ตอนที่แล้วตอนที่ 11 ขี้ขลาด!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 จ้าวหอผู้งดงาม

ตอนที่ 12 หออาวุธเทพ


“ฟึ่บ!”

“ฟึ่บ!”

ไม่นานหลังจากที่ถังฮวนออกไป สองร่างก็วิ่งเข้ามาเหมือนกับม้าสองตัวอย่างรวดเร็วและชายเสื้อของพวกเขาก็มีเสียงเบา ๆ ของบางอย่างที่ขาดผ่านอากาศ

ทั้งสองเป็นชายวัยกลางคน คนหนึ่งมีร่างกายปกติและสวมชุดสีน้ำเงิน ส่วนอีกคนนั้นสูงผอมหน้ายาว

“ถังเฉา! ถังหง!”

เมื่อเห็นทั้งสองนอนอยู่หน้าร้านตีอาวุธ ทั้งชายชุดสีน้ำเงินและชายหน้ายาวก็สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ไม่นานพวกเขาก็มาถึงทั้งสองคน

“ลุงหรง…ลุงห่าว…”

ถังหงส่งเสียงอ่อนแอและแทบจะกลิ้งมาไม่ได้

เมื่อชายวัยกลางคนหน้ายาวเห็นสีหน้าเขาก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก หัวของถังหงนั้นบวมเหมือนกับหัวหมูและแยกใบหน้าของเขาไม่ออก

ในตอนนี้ ชายวัยกลางคนชุดน้ำเงินก็ไปดูร่างของถังเฉาซึ่งนอนอยู่บนพื้นเหมือนกับถังหง

ด้วยใบหน้าไม่สู้ดี ชายวัยกลางคนชุดน้ำเงินวางมือที่จมูกถังเฉาเพื่อตรวจดูว่าเขายังหายใจอยู่หรือไม่และถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายังมีชีวิตอยู่และแค่สลบไป

หลังจากดีใจได้ไม่นานชายวัยกลางคนชุดสีน้ำเงินก็ทวีโทสะขึ้นอีกครั้ง เขาเหลือบมองร้านตีอาวุธและถาม

“ถังฮวนมันไปที่ไหน?”

“เขา…เขาหนีไป…”

ถังหงพูดเสียงอ่อนระทวย

“หนีงั้นรึ? ต่อให้มันหนี มันก็หนีไม่พ้นเมืองคลื่นคลั่ง! ถังหง เจ้าอยู่ที่นี่ เราสองคนจะไปจับมัน”

เมื่อชายวัยกลางคนหน้ายาวได้ยินเช่นนี้ใบหน้าเขาก็ร้อนผ่าวและถอนหายใจแรง เขาเหลือบมองกับชายวัยกลางคนชุดน้ำเงินและเร่งความเร็วราวกับวายุไปในทิศทางเดียว

ไม่นานหลังจากที่ชายวัยกลางคนทั้งสองจากไป ก็มีอีกสองคนที่วิ่งมายังหน้าร้านตีอาวุธและหอบหายใจ พวกเขาคือถังเจียงและถังจุนเจี้ยนที่หนีไปก่อนหน้านี้นั่นเอง

หลังจากหนีจากร้านตีอาวุธแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับไปที่ตระกูลแต่ไปที่ร้านค้าตระกูลถังที่ใกล้ที่สุด

พวกเขาโชคดีพอที่มาเจอผู้ดูแลร้านตระกูลถังที่เดินอยู่ นั่นคือถังเทียนหรงและถังเทียนห่าว ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นคนรุ่นเดียวกับเจ้าตระกูล แต่พวกเขายังเป็นจอมยุทธขั้นสี่ด้วย เมื่อได้ยินว่าชีวิตของถังเฉาและถังหงตกอยู่ในอันตราย ทั้งสองก็ไม่กล้ารอช้าและรีบเข้ามาดูอย่างเร็วที่สุด

ถังเจียงและถังจุนเจี้ยรีบวิ่งมาดูแต่มันก็สายไปแล้ว

“พี่หง ลุงหรงกับลุงห่าวไปไหนแล้วล่ะ?”

“พวกเขาไปจับถังฮวน ไอ้สารเลวนั่น มันทำพี่สองกับข้าขนาดนี้ ข้าไม่มีวันอภัยให้แน่!”

“ถ้ามีลุงหรงกับลุงห่าว มันก็ไม่มีทางหนีออกไปจากเมืองคลื่นคลั่งได้…แย่แล้ว ข้าลืมบอกพวกเขาว่าถังฮวนผสานกับเพลิงแท้แล้ว”

“ต้องไปกลัวอะไรเล่า? ลุงหรงกับลุงห่าวเองก็เป็นจอมยุทธขั้นสี่ เขาจะไปกลัวพลังเล็กน้อยของเพลิงแท้ได้อย่างไร?”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว…”

“...”

แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่ถังฮวนจะหนีไปจากเมืองคลื่นคลั่ง เขามาถึงที่ส่วนตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองคลื่นคลั่งด้วยความเร็วสูงสุด

ที่หน้าผาริมทะเล มีสามอาคารที่เรียงตัวเป็นรูปร่าง ใต้หน้าผานั้นคือ “ทะเลคลื่นคลั่ง” ระหว่างดินแดนรุ่งโรจน์และดินแดนต้นกำเนิด

ในสามอาคารนี้ อาคารหน้าสุดนั้นคือหอสามชั้น ด้านหลังเป็นสองตำหนัก

“หออาวุธเทพ!”

ถังฮวนที่ยืนหน้าหอพูดเบา ๆ เมื่อมองดูป้ายเหนือทางเข้า มันสลักไว้ด้วยตัวอักษรสามคำ “หออาวุธเทพ”

ที่นี่นั้นดูสามัญ แต่ต้นกำเนิดนั้นสุดยอด

ตามตำนานแล้ว “หออาวุธเทพ” คือพรรคที่ก่อตั้งโดยนักตีอาวุธทั้งหมดในดินแดนรุ่งโรจน์ มันสร้างมาแล้วเกินร้อยปีโดยเหล่านักตีอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุด

อำนาจของ “หออาวุธเทพ” นั้นแผ่ขยายไปทั่วสามอาณาจักร ถ้าหากเป็นเมืองที่ใหญ่แม้จะเพียงเล็กน้อยเมื่อใด ที่นั่นก็จะมีสาขาของหออาวุธเทพอยู่ และเมื่อสมาชิกส่วนใหญ่อยู่ในดินแดนรุ่งโรจน์ หออาวุธเทพจึงเป็นผู้มีอิทธิพลที่สุดในดินแดนรุ่งโรจน์และเทียบได้กับตระกูลราชวงศ์ของสามอาณาจักรเลยทีเดียว

แต่สถานที่หลักของหออาวุธเทพนั้นตั้งอยู่ที่เมืองช่างสวรรค์นอกสามอาณาจักร

ถังฮวนมาที่นี่เพราะว่าเขาต้องการเข้าร่วมหออาวุธเทพ

ตราบเท่าที่ตัวตนในฐานะนักตีอาวุธของเขาได้รับการยอมรับจากหออาวุธเทพ เขาก็จะได้รับความคุ้มครองจากหออาวุธเทพ นั่นเท่ากับตราหยกของเขา ถ้ามีตราหยกนี้และยังอยู่ในเมืองกับหออาวุธเทพ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการโดนทำร้ายอย่างโจ่งแจ้งแล้ว

“มันยังไม่เที่ยง การทดสอบวันนี้น่าจะยังไม่เริ่ม ไม่อย่างนั้นข้าคงต้องรอจนถึงพรุ่งนี้ คงจะไม่ดีแน่”

ขณะที่คิด ถังฮวนก็รีบเดินเข้าไปที่หออาวุธเทพอย่างรวดเร็ว

ไม่มีทหารคุ้มกันที่ทางเข้า ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยชื่อเสียงของหออาวุธเทพแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีทหารคุ้มกัน แค่คำว่าหออาวุธเทพก็น่ากลัวพอสำหรับทุกคนแล้ว

ดังนั้นถังฮวนจึงเข้าไปข้างในได้อย่างง่ายดาย

มันแทบจะไม่มีอะไรในชั้นแรกเลย ยกเว้นแต่โต๊ะไม้ที่ด้านซ้ายทางเข้า ด้านหลังโต๊ะไม้มีชายหนุ่มที่อายุราวยี่สิบห้าปีนั่งหลับตาอยู่ เขาไม่ได้ขยับตัวแม้ว่าถังฮวนจะเดินเข้ามา ราวกับว่าเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

ถังฮวนมองรอบ ๆ และสายตาเขาก็มองไปยังชายหนุ่ม

“พี่ชาย…”

“มีอะไรรึ?”

เขาไม่แม้แต่ลืมตา

ถังฮวนอึ้งพูดไม่ออก แต่เขาก็รีบพูดออกไป

“พี่ชาย ข้าอยากจะเข้าร่วมการทดสอบนักตีอาวุธ ข้าต้องไปที่ใดรึ?”

“รับ แล้วไปที่ชั้นสอง!”

ทันทีที่ชายหนุ่มพูดก็มีเงาดำเล็ก ๆ โยนออกมา ถังฮวนรับมันมาดูและจบว่ามันเป็นแผ่นไม้กลมสีดำที่มีคำว่า “ทดสอบ” สลักเอาไว้ ถังฮวนดีใจมาก การทดสอบยังไม่เริ่มขึ้น ไม่อย่างนั้นเขาคงจะไม่ให้แผ่นไม้มา

“ขอบคุณนะพี่ชาย”

ถังฮวนขอบคุณและเดินขึ้นบันไดโดยไม่สนว่าชายหนุ่มจะตอบสนองหรือไม่

ชั้นสองนั้นเรียบง่ายอย่างมาก แต่ก็มีเบาะรองนั่งที่ตรงกลางราวยี่สิบถึงสามสิบชิ้น

ที่ถังฮวนแปลกใจที่สุดก็คือมีห้าคนนั่งอยู่ในเบาะรองนั่งแล้ว มีหญิงสาวงดงาม หญิงอายุน้อยที่แต่งงานแล้ว และชายหนุ่มรูปงามอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปี ชายหนุ่มชุดดำที่ดูอายุราวยี่สิบหรือสามสิบปี และมีชายชราผมขาวด้วย

ที่ด้านหน้าทุกคนล้วนมีแผ่นไม้สีดำที่มีคำว่า “ทดสอบ” เขียนเอาไว้

“มีคนหลายคนเลยนะ”

ถังฮวนเองก็เลือกเบาะรองนั่งและนั่งพร้อมกับวางแผ่นไม้ไว้ด้านหน้า เขาอดสงสัยไม่ได้เพราะถึงกับมีชายชรามาเข้าร่วมการทดสอบนักตีอาวุธระดับต่ำ แค่เรื่องนี้ก็บอกได้ว่าการเป็นนักตีอาวุธที่หออาวุธเทพยอมรับนั้นมีค่ามากเพียงใด

เมื่อพวกเขาเห็นถังฮวนเดินเข้ามา ทุกคนก็มองเขาในพริบตาและกลับมามองที่เดิม บางคนหลับตาพัก บางคนก็คลำฝ่ามือเบา ๆ บางคนก็ริมฝีปากสั่นราวกับว่ากำลังพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีใครที่พูดอะไรออกมาเลย

ถังฮวนไม่คิดจะพูดคุยเช่นกัน หลังจากนั่งได้สักระยะแล้วเขาก็เริ่มรู้ว่ามีอะไรกำลังอยู่ตรงหน้าเขา และเขาก็หันไปมอง เขาได้เห็นดวงตาสีดำสดใสและเป็นหญิงสาวในชุดแดงที่กำลังมองเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เมื่อเห็นแบบนั้นถังฮวนก็เกิดความคิดซุกซนและจงใจยักคิ้วให้นาง

สาวน้อยย่นจมูกและกลอกตาอย่างไร้เยื่อใย นางหันกลับไปแต่ไม่นานหลังจากนั้นถังฮวนก็รู้สึกว่ามีคนกำลังมองเขาอีกครั้ง ถังฮวนจบว่ามันน่าสนใจมากและกำลังจะแหย่นางอีก แต่เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้าใกล้เขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด