ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 2 - เลือกธาตุแห่งแสง

บทที่ 1- บทเริ่มต้น


เช้าตรู่ แสงอาทิตย์สว่างจ้าจนผมต้องเปิดเปลือกตาอันแสนขี้เกียจขึ้น ทำไมบ้านผมต้องหันไปทางดวงอาทิตย์ด้วย ต้องตื่นขึ้นทุกวันเพราะพระอาทิตย์แยงตามันทำให้ผมอยากร้องไห้

“เจ้าเด็กขี้เกียจ! ตื่นหรือยัง”

ได้ยินเสียงปลุก ผมรีบกระโดดลงจากเตียงทันที

“ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว”

“รีบตื่น แล้วมากินข้าวเช้า! เดี๋ยวจะไปโรงเรียนสาย”

“ตกลง ๆ ผมมาแล้ว”

โชคดีที่ผมตอบสนองได้เร็วพอ ไม่อย่างนั้นเสียงเรียกของแม่จะเปลี่ยนจากเรียกธรรมดาเป็นร่ายเวทย์สายน้ำ ‘กระสุนน้ำ’เพื่อปลุกผม แม่ผมเป็นถึงนักเวทย์สายน้ำขั้นกลาง ถ้าผมถูกปลุกด้วยกระสุนน้ำ คิดดูว่าผมจะน่าเวทนาขนาดไหน (อย่างนั้นก็เถอะ นี่ไม่ใช่เหตุผลหลัก จริง ๆ แล้ว ถ้าแม่ยิงกระสุนน้ำใส่ผม ผ้าห่มก็จะเปียก แล้วพอผมเอาผ้าห่มไปตาก เพื่อน ๆ ผมก็จะล้อว่าผมเป็นพวก ‘ฉี่รดที่นอน’)

จริงสิ ผมลืมอธิบายถึงเรื่องพื้นฐานไป แน่นอน! ผมเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ ผมชื่อ ‘จางกง’ ทวีปที่ผมอยู่เรียกว่า ‘เทียนอู่’ แล้วยังมีอีกทวีปทางทิศตะวันตกเรียกว่า ‘ลี่โป’ ในโลกนี้แค่ 2 ทวีปนี้แค่นั้น แน่นอน พื้นที่ที่เหลือบนโลกเป็นทะเล ในทวีปเทียนอู่ แบ่งออกเป็น 3 ประเทศ ประเทศที่เต็มไปด้วยทรัพยากรมากมาย ‘อาณาจักรต้าลู่’ ประเทศของอัศวิน ‘อาณาจักรซิวต้า’ และประเทศที่ผมอาศัยอยู่ประเทศแห่งเวทย์มนต์ ‘อาณาจักรอ้ายเซี่ย’

อาณาจักรต้าลู่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในทวีป มันครอบคลุมพื้นที่ 3 ใน 7 ส่วนของทวีปเทียนอู่ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังเป็นอาณาจักรที่ร่ำรวย มีทรัพยากรมากมาย และเป็นอาณาจักรที่แข็งแกร่งที่สุด กองทัพของต้าลู่ประกอบด้วยนักรบเป็นหลัก โดยมีนักเวทย์เป็นหน่วยสนับสนุน ด้วยทรัพยากรและเงินทุนที่กองทัพได้รับ ทำให้กองทัพของต้าลู่เป็นกองทัพที่ใหญ่ที่สุดใน 3 ประเทศนี้

อาณาจักรซิวต้า เป็นประเทศที่เทิดทูนเกียรติของอัศวิน ทำให้ประเทศนี้ไม่ค่อยมีนักเวทย์อาศัยอยู่มากนัก กองทัพของอาณาจักรเกือบทั้งหมดเป็นนักรบ ‘ทหารม้า’ ที่ทรงพลังที่สุดในทวีปเทียนอู่ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีกองทหาร ‘มังกรดิน’ ที่ล้วนแต่เป็นอัศวินขั้นกลางหรือสูงกว่า อยู่ 3 กองพัน สามารถอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า ไม่มีกองทัพใดสามารถต้านทานการบุกของกองทัพม้าซิวต้าได้ ถ้าไม่มีสิ่งป้องกัน หรือกำแพงเมือง

ถ้าพูดถึงประเทศบ้านเกิดของผม อาณาจักรอ้ายเซี่ยเป็นประเทศแห่งเวทย์มนต์อย่างแท้จริง ประชาชนทุกคน ไม่ว่าจะรวยหรือจน พวกเขาจะได้รับการศึกษาเรื่องเวทย์มนต์ขั้นพื้นฐาน มีสถาบันสอนเวทย์มนต์อยู่มากมายเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับการเรียนรู้เรื่องเวทย์มนต์ (แน่นอน เบื้องต้นแล้วคุณต้องจ่ายเงินเพื่อเรียนเป็นพิเศษ) แม้แต่กลุ่มคนที่ไม่มีเงิน ก็จะยังมีเหล่าผู้อาวุโสของเมืองเป็นผู้สอนหลักการเกี่ยวกับเวทย์มนต์เบื้องต้นให้

ในประเทศนี้ การศึกษาเกี่ยวกับเวทย์มนต์แบ่งเป็น 3 ระดับ

ระดับแรก : โรงเรียนเวทย์มนต์ระดับปฐม โดยปกติแล้วนักเรียนจะมีอายุตั้งแต่ 5-10 ขวบ พวกเขาต้องศึกษาในโรงเรียนปฐมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี หลังจากจบแล้วนักเรียนจะได้รับการทดสอบเพื่อเป็นนักเวทย์ฝึกหัด หรือได้รับตำแหน่งนักเวทย์แห่งธาตุ

ระดับที่สอง : โรงเรียนเวทย์มนต์ระดับมัธยม การสอบเข้าตั้งอยู่บนพื้นฐานของคะแนนสอบจากโรงเรียนเวทย์มนต์ระดับปฐม โดยธรรมชาติ นักเรียนที่มีคะแนนดีก็จะเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์ที่ดีกว่า การเรียนในโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์ไม่กำหนดว่าต้องเรียนเป็นเวลากี่ปี มันขึ้นอยู่กับจำนวนคะแนน (หน่วยกิต) พื้นฐาน โดยปกติแล้วเพียงแค่ 60 คะแนนก็เพียงพอสำหรับนักเรียนที่จะขอจบการศึกษา และได้รับตำแหน่งนักเวทย์แห่งธาตุระดับกลาง เกี่ยวกับเรื่องนี้ สถิติที่เร็วที่สุดในการสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์คือ 3 ปี ส่วนใหญ่แล้วมันจะใช้เวลา 5-10 ปีสำหรับนักเรียนทั่ว ๆ ไป ประชาชนโดยส่วนใหญ่ของประเทศนี้จะหยุดเรียนเวทย์มนต์ที่ระดับมัธยมนี้ จำนวนของนักเวทย์แห่งธาตุระดับกลางในประเทศมีอยู่ประมาณ 300,000-450,000 คน

ระดับที่สาม : สถาบันเวทย์มนต์ระดับสูง เพื่อที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันเวทย์มนต์ระดับสูง ไม่เพียงแต่จะต้องได้รับใบรับรองการจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมเวทย์มนต์ ยังต้องผ่านการทดสอบของ ‘สหพันธ์เวทย์มนต์’ แล้วส่งผลการทดสอบเพื่อให้สถาบันเวทย์มนต์ตอบรับ ตามนโยบายของอาณาจักรอ้ายเซี่ย นักศึกษาทุกคนของสถาบันเวทย์มนต์ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน ทางอาณาจักรจะเป็นผู้ออกทุนให้ทั้งหมดเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้มีพรสวรรค์ทางเวทย์มนต์ สถาบันเวทย์มนต์ระดับสูงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ ‘สถาบันเวทย์มนต์หลวง’ ที่มีเฉพาะผู้มีพรสวรรค์ทางเวทย์มนต์สูงถึงจะเข้าเรียนได้ อีกทั้งยังเป็นสถาบันที่มีความเข้มงวดในการทดสอบเพื่อเข้ารับการศึกษา แม้แต่เจ้าชาย เจ้าหญิง หรือเชื้อพระวงศ์ จะต้องผ่านการทดสอบเท่านั้นถึงจะเข้าเรียนได้ หลังจากจบการศึกษาจากสถาบันเวทย์มนต์ขั้นสูง ผลการทดสอบเพื่อขอจบการศึกษาจะเป็นตัวชี้วัดว่านักศึกษาจะได้รับใบรับรองประเภทไหน

ประเทศทั้ง 3 ในทวีปเทียนอู่ ล้วนเป็นอาณาจักรของมนุษย์ที่มีความสามัคคีกันอย่างสูง เนื่องจากพวกเรามีศัตรูร่วมกัน เผ่าปีศาจ และเผ่าอสูรกาย จากทวีปตะวันตก

มีอยู่ 2 ประเทศในทวีปทางตะวันตก ‘จักรวรรดิ์แสงศักดิ์สิทธิ์’ ที่ปกครองโดยเผ่าปีศาจ และเผ่าอสูรกาย ที่ปกครอง ‘จักรวรรดิ์หมอกหาญ’ เผ่าปีศาจเป็นเผ่าพันธุ์ที่รูปร่างคล้ายมนุษย์ ต่างกันเพียงแค่ดวงตาของพวกมันเป็นสีม่วง เผ่าพันธุ์ปีศาจมีความทะเยอทะยาน และดุดัน ก้าวร้าวโดยธรรมชาติ พวกมันมี ‘เวทย์มนต์มืด’ ที่ได้รับการสืบทอดต่อเนื่องกันลงมา ในทางกลับกัน เผ่าพันธุ์อสูร ไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ แต่ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยพละกำลัง และความแข็งแกร่ง มันจึงเป็นอาวุธชั้นยอดเมื่อบวกกับความต้านทานต่อเวทย์มนต์ในระดับที่สูงมาก เหล่าผู้นำระดับสูงของเผ่าอสูรยิ่งมีความน่ากลัวมากขึ้นไปอีกเมื่อเปรียบเทียบกับกองทัพปกติ

ทวีปตะวันออก และทวีปตะวันตก แยกออกจากกันและขั้นกลางด้วยเทือกเขา ‘เทียนตัว’ มนุษยชาติได้เสียสละเหล่านักรบหลายล้านชีวิต เพื่อที่จะสร้างป้อมปราการบนเทือกเขา ‘ป้อมปราการเต๋อหลุน’ หลังจากที่ป้อมเวทย์มนต์ถูกสร้างขึ้น เผ่าปีศาจและเผ่าอสูรไม่สามารถข้าม ‘ทะเลสาบเล่ย’ มาได้ ทำให้ทวีปตะวันออกสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา

ในโลกนี้ เวทย์มนต์อยู่บนพื้นฐานของธาตุ หลัก ๆ แล้วมีอยู่ 6 ธาตุ : แสง ความมืด น้ำ ไฟ ดิน และลม นอกจากธาตุพื้นฐานเหล่านี้แล้ว ยังมีธาตุเวทย์มนต์สายพิเศษ เช่นเวทย์มนต์อัญเชิญ เวทย์มนต์มิติ เป็นต้น

ระดับขั้นของนักเวทย์ แบ่งเป็น : นักเวทย์เริ่มต้น (นักเรียนเวทย์) นักเวทย์ขั้นแรก นักเวทย์ขั้นกลาง นักเวทย์ชั้นสูง นักเวทย์สูงสุด อาจารย์เวทย์ เมธีเวทย์ และระดับตำนาน มหาเมธีเวทย์

เวทย์มนต์ แบ่งออกเป็น 9 ระดับ : ระดับ 1-2 เป็นระดับพื้นฐาน ระดับ 4-5 เป็นระดับกลาง ระดับ 6-8 เป็นระดับสูง และระดับ 9 คือระดับต้องห้าม เวทย์มนต์ระดับต้องห้ามต้องการเมธีเวทย์จำนวน 6 คนหรือมากกว่านั้น ร่วมมือกันในการร่ายเวทย์ นักเวทย์ที่สามารถร่ายเวทย์ต้องห้ามได้ด้วยตัวคนเดียวจะถูกพิจารณาว่าเป็น มหาเมธีเวทย์ ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวที่ปรากฏอยู่ในตำนาน

ระดับของ ‘นักรบ’ แบ่งเป็น : นักรบขั้นแรก นักรบขึ้นกลาง นักรบชั้นสูง อัศวิน อัศวินพิภพ อัศวินสวรรค์ อัศวินศักดิ์สิทธิ์ นักบุญ และระดับตำนาน ‘เทพสงคราม’

จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ สามารถแบ่งได้เป็น : จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ระดับพิภพ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ระดับสวรรค์ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ระดับพระเจ้า และจิตวิญญาณต่อสู้ระดับศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ครอบครองมันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเมื่อถูกโจมตีต้วยเวทย์มนต์ทั้งมวล ยกเว้นเวทย์มนต์ต้องห้าม

สัตว์อัญเชิญ มี 2 ประเภท ‘เติบโต’ เป็นประเภทของสัตว์อัญเชิญที่จะมีพลังมากขึ้นเมื่อเติบโต และ ‘ระดับขั้น’ ซึ่งเป็นสัตว์อัญเชิญที่จะมีระดับพลังเดียวกันกับตอนที่มันถูกอัญเชิญออกมา ระดับมีตั้งแต่ 1-9 ระดับขั้นที่สูงกว่า หมายถึงพลังที่มากกว่า สัตว์อัญเชิญประเภทเติบโตจะหาได้ยากมาก อีกทั้งเมื่อสัตว์อัญเชิญระดับขั้นพบกับสัตว์อัญเชิญเติบโต มันจะพยายามที่จะสังหารกัน เพื่อป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู้สามารถพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก

ค่าเงิน คิดเป็นอัตราดังนี้ 1 เหรียญเพชร = 100 เหรียญทอง = 10,000 เหรียญเงิน = 1,000,000 เหรียญทองแดง

ผลึกเวทย์มนต์ จากระดับสูงถึงต่ำ : ม่วง หยก แดง น้ำเงิน ขาว ดำ และเขียว

ตำนานบทใหม่กำลังจะเริ่มต้น วงล้อของประวัติศาสตร์กำลังเคลื่อนที่ไปตามชะตากรรมของเขา

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด