ตอนที่แล้วบทที่ 120: สอนหลงโม่ให้สวมกางเกงใน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 122: ผลเกลือ

บทที่ 121: ข้าจะใช้ชีวิตนี้เพื่อปกป้องเจ้าและลูก ๆ


หลังจากที่หูเจียวเจียวได้ยินสิ่งที่หลงโม่พูด เธอก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

เธอไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเล่าอดีตของตัวเองให้ตนฟัง

ในนิยายเล่มนี้ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับอดีตของวายร้าย แต่หญิงสาวรู้ดีว่านักเขียนคงจะจัดเตรียมอดีตที่เลวร้ายเอาไว้ให้เขาอย่างแน่นอน เพราะนอกจากลูกรักอย่างอิงหยวนแล้วก็ไม่มีใครมีชีวิตที่ดีเลยสักคน แม้กระทั่งนางเอกของเรื่อง

จิ้งจอกสาวนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าในอดีตมังกรหนุ่มผ่านอะไรมาบ้างเพื่อเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นวายร้ายที่โหดเหี้ยม กระหายเลือด เป็นศัตรูกับคนทั้งโลก และฆ่าคนเป็นผักปลา

การที่เจ้าของร่างเดิมทรยศหลงโม่นั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ไปเร่งให้จิตใจของเขาดำมืดเร็วขึ้น การกลายร่างเป็นจอมวายร้ายของเขาถูกกำหนดมาตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้แล้ว

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ประโยคข้างต้นผุดขึ้นมาในความคิดของหูเจียวเจียว

ทันใดนั้น เธอก็ส่ายหัวขับไล่ความคิดเลวร้ายนี้ออกไป

“ข้าอาจจะ...ไม่แข็งแกร่งนัก แต่ข้าจะใช้ชีวิตนี้เพื่อปกป้องเจ้าและลูก ๆ” มังกรหนุ่มเอ่ยคำสัญญาด้วยสีหน้าจริงจัง

วันนี้เท่านั้นที่หลงโม่รู้สึกว่าเขามีตัวตนในสายตาใครสักคน แล้วเห็นว่าเขาก็เป็นภูตคนหนึ่ง

เขาไม่ใช่ขยะ เขาไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ เขาไม่ใช่ศพเดินได้

เมื่อหูเจียวเจียวได้ยินคำสัญญาของชายหนุ่ม เธอก็กะพริบตาถี่พลางรู้สึกแสบที่ปลายจมูกจนน้ำตารื้น

ที่ผ่านมาเธอมักจะกังวลอยู่เสมอว่าจะจัดการกับเจ้าวายร้ายผู้นี้ได้อย่างไร แต่เธอไม่คาดคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จโดยการมอบเสื้อผ้าหนังสัตว์ให้อีกฝ่ายเพียงชุดเดียว

แต่ทำไมเธอกลับไม่รู้สึกมีความสุขอย่างที่คิดเอาไว้เลย...

ต่อมา หูเจียวเจียวสูดจมูกก่อนจะเผยรอยยิ้มที่สดใสและอ่อนโยนให้คนตรงหน้า “เจ้าแข็งแกร่งไม่ต่างจากภูตมังกรคนอื่น เจ้าแค่ต้องการเวลาที่จะพัฒนาตัวเอง และในอนาคตเจ้าจะกลายเป็นภูตที่แข็งแกร่งกว่าอิงหยวนอย่างแน่นอน ข้าเชื่อในตัวเจ้า”

คำพูดเหล่านี้กลายเป็นน้ำทิพย์ชโลมให้หัวใจที่ด้านชาของหลงโม่พองโตขึ้น

ในอนาคตเขาจะแข็งแกร่งกว่าอิงหยวนอีกหรือ?

นาง...คิดแบบนั้นจริงหรือ?

“อีกอย่าง เจ้าจะไม่ได้แค่เสื้อผ้าชุดเดียว นับจากนี้ข้าจะทำเสื้อผ้าใหม่ให้เจ้ากับลูก ๆ ทุกปี” พอจิ้งจอกสาวเห็นมังกรหนุ่มยืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วหันไปทำงานอื่นต่อ

เธอกลัวว่าเขาจะจมอยู่กับความทรงจำเลวร้ายในอดีต

จากนั้นสายตาของหลงโม่ที่มองตามหลังหูเจียวเจียวก็ฉายแววแน่วแน่ และเขาก็ปฏิญาณกับตัวเองในใจว่าเขาจะต้องกลายเป็นภูตที่แข็งแกร่งกว่าอิงหยวนให้ได้

เขาจะไม่ทำให้นางผิดหวัง!

เมื่อถึงเวลาที่ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เด็กตระกลูหลงทั้ง 5 คนก็กลับมาที่บ้าน

ทางด้านหูเจียวเจียวเตรียมปลาย่างวางไว้บนโต๊ะกินข้าวแล้ว โชคดีที่โต๊ะอาหารของพวกเธอมีขนาดใหญ่พอที่จะวางปลา 7 ตัวที่มีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัมได้

หลังจากที่เจ้าตัวเล็กทั้งหลายออกไปตะลอนอยู่ข้างนอกทั้งวัน พวกเขาก็หิวกันมากแล้ว พอกลับมาถึง ทุกคนก็ตรงไปล้างมือตัวเองอย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะเดินไปนั่งตัวตรงเรียงแถวอยู่หน้าโต๊ะอาหาร

ขณะนี้กลิ่นปลาย่างหอมตลบอบอวลในอากาศ แล้วปลาในจานถูกราดด้วยกระเทียมสับกับข้าวฟ่างปรุงรสเล็กน้อยที่เพิ่งถูกเอาออกจากเตานึ่งร้อน ๆ

นี่คือรสชาติโปรดของเหล่าเด็กน้อย

เมื่อแม่จิ้งจอกเห็นลูกทั้ง 5 คนจ้องปลาตามันวาวแล้วเกือบน้ำลายไหล เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ทำไมวันนี้พวกเจ้ากลับมาช้าจัง ตอนนี้ข้างนอกมืดแล้ว คราวหน้าพวกเจ้ากลับมาให้เร็วหน่อยล่ะ ไม่งั้นจะไม่ทันกินข้าวเย็นกัน” จิ้งจอกสาวเตือนพวกเขาด้วยท่าทางสบาย ๆ พลางยื่นตะเกียบสำหรับเด็กให้แต่ละคน

“เรื่องนี้ต้องโทษหลิงเอ๋อ…” หลงจงยู่ริมฝีปากและพึมพำด้วยเสียงต่ำ

“อะไรนะ?” หูเจียวเจียวได้ยินไม่ชัดจึงหันไปถามอย่างสงสัย

“ไม่มีอะไรท่านแม่” หลงหลิงเอ๋อตอบแทรกขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม “พี่สามเพิ่งบอกว่าท่านแม่เก่งมาก ท่านจับปลาตัวใหญ่มาได้ตั้งเยอะเลย เราที่ออกไปจับทั้งวันยังไม่ได้ปลาเยอะขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ!”

แม่จิ้งจอกยิ้มกว้างยามที่ได้ยินคำพูดของลูกสาว ก่อนจะเหลือบมองไปทางลูกชายคนที่ 3 ด้วยแววตาฉงน “จริงหรือ?”

เนื่องจากเธอไม่คิดว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะพูดยกย่องแม่…

“แน่นอน พี่สาม ท่านคิดอย่างนั้นใช่ไหม?” หลงหลิงเอ๋อยิ้มหวานพลางหันไปมองพี่ชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ

จังหวะนั้นหลงจงรู้สึกเพียงว่าต้นขาของเขาถูกบีบอย่างแรง เขาจึงอ้าปากแล้วก็หุบปากแบบคนที่หายใจไม่ออกทันที

“อึก...อืม!”

หูเจียวเจียวทำสีหน้าประหลาดใจ เธอรู้สึกอยู่เสมอว่าท่าทางของเด็กคนนี้มันแปลก ๆ...

“ท่านแม่ ข้าหิวมาก ท้องของเสี่ยวเหยาแทบจะแบนแล้ว เรามากินข้าวกันเถอะ!” สาวน้อยเอียงศีรษะมองผู้เป็นแม่พร้อมพูดกระตุ้นด้วยรอยยิ้มที่ไร้เดียงสา

หลงเหยาที่อยู่อีกด้านหนึ่งพยักหน้าระรัว

“อ้าาา~”

กินเนื้อ! กินเนื้อ! พี่สาวของข้าสัญญาว่าจะแบ่งเนื้อให้ข้าด้วย!

ขณะเดียวกัน หลงโม่ที่ช่วยหูเจียวเจียวยกอาหารมาที่โต๊ะเดินมาถึงทันเวลาที่เห็นฉากนี้พอดี จากนั้นสายตาคมก็มองไปทั่วใบหน้าของหลงหลิงเอ๋อ

ทว่าเมื่อเขาเห็นแม่จิ้งจอกดูเหมือนจะอารมณ์ดี เขาก็ทำเหมือนกับว่าไม่เห็นอะไร

ให้เจ้าลูกชายตัวแสบยอมเจ็บตัวสักหน่อยจะเป็นไรไป?

บัดนี้ใบหน้าของหลงจงขุ่นมัว เขากัดฟันกลั้นไม่ให้ปล่อยเสียงกรีดร้องออกมา เขารู้ดีว่าหากสาวน้อยคนนี้โกรธ มันจะไม่เป็นผลดีกับเขาในอนาคต

ทางด้านหลงเซียวผู้เงียบขรึมเผยรอยยิ้มบนใบหน้าที่มักจะเศร้าหมองเพราะเสียงหัวเราะบนโต๊ะอาหารเย็น

ขณะนั้นหลงอวี้จะคอยช่วยหยิบก้างปลาออกให้น้องรองเป็นครั้งคราว เด็กคนนี้เป็นพี่ใหญ่ที่มีมโนธรรมและเป็นคนดีจริง ๆ

หูเจียวเจียวเห็นลูกชายคนโตช่วยหยิบก้างปลาออกให้ลูกชายที่ตาบอดจึงชมเชยอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “อวี้เอ๋อรู้ความจริง ๆ เจ้ารู้วิธีดูแลน้องชายของตัวเองด้วย”

หากเป็นเมื่อก่อน หลงเซียวอาจจะปฏิเสธน้ำใจของพี่ใหญ่ เขารู้สึกว่าพี่น้องคอยช่วยเหลือเขามากเกินไปเพราะพวกเขาคิดว่าตนไร้ประโยชน์

แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มยอมรับมันอย่างง่ายดาย จิ้งจอกสาวมองว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี

เมื่อหลงอวี้ได้ยินคำชมของผู้เป็นแม่ เขาก็เผลอทำตะเกียบในมือหล่น และใบหน้าไร้เดียงสาของเขาก็ตึงเครียดราวกับว่าเขากำลังยอมรับภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง

“ขอโทษ ข้าจะไปล้างเดี๋ยวนี้แหละ” พี่คนโตรีบหยิบตะเกียบขึ้นจากพื้นแล้วเดินไปที่ถังน้ำอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ

ระหว่างนั้นหูเจียวเจียวคอยสังเกตท่าทางของหลงอวี้ เธอกะพริบตาแสดงความสงสัยว่าทำไมวันนี้เขากับหลงจงถึงทำตัวแปลก ๆ?

เป็นเพราะออกไปเล่นกันทั้งวันจนเหนื่อยหรือเปล่า?

ทางด้านหลงโม่ที่อยู่ข้าง ๆ พอได้ยินคำพูดของหญิงสาว ดวงตาของเขาก็มืดลง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้กินปลา ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าปลาก็ยังต้องแคะกระดูกออกเหมือนกัน เขามองดูวิธีแกะกระดูกปลาที่หลงอวี้ทำ จากนั้นเขาก็มองไปยังปลาที่อยู่ตรงหน้าจิ้งจอกสาว ก่อนที่เขาจะขยับตะเกียบยื่นออกไป..

แต่ทว่า...

ปั่ก!

หูเจียวเจียวตีตะเกียบของมังกรหนุ่มด้วยตะเกียบของเธอ และถามอย่างสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้น? เจ้ากินข้าวไม่อิ่มหรือ เจ้าจะทำอะไรกับปลาของข้า?”

“...”

จากนั้นครอบครัว 7 คนก็กินข้าวเย็นกันอย่างมีความสุข…?

หลังจากที่ทุกคนทานอาหารกันเสร็จแล้ว ลูกทั้ง 5 กับหูเจียวเจียวก็อาบน้ำและพากันเข้านอน ส่วนหลงโม่มองไปทางบ้านไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยแสงจันทร์ ไม่นานเขาก็ถอนหายใจก่อนจะขึ้นไปนอนบนเตียงส่วนตัวของเขา—ซึ่งนั่นก็คือบนต้นไม้

วันถัดมา

จิ้งจอกสาวถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยบทสนทนาที่ดูเหมือนว่ากำลังกระวนกระวายใจ

เธอขยี้ตาแล้วมองออกไปนอกบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว เธอจึงลุกขึ้นออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากที่หูเจียวเจียวเดินออกมาจากบ้าน เธอก็พบหลงโม่อยู่ในลานบ้าน และมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เขา

หญิงสาวจำได้ว่านั่นคือภูตชายที่มักจะติดตามหัวหน้าเผ่า เมื่อเห็นท่าทางกังวลของเขา เธอก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที

“หลงโม่ เกิดอะไรขึ้น?” จิ้งจอกสาวรีบเดินเข้าไปถาม

หลงโม่ที่ได้ยินเสียงของหูเจียวเจียวหันกลับมาเห็นว่าเธอยังคงงัวเงียอยู่ และมีรอยยับสีชมพูเล็กน้อยบนใบหน้ารูปไข่ พอเขารู้ว่าอีกคนเพิ่งตื่นนอน ริมฝีปากที่เม้มแน่นของเขาก็คลายออก และกำลังจะพูดว่าไม่ต้องกังวล

แต่ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างเชื่อใจหญิงสาวมากและโพล่งออกมาก่อน

“เกลือของเผ่าหายไป หัวหน้าเผ่ากำลังร้อนใจ เขาก็เลยขอให้ทุกคนหาทางช่วยกันแก้ไข”

“เกลือหายไปหรือ!?” แล้วหูเจียวเจียวก็ตาสว่างทันที

เนื่องจากภารกิจไปแลกเปลี่ยนเกลือทะเลที่ริมชายหาดครั้งล่าสุดทางเผ่าไม่ได้รับเกลือกลับมาเลย เธอได้ยินจากหัวหน้าเผ่าว่าเกลือที่เหลืออยู่นั้นก็แทบจะไม่พอให้ภูตหญิงอยู่รอดไปตลอดฤดูหนาวนี้ แต่แล้วทำไมจู่ ๆ มันถึงหายไปเสียล่ะ?

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: โอ๊ย ใครเอาเกลือไปอีก ยิ่งมีน้อย ๆ อยู่ T_T

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด