6.การทดสอบจิตวิญญาณ
วิลเลียมกังวลว่าคำถามนี้อาจทำให้เบอร์รีรู้สึกอ่อนไหว เขารู้ว่าเธอมีชื่อเสียงในหลายๆด้าน
แต่ไม่ใช่ในเนื่องความแข็งแกร่งและพลังวิญญาณ เขาเกรงว่าเขาจะคำถามของเขาจะล้ำเส้นของเธอ
แต่มันกลับไม่เหมือนที่เขาคิด เธอเหลือบมองเขาแวบหนึ่งก่อนที่จะหัวเราะออกมา
"อะไรกัน แค่นี้เองเหรอ? ว้าว ข้านึกว่าเจ้าจะเป็นเหมือนกับคนอื่นเสียอีก"
วิลเลียมพูดไม่ออก เขาจึงเงียบรอคำตอบจากเธอ
“มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร”
เธอยักไหล่พยายามทำเป็นอารมณ์ดีปลอมๆ และพูดต่อ
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรผิดปกติแต่ไม่ว่าข้าจะพยายามแค่ไหน พลังวิญญาณของข้าก็ไม่เพิ่มขึ้นเลยแม้แต่นิ้วเดียว ข้าติดอยู่ที่คอขวดของพลังวิญญาณเก้าสิบเก้านานกว่าหนึ่งปีครึ่ง! เจ้ารู้ไหม พ่อของข้าเชื่อว่าข้าถูกวางยาพิษโดยศัตรูของเรา ท่านยังขอให้แพทย์ทุกคนมาตรวจข้าอย่างละเอียด”
ความเป็นตัวเองที่แท้จริงของเธอทำให้วิลเลียมประหลาดใจ
เธอดูร่าเริงแจ่มใสแม้จะพูดเรื่องที่ใครต่อใครก็ต่างก็รู้สึกกดดัน
เธอดูไม่เหมือนกับเบอร์รีผู้หดหู่ที่เขาเคยได้ยินอยู่เสมอในชีวิตก่อน เดิมที่เขาแค่สงสัย
ตอนนี้เขากลับแน่ใจแล้วว่าเด็กสาวที่สดใสเช่นนี้จะไม่มีวันปลิดชีวิตตัวเองภายในเวลาไม่ถึงเดือน
“งั้นข้าขอลองอะไรอีกอย่างได้ไหม”
เมื่อเขายืนยันลางสังหรณ์ก่อนหน้านี้ได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะลองหาดูว่าเธอมีอะไรผิดปกติ
“อะไรนะ? เจ้าอยากลองเสี่ยงโชคเพื่อรับรางวัลเหมือนคนอื่นๆหรือ?”
เธอพูดเบาๆ แต่สีหน้าของวิลเลียมไม่เปลี่ยนแปลง เขาตัดสินใจแล้วว่าจะช่วยเธอจริงๆ
“ข้าพอจะรู้วิธี… มันเป็นวิธีโบราณแบบหนึ่งที่ข้าเคยเรียนรู้ตอนที่ข้าอยู่ในตระกูลข้า”
เขาโกหกเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
“เจ้ามีคริสตัลวิญญาณและเทียนแห่งแสงไหม?”
เธอแตะสร้อยข้อมือที่ข้อมือขวาโดยไม่พูดอะไร
วิลเลี่ยมมองแล้วจำได้ทันทีว่ามันคือไอเทมเก็บที่มีค่ามากมันมีราคาแพงในโลกวิญญาณ
“เอ้า นี่”
เธอหยิบคริสตัลและเทียนนับสิบออกมายื่นให้วิลเลียมราวกับว่ามันเป็นเพียงเศษดิน “พอไหม”
"ว้าว ข้าต้องการเพียงแค่อย่างละชิ้นเท่านั้น"
เขาสุ่มเลือกคริสตัลหนึ่งอันและเทียนหนึ่งเล่ม แล้วให้เธอเก็บส่วนที่เหลือกไป
แต่เกินคาด เธอไม่รับมันกลับไป
“เจ้าเอาไปเถอะ”
เธอพูดด้วยท่าทางใจดี
“ข้ารู้ว่าพนักงานทำงานเบ็ดเตล็ดไม่เคยมีสิ่งของหรือเสบียงติดตัวมาด้วย ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้ามาทำอะไรดึกๆดื่นๆที่นี่ แต่เทียนเหล่านี้น่าจะพอช่วยชีวิตเจ้าได้”
คำพูดที่อบอุ่นและการเอาใจใส่ของเธอทำให้หัวใจเขาสั่นคลอน
เขามองเธอด้วยความชื่นชมและรู้ว่าเธอคงไม่ยินยอมถ้าหากเขาปฏิเสธ
เขาจึงยอมรับมันมา
“ขอบคุณมาก”
เขาพูดขณะที่เก็บของใส่กระเป๋า
“ตอนนี้ข้าอยากให้เจ้าทำตามที่ข้าบอก”
การทดสอบวิญญาณของใคร คนนั้นต้องต้องคนทำเอง
เขาจึงคืนคริสตัลและเทียนให้เธอ พร้อมทั้งอธิบายสิ่งที่เธอต้องทำ
เธอฟังด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าการทดลองเธอทำเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
เธอไม่ได้ตั้งความหวังในสิ่งจะทำ เธอเข้าใจผิดว่าเขาพยายามหาวิธีอยู่ใกล้ๆเธอให้นานขึ้น
เพื่อต้องการปกป้องและแอบชื่นชมเธออีกเล็กน้อย
การเป็นสาวงามทำให้เธอกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจไม่เฉพาะในชั้นเรียนของเธอ
แต่รวมถึงชั้นเรียนที่สูงกว่าด้วย นี่ยังไม่ต้องพูดถึงภูมิหลังที่แข็งแกร่งและร่ำรวยที่ทำให้หลายคนไล่ตามเธอ
“แค่ถูมันให้เท่าๆ กัน ใช่ทำอย่างนั้นแหละ”
วิลเลียมไม่ได้ยืนเฉยๆ เขาคอยแนะนำเธอตลอดกระบวนการทั้งหมด
ก่อนที่วัสดุสีเขียวจะปกคลุมผิวแวววาวของคริสตัล
“อัดฉีดพลังวิญญาณของเจ้าเข้าไปในคริสตัล”
"แล้วไงต่อ?"
เธอถามเหมือนกับเด็กหญิงตัวเล็กๆที่กำลังรอดูมายากล
“ถ่ายเทพลังวิญญาณของเจ้าไปเรื่อยๆ จนกว่าข้าจะบอกให้หยุด”
วิลเลียมไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แต่เขายังคงสอนเธอ และรอดูผลการทดสอบอยู่ข้างๆเธอ
ตอนนี้เขารู้ถึงประเภทของจิตวิญญาณเธอแล้ว
เธอมีจิตวิญญาณมังกรไฟในฐานะทายาทโดยตรงของตระกูล
ทันทีที่เธอฉีดพลังวิญญาณเข้าไปในคริสตัล สารสีเขียวก็หายไป
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในใจกลางคริสตัล
ไม่เหมือนกับของวิลเลียม เธอมีจุดสีขาวเก้าสิบเก้าจุดเปล่งระยิบระยับอยู่ใจกลาง
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจและทำให้เขาถึงกับเบิกตากว้าง
"ว้าว! มันมีแสงแปลกๆอยู่ข้างในด้วย"
เบอร์รี่ไม่คิดเลยว่าการเล่นครั้งนี้จะสนุกขนาดนี้
"แต่เจ้าพวกแสงสีสวยๆข้างในนี้มันคืออะไรกันละ มีทั้งสีแดงกับ...สีทอง?"
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างสับสนและสนใจ แต่กลับพบกับสีหน้าตกใจของวิลเลียม
"มันมีอะไรผิดปกติหรือ?"
เมื่อเธอเห็นหน้าของเขา ก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แม้ว่าเธอจะชอบสิ่งที่เห็นในคริสตัลและมีความรู้สึกสนิทสนมกับแสงเหล่านั้นอย่างประหลาด
แต่เธอก็รู้สึกกังวลเมื่อมองเห็นวิลเลียมตกใจ
"ไม่แปลกเลย! ไม่น่าแปลกเลยที่เจ้าไม่สามารถทะลวงผ่านคอขวดได้มาก่อน"
เธอกำลังรอให้เขาพูดอะไรที่ตลกเพื่อผ่อนคลาย แต่เขาดันพูดสิ่งที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรง
น้ำเสียง ท่าที และการแสดงออกบนใบหน้าวิลเลียม
บอกได้ว่าเขารู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไรและมันไม่ใช่แค่การพูดลอยๆเท่านั้น
เธอมาจากตระกูลที่มีรากฐานลึกซึ้ง และมีความรู้เรื่องวิธีการประเมินวิญญาณของปรมาจารย์วิญญาณพอสมควร
แต่วิธีที่วิลเลียมใช้ตอนนี้ เป็นสิ่งใหม่สำหรับเธอ เธอไม่เคยได้ยินวิธีแบบนี้มาก่อน
“ฟู่ว. ข้าคงแค่เข้าใจผิดว่าเจ้าแตกต่างจากคนอื่นไปแวบเดียว”
ทันทีที่ความคิดว่าวิลเลียมรู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับเธอแวบเข้ามาในหัว เธอก็ปัดมันทิ้งทันที
วิลเลียมเป็นใครกัน เขาเป็นคนที่อ่อนแอ เป็นแค่เจ้าหน้าที่เบ็ดเตล็ดคนหนึ่งเท่านั้น
ใช่ เธอรู้สึกเห็นใจคนแบบเขา แต่เธอจะไว้ใจได้อย่างไรว่าคนอ่อนแออย่างวิลเลียมจะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับเธอ
แต่วิลเลียมไม่ได้สนใจคำอุทานของเธอ เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นสบตาเธอ
เธอเห็นท่าทางที่แน่วแน่และสายตาที่ดูเป็นผู้ใหญ่ของเขา
สายตาที่ไม่เคยเห็นในเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเขา
นี่ยังไม่ต้องกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ทำงานเบ็ดเตล็ดที่อ่อนแอแบบเขา
"ข้ารู้ว่ามีอะไรที่ดึงรั้งเจ้าไว้ และข้ารู้วิธีที่จะช่วยให้เจ้าทะลวงระดับได้"
ตอนนี้ แม้แต่ลมหายใจของเธอก็หยุดลงไปพักหนึ่ง
ก่อนที่จะหายใจเข้าและออกอย่างกระท่อนกระแท่น
“ไปกันเถอะ หยุดพูดเรื่องเหลวไหลที่อันตรายแบบนี้ได้แล้ว”
เธอตบหน้าอกก่อนจะยื่นคริสตัลคืนให้เขาอย่างไม่เต็มใจ