ตอนที่แล้วบทที่ 132: ข้าอยากจะสั่งสอนเจ้ามานานแล้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 134: พวกเขาไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน

บทที่ 133: หูเจียวเจียวบ้าไปแล้ว


หูเจียวเจียวตบลู่มู่ไปมากกว่า 1 ครั้งพร้อมกับก่นด่าจนมือของเธอเจ็บ จากนั้นเธอก็หยุดและมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา

ปัจจุบันใบหน้าของแม่กวางเฒ่าบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สักพักทั่วทั้งหน้าของหญิงชราก็พองตัวไม่ต่างจากหัวหมู

“ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องลูกของข้าอีก ข้าจะฟาดเจ้าเหมือนที่ทำเมื่อกี้ ครั้งนี้ข้าใช้มือ แต่ไม่แน่ว่าครั้งต่อไปข้าอาจจะใช้ท่อนไม้หรือมีดแทน ข้าจะฟาดเจ้าจนกว่าเจ้าจะยอมรับผิด!”

ยามนี้ดวงตาของจิ้งจอกสาวคมดั่งกริช น้ำเสียงของเธอดุร้าย พร้อมกับที่เธอเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายทีละก้าว ออร่าน่ากลัวที่แผ่ออกมาจากตัวหญิงสาวทำให้แม่กวางเฒ่ารู้สึกเหมือนมีมีดจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังกรีดอยู่บนร่างของตนเอง

“เจ้า เจ้า...” ชั่วขณะหนึ่ง ลู่มู่รู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกรัดคอจนหายใจไม่ออก แล้วร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว นางอ้าปากพะงาบ ๆ อยู่นานแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาจากปาก อีกทั้งตอนนี้นางรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน

ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านางเป็นเหมือนผีร้ายน่ากลัว

ครู่ต่อมา แม่กวางถอยหลังกลับไปแบบไม่รู้ตัว แต่นางไปชนเข้ากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างหลังโดยบังเอิญ จึงทำให้แม่ลูก 2 คนพากันล้มหงายหลังไป

ในเวลาเดียวกัน ภูตที่อยู่รอบ ๆ หัวเราะออกมาเสียงดังยามได้เห็นสภาพที่น่าสมเพชของแม่ลูกอันธพาล เมื่อก่อนพวกเขามักจะฉวยโอกาสทำร้ายภูตหญิงคนอื่นอยู่เสมอ

ผู้หญิงหลายคนเคยถูกนางตบตี แต่ก็ไม่มีใครสามารถเอาชนะนางได้ ส่วนผู้ชายก็ไม่กล้าทำอะไรกับผู้หญิง ดังนั้นทุกคนจึงต้องกัดฟันอดทนให้เรื่องเงียบไปโดยไม่สามารถทำอะไรได้

พอชาวบ้านได้เห็นแม่กวางเฒ่าเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้าง ทุกคนก็คิดว่านี่คือผลกรรมของนาง และไม่มีภูตคนใดเห็นอกเห็นใจนางแม้แต่คนเดียว

พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้ปรบมือชื่นชมผู้ลงมือ

“อย่าเข้ามานะ!” ลู่มู่ร้องลั่นด้วยความตกใจ “ไอ้ตัวเล็กพวกนั้นทำให้ลูกข้าเป็นแบบนี้ ข้าเลยจะถลกหนังมันเพื่อเป็นการชดใช้ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายข้า!”

แม้แต่ในเวลาเช่นนี้ หญิงชราก็ยังคงดื้อรั้นป้ายความผิดให้กับผู้อื่น

หูเจียวเจียวชำเลืองมองลู่หลีที่ถูกทับอยู่ใต้ตัวแม่กวางเฒ่า แล้วมุมปากของเธอก็กระตุก

ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของลูกน้อยทั้ง 5 คนของเธอหรือ?

ถัดมา จิ้งจอกสาวเย้ยหยันศัตรูด้วยใบหน้าบูดบึ้งทันที “มันก็แค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเด็กทะเลาะกัน มันยังไม่ตายเสียหน่อย เจ้านั่นแหละทำไมถึงกล้าลงมือกับลูกข้า?”

“ข้า...” ลู่มู่กำลังจะอ้าปากตอบโต้ แต่จู่ ๆ นางก็นึกขึ้นได้ว่าคำพูดพวกนี้มันช่างคุ้นหูเพียงใด

ส่วนเหล่าภูตที่ยืนมองเหตุการณ์เองก็เคยได้ยินมันบ่อยจนชินหู

นี่ไม่ใช่สิ่งที่แม่กวางเฒ่าพูดหลังจากที่ลู่หลีทำร้ายหลงหลิงเอ๋อโดยการเอานางไปโยนให้งูพิษกัดหรอกหรือ!

เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้นเกือบถูกงูพิษกัดตาย แต่หญิงชราหน้าไม่อายกลับสามารถพูดถ้อยคำที่ไร้หัวใจออกมาได้ ตอนนี้มันถึงตาของนางบ้างแล้ว มาดูกันว่านางจะทำอย่างไร!

ก่อนที่ลู่มู่จะทันได้โต้กลับ หูเจียวเจียวก็พูดต่อว่า

“นอกจากนี้ ลูก 5 คนในครอบครัวของข้าประพฤติตัวเป็นเด็กดีมาตลอด พวกเขาตัวเล็กแค่นั้นจะไปรังแกลู่หลีที่ตัวโตกว่าได้ยังไง จริง ๆ แล้วเขาเป็นแบบนี้เพราะอะไรกันแน่”

“มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า?”

ในขณะที่จิ้งจอกสาวพูด เธอกวาดตามองไปที่ภูตรอบตัว

จากนั้นภูตทั้งหลายก็พากันส่ายหัวพลางโบกมือ

“ไม่นะ”

“ข้าไม่เห็น...”

“ใช่แล้ว ข้าคิดว่าเด็กพวกนี้เป็นเด็กดี ดูท่าทางพวกเขาสิ เด็กตัวเล็กแค่นี้จะไปสร้างปัญหาให้ใครได้”

เนื่องจากชาวบ้านมาที่นี่หลังเกิดเรื่อง และ... ถึงแม้ว่าจะมีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาก็จะไม่ช่วยแม่กวางตัวร้ายนั่น

เมื่อลู่หลีได้ยินคำพูดของภูตคนอื่น น้ำตาก็ไหลพรากเต็มใบหน้า เขาชี้ไปที่หลงหลิงเอ๋อพร้อมกับตะโกนว่า “นางเป็นคนทำ! นางโกนผมทั้งหมดของข้า!”

จากนั้นชาวบ้านก็หันไปมองหลงหลิงเอ๋อเป็นตาเดียว

พวกเขาเห็นร่างเล็กของสาวน้อยกำลังย่อตัวอยู่ด้านหลังหลงอวี้ เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ช่างแสนบอบบางและอ่อนแอ นางโผล่ดวงตากลมโตที่ดูฉลาดและเปล่งประกายชุ่มชื้นออกมา นั่นยิ่งขับให้นางดูน่ารักไร้เดียงสามากขึ้น

ทันใดนั้นเหล่าภูตในเหตุการณ์ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา

เจ้าลู่หลีกล้าใส่ร้ายป้ายสีเด็กดีเช่นนี้ได้อย่างไร?

ไอ้กวางนั่นมันไม่มีสมอง! อีกฝ่ายคิดว่าพวกเขาทั้งหมดคือควายที่ให้คนจูงจมูกได้ง่ายงั้นรึ!

...

อีกด้านหนึ่ง ภูตของเผ่าที่ออกไปล่าก็กลับมาทีละคน

ในบรรดาภูตเหล่านั้น หลงโม่ใช้กรงเล็บถือวัวสีดำและแบกหินแผ่นใหญ่ไว้บนหลัง เขากำลังจะมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงภูต 2-3 คนพูดคุยกัน

“หูเจียวเจียวกับแม่ของลู่หลีกำลังทะเลาะกันอยู่หรือ?”

“มันเป็นเรื่องที่พวกเด็ก ๆ ทะเลาะกัน แต่แม่ของลู่หลีจะถลกหนังลูกของหูเจียวเจียว!”

“เจ้าลู่หลีนั่นก็เอานิสัยแม่ตัวเองมาหมด เขาชอบไปเอาเปรียบหรือรังแกผู้หญิงและเด็กคนอื่นตลอด...”

ตึง!!

ยามที่ชาวบ้านกำลังคุยกัน จู่ ๆ หินบลูสโตนหนักหลายก้อนก็ตกลงมาเสียงดัง ทำให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย และมีวัวดำที่ตายแล้วตัวหนึ่งวางอยู่บนพื้น

ฟ้าว!

“เอ่อ...นั่นใครที่เพิ่งบินผ่านไปน่ะ?”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นหลงโม่หรือเปล่า?”

ขณะนั้นภูตหลายคนยืนตะลึงงันกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

...

เมื่อลู่มู่ได้ยินคำพูดที่จริงครึ่งไม่จริงครึ่งของหูเจียวเจียว นางก็เดือดดาลขึ้นมาทันที ตอนนี้ความโกรธของนางมีมากกว่าความกลัว นางจึงตะโกนเถียงสุดเสียง

“มันก็แค่ไอ้สวะไร้ค่า ถ้าข้าอยากจะทำอะไรพวกมัน ข้าก็ย่อมทำได้ แค่ถลกหนังพวกมันยังไม่พอหรอก ข้าจะฆ่าไอ้เด็กชั่วพวกนี้ทิ้งให้หมด พวกมันสมควรตาย!”

หญิงชราต้องการส่งเด็กตระกูลหลงไปลงนรกโทษฐานที่ทำให้ลู่หลีของนางอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาแบบนี้!

การถลกหนังพวกเด็กเหลือขอแค่นี้มันยังน้อยไป!

แม่กวางเฒ่าสาปแช่งพร้อมกับลุกขึ้นกระโจนเข้าใส่เด็กทั้ง 5 คน นางทั้งกางมือออกและอ้าปากกว้างหมายจะขย้ำเด็กพวกนี้ให้ตาย

ตราบใดที่พวกมันตาย หูเจียวเจียวจะไม่กล้าทำตัวหยิ่งยโสอีกต่อไป นางต้องการสั่งสอนบทเรียนให้นังจิ้งจอกอวดดีนั่น!

“ใช่ ฆ่าพวกมัน ท่านแม่ ฆ่าพวกมัน!” เสียงของลู่หลีตะโกนดังมาจากด้านหลัง บัดนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดุร้าย ซึ่งมันไม่ไร้เดียงสาอย่างที่เด็กควรมีเลยสักนิด

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่พูด เธอก็แผ่ออร่าเย็นเยียบออกมา เธอพุ่งเข้าไปหาหญิงชรา แล้วย่อตัวลงหยิบดินกำมือหนึ่งยัดเข้าไปในปากของนาง

“ปากเจ้ามันเน่าหมดแล้ว เอาดินไปบ้วนปากซะ!”

จากนั้นกรงเล็บอันแหลมคมในมือของเธอก็กดไปที่คอของลู่มู่ แล้วพูดข่มขู่ว่า

“เด็กพวกนั้นเป็นลูกของข้า ข้าจะทำอะไรกับพวกเขามันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าเจ้ากล้าพูดจาหยาบคายหรือมากลั่นแกล้งลูกของข้าล่ะก็ ข้าจะให้ลู่หลีเสียแม่ไปก่อน! แล้วค่อยให้มันเสียพ่อไป!”

อาจกล่าวได้ว่าการเลี้ยงลูกให้ออกมานิสัยชั่วช้าสามานย์แบบนี้เป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ตระกูลลู่

ถ้าหญิงสาวไม่อยากให้ลูก ๆ ต้องถูกกดขี่ข่มเหงอีก ในอนาคตเธอจะต้องยับยั้งผู้ใหญ่ทั้ง 2 คนนี้เอาไว้ก่อน

ระหว่างที่จิ้งจอกสาวพูด กรงเล็บจิ้งจอกได้เจาะผิวหนังของแม่กวางเข้าไปจนมีของเหลวสีแดงสดไหลซึมออกมา แล้วมันก็หยดลงบนร่างกายของเจ้าตัวทีละหยด

พอลู่มู่เห็นว่าหูเจียวเจียวเอาจริง นางก็ตื่นตระหนกและปอดแหกไม่กล้าทำอะไรอีก นางยกมือขึ้นเหนือหัวเพื่อร้องขอความเมตตาทันที “ขะ-ข้าไม่กล้าแล้ว เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ...”

วิธีนี้สามารถสยบคนประเภทที่ไม่สามารถใช้คำพูดดี ๆ ด้วยได้อย่างอยู่หมัด

ปัจจุบันดวงตาของจิ้งจอกสาวยังคงดุดัน และเธอไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยอีกฝ่ายไปแม้แต่น้อย

ถัดมา หญิงสาวยื่นมืออีกข้างหนึ่งไปที่เอวเพื่อดึงมีดกระดูกแหลมคมที่เธอมักจะพกติดตัวในตอนที่ออกไปข้างนอก จากนั้นเธอยกมือขึ้นแทงมันเข้าที่หลังมือของแม่กวางโดยตรง

ฉึก!

มีดกระดูกทะลุผ่านฝ่ามือของลู่มู่จนมันยึดติดอยู่กับพื้นทันที

“กรี๊ดดดดดดดด!”

เสียงกรีดร้องของหญิงชราดังโหยหวนไปทั่วบริเวณ ความเจ็บปวดทำให้น้ำตาของนางไหลออกมา ทันทีที่หูเจียวเจียวปล่อยมือ นางก็กลิ้งไปทั่วพื้น แต่มือข้างหนึ่งยังคงถูกตรึงอยู่กับพื้น พอนางยิ่งดิ้น บาดแผลก็ยิ่งสาหัสขึ้น

“ท่านแม่! ท่านแม่!” ลู่หลีที่ยืนอยู่ข้างหลังแผดเสียงร้องเรียกผู้เป็นแม่

แต่เมื่อเด็กหนุ่มเห็นมือที่เปื้อนเลือดของจิ้งจอกสาว เขาก็ไม่กล้าก้าวไปใกล้แม่ของตนเลย และรีบถอยห่างออกไป

ต่อมา หูเจียวเจียวเหลือบมองลู่มู่ที่กำลังทุรนทุรายบนพื้นด้วยสายตาเย็นชาพลางพูดว่า

“นี่คือบทเรียนสำหรับเจ้า ถ้าข้าเห็นว่าเจ้าทำอะไรกับลูกของข้าอีกล่ะก็.. มีดเล่มนี้จะแทงเข้าไปในหัวใจของเจ้า!”

เพื่อจัดการกับคนไร้จิตสำนึกแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์ที่จะต้องพูดข่มขู่อีกฝ่ายด้วยถ้อยคำที่รุนแรง นางต้องได้รับรสชาติของความหวาดกลัวและบทเรียนหนัก ๆ มิฉะนั้นนางก็จะไม่รู้สึกรู้สาอะไร

“อ๊าาาา… ข้า… ข้าไม่กล้า...” แม่กวางเฒ่าร้องอ้อนวอนขอความเมตตา นางกลัวผู้หญิงบ้านี้จริง ๆ

นังจิ้งจอกนี่ต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด