูกแหง่คนนี้หลอก ผมต้องปลดปล่อย ผมให้สัญญาณหม่าเคอทันที “กระทืบมัน!!” ไม่ต้องใช้เวทย์มนต์ (กลัวว่าจะกลายเป็นการฆาตกรรม) พวกเราเริ่มให้การศึกษากับเจ้าผมเขียว บทเรียนแรก ‘โดนกระทืบ’

“เจ้าเหลือบหัวเขียว ทำไมเป็นแกอีกแล้ว? แกนี่มันเป็นความอับอายของโรงเรียนจริง ๆ ทำไมนาย 2 คนต้องลดตัวลงไปยุ่งกับเจ้าแมลงนี่ด้วย?” ประโยคสุดท้ายเป็นการถามมาที่พวกเรา ดูจากชุดแล้ว เป็นนักเรียนชั้นปี 2 (บนชุดนักเรียน มีเครื่องหมายแสดงชั้นปีอยู่) ที่มาพร้อมกับผมอันดกดำ แม้จะดูว่าอายุประมาณ 10 ขวบ แต่สีหน้าของเขามุ่งมั่น เหมือนผมจะเคยเจอเขามาก่อน เขาเป็นนักเรียนห้องเดียวกับเรา

“โอ้ว!! มันเป็นยังงี้.....” หลังจากได้ยินผมอธิบายสถานการณ์ เด็กผมดำหัวเราะเสียงดังลั่น

“อ้อ! พวกนาย 2 คนเป็นเด็กใหม่ ถีงไม่รู้ว่าเจ้าหัวเขียวนี่เป็นคนดังของโรงเรียนเราเลย เป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง มันเข้าเรียนได้ก็เพราะพ่อมันขอจากวังหลวงเท่านั้น”

“สวัสดี ฉันชื่อเว่ยจางกง พ่อของเขาเป็นนายก พวกนายรังแกยังกล้ารังแกเขา? ไม่กลัวโดนคิดบัญชีเหรอ” ผมแนะนำตัว ก่อนจะเอ่ยถาม

“สวัสดี ฉันชื่อนั่วสือหว่อเค้อ ตัวแทนนักเรียนชั้นปี 2 เป็นผู้ใช้เวทย์ลม” “คนที่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์อันโดดเด่น ยกเว้น! พูดตรง ๆ นะ ขยะเหมือนเขา.... อีกอย่างอาจารย์ใหญ่ กับรองอาจารย์ใหญ่ คือ 2 ใน 10 ของเมธีเวทย์ทั้งหมดของทวีปนี้ มีสถานะสูงส่งอยู่ในอาณาจักร เรื่องในโรงเรียน ใครจะกล้าเข้ามายุ่ง” เขาแนะนำตัวอย่างภาคภูมิ ก่อนจะอธิบาย

ที่แท้มันมีเบื้องหลังมากมาย อา!! “ขอถามหน่อย ตัวแทนชั้นปีคืออะไร?” หม่าเคอสงสัย

“เรื่องนี้พวกนายก็ไม่รู้? ตัวแทนชั้นปีคือคนที่เก่งที่สุดในชั้นปี” เจ้าเหลือบหัวเขียวรีบตอบอย่างรวดเร็ว

“โอ้! พี่ใหญ่ ถ้าพูดอย่างนั้น แสดงว่าพี่เป็นตัวแทนของนักเรียนใหม่” หม่าเคอคุยกับผม

ในสายตาของหว่อเค้อปรากฏสัญญาณของความดุร้ายขึ้น ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ผมคงฆ่าหม่าเคอไปเป็น 100 ครั้งแล้ว เห็นผมจ้องไปที่เขา หม่าเคอรู้ตัวว่าเขาพูดผิดอีกแล้ว

“พวกนายดูแข็งแกร่งมาก ถ้ามีเวลาพวกเรามาลองประมือกันซักหน่อยก็ดี” เป็นไปตามคาด เรื่องยุ่งยากมาแล้ว เจ้าหม่าเคอนี่ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ต่อไปต้องอยุ่กับเขาให้น้อยลง

“พวกเราเป็นเด็กใหม่ เพิ่งเริ่มเรียนรู้ จะไปอยู่ระดับเดียวกับรุ่นพี่ได้อย่างไร? รอเราเรียนไปสักปี 2 ปีก่อนพวกเราค่อยมาประลองกัน” เป็นอีกครั้ง ที่ผมใช้ความมหัศจรรย์ของการยกยอปอปั้น อย่างไม่ติดขัด ผมขอให้หว่อเค้อดูแลเราที่เป็นนักเรียนใหม่ เพราะเขาเป็นรุ่นพี่ที่เข้าเรียนก่อน

“อย่างนั้นก็ได้ พวกนายทั้งคู่ต้องฝึกให้หนัก! อย่าให้เสียชื่อห้องเรา เอาล่ะ ฉันจะกลับแล้ว ผมเขียว ไปทำความสะอาดได้แล้ว” กลายเป็นว่าเขามาที่เพื่อตามเจ้าหัวเขียวไปทำเวร

ผมกับหม่าเคอ เดินไปรอบ ๆ โรงเรียน ทุกที่ที่เราไป เราเห็นนักเรียนอยู่กันเต็มไปหมด นอกจากนักเรียนใหม่ นักเรียนชั้นปีสูง ๆ แทบจะไม่ส่งเสียงอะไรเลย พวกเขาฝึกเวทย์มนต์อยู่เงียบ ๆ บรรยากาศในการเรียนของที่นี่เข้มข้นจริง ๆ

“พี่ใหญ่ ผมว่าพวกเราต้องฝึกให้หนักจริง ๆ นั่นแหละ ดูนักเรียนพวกนั้นสิ พวกเขาฝึกกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผมสังเกตุดูจากเสื้อผ้าแล้ว พวกนี้เป็นลูกหลานขุนนางทั้งนั้น แต่ก็ยังฝึกฝนกันอย่างขยันขันแข็ง สมกับเป็นโรงเรียนหลวง”

ผมก็พลอยถอนหายใจไปด้วย “ใช่ พวกเราไปดูที่ห้องสมุดกันเถอะ ไปเลือกหนังสือที่เราต้องใช้ เราจะได้เริ่มฝึกอย่างถูกต้อง” แม้แต่คนขี้เกียจอย่างผม ภายใต้รัศมีของการเรียนรู้อย่างเข้มข้นนี้ ผมรู้สึกไม่มีทางเลือก ผมต้องฝึก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด