ตอนที่แล้วตอนที่ 1049 ขอโทษ.. คุณมันก็เป็นเพียงแค่ขยะเก่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1051 แต่สิ่งที่ฉัน ..คิดไม่ถึงเลยก็คือ มันกลับเป็นเพื่อนที่ดีคนนี้.. ที่ได้ทําลายฉัน

ตอนที่ 1050 สิ่งที่ฉันต้องการจะพูด ฉันก็ได้พูดจบแล้ว งั้นเชิญคุณตามสบาย!


อู๋ ต๋า ได้หยุดฝีเท้าของเขา นี่เป็นไปได้ไหมว่าเขาหวั่นไหวกับข้อเสนออีกฝ่าย?

จิน จิ่วฟู่ ได้พูดขึ้นอีกครั้งว่า : “ฟังคําแนะนําของฉันดีกว่านะ  คุณอายุเท่านี้ และยังห่างหายไปจากกีฬาอาชีพมานานหลายปีแล้ว และที่นี่มันก็ไม่เหมาะกับคุณอีกต่อไป ทำไมคุณไม่เอาเงินก้อนหนึ่งไปใช้ให้ชีวิตดีขึ้น และอยู่ผ่านปีเดือนไปอย่างเงียบสงบไม่ดีกว่าหรือ? และถ้าฉันเป็นคุณ แน่นอนว่าฉันย่อมตอบตกลง คุณลองส่องกระจกดูด้วยตัวเองก็ได้ ศักดิ์ศรีของคุณมันไม่มีอยู่อีกแล้ว ตัวคุณเองยังเดินกะเผลกไปมา แถมคุณยังอยากเป็นบุคคลสาธารณะ คุณไม่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะคุณเหรอไง? แค่นี่ตัวคุณเองก็ไร้ศักดิ์ศรีมากพออยู่แล้ว แล้วนี่.. ฉันพูดถูกไหม?”

ในทุกๆ ประโยคของเขากลับเป็นคำพูดที่จี้แทงใจ ทุกคำพูดล้วนแล้วแต่ดึงจุดที่เจ็บปวดที่สุดของ อู๋ ต๋า ออกมาเหยียบย่ำอย่างหนัก

ดวงตาของ อู๋ ต๋า ได้ฉายชัดความเจ็บปวดออกมา จริงๆ แล้ว รูปร่างหน้าตาของเขาไม่มีภาพลักษณ์ที่ดีที่จะพูดถึงได้เลยจริงๆ แม้ว่าหลังจากที่เขาเป็นหัวหน้าโค้ชของทีมหยุนเฉิงแล้ว และแม้ว่าเขาจะสวมเสื้อของทีมหยุนเฉิง ซึ่งใหม่เอี่ยม แต่ผิวสีเข้ม และกลิ่นอายความผันผวนของชีวิต มันก็ไม่สามารถปกปิดได้

เขาดูเหมือนลุงที่เปลี่ยวเหงาที่ได้ผ่านความทุกข์ทรมานมามาก

มันก็น่าอายจริงๆ ที่จะต้องออกไปพบเจอผู้คนแบบนี้

เขาเอง ก็รู้สึกอับอาย!

จิน จิ่วฟู่ กล่าวต่อไปว่า : “คุณดูสิ เมื่อก่อนคุณหล่อ สง่างาม เต็มไปด้วยพละกำลัง ความกระฉับกระเฉง และความคึกคะนองของวัยรุ่น สามารถทําให้สาวๆ หลงใหลได้เป็นหมื่นๆ ทั้งนี้รูปถ่ายของคุณในวัยเยาว์ ตอนนี้มันก็ยังหาได้บนอินเทอร์เน็ต ลองคิดดูสิ ถ้าคุณถ่ายรูปด้วยรูปลักษณ์ในตอนนี้ สื่อเหล่านั้นจะเขียนเกี่ยวกับคุณอย่างไร พวกเขาก็จะสงสัยว่าคุณได้ผ่านอะไรมาบ้าง ถึงได้กลายเป็นคนแก่ และดูน่าเกลียดขนาดนี้ แน่นอนเมื่อนั้นพวกเขาก็จะต้องประชดประชันคุณ เยาะเย้ยคุณ เมื่อถึงตอนนั้นคุณก็จะกลายเป็นเรื่องตลก แล้วทําไมคุณจะต้องไปทนทุกข์ทรมานกับบาปกรรมเช่นนี้ด้วย!”

“คุณอย่าได้มาโทษฉันที่พูดจาไม่ดีออกไป จริงๆ แล้วฉันเองก็ช่วยคิดแทนคุณนะ! แต่แล้วยังไงเราก็เป็นเพื่อนเก่ากันมานานหลายปี ถูกต้องไหม? ฉันเองไม่อยากให้คุณถูกมองเป็นเหมือนลิง บอกตามตรงฉันเป็นห่วงคุณจริงๆ และไม่ได้อยากให้คุณต้องมาเป็นแบบนั้น”

จิน จิ่วฟู่ ได้พูดมากจนเกือบที่จะหลงเชื่อคำพูดของตัวเองแล้ว

“เอาเป็นว่าเมื่อกี้ที่ฉันบอกว่าฉันเป็นห่วงคุณ คุณจะไปคิดว่านี่มันเป็นเรื่องไร้สาระล้วนๆ ก็ได้ แต่เอาเข้าจริงๆ ตัวคุณก็ไม่ได้สัมผัสฟุตบอลมานานหลายปีแล้ว แล้วนี่ฉันจําเป็นต้องห่วงคุณ? เอาเป็นว่าแล้วแต่คุณจะคิดเลย เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฉันก็กําลังคิดถึงคุณจริงๆ และไม่ได้อยากให้คุณต้องขายหน้า ดังนั้นคุณยื่นเสนอราคามาเถอะ ฉันจะให้เงินคุณก้อนหนึ่ง เพื่อให้คุณได้ไปเพลิดเพลินกับช่วงบั้นปลายของชีวิตได้อย่างสงบสุข และไม่จําเป็นต้องออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะอีกต่อไป”

จิน จิ่วฟู่ ได้แสดงท่าทางที่ดูใจดีออกมา

ในเวลานี้ หลินฟาน จะไม่เข้าใจตรงไหนได้อย่างไร จิน จิ่วฟู่ คนนี้พยายามพูดทั้งดี และไม่ดี จุดประสงค์เดียวของเขาก็คือ อยากให้ อู๋ ต๋า ลาออกจากทีมหยุนเฉิง

แน่นอนว่าเขา.. มีเจตนาที่ไม่ดี

ถ้า อู๋ ต๋า เกิดเชื่อเขาจริงๆ และได้ลาออกจากทีมหยุนเฉิง หลินฟาน เองก็คงจะรีบร้อนทั้งไม่รู้ว่าเขาจะไปหาหัวหน้าโค้ชมาแทนได้ที่ไหน และบางทีการหาหัวหน้าโค้ชอาจจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่การหาหัวหน้าโค้ชอย่าง อู๋ ต๋า มันคงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น.. การหาหัวหน้าโค้ชคนใหม่ ทีมเองก็จะต้องฝึกซ้อมกันใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น และเวลา.. มันก็ไม่พอ

จิน จิ่วฟู่ นี่ดูเหมือนว่าจะมุ่งเป้าไปที่ อู๋ ต๋า แต่ในความเป็นจริงแล้ว เขาต้องการทําร้าย ทีมหยุนเฉิง!

หาก จิน จิ่วฟู่ กังวลเกี่ยวกับ อู๋ ต๋า จริงๆ เขาอาจจะมุ่งเป้าไปที่ อู๋ ต๋า แต่นี่มันอาจเป็นแค่เรื่องบังเอิญที่มาทําร้าย ทีมหยุนเฉิง

แต่ถ้าเกิด จิน จิ่วฟู่ ไม่ได้มุ่งเป้ามาที่ อู๋ ต๋า แต่มาที่ทีมหยุนเฉิงล่ะ?

หลินฟาน รู้สึกไม่เข้าใจจริงๆ เพราะผลการแข่งขันในอดีตของทีมหยุนเฉิงนั้นแย่มาก ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับทีมหางโจว ฟู่ลี่ เลย แล้ว จิน จิ่วฟู่ ก็ไม่จําเป็นต้องซุ่มโจมตี ทีมหยุนเฉิง เลยสักนิด แต่ทำไม..

ชั่วขณะหนึ่ง หลินฟาน ได้เริ่มที่จะสงสัย และยังไม่เข้าใจถึงเจตนา และแรงจูงใจที่แท้จริงของ จิน จิ่วฟู่ คนนี้

อู๋ต๋า ได้กล่าวว่า : “จิน จิ่วฟู่ คุณจะให้เงินฉันก้อนหนึ่งจริงๆ เพื่อให้ฉันออกจากทีมหยุนเฉิง?”

เมื่อ จิน จิ่วฟู่ ได้ยินคำพูดนี้ เขาก็แอบปลื้มใจ โดยคิดไปว่า อู๋ ต๋า เกิดหวั่นไหวขึ้นมาแล้ว

“แน่นอนที่ไหนฉันจะโกหกคุณ หรือหลอกลวงคุณ ฉันได้คิดแทนคุณจริงๆ ฉันรู้ว่าหลักๆ ที่คุณต้องออกมาเป็นหัวหน้าโค้ช ก็เพื่อเงิน อย่างไรเสียชีวิตที่ผ่านมาของคุณก็ไม่ได้ดี คุณเองคงอยากจะปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น งั้นก็จัดการได้ง่ายมาก ฉันเองมีเงินมากมาย ฉันสามารถช่วยคุณปรับปรุงชีวิตของคุณให้ดีขึ้นได้โดยตรง ไม่ต้องให้คุณมาทรมาน อย่างไรเราเองก็เป็นเพื่อนเก่ากัน เรื่องแค่นี้เราเองก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว แล้วนี่ทำไมคุณไม่รีบตอบตกลงเร็วๆ อีกล่ะ คุณกำลังรออะไร?” จิน จิ่วฟู่ ได้กล่าว

อู๋ ต๋า ได้หัวเราะ แล้วพูดไปว่า : “จิน จิ่วฟู่ ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นหัวหน้าโค้ชของทีมหยุนเฉิง ก็เพื่อเงิน.. ล่ะก็ งั้นคุณก็คิดผิดมหันต์แล้ว! ตอนฉันยังเด็ก ฉันชอบเงินมากจริงๆ แต่ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา ฉันกลับมองมันเป็นของจืดชืดไปนานแล้ว ‘เงิน’ มันก็เป็นแค่ของนอกกาย ส่วนคนถ้ามันยังมีชีวิตอยู่ได้ ก็ไม่อดตาย แล้วจะหาเงินไปมากๆ เพื่ออะไร? และในโลกนี้ มันก็ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าเงิน สำหรับฉันแล้ว สิ่งที่สําคัญกว่าเงิน ก็คือฟุตบอล!”

“ดังนั้น การที่คุณอยากให้ฉันลาออก พร้อมกับให้เงินก้อนหนึ่งแก่ฉัน คุณมันก็คิดมากเกินไปแล้ว.. และมันก็ไม่ง่ายเลยที่ฉันจะได้รับโอกาสนี้ แน่นอนฉันจะไม่ยอมแพ้ ตัวฉันเองไม่สามารถควบม้าวิ่งเข้าไปในสนามแข่งได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป แต่ฉันยังสามารถสอนคนกลุ่มหนึ่ง เข้าไปต่อสู้ในสนามแทนฉันได้ และเข้าต่อสู้ห้ำหั่นเพื่อเกียรติยศแทนฉันได้ ทั้งพวกเขาก็สามารถทำความฝันที่ฉันเคยตั้งเอาไว้ให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ เช่นกัน!”

“แล้วคืนนี้คุณไม่ใช่มาเพื่อหวนคิดถึงอดีตร่วมกันกับฉันแล้วเหรอ? งั้นฉันจะขอถามคุณหน่อยว่า คุณยังจำได้ไหมว่าครั้งหนึ่งฉันเคยบอกคุณไว้ว่า สักวันหนึ่งในไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฟุตบอลโลก? และจุดประสงค์ของฉันนั่นมันก็ ..บริสุทธิ์มาก ทั้งตอนนี้ ฉันเองก็ยังต้องการที่จะขึ้นไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฟุตบอลโลก.. เช่นเคย!”

“สิ่งที่ฉันต้องการจะพูด ฉันก็ได้พูดจบแล้ว งั้นเชิญคุณตามสบาย!”

หลังจากที่ อู๋ ต๋า พูดจบเขาก็ได้จากไปโดยไม่หันกลับมามอง ทิ้งเหลือไว้เพียง จิน จิ่วฟู่ ที่ได้มีสีหน้าตกตะลึง..

เมื่อ จิน จิ่วฟู่ ได้กลับมารู้สึกตัว อู๋ ต๋า ก็ได้เดินออกไประยะหนึ่งแล้ว.. เขากำลังเดินกะเผลก และเมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเขา.. มันก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเศร้า แต่ย่างก้าวของเขานั้นมันกลับดูมั่นคงมาก เช่นเดียวกับความมุ่งมั่นของเขาที่ได้แสดงมันออกมา

“ไอ้คนพิการคนนี้…นี่” จิน จิ่วฟู่ ได้กัดฟัน และอู๋ ต๋า ก็ได้ปฏิเสธที่จะตอบรับตกลงตามคำขอของเขา!

เห็นได้ชัดว่านี่เขา ได้ต่อต้านเขาแล้ว!

“เจ้านาย.. ท่านได้ขอให้เราสองคนออกไปพาตัวเขามา เราเองก็ได้พาเขามาแล้ว และนี่ก็ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นเราจะขอตัวก่อน”

ชายร่างใหญ่ทั้งสองคนได้วางแผนที่จะหลบหนีไปเช่นกัน

จิน จิ่วฟู่ ได้ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่ชายร่างใหญ่ทั้งสองคน : “พวกแกยังต้องการทำเงินอยู่อีกไหม?”

ชายร่างใหญ่ทั้งสองคนได้มองหน้ากัน จิน จิ่วฟู่ ได้ถามว่าพวกเขาต้องการหาเงินเพิ่มไหม แน่นอนว่าใครไม่อยากหาเงินเพิ่ม แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ตระหนักได้ว่า จิน จิ่วฟู่ ต้องไม่มีความคิดที่ดีอย่างแน่นอน และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้ มันก็ต้องเกี่ยวข้องกับ อู๋ ต๋า

พวกเขาไม่ได้กล้าคิดยั่วยุ อู๋ ต๋า อีกต่อไป นั่นก็เพราะหลินฟาน ที่เป็นดั่งจอมวายร้ายที่ได้นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ และบทสนทนาของพวกเขา หลินฟาน เองก็ต้องได้ยินอย่างชัดเจน

หากพวกเขาตอบรับ จิน จิ่วฟู่ หลินฟาน ก็จะต้องมาเก็บกวาดพวกเขาอย่างแน่นอน..

“ขอโทษครับ เจ้านาย งานนี้พวกเราไม่ทําแล้ว ขอลา!”

ชายร่างใหญ่ทั้งสองคน ได้ต้องการหลีกหนีจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นพวกเขาจึงได้กล่าวปฏิเสธ จิน จิ่วฟู่ ในทันที และพวกเขาทั้งสองก็ได้รีบจากไป...

จิน จิ่วฟู่ ก็ได้ถ่มน้ำลายออกไป : “ก็ช่างเป็นขยะที่ไร้ประโยชน์เสียจริงๆ!”

หลังจากนั้นเขาก็ได้จ้องมองไปในทิศทางที่ อู๋ ต๋า จากไป ดวงตาของเขาเองก็ฉายชัดแววตาที่ดุร้ายออกมา : “ไอ้ตัวบัดซบ ไอ้พิการนี่ นี่แกอยากที่จะต่อสู้กับฉัน แต่ถามตัวแกเองบ้างไหมว่า แกมันไปมีคุณสมบัตินี้ไหมหะ!”

ทันใดนั้น เขาก็ได้ยืนขึ้น และหันหน้าไปพูดกับชายในชุดสูทคนหนึ่ง : “ไปเช็คบิล”

ขณะที่เขาพูด เขาเองก็ได้หันไปขยิบตาให้กับชายในชุดสูทคนนั้น

จากนั้นเขาก็ได้พาชายในชุดสูทอีกคนหนึ่งออกไป

ชายในชุดสูทได้เข้าไปเช็คบิล สักครู่หนึ่งก็เสร็จ แต่เขาไม่ได้เดินตามออกไปในทิศทางที่ จิน จิ่วฟู่ ออกไป แต่แค่เดินจากออกไปอย่างเงียบๆ และได้เดินไปในทิศทางที่ อู๋ ต๋า ออกไป

แต่ในเวลานี้ โต๊ะที่ หลินฟาน และเว่ย เยว่เอ๋อร์ ที่ได้นั่งอยู่นั้น ตอนนี้ มันกลับว่างเปล่า และทั้ง หลินฟาน และเว่ย เยว่เอ๋อร์ ก็ได้หายตัวไปแล้ว

ภายใต้ความมืดมิด อู๋ ต๋า ได้เดินกะโผลกกะเผลกอยู่ภายใต้ไฟถนนที่มืดสลัว ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงไอดังขึ้นมาจากด้านหลังเขา และก็ได้เห็นเพียงชายในชุดสูทคนหนึ่ง ที่ได้เดินเข้ามาหาเขา..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด