ตอนที่แล้วตอนที่ 6 เสาเงาเพลิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 สำเร็จเดียวตะลึงโลก

ตอนที่ 7 ทดสอบพรสวรรค์


“ท่านอาจจะยังไม่รู้ แต่ ‘หุบเขาตีกระบี่’ จากดินแดนต้นกำเนิดได้ไม่มั่นคงอย่างมากในเร็ว ๆ นี้ ความยากในการหา ‘เพลิงแท้’ นั้นเหนือกว่าในอดีต ราคาของ ‘เพลิงแท้’ จึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก”

เมื่อผมถามแบบนี้ หญิงสาวในชุดขาวก็ยังอธิบายด้วยรอยยิ้ม

“หุบเขาตีกระบี่รึ?”

ถังฮวนตกใจเล็กน้อยและขมวดคิ้ว

เขารู้เรื่องหุบเขาตีกระบี่จากดินแดนต้นกำเนิดอย่างชัดเจน ที่นั่นเคยเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของการตีอาวุธในจุดสูงสุดของเผ่ามนุษย์ สถานที่ที่นักตีอาวุธนับไม่ถ้วนอยากไป

แต่โลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์ ยังมีเผ่าอสูรและเผ่าสวรรค์อยู่อีก

ในบรรดาพวกเขานั้น ดินแดนสงบสุขที่อสูรอาศัยอยู่นั้นตั้งอยู่ในทิศบูรพาของดินแดนต้นกำเนิด และดินแดนจิตศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่าสวรรค์อาศัยอยู่ก็ตั้งอยู่ทางเหนือของดินแดนต้นกำเนิด

ดินแดนต้นกำเนิดนั้นตั้งอยู่ที่กลางสามดินแดน ดินแดนจิตศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนรุ่งโรจน์ และดินแดนสงบสุข มันจึงเป็นสถานที่ที่มีแต่สงครามอย่างยาวนานเพราะต่างเผ่าพันธุ์ก็อยากจะห้ำหั่นซึ่งกันและกัน เป็นเวลาร้อยปีมาแล้วที่หัวหน้าเผ่ามนุษย์ชานเหอรวบรวมดินแดนต้นกำเนิดและขับไล่เผ่าอสูรและเผ่าสวรรค์ออกไป แต่เมื่อชานเหอล่วงลับไป เผ่ามนุษย์ก็จมอยู่ในความขัดแย้งภายใน

เผ่าอสูรในดินแดนสงบสุขนั้นใช้โอกาสนี้บุกเข้าดินแดนต้นกำเนิดและสังหารทุกอย่างไปจนหมด

ที่นั่นถูกยึดครองโดยจิตวิญญาณชั่วร้ายนับไม่ถ้วน มันอันตรายมากที่จอมยุทธจะเข้าไป แต่เพลิงแท้ก็หาได้จากที่นั่นเท่านั้น และของวิเศษอย่างเพลิงแท้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะหาได้ มันจึงทำให้เพลิงแท้ยังคงมีราคาที่สูงอยู่

ก่อนหน้านี้ เมื่อหุบเขาตีกระบี่รุ่งเรือง ลูกไฟเพลิงแท้นั้นราคาเพียงแค่ห้าสิบเหรียญทองเท่านั้น

และเมื่อหุบเขาตีกระบี่ไม่สงบ ราคาเพลิงแท้ก็ขึ้นมาถึงหนึ่งพันเหรียญทอง

ถังฮวนไม่สงสัยในคำพูดของหญิงสาวชุดขาวแม้แต่น้อย ร้านอาวุธสมุทรดารานั้นมีชื่อเสียงอันโด่งดังและจะไม่หลอกคนอื่นในเรื่องนี้ หรือขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผล

หรือว่าเขาจะต้องกลับไปตีอาวุธอีกสามชิ้นมาขายอีก?

ถังฮวนเสียใจอยู่เล็ก ๆ มันดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียว ถ้าเขาขาดสิบหรือยี่สิบเหรียญ เขาอาจจะซื้อได้ แต่ตอนนี้เขาขาดเงินเกือบห้าร้อยเหรียญ ไม่มีทางที่เขาจะต่อรองได้เลย เขาต้องหาเงินให้มากพอเพื่อกลับมาซื้อใหม่

แต่ใครจะไปรู้ว่าพรุ่งนี้ราคาเพลิงแท้จะขึ้นไปแค่ไหนแล้ว?

“ท่านลูกค้า ถ้า ‘เพลิงแท้’ นั้นซื้อเพื่อใช้เอง ท่านอาจใช้เสาเงาเพลิงของร้านเราก่อน ถ้าหากเพลิงจุดติดสูงสองเมตร ท่านจะได้ครึ่งหนึ่งของสองร้อยเหรียญที่ใช้ทดสอบคืน และถ้าหากสูงสามเมตร ท่านจะได้ทั้งสองร้อยเหรียญคืน และถ้าหากสูงถึงสี่เมตร ทั้งสองร้อยเหรียญจะถูกคืนให้แล้วท่านก็จะได้เพลิงแท้หนึ่งขวดด้วย”

เมื่อเห็นถังฮวนขมวดคิ้ว หญิงสาวในชุดขาวก็แนะนำและยิ้ม

“เสาเงาเพลิง?”

ถังฮวนตกใจแต่ดวงตาเขาก็หันไปหาเสาสีแดงที่กลางร้าน เขาไม่รู้ว่าร่างกายของเขาเป็นธาตุใดหรือไม่รู้ว่าเขามีพรสวรรค์มากแค่ไหน เขาตัดสินใจเป็นนักตีอาวุธเพราะความหมกมุ่นของเขา

ดูจากคำพูดของหญิงสาวแล้ว การจุดไฟได้สองเมตรจะนับว่ามีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนักตีอาวุธ สามเมตรจะนับว่ามีพรสวรรร์ดี และสี่เมตรถือว่ามีพรสวรรค์ดีมาก

ถังฮวนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ

ถ้าหากเขาจุดไฟได้ถึงสามเมตร เขาก็จะไม่เสียเงิน ถ้าหากได้สี่เมตร ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เสียเงิน แต่เขายังจะได้ “เพลิงแท้” ราคาหนึ่งพันเหรียญทองมาอีกด้วย

“โถ่โว้ย ข้าต้องเดิมพัน!”

หลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ถังฮวนก็ทำใจได้ เขาหยิบสองร้อยเหรียญมาจากกระเป๋าและวางบนโต๊ะขาย

“ท่านแขกผู้มีเกียรติ โปรดตามข้ามา”

หญิงสาวชุดขาวเก็บเงินและถือกุญแจด้วยรอยยิ้มและเดินออกมาจากโต๊ะขาย นางพาถังฮวนมาที่ข้างเสาเงาเพลิง นางหยิบกุญแจเหล็กและปลดโซ่เหล็ก

พอเห็นนางแล้วไม่เพียงแต่จอมยุทธรอบ ๆ จะมองมาที่เสาเงาเพลิงด้วยตาลุกวาว แต่คนมากกว่าเดิมที่อยู่ด้านข้างก็มองเขาด้วย

“ไม่จริงน่า มีคนจะทดสอบพรสวรรค์ในการเป็นนักตีอาวุธรึ?”

“เด็กนั่นเหรอ? เขาดูอายุสิบหกสิบเจ็ดปีเท่านั้น เขาจะเปิดเส้นปราณมาได้เท่าใดกัน? ครั้งที่แล้วที่ข้าเห็นคนที่ทดสอบในร้านนี้ ไฟที่เขาจุดได้ไม่ถึง 2 เมตรด้วยซ้ำ แล้วเขาก็เสีย 200 เหรียญทองไป”

“หึหึ นักตีอาวุธมันไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นจอมยุทธพันคนก็อาจจะไม่มีซักคนที่เป็นนักตีอาวุธได้”

“ใช่ ต่อให้มีพรสวรรค์อยู่บ้าง เขาก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในการผสานเพลิงแท้”

“น่าเสียดาย ต้องเสียเงินมากมายขนาดนั้น เขาอาจจะได้ซื้ออาวุธชิ้นหนึ่งได้ ถึงจะซื้ออาวุธชั้นเยี่ยมใน 200 ทอง แต่เขาก็ยังซื้อของที่ดีได้”

“...”

เหล่าผู้คนต่างสนอกสนใจและพูดเบา ๆ เป็นระยะ

“ทางนี้ค่ะ!”

หญิงสาวเบี่ยงตัวเล็กน้อยและทำมือเชิญไปทางถังฮวน นางชี้จุดที่มีรอยเว้าสองรอยที่ฐานเสาเงาเพลิงซึ่งเหมือนกับรอยฝ่ามือและพูดด้วยรอยยิ้ม

“แค่วางฝ่ามือตรงนี้และส่งปราณแท้ลงมาในรอยมือ แล้วจากนั้นก็ใช้วิชาบ่มเพาะพลังอย่างต่อเนื่อง”

“ได้เลย!”

ถังฮวนพยัหหน้าและเดินผ่านเสาเหล็กสองต้นด้วยความตื่นเต้น เขารีบเข้าไปยังโซ่เหล็ก ในทิศทางที่หญิงสาวชุดขาวชี้ มันมีแท่นนั่งสำหรับทำสมาธิและถังฮวนก็นั่งลง จากนั้นก็วางสองฝ่ามือลงไป

เขาหายใจเข้าลึก ถังฮวนทำใจให้เย็นลงและค่อย ๆ หลับตาช้า ๆ

“เริ่มได้!”

ด้วยความคิดจากถังฮวน เพลิงแท้ในสามเส้นปราณเริ่มหลั่งไหลไปใน “เตาหลอมเทพเก้าหยาง” และหมุนด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อ

แค่เสี้ยววินาที ปราณแท้ก็ซึมออกมาจากฝ่ามือเขา

คนโดยรอบจ้องมองเพลิงโปร่งใสที่ฐานเสาด้วยดวงตาที่เร่าร้อน เมื่อปราณแท้ผสานเข้าไปแล้วมันจะตัดสินได้ว่าจอมยุทธนั้นเป็นธาตุใด

“ดูนั่น มันติดแล้ว!”

“มันติดแล้ว!”

มีเสียงร้องเบา ๆ ดังมาจากระยะใกล้ แต่จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงถอนหายใจด้วยความผิดหวัง ในเสานั้นเพลิงโปร่งใสได้กลายเป็นสีขาว

“สีขาว ธาตุเหล็กจากทั้งห้าธาตุ เขาไม่มีร่างกายธาตุไฟ เขาจะเป็นนักตีอาวุธได้ยังไง?”

“ดูสิ พ่อเจ้าพูดถูก เด็กนั่นเสีย 200 ทองเสียเปล่า”

“ใช่แล้ว นอกจากธาตุไฟยังมีอีกสี่ธาตุ ถ้าอยากเป็นนักตีอาวุธก็มีโอกาสเหลือน้อยมาก”

“...”

จอมยุทธมากมายที่สนใจกับความวุ่นวายได้ส่ายหน้าโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่ครั้งโบราณมาจนถึงตอนนี้ จากนักตีอาวุธหนึ่งหมื่นคน ในเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าคนนั้นจะมีร่างกายเป็นธาตุไฟ และมีเพียงคนเดียวนั้นที่จะเป็นสี่ธาตุอื่น

สาวน้อยชุดขาวที่พาถังฮวนมาเองก็ถอนหายใจเมื่อนางเห็นเป็นเช่นนี้

ดูเหมือนว่าแขกคนนี้จะไม่ได้รับเงินสองร้อยเหรียญทองคืนไป แต่สองร้อยเหรียญทองนั้นก็เทียบเท่ากับการช่วยชีวิตเขา ถ้าเขาผสานกับเพลิงแท้ด้วยร่างกายนั้น เขาจะต้องล้มเหลวแน่นอน

ในบรรดาธาตุทั้งห้า ไฟนั้นตรงกันข้ามกับโลหะ เมื่อจอมยุทธธาตุโลหะผสานกับเพลิงแท้แล้วความเสียหายที่เส้นปราณต้องแบกรับจะเหนือกว่าจอมยุทธธาตุอื่นอย่างมาก

เมื่อได้ยินเสียงโดยรอบแล้วถังฮวนก็ตัวสั่นเล็กน้อย ในใจของเขาเย็นชาลง แต่เขาก็ยืนกรานที่จะดึงมือกลับและใช้วิชาจิตเสริมเส้นปราณ

ในตันเถียนของเขา เตาหลอมหมุนวนอย่างรวดเร็ว

ในพริบตาเดียวถังฮวนก็รู้สึกถึงความอบอุ่นอันหนาแน่นอย่างประหลาดที่ถูกดึงออกมาจากเสาและเข้ามายังฝ่ามือของเขา ในพริบตานั้นมันก็ไหลมาที่เตาหลอมผ่านเส้นปราณ ในพริบตาเดียวรังสีอุ่น ๆ ก็ผสานกับปราณแท้และไหลผ่านเส้นปราณไปสู่แขนของเขาอีกครั้ง

“ซ่า!”

เสาเงาเพลิงเริ่มสั่นเล็กน้อย มันส่งเสียงสั่นสะเทือนเบา ๆ

ในขณะเดียวกัน ลูกไฟในเสาก็เริ่มเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีแดง มันเปล่งแสงสีแดงสว่างจ้าออกมา

“หา?”

ในพริบตานั้นก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจดังมาตาม ๆ กัน

จอมยุทธเกือบทุกคนที่หน้าโต๊ะขายต่างตกใจกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นทีละคน สายตาของพวกเขากวาดไปทางกลางร้าน

“เขากำลังใช้เสาเงาเพลิงเพื่อทดสอบพรสวรรค์รึ?”

“ทีแรกเพลิงเป็นสีขาว หรือว่าเขาจะมีร่างกายของทั้งห้าธาตุ”

“หึหึ เพลิงกลายเป็นสีแดงแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีคุณสมบัติเป็นนักตีอาวุธนะ”

“แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร? มันไม่เลวอยู่แล้วที่ร่างธาตุโลหะจะจุดไฟได้ครึ่งเมตร ถ้าจะเป็นนักตีอาวุธ ก็ต้องจุดไฟให้ได้สูงอย่างน้อยสองเมตร”

“เด็กคนนั้นหน้าตาคุ้น ๆ รู้สึกเหมือนเจอเขาที่ไหนมาก่อน”

“...”

ทุกคนต่างพูดคุยต่อกันและกัน แม้ว่าพวกเขาจะแปลกใจ พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก

ในร้านอาวุธสมุทรดาราแห่งนี้ แทบจะทุกวันจะมีชายหนุ่มที่ใช้เงินสองร้อยเหรียญทองในการทดสอบพรสวรรค์ในการเป็นนักตีอาวุธ จอมยุทธจำนวนหนึ่งที่คุ้นเคยกับร้านมักจะได้เห็นการทดสอบแล้ว แต่ก็มีน้อยคนมากที่จะจุดไฟได้เกินสองเมตร

แม้แต่จอมยุทธธาตุไฟทุกคนก็อาจจะเป็นนักตีอาวุธไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงคนที่อยู่ข้างเสาเงาเพลิงที่มีธาตุโลหะ

เขารู้แล้วว่าร่างกายของเขาไม่ดีพอ แต่ถ้าเขาอดทนต่อไปแบบนี้ มันอาจจะเป็นแค่เรื่องตลกก็ได้

จอมยุทธมากมายมองถังฮวนที่นั่งสมาธิอยู่หน้าเสาราวกับรูปปั้น และบางคนถึงกับยิ้มเยาะดูถูก แต่ไม่นานจากนั้นรอยยิ้มของพวกเขาก็จางหายไป ดวงตาได้แทนที่ด้วยความตกใจ

ที่ด้านในเสาเงาเพลิง หลังจากเพลิงกลายเป็นสีแดงแล้วมันก็พุ่งทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

แค่ในเวลาไม่กี่ลมหายใจ เพลิงสีแดงเข้มก็พุ่งผ่านชั้นแรกของเสาสีแดงไปแล้ว

ชั้นแรกของคือหน่วยวัดส่วนสูงของเสา วงกลมแรกหมายถึงหนึ่งเมตร วงกลมที่สองหมายถึงสองเมตรเรื่อยไป

“หนึ่งเมตรเร็วขนาดนี้เลยหรือ?”

ทุกคนมองหน้ากันและขมวดคิ้วอย่างปกปิดไม่ได้

แต่ก่อนที่พวกเขาจะได้หายตกใจ เรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็เกิดขึ้น เพลิงนั้นทะยานขึ้นไปต่อโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ไม่นานจากนั้นเพลิงก็ทะยานไปถึงเส้นที่สองซึ่งแสดงให้เห็นถึงแสงสว่างของเปลวเพลิง

“สอง…”

“สองเมตร?”

“แปลว่าเขาเป็นนักตีอาวุธได้น่ะสิ?”

“เห้อ นักตีอาวุธธาตุเหล็กน่ะนะ…”

“...”

ทุกคนไม่อยากจะเชื่อสายตา แม้แต่คนที่ชั้นสองและชั้นสามก็แตกตื่น พวกเขาต่างเอนกายที่ราวชั้นและมองลงมาด้วยความประหลาดใจ

“มันแค่สองเมตร มันมากพอสำหรับการเป็นนักตีอาวุธแล้ว ไม่มีอะไรแปลก”

จอมยุทธคนหนึ่งที่มั่นใจว่าไฟที่ถังฮวนจุดขึ้นมานั้นไม่เกินครึ่งเมตรต่างได้สติกลับมาและใบหน้าร้อนผ่าว แต่เขาก็อดหัวเราะออกมาเสียงดังไม่ได้

แต่ก่อนที่เสียงหัวเราะจะจางหายไป จอมยุทธคนนั้นก็อ้าปากค้าง ดวงตาของเขามองดูและใบหน้าก็ร้อนด้วยความอับอาย ในเสาเงาเพลิง เพลิงนั้นพุ่งขึ้นมาด้วยความเร็วและรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ สามเมตร…สี่เมตร…

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด