ตอนที่แล้วตอนที่ 151: ทูราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 153: คฤหาสน์ซันเซ็ทวิลล่า

ตอนที่ 152: ฟิวรี่


ตอนที่ 152: ฟิวรี่

ยานรบในจักรวาลถูกไล่ลำดับไปตั้งแต่ยานฟริเกต, ยานเดสทรอยเยอร์, ยานแบทเทิลครุยเซอร์, ยานประจัญบานและยานบัญชาการซึ่งเป็นยานอวกาศที่มีขนาดใหญ่มากที่สุด

ยานแบทเทิลครุยเซอร์มีอำนาจในการยิงที่ดุร้ายและเป็นยานที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางในระยะไกล ซึ่งสำหรับการเดินทางไปภูมิภาคดาวมฤตยูในครั้งนี้ยานแบทเทิลครุยเซอร์ย่อมมีภาษีที่ดีกว่ายานฟริเกตอย่างแน่นอน

ยกตัวอย่างเช่น ในระหว่างการเดินทางหากเขาได้พบกับพายุอุกกาบาต ยานแบทเทิลครุยเซอร์ก็สามารถที่จะใช้เกราะพลังงานขนาดใหญ่คอยป้องกันและเคลื่อนที่ผ่านพายุอุกกาบาตไปได้อย่างสงบ แต่สำหรับยานฟริเกตขนาดเล็กเพียงแค่พายุอุกกาบาตก็ถือว่าเป็นหายนะสำหรับเขาได้

ข้อดีของยานฟริเกตคือความเร็วและความคล่องตัวทำให้มันสามารถหลบซ่อนหรือหลบหนีข้าศึกได้อย่างว่องไว แต่ถ้าหากยานแบทเทิลครุยเซอร์ได้เจอกับข้าศึกพวกเขาก็จะเหลือหนทางสู้อยู่เพียงแค่วิธีเดียวคือการจู่โจมด้วยปืนใหญ่!

อำนาจการยิงที่ทรงพลัง! พลังป้องกันด้วยเกราะหนา! นี่คือหนทางการเอาชีวิตรอดของยานรบขนาดใหญ่!!

ยานฟริเกตและยานแบทเทิลครุยเซอร์มีตำแหน่งหน้าที่ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้รูปแบบการต่อสู้ของยานทั้งสองประเภทนี้มีรูปแบบที่แตกต่างกัน

เซี่ยเฟยรู้ดีว่าการใช้ยานรบขนาดใหญ่เดินทางไปยังภูมิภาคดาวมฤตยูเป็นเรื่องที่ปลอดภัยกว่า แต่ประเด็นสำคัญคือในตอนนี้เขาเป็นเพียงแค่จัสทิสฝึกหัด เขาจึงยังไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของยานเดสทรอยเยอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่ายานฟริเกตด้วยซ้ำ และมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงยานรบขนาดใหญ่อย่างยานแบทเทิลครุยเซอร์เลย แน่นอนว่าราคาของยานพวกนี้ก็เป็นปัญหาเพราะยานรบขนาดใหญ่เพียงแค่ 1 ลำก็มีราคาหลายพันล้านสตาร์คอยน์

การเดินทางในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็ไม่ต่างไปจากการเดินทางผจญภัยในระยะไกล การที่เขาได้มียานรบที่ดีมันก็เหมือนกับเขามีรองเท้าคู่เก่งที่สามารถพาเขาไปได้ทุก ๆ ที่ตามที่เขาต้องการ

ด้วยเหตุนี้นักผจญภัยอวกาศทุกคนจึงทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้รับยานรบที่มีขนาดใหญ่และดีกว่าเดิม เพราะยิ่งยานรบของพวกเขามีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งผจญภัยได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น

“ผมยังเป็นแค่จัสทิสฝึกหัดครับ ผมยังไม่มีใบอนุญาตครอบครองยานแบทเทิลครุยเซอร์ นอกจากนี้ราคาของยานแบทเทิลครุยเซอร์ก็สูงมาก ดังนั้นมันยังคงเป็นยานอวกาศที่ผมไม่สามารถซื้อได้” เซี่ยเฟยกล่าวหลังจากใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“เรื่องแค่นี้นายไม่จำเป็นต้องกังวล ฉันมีวิธีแก้ไขปัญหาเตรียมเอาไว้ให้อยู่แล้ว สิ่งที่นายต้องทำมีแค่การเลือกยานรบที่นายชอบเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง” ทูรามกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง

หลังจากพูดจบทูรามก็เปิดข้อมูลรายชื่อของยานรบจำนวนมากที่มีหมายเลขกำกับอยู่อย่างเรียบร้อย

สมาพันธ์จัสทิสเป็นองค์กรนักสู้ขนาดใหญ่มันจึงทำให้มียานรบอยู่ภายใต้การครอบครองของสมาพันธ์หลายพันลำ แน่นอนว่าเมื่อยานรบหมดอายุการใช้งานมันจึงมียานรบถูกปลดระวางในทุก ๆ ปี และสาเหตุที่ยานรบพวกนี้ถูกปล่อยทิ้งไปมันก็ไม่ใช่เพราะพวกมันถูกทำลายหรือใช้การไม่ได้ เพียงแต่มันเป็นยานรบที่มีอายุเกินกว่าที่สมาพันธ์กำหนดเอาไว้เพียงแค่นั้น

ท้ายที่สุดยานที่มีอายุมากก็มีความเสี่ยงที่จะระบบรวนมากกว่ายานรุ่นใหม่ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ายานพวกนี้จะไม่สามารถนำไปใช้งานได้ เพียงแต่มันมีประสิทธิภาพด้อยกว่ายานรุ่นใหม่เพียงแค่นั้น

สำหรับเซี่ยเฟยแล้วถึงแม้เขาจะได้ครอบครองยานแบทเทิลครุยเซอร์มือ 2 แต่มันก็ยังถือเป็นเรื่องที่โชคดีเหมือนสุภาษิตจีนที่กล่าวเอาไว้ว่า ‘อูฐผอมย่อมใหญ่กว่าม้า’ ดังนั้นการมียานรบขนาดใหญ่ย่อมดีกว่าการมีเพียงแค่ยานรบขนาดเล็ก

“ยานลำนี้ใช้ไม่ได้... ลำนี้ก็ใช้ไม่ได้... ลำนี้ยังประจำการอยู่…” ทูรามสมควรแล้วที่จะได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการแผนกอาวุธยุทโธปกรณ์ของสมาพันธ์ เพราะเขารู้จักข้อดีข้อเสียของยานรบแต่ละลำเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากที่เขาได้ใช้เวลาคัดเลือกเพียงแค่ไม่นานรายชื่อของยานแบทเทิลครุยเซอร์เป็นจำนวนมากก็ถูกคัดออกมาเหลือเพียงแค่ 20 ลำเท่านั้น

“ประสิทธิภาพของยานรบพวกนี้ยังใช้ได้ ซึ่งมันก็น่าจะมากพอให้นายใช้เดินทางไปจนถึงภูมิภาคดาวมฤตยู เชิญนายเลือกหนึ่งในยานพวกนี้ได้เลย” ทูรามกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่รายชื่อบนหน้าจอ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับพร้อมกับใช้ดวงตาอ่านรายละเอียดของยานรบแต่ละลำไปอย่างช้า ๆ

“ถ้าเป็นไปได้ผมต้องการยานลำนี้” หลังจากทำการเลือกอยู่ไม่นาน เซี่ยเฟยก็ชี้ไปที่ยานแบทเทิลครุยเซอร์รุ่นฟิวรี่

“เลือกได้ดีนี่” ทูรามจ้องมองไปที่เซี่ยเฟยพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน

ฟิวรี่เป็นยานรบที่โดดเด่นมากในบรรดายานแบทเทิลครุยเซอร์ทั้งหมด ส่วนเหตุผลที่เซี่ยเฟยเลือกยานลำนี้ก็ไม่ใช่เพราะมันมีสภาพที่ดีกว่ายานลำอื่นเท่านั้น

ยานแบทเทิลครุยเซอร์ลำอื่นมีอาวุธหลักคือปืนใหญ่และเครื่องยิงขีปนาวุธ แต่อาวุธหลักของฟิวรี่คือโดรนหลายสิบลำที่ถูกเก็บเอาไว้ในตัวยาน

ฟิวรี่สามารถปล่อยโดรนออกไปจู่โจมข้าศึกได้พร้อมกันถึง 20 ลำ ขณะที่ตัวยานสามารถยืนชมสถานการณ์รอบนอกของสนามรบได้อย่างสบาย ๆ

แม้ว่าวิธีการโจมตีแบบนี้จะไม่ใช่วิธีการโจมตีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่มันก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่ร้ายกาจที่สุดเช่นเดียวกัน เพราะผู้ขับยานสามารถนั่งกินไอติมในระหว่างที่ศัตรูถูกจู่โจมโดยโดรน แล้วมันจะมีวิธีการต่อสู้แบบไหนที่ชั่วร้ายและปลอดภัยมากกว่านี้อีก?

เซี่ยเฟยชอบยานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่ว่าจะเป็นลูน่าหรือแวมไพร์ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีความโดดเด่นในตัวเอง ดังนั้นเมื่อเขาได้มีโอกาสเลือกยานแบทเทิลครุยเซอร์จำนวนกว่า 20 ลำ เขาจึงทำการเลือกยานรบที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดนั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการจู่โจมโดยใช้โดรนก็เป็นวิธีการที่ไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นถ้าหากว่าเขาทำการดัดแปลงโดรนอย่างเหมาะสม มันก็จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการจู่โจมของยานลำนี้ได้

ทูรามใช้นิ้วจิ้มหน้าจอ 2-3 ครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนมูลค่าโดยประมาณของยานฟิวรี่จาก 1,520 ล้านสตาร์คอยน์ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 520 ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น

“ราคานี้นายน่าจะรับได้ใช่ไหม?” ทูรามถาม

การกระทำของทูรามทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกตะลึง เพราะจู่ ๆ ทูรามก็ลบเลข 1 ด้านหน้าออกไปตัวหนึ่งตามใจตัวเอง

“คือว่า... คุณทำแบบนี้มันจะทำให้คุณถูกตำหนิหรือเปล่าครับ?” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าใครกล้าก็เข้ามาสิ แค่ฉันถูกส่งมาอยู่ในแผนกโง่ ๆ นี่มันก็น่ารำคาญมากพอแล้ว ถ้าหากว่าใครกล้าเข้ามาหาเรื่องฉัน ฉันจะบีบคอมันให้ตาย!!” ทูรามกล่าวขึ้นมาอย่างหงุดหงิด

คำบ่นของทูรามทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง เพราะเขาเพิ่งรู้ว่าชายชราตรงหน้าเพิ่งถูกส่งมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของแผนกนี้ แล้วในก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งอะไรมาก่อน?

ในระหว่างที่เซี่ยเฟยกำลังสงสัย ทูรามก็หันมาพูดกับชายหนุ่มด้วยท่าทางที่น่าหวาดกลัว

“ถ้านายยอมรับเงื่อนไขข้อหนึ่งได้ ยานฟิวรี่ลำนี้จะเป็นของนายทันทีและฉันจะช่วยนายลงทะเบียนยานกับพันธมิตรให้ด้วย”

“เงื่อนไขอะไรครับ…” เซี่ยเฟยเริ่มสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดี

ประมาณ 3 ชั่วโมงต่อมาทูรามก็ปาดเหงื่อในห้องฝึกของแผนกด้วยความพอใจ พร้อมกับยื่นมือไปดึงเซี่ยเฟยที่นอนอยู่บนพื้นขึ้นมา

ปรากฏว่าเงื่อนไขของชายชราไม่ใช่เรื่องอะไรเลยนอกจากการขอให้ชายหนุ่มมาต่อสู้กับตัวเอง

เซี่ยเฟยพยายามขยับร่างกายแต่เขาก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งตัว ท้ายที่สุดเขากับทูรามก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย โดยในช่วง 3 ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ชายหนุ่มพยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมและความเร็วในการหลบการโจมตีของทูรามแล้ว แต่เขาก็ยังถูกจู่โจมเข้าไปมากกว่า 10 ครั้งจนทำให้รู้สึกเหมือนกับกระดูกแตกหักไปทั่วทั้งร่าง

“นานแล้วนะเนี่ยที่ฉันไม่ได้ยืดเส้นยืดสายแบบนี้ การนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศทุกวันทำให้ฉันแทบจะหายใจไม่ออก นายไปเรียนรู้วิธีการหลบแบบนั้นมาจากไหน? ฉันไม่เคยเห็นใครเอาตัวรอดจากฉันได้ถึง 3 ชั่วโมงมาก่อนเลย” ทูรามถามด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยจุดบุหรี่พร้อมกับนั่งพักใกล้ ๆ กับชายชรา แต่เนื่องจากเทคนิคเล่ห์กายาเป็นวิชาลับของสำนักเงาสังหาร เขาจึงไม่สามารถทำการเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปได้ เขาจึงกล่าวเปลี่ยนเรื่องออกไปว่า

“พลังพิเศษของคุณน่าจะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของร่างกาย ดูเหมือนคุณจะยังไม่เอาจริงด้วยซ้ำแต่คุณก็สามารถทำลายการเคลื่อนไหวของผมได้แล้ว”

“อะไรนะ นายอยากให้ฉันเอาจริงหรอ?” ทูรามถามด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งใจ เพราะเขาแค่พูดล้อเล่นออกไปไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจริงจังกับเรื่องนี้

“ฉันล้อเล่น... ใช่แล้วพลังพิเศษของฉันคือการเปลี่ยนรูปร่างกระดูกในร่างกาย ทำให้ฉันสามารถเคลื่อนไหวแบบผิดธรรมชาติได้ตามต้องการ การต่อสู้กับนายเมื่อกี้นี้คล้ายกับการออกกำลังกายฉันยังไม่ได้ใช้การจู่โจมจริง ๆ” ทูรามกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“นี่ไอ้หนุ่มอย่าเผลอเล่าเรื่องนี้ให้ไอ้แก่ฉินหมางฟังเชียวล่ะ ถ้าไอ้แก่นั่นรู้ว่าฉันสู้กับนายจริง ๆ ฉันต้องถูกมันตามล่าอย่างแน่นอน” ทูรามกล่าวขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวราวกับว่าเขายังรู้สึกกลัวฉินหมางมาจนถึงปัจจุบัน

‘นี่เขาแค่ออกกำลังกายงั้นหรอ ถ้าเขาเอาจริงขึ้นมาฉันไม่ตายเลยรึไง’ เซี่ยเฟยกัดริมฝีปากพร้อมกับคิดภายในใจ

หลังจากนั่งพักได้ไม่นานทั้งสองคนก็เดินออกมาจากห้องฝึก ก่อนที่เลขาที่ยืนรออยู่ด้านนอกจะรีบส่งเครื่องแบบชุดใหม่ให้กับทูรามและนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้กับทั้งสองคน

เซี่ยเฟยดื่มเครื่องดื่มจากเลขาเข้าไปด้วยความรวดเร็ว โดยเครื่องดื่มนี้มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานและมันก็น่าจะมีสรรพคุณที่ช่วยรักษาอาการเจ็บปวดในร่างกาย เพราะหลังจากที่เขาดื่มเครื่องดื่มไปสักพักความเจ็บปวดทั่วทั้งร่างของเขาก็ค่อย ๆ บรรเทาลง

“พวกเรามาใช้อาวุธสู้กันต่อไหม?” ทูรามเสนอ

“ผมอยากสู้กับคุณต่อจริง ๆ ครับ แต่ครั้งนี้ผมมีเวลาอยู่อย่างจำกัด ผมเกรงว่าคงจะต้องรอไปครั้งหน้า” เซี่ยเฟยรีบกล่าวขัดและโบกมือไปมา

“โอเค หลังจากนายกลับมาจากภูมิภาคดาวมฤตยูแล้วพวกเราค่อยมาสู้กันใหม่ เท่าที่ฉันรู้สถานการณ์ในพื้นที่บริเวณนั้นกำลังแย่ลงเรื่อย ๆ มีโอกาสสูงมากที่สงครามใหญ่จะปะทุขึ้นในปีนี้ อย่าคิดว่าฉินหมางขอให้นายมาหาฉันโดยไม่คิดอะไร ฉันรู้จักกับไอ้แก่นั่นมาหลายสิบปีแล้วถึงแม้มันจะเป็นคนที่อารมณ์ร้ายแต่มันก็เป็นคนที่มีหัวคิด” ทูรามกล่าวพร้อมกับตบไหล่เซี่ยเฟย

“คุณกำลังจะบอกว่าเขตทุ่งดาวแห่งความตายกำลังจะอยู่ในภาวะสงครามงั้นหรอครับ? ทำไมผมถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย” เซี่ยเฟยผงะหลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของทูราม

หากเขตทุ่งดาวแห่งความตายกำลังจะตกอยู่ในสภาวะสงครามจริง ๆ เซี่ยเฟยก็จำเป็นที่จะต้องเร่งการเดินทางให้เร็วกว่าเดิม

“ข้อมูลแบบนี้มันอยู่ในมือของคนเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นแหละ ถ้าฉันจำไม่ผิดฉินหมางมีลูกศิษย์ทำงานอยู่ในภูมิภาคดาวมฤตยูด้วย เขาคงจะฝากจดหมายให้นายเอาไปให้คนที่นั่นด้วยใช่ไหม?” ทูรามกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับโดยไม่พูดอะไร

“ถ้าฉันเป็นนายฉันจะไปหาลูกศิษย์ของฉินหมางทันทีที่เดินทางไปถึงภูมิภาคดาวมฤตยูแล้วค่อยจัดการธุระของตัวเองทีหลัง การพยายามอ่านความคิดของตาเฒ่านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและทุกสิ่งที่เขาบอกมันก็จะต้องมีประโยชน์กับนายแน่ ๆ” ทูรามแฝงนัยยะเอาไว้ในประโยค

เซี่ยเฟยไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากฉินหมางรู้ว่าเขาจะเดินทางไปยังภูมิภาคดาวมฤตยูเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง ชายชราจะสามารถเตรียมการทุกอย่างได้อย่างตรงประเด็นมากขนาดนี้

สิ่งที่ฉินหมางทำไม่ใช่การพยายามหยุดเซี่ยเฟยเอาไว้ แต่ใช้กำลังของตัวเองในการผลักดันเขาไปจนถึงขีดสุด ซึ่งมันก็คงจะมีเพียงแต่อัจฉริยะที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถวางแผนกลยุทธ์แบบนี้ได้

เซี่ยเฟยรู้อยู่เสมอว่าฉินหมางไม่ใช่คนธรรมดาเหมือนภาพที่เขาเห็นอยู่ภายนอก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงประเมินชายชราคนนี้ต่ำเกินไป!!

ถ้าไม่ใช่เพราะความช่างพูดของทูรามเขาก็อาจจะไม่รู้เลยว่าฉินหมางพยายามทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ซึ่งเรื่องนี้มันก็ทำให้ชายหนุ่มอยากจะกลับไปขอบคุณฉินหมางด้วยตัวเองจริง ๆ

หลังจากสนทนากันไปสักพักเซี่ยเฟยก็อำลาทูรามและมุ่งหน้าไปจดสิทธิบัตร ก่อนที่จะไปหาแอวริลที่เขาก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอเป็นยังไงบ้าง

***************

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด