ตอนที่แล้วตอนที่ 1059 สําหรับเมื่อเจอผู้ที่ไม่ได้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ..คุณก็ควรใช้ความรุนแรงเข้าควบคุมความรุนแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1061 น้องชาย ไม่ทราบว่าได้เล่าเรียนมาจากที่ไหน?

ตอนที่ 1060 ..นี่คุณโตขึ้นมาจากการกินอึ ใช่ไหม?


คำพูดของ หลินฟาน ทำให้ หญิงสาวผมทอง บ้าคลั่งขึ้นมาในทันที และเธอก็ได้กระโดดขึ้นเท้าสะเอว และตะโกนดุด่าออกไป

หลินฟาน ได้หัวเราะเยาะเธอที่มีกลิ่นปาก เรื่องนี้นั้นก็ช่างมันเถอะ แต่ผู้คนโดยรอบข้างยังคงหัวเราะอยู่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้เอนเอียงไปทาง หลินฟาน แล้ว ทั้งเสียงหัวเราะเหล่านี้ มันก็เป็นได้ราวกับเข็มที่มันกำลังทิ่มแทงในหูของ หญิงสาวผมทอง แล้วแบบนี้.. เธอจะไม่โกรธได้ยังไง!

“คุณพูดห่าอะไร ไหนฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าคุณ ..มันกล้าที่จะพูดอีกครั้งไหม?” หญิงสาวผมทอง ได้พูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าของ หลินฟาน

หลินฟาน กล่าวว่า : “นี่หูของคุณไม่ดีงั้นเหรอ? ถึงได้อยากให้ฉันพูดมันอีกครั้ง แต่ดูๆ ไปแล้วคุณก็ยังเด็กอยู่ แต่มันก็น่าเสียดายจริงๆ ที่คุณจะมาหูหนวก ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เช่นนี้ได้”

เมื่อได้ยิน.. ทุกคนก็ได้พากันหัวเราะเสียงดังออกมา

ทุกคนต่างได้พากันหัวเราะขบขันไปกับคำพูดนี้ หลินฟาน ชายหนุ่มคนนี้ มีอารมณ์ขันเกินไป ทั้งเขาก็ยังกล้าหาญมาก คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะกล้าต่อต้านผู้หญิงคนนี้

เย่อหยิ่ง!

และนั่น.. เขามัน.. หยิ่งเกินไป!

ในสายตาของ หญิงสาวผมทอง คำพูดของ หลินฟาน นั้น มันดูหยิ่งผยองเกินไป!

เมื่อครู่ หญิงสาวผมทอง และแฟนหนุ่มร่างกำยำของเธอ ได้ทะเลาะกับลุงทั้งสองคนนั้น และพวกเขาได้คิดไปว่าพวกเขาได้ชนะแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรไป ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับพวกเขา เป็นเช่นนี้พวกเขาก็จะสามารถทําอะไรก็ตามในสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ และสามารถเดินไปได้ทั่วในที่นี้ได้ โดยที่ไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไร ทำได้แค่เพียงคล้อยตามเท่านั้น

พวกเขามีความสุข และสนุกไปกับความรู้สึกที่กดขี่คนอื่นเช่นนี้

แต่ชายหนุ่ม หลินฟาน ผู้นี้กลับกล้าที่จะพูดหักล้างเธอเช่นนี้ หญิงสาวผมทอง จึงได้รู้สึกว่าอํานาจของเธอได้ถูกท้าทาย และมันก็เป็นการยากที่จะไม่ให้เธอกระโดดขึ้นมาด้วยความโกรธ!

“คุณมันเป็นห่าแมร่งอะไรหะ! คุณกล้าที่จะมาพูดหัวเราะเยาะฉัน? คุณมันเป็นใคร? มองๆ ดูไปแล้ว คุณมันก็เป็นได้แค่คนจนที่ตายไปแล้ว!” หญิงสาวผมทอง ได้พูดพร้อมกับตวาดด่าออกไป

เมื่อดูจากการแต่งตัวของ หลินฟาน แล้ว เขาดูไม่ใช่คนรวยอะไร ตรงกันข้ามเขาดูเป็นคนจนเสียด้วยซ้ำ แต่การดุด่าคนจน.. มันก็เป็นการเหยียดหยามต่อทุกคนจริงๆ แต่ หญิงสาวผมทอง กลับคิดไปแค่ว่าคําพูดนี้จะสามารถทําร้าย หลินฟาน ได้..

หลินฟาน เขากลับไม่ได้รู้สึกว่าเขาถูกเหยียบหางอะไร เขาเพียงยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดไปว่า : “ตัวคุณเองที่ได้ขึ้นมาเบียดเสียดผู้คนอยู่บนรถไฟใต้ดิน แล้วยิ่งกับคนจนที่ตายไปแล้วอย่างฉัน.. ทั้งยังยืนแทะตีนไก่ที่หาซื้อได้ตามแผงลอยข้างถนนที่มีราคาต่อกล่องเพียงไม่กี่หยวน โอ้วว.. คุณช่างสูงส่งจริงๆ ราวกับเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ!”

ทุกคนได้พากันหัวเราะออกมาอีกครั้ง

คำพูดของ หลินฟาน นั้นโหดร้ายเกินไปจริงๆ ถึงมันจะเป็นคําพูดที่ดูเหมือนธรรมดาๆ มาก แต่มันกลับแฝงไปด้วยความหมายให้ผู้คนได้แยกแยะอยู่สามส่วน ทั้งยังแฝงไปด้วยความประชดประชันอย่างไร้ความปรานีเกินไป

ใบหน้าของ หญิงสาวผมทอง ได้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวแล้ว และหลินฟาน ก็กลับไม่ได้รู้สึกโกรธใดๆ กับคำพูดของเธอ แต่เธอ.. กลับเป็นผู้ที่ถูกคำพูดของ หลินฟาน ทิ่มแทงตรงเข้าประเด็น และมันก็เป็นราวกับว่าเธอได้ถูกเหยียบหาง

ใช่สิ เธอที่ได้ดุด่า หลินฟาน ออกไปว่าเป็นคนจน แต่แล้ว.. ตัวเธอเองก็ไม่ใช่คนรวยอะไร นี่มันน่าโมโห มันน่าโมโหจริงๆ!

“คุณฟังสิ่งที่เขาพูด เขารังแกฉัน!” หญิงสาวผมทอง ได้หันไปพูดกับ ชายหนุ่มร่างกำยำ

ชายหนุ่มร่างกำยำ ก็ได้เริ่มรู้สึกรำคาญแล้วเช่นกัน

เขาสังเกตเห็น หลินฟาน แล้ว หลินฟาน หล่อมาก ซึ่งทําให้เขารู้สึกถึงความไม่สมดุลเล็กๆ น้อยๆ ในใจ และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สมดุลมากขึ้นก็คือ.. เว่ย เยว่เอ๋อร์ หลินฟาน มีแฟนสาวที่สวยงามเช่นนี้ จริงๆ ..ได้อย่างไร!?

เว่ย เยว่เอ๋อร์ ดูสวยกว่า แฟนสาวผมทองของเขามาก ต่อหน้า เว่ย เยว่เอ๋อร์ แฟนสาวของเขาก็เป็นได้แค่ ..ลูกเป็ดขี้เหร่!

สิ่งนี้ทําให้ ชายหนุ่มร่างกำยำ รู้สึกอิจฉา และเกลียดชัง หลินฟาน.. แต่เมื่อพอผู้หญิงเริ่มเกิดความอิจฉา พวกเธอก็จะกลายมาเป็นคนที่โหดร้าย แต่แล้วหากผู้ชายเกิดความอิจฉา มันก็จะเปลี่ยนจากคำว่าโหดร้าย กลายเป็นคำว่า น่ากลัว ในทันที..

อาจกล่าวได้ว่า ความหึงหวง ความอิจฉา มันก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่ไม่ดีอย่างยิ่ง และภายใต้ความหึงหวง ความอิจฉา มันก็มักจะทำให้เกิดสิ่งที่เลวร้าย และน่ากลัว..

“เหยดดดแหม่! เมิง หุบปากไปซะ!” ชายหนุ่มร่างกำยำ ได้ชี้ไปที่ หลินฟาน และตะโกนดุด่าออกไป ทั้งยังพยายามข่มขู่ หลินฟาน

ท้ายที่สุดแล้ว เขาเพิ่งจัดการลุงทั้งสองคนนั้นไป และเขาได้คิดไปว่าคนอื่นก็ควรที่จะเกรงกลัวเขา และพอเขาได้ตะโกน เขาเองก็สามารถทําให้คนอื่นๆ กลัวได้ และกลัวจนไม่กล้าที่จะส่งเสียงใดๆ ออกมาได้อีก!

ความรู้สึกที่ได้กดขี่ผู้คนแบบนี้ มันก็ช่างสนุกจริงๆ!

“นี่คุณ ..ก็กินอึเข้าไปเหมือนกันเหรอ? โอ้วว ไม่ๆ ทำไมปากของคุณมันถึงได้เหม็นขนาดนี้ ฉันเริ่มที่จะสงสัยแล้วว่า ..นี่คุณโตขึ้นมาจากการกินอึ ใช่ไหม?” หลินฟาน ได้พูด พร้อมกับได้หัวเราะเบาๆ ออกไป

“อะไรนะ?”

ชายหนุ่มร่างกำยำ ไม่อยากจะเชื่อ แต่ หลินฟาน กล้าที่จะโต้กลับเขา จริงๆ!

ถ้าเป็น หญิงสาวผมทอง ก็ถือได้ว่าอย่างไรเสีย .. เธอก็เป็นผู้หญิง แล้ว หลินฟาน ที่เป็นผู้ชาย เขาก็ต้องไม่กลัวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้.. มันเป็นเขานะ แต่ หลินฟาน ก็กลับกล้าพูดโต้แย้งเขาจริงๆ ไอ้เด็กคนนี้มันสมองไม่ดีหรือยังไง!

ชายหนุ่มร่างกำยำ ก็ได้รู้สึกว่าอำนาจของเขาได้ถูกท้าทายเช่นกัน เมื่อนั้นความโกรธของเขามันก็ได้ระเบิดออกมา

“ไอ้หนู ฉันคิดว่าผิวของแกมันน่าจะมีอาการคันๆ อยู่นะ หรือนี่แกต้องการถูกทุบตี?” ชายหนุ่มร่างกำยำ ได้ตะโกนออกไปอีกว่า : “แล้วเมื่อกี้ นี่แกไม่เห็นเหรอไงว่าเกิดอะไรขึ้น หรือแกก็อยากโดนทุบตีเหมือนกับพวกมัน….”

หลินฟาน ได้พูดไปว่า : “ฉันเองเห็นแล้ว, ฉันเห็นคุณถูกกดไว้กับพื้น ทั้งยังอยู่ในสภาพที่น่าลำบากใจเหลือทนจริงๆ..”

อ่า?

ทุกคนได้มองไปที่ หลินฟาน ด้วยความประหลาดใจ แต่ว่า… มันก็ทั้งตลก และน่าประหลาดใจ ที่ หลินฟาน กล้าที่จะพูดคำพูดแบบนี้ออกมา!

ลุงทั้งสองคนนั้นก็ยังอยู่ในตู้รถคันนี้ และพอได้ยินคําพูดนี้ พวกเขาก็ได้มองไปที่ หลินฟาน ..ด้วยสายตาที่ค่อนข้างซับซ้อน!

“แกพูดว่าอะไรนะ?” ชายหนุ่มร่างกำยำ ได้พูดตะโกนออกมา หลินฟาน ชายหนุ่มคนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการท้าทายอํานาจของเขาแล้ว และนี่คือเขาต้องการดึงเขาออกมาจากความรู้สึกของราชา และต้องการที่จะตบหน้าเขาให้ตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้ว.. เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว จะไม่ให้เขามีอารมณ์โกรธขึ้นมาได้ยังไง!

หลินฟาน พูดไปว่า : “ที่ฉันกำลังพูด ..ก็กำลังพูดถึงคุณอยู่ หรือนี่คุณกำลังรู้สึกดีกับตัวเองอยู่? แต่เดิมฉันก็ไม่อยากจะพูดอะไรกับคุณหรอกนะ แต่พอเห็นคุณตื่นเต้น และมีความสุขขนาดนี้ ดังนั้นฉันก็คงไม่จำเป็นต้องสุภาพ หรือเกรงใจใดๆ แล้ว แล้วก็นะ.. เมื่อกี้ตอนที่ลุงสองคนนี้ปล่อยคุณไป เห็นได้ชัดว่าวุฒิภาวะความเป็นผู้ใหญ่ของพวกเขานั้นมีอยู่มาก ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกคุณ ไว้ชีวิตพวกคุณ.. แต่พวกคุณกลับเริ่มทุบตีพวกเขาอีกครั้ง แถมยังคิดไปด้วยว่าพวกคุณชนะแล้ว? ดูๆ ไปแล้ว พวกคุณคงชอบ ‘ยกหางของตัวเองขึ้นสูงเสียดฟ้านะ’(1) แต่ว่าก็ว่าเหอะ มันช่าง ..ไร้ยางอายจริงๆ และในสายตาของคนที่ตาสว่าง(2) พวกคุณ.. มันก็เป็นได้แค่เรื่องตลก ที่ทุกคนได้มองเหมือนกับได้เห็น ..คนโง่”

หลินฟาน ได้พูดความจริง และหลินฟาน ก็ไม่คิดเกรงใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะอีกฝ่าย ก็ไม่สมควรที่จะได้รับความเกรงใจจากเขาเลยสักนิด

ชายหนุ่มร่างกำยำ ได้โกรธจนจมูกบิดเบี้ยวไปแล้ว : “ฉันเห็นว่าแกมันตาบอดไปแล้ว! เมื่อกี้เห็นอยู่ชัดๆ ว่าฉันล็อคคอ ไอ้ลุงอ้วนคนนี่จนใกล้จะตายอยู่แล้ว และถ้าไม่ใช่เพราะผู้ใหญ่ไม่นับความผิดของผู้ร้าย บวกกับผู้คนมากมายในที่นี่ แกคิดหรือว่าฉันจะปล่อยมันไป แน่นอนฉันคงจะได้หักคอไอ้บ้านี้ไปแล้ว! แล้วนี่แกอยากจะพูดถึงเรื่องไร้สาระห่าเหวอะไร!”

หลินฟาน พูดไปว่า : “คุณพูดจริงงั้นเหรอ? แล้วใครละที่ถูก ลุงผอม คนนี้ กดลงไปกับพื้น? แล้ว.. นี่ถ้าเกิด ลุงผอม ต้องการ เขาก็สามารถจับคุณกดลงไปกับพื้น แล้วทุบตีคุณอย่างรุนแรงก็ได้ด้วยซ้ำ และมาตอนนี้แม้ว่าคุณจะไม่ตาย แต่หัวของคุณก็คงได้กลายเป็นหัวหมูไปแน่แล้ว”

หลินฟาน เป็นคนที่ตาสว่าง ทั้งเขายังชอบสังเกตสิ่งต่างๆ รอบด้าน

ลุงทั้งสองคน ได้มองไปที่ หลินฟาน และอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าซาบซึ้งใจออกมา หลินฟาน ได้พูดแทนพวกเขาเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกซานซึ้งใจจริงๆ

“พ่อหนุ่ม ช่างมันไปเถอะ พวกเราเองมีอารยธรรมพอ และไม่คิดจะไปสนใจใดๆ พวกเขาแล้ว” ลุงอ้วน ได้พูดว่า : “พ่อหนุ่ม คุณเองก็ไม่จําเป็นต้องไปโต้เถียงกับคนที่มีคุณภาพต่ำพวกนี้..”

ลุงผอม ก็ได้พูดว่า : “ใช่ พ่อหนุ่ม ลืมๆ มันไปเถอะ เมื่อกี้ฉันเองก็ได้เสียใจที่ได้ไปลงมือกับพวกเขาแล้ว และฉันก็ขอพูดตรงๆ มันไม่คุ้มค่า!”

หลินฟาน ยิ้ม แล้วได้พูดไปว่า : “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็แค่แกล้งพวกเขาเล่นๆ นิดหน่อย และสิ่งที่ผมพูดไปมันก็คือความจริงทั้งหมด ลุงทั้งสองคนรู้ศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องที่ดีมาก แต่กับคนแบบนี้ บางครั้งพวกคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปสุภาพ”

ลุงอ้วน ได้พูดว่า : “ถึงกระนั้น ก็ช่างมันเถอะ ยังไงหากถ้าเราลงมือกันจริงๆ พวกเขาก็คงต้องได้รับบาดเจ็บ”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมรู้”

เมื่อได้ยินการสนทนาของพวกเขา ชายหนุ่มร่างกำยำ ก็ได้รู้สึกว่าเขาถูกรุกรานอย่างมาก ในสายตาของพวกเขา เขาเองคงเป็นแค่มือใหม่ และนี่คือพวกเขา.. ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย งั้นเหรอ?

คําพูดนี้ ยิ่งฟังแล้ว มันก็ยิ่งทําให้คนรู้สึกโกรธมากจริงๆ!

ความภาคภูมิใจในตนเองของ ชายหนุ่มร่างกำยำ ได้รับผลกระทบอย่างมาก และเขาก็เกือบโกรธแทบที่จะบ้าคลั่งไปแล้ว

“ตอนนี้.. ฉันจะทำให้แกเป็นหัวหมู เดี๋ยวนี้แหละ!” ชายหนุ่มร่างกำยำ ได้คำราม พร้อมกับพุ่งเข้าไปหา หลินฟาน

ผู้ชายคนนี้มีอารมณ์ร้ายจริงๆ พอพูดไม่ถูกใจเล็กน้อย ก็คิดจะลงมือทันที และตอนนี้เขาก็ได้พุ่งเข้ามาหวังที่จะต่อยหน้า หลินฟาน ส่วนลุงสองคนนี้ พวกเขาจะเก็บงำอำนาจซ่อนเร้นอยู่จริงๆ หรือไม่นั้น หลินฟาน ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ พวกเขาก็ไม่ได้ลงมือแสดงมันออกมา แต่ในสายตาของพวกเขา หลินฟาน กลับเป็นคนประเภทที่ใช้คำพูดทะเลาะวิวาทกับผู้คนได้เก่งจริงๆ!

แต่ตัวของ ชายหนุ่มร่างกำยำ เองก็ยอมรับเลยว่า หลินฟาน มีคำพูดที่ทรงพลังจริงๆ ประโยคแต่ละประโยคของเขามันเสียดแทงหัวใจของผู้ฟังได้มาก ทั้งมันก็ยังทําให้เขาโกรธมาก

แต่เด็กอย่าง หลินฟาน มองดูยังไงก็ไม่ได้แข็งแรงอะไร และนี่มันก็แน่นอนแล้วว่า เขา.. สามารถกด หลินฟาน ลงไปกับพื้นได้อย่างง่ายดาย!

ดังนั้นเขาจึงได้กล้ากระโจนเข้าไปหา หลินฟาน โดยไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ

แต่ท่าทางเช่นนี้ของเขา ในสายตาของ หลินฟาน มันกลับเต็มไปด้วยช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด และมันก็ดูเป็นเหมือนกับตั๊กแตนตำข้าวตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่ามันจะมีพลังที่จะคุกคามเขาได้ แต่มันกลับยิ่งดูตลก ทั้งยังดูไร้สาระมากกว่า…

(1)[ยกหางของตัวเองขึ้นสูงเสียดฟ้า (尾巴翘上天了)] - ในอดีต กล่าวกันโดยทั่วไปว่า ‘สุนัข’ จะทำสิ่งนี้เมื่อพวกมันมีความสุข มันเป็นคำพูดที่ใช้ล้อเลียนผู้อื่นว่า ไม่เป็นอันตรายใดๆ ทั้งยังเป็นอุปมา ของความภูมิใจ และพอใจในตนเอง

(2)[ตาสว่าง (明眼人)] - หมายถึง คนที่มีสายตาเฉียบแหลม และสังเกตเห็นสิ่งต่างๆ ได้อย่างชัดเจน ทั้งยังเป็นคนที่มีสติปัญญา หรือผู้ที่มีญาณหยั่งรู้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด