ตอนที่แล้วบทที่ 497-498
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 501-502

บทที่ 499-500


บทที่ 499

ฉันมันขยะ

เมื่อเห็นถังซือซือเดินมาใกล้ทีละก้าว จินยิงฟ่านรู้สึกหวาดกลัวและร้อนรนมาก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากร้องขอความเมตตา

“ฉันแพ้ ฉันแพ้แล้ว เราเลิกการประลองเถอะ”

พูดถึงขนาดนี้ หวังว่าคงไม่ถูกตบเพิ่มใช่ไหม?

ถังซือซือหยุดเดิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“คุณบอกว่าจะฆ่าฉันไม่ใช่เหรอ?”

อืม... จินยิงฟ่านพูดไม่ออกเหมือนลิ้นจุกปาก

อย่าพูดว่าแต่ฆ่าเลย แม้แต่ผมเส้นเดียวฉันก็แตะไม่โดยเลยด้วยซ้ำ!

“ไม่แล้ว ไม่ใช่… ฉันปากเสียเอง…” จินยิงฟ่านยอมรับความผิดของตัวเองอย่างเชื่อฟัง ไม่ต่างจากหมาเลย

ถังซือซือตอบกลับอย่างเย็นชาว่า

“ยอมรับแล้วเหรอ ว่าตัวเองก็เป็นขยะเหมือนกัน”

“อืม…”

จินยิงฟ่านรู้สึกจุกอกจนพูดไม่ออก

เมื่อได้ยินคำว่าขยะจากคนที่เอาชนะตัวเองได้ เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูก แต่เขาเองก็ไม่อยากยอมรับเหมือนกันว่าเขาเองก็เป็นขยะ

ถ้าไม่ใช่เพราะเคยด่าบรรดานักเรียนว่า ‘ขยะ’ ก่อนหน้านี้ เขาคงไม่ถูกด่ากลับจนต้องมานั่งเจ็บใจทีหลัง

ตอนแรกเขาคิดว่าทำอย่างนั้นคงน่าสนุกไม่น้อย แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจะถูกแหกหน้ากลับเร็วแบบนี้

“ดูสิ่งที่คุณเคยพูดสิ โง่รึเปล่าถึงพูดออกมาได้?”

ถังซือซือพูดกดดันอีกฝ่ายไปเรื่อย ๆ

เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาใกล้ตัวเองอีกครั้ง หัวใจของ         จินยิงฟ่านก็เต้นแรงราวกับเสียงกลอง จนหัวใจแทบหลุดออกจากอก เขาไม่กล้าขัดขืนแล้วแสดงท่าทีเชื่อฟัง

“ใช่! ฉันมันขยะ! ฉันมันขยะ!”

ถังซือซือยิ้มอย่างเย้ยหยัน ก่อนพูดกดดันและคุกคามอีกฝ่ายต่อไปว่า

“ถ้าอย่างนั้น ก็มุดหัวกลับไปในรูที่คุณอยู่ซะ”

“ได้! ได้!”

เมื่อจินยิงฟ่านได้ยินประโยคนี้ เขารู้ดีเลยว่าอีกฝ่ายกำลังหยิบยื่นโอกาสให้ เขาจึงรีบฝืนลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก ก่อนเดินไปที่ประตูด้วยสีหน้าตื่นตูม ราวกับว่ามีสัตว์ร้ายไล่ตามเขา

ไม่นานจินยิงฟ่านก็หายไปอย่างรวดเร็ว โรงฝึกแห่งนี้กลับมาอยู่ในความสงบอีกครั้ง

ทุกคนอ้าปากกว้างขณะมองไปที่ถังซือซือด้วยความไม่เชื่อสายตา แต่ในดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม ราวกับได้พบแสงสว่างที่ช่วยกอบกู้พวกเขา

หลังจากนั้นไม่นาน นักเรียนคนหนึ่งก็ชื่นชมเธอขึ้นมาว่า

“ทะ... เท่มากเลย...”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ นักเรียนที่เหลือก็ทยอยพูดชื่นชมขึ้นมาตาม ๆ กัน

“ใช่เลย ใช่เลย... พี่สาวเท่จริง ๆ...”

ทุกคนรวมตัวกันโดยไม่ตั้งใจ แล้วถามถังซือซือด้วยความเคารพ

“รุ่นพี่... พี่มีทักษะที่ดีมาก ๆ ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะมีทักษะเทียบพี่ได้?”

“รุ่นพี่ พี่นี่แหละไอดอลของพวกเรา... ท่าเมื่อกี้นี้เจ๋งมากเลย... ได้โปรดช่วยชี้แนะให้พวกเราได้ไหม?”

“เห็นฉากเมื่อกี้แล้วสะใจวัยรุ่นจริง ๆ ครับ... ขอบคุณพี่สาวมาก ๆ ที่ช่วยสั่งสอนเขาแทนพวกเรา ผมรู้สึกมั่นใจขึ้นมาก คิดถูกแล้วที่ตัดสินใจมาเรียนเทควันโด”

ถังซือซือยิ้มและพูดอย่างถ่อมตนว่า

“ฉันเรียนรู้ทักษะทั้งหมดนี้มาจากอาจารย์ตงน่ะ อันที่จริงฉันก็เรียนมานิดหน่อยเอง พวกเธอก็ตั้งใจเรียนและไม่ดื้อกับอาจารย์ตงล่ะ จะได้เก่งไว ๆ”

ดวงตาของนักเรียนทุกคนเป็นประกายทันที พวกเขาทั้งหมดหันไปมองตงเซิ่งพร้อมกัน

พี่สาวพูดถูกแล้ว ขนาดพี่สาวยังเก่งได้ถึงขนาดนี้ แปลว่าอาจารย์ตงต้องเก่งมากแน่ ๆ!

ดูเหมือนว่าทักษะของอาจารย์ตงช่างล้ำลึกและไม่สามารถหยั่งรู้ได้ง่ายเลยจริง ๆ!

ตงเซิ่งไม่อาจปฏิเสธได้จึงยืดอกอย่างมั่นคง ยอมรับสายตาชื่นชมที่กำลังมองมาแม้จะรู้สึกผิดเล็กน้อย

หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาตัดสินใจใช้โอกาสนี้แสดงให้ทุกคนได้รู้ข้อคิดดี ๆ ในขณะเดียวกันก็ทำตามขั้นตอนที่ถังซือซือวางไว้ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองไม่ให้สั่นคลอนในสายตาพวกเขา

“พี่สาวของพวกนายเป็นคนถ่อมตัวนะ ความจริงแล้วเธอต้องเรียนและฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลานาน กว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เธอมีในวันนี้

หรือพูดอีกนัยหนึ่งว่า เมื่อใดที่เราเรียนเทควันโด เราอย่าทำตัวแบบสามวันจับปลา สองวันตากแห* เพราะเราต้องพยายามทุกวันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง”

* สามวันจับปลา สองวันตากแห = เดี๋ยวทำเดี๋ยวเลิก ทำอะไรไม่จริงจัง

บทที่ 500

ชายอีกคนกำลังมา

บรรดานักเรียนต่างพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง บางคนถึงกับกำหมัดอย่างลับ ๆ และสาบานในใจว่าจะพัฒนาทักษะของตัวเองให้เหมือนกับถังซือซือ หากต้องพบคนอย่างจินยิงฟ่านในอนาคต พวกเขาจะไม่กลัวและยอมโดนดูถูกอีก

ตงเซิ่งใช้โอกาสนี้พูดให้กำลังใจนักเรียน หลังจากนั้นก็บอกให้ทุกคนแยกย้ายกันไปฝึกต่อ

หลังจากได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ ภาพเหล่านั้นยังคงวนเวียนซ้ำ ๆ ตอนนี้ความคิดของตงเซิ่งผันผวนมาก ๆ ขณะจ้องมองไปที่ถังซือซือ

เธอนี่น่าเหลือเชื่อจริง ๆ...

เป็นเวลากว่าสามปีที่พวกเขาไม่ได้พบหน้ากัน เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง?

เขามองใบหน้าด้านข้างที่สวยงามของถังซือซือ ก็รู้สึกได้ถึงความมั่นใจในตนเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนกับใบหน้าของเธอมีพลังงานบางอย่าง จนทำให้เขามองแล้วหน้าแดงร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัว...

ตงเจียหยานเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แล้วตบไหล่เขา    เบา ๆ

ตงเซิ่งตกใจ ก่อนถอนความคิดเมื่อครู่แล้วหันไปหา       ตงเจียหยาน

“น้องสาว เธอทำอะไรเนี่ย?”

“ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ? ถามตัวเองก่อนไหมว่าพี่ทำอะไรอยู่! ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์สิ ชวนพี่สาวออกไปกินมื้อเย็นก็ได้!”

หลังจากตงเจียหยานพูดจบ เขาก็ผลักตงเซิ่งจากด้านหลังเบา ๆ จนตงเซิ่งก้าวไปข้างหน้า แล้วหยุดอยู่ต่อหน้า    ถังซือซือ

ถังซือซือเงยหน้ามอง พอเห็นสีหน้าของตงเซิ่งแล้วก็หัวเราะออกมา

“คงไม่ว่าอะไรใช่ไหม ฉันหวังว่านักเรียนคงไม่บอกว่าฉันเก่งกว่าคุณนะ”

“ไม่ ไม่หรอก... ฉันต้องขอบคุณเธอมากกว่าที่ช่วยโรงฝึกของเรา ต่อให้นักเรียนบอกว่าเธอเก่งกว่า ฉันก็ไม่ติด”

ตงเซิ่งหน้าแดงเล็กน้อย แล้วแสดงท่าทางทำอะไรไม่ถูก

ในความเป็นจริงตงเซิ่งรู้ดีว่า แม้ว่าเขาจะกัดฟันแล้วออกไปประลองกับจินยิงฟ่าน เขาก็อาจเป็นฝ่ายเสียท่าและพ่ายแพ้ได้เหมือนกัน

แข็งแกร่งมาก ถังซือซือแกร่งขึ้นจริง ๆ...

สมัยเขายังเด็กหลังจากรู้จักเธอมาสักพัก เขามักได้ยินข่าวว่าเธอถูกรังแกอยู่เสมอ ในฐานะเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาจึงตัดสินใจเรียนเทควันโดเพื่อคอยช่วยเหลือถังซือซือและ               ตงเจียหยานในอนาคต

ในตอนนั้นความรู้สึกของเขาที่มีให้ถังซือซือเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น

แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาต่างโตขึ้น พอกลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาก็รู้สึกได้จาง ๆ ว่าความรู้สึกที่เคยมีให้เธอเหมือนก่อนหน้านั้น ตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนจนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“พี่ชาย...” ตงเจียหยานเห็นว่าตงเซิ่งนิ่งเงียบไป เธอจึงเรียกเขาเบา ๆ เพื่อเตือนสติให้เขารีบพูด!

“ซือซือ คืนนี้ฉันอยาก ชวนเธอ...”

“อืม บอกมาสิ”

ถังซือซือไม่ได้เอะใจอะไร จึงตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดต่อไป

ขณะเดียวกัน ร่างของใครบางคนที่คุ้นเคยก้าวเข้ามาในโรงฝึก

บรรยากาศที่คุ้นเคยแผ่ออกมา ปกคลุมบรรยากาศอันสดใสของโรงฝึกอีกครั้ง

ทุกคนหันหน้ามองไปยังทางเข้าโรงฝึกพร้อมกัน

พวกเขาเห็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลารูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงอยู่หน้าทางเข้า ภายใต้เส้นผมสีดำสนิท มีใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างกับเจ้าชายในนวนิยาย

คิ้วและดวงตาของเขาแฝงความเย็นชาไว้ข้างใน สันจมูกโด่ง สวมเสื้อคลุมสีเข้มที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดี ยืนอย่างสง่างาม ราวกับเทพสวรรค์ที่จุติมายังโลกในเวลานี้

คำถามผุดขึ้นมาในใจของทุกคนพร้อมกันทันทีว่า เขาคือใคร?

ผู้ชายหน้าตาดีแบบนี้มีในโลกด้วยเหรอ...

นอกเหนือจากนั้น  ออร่าอันสง่างามที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขายังเป็นธรรมชาติมาก จนไม่มีใครละสายตาไปได้

เมื่อรู้ถึงการมีอยู่ของเขา ทุกคนรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นตัวประกอบทันที ราวกับเขาเป็นตัวเอกที่โดดเด่นจนใครที่ไหนก็เทียบเคียงไม่ได้

แต่ ไม่ใช่... สำหรับถังซือซือ

ในขณะที่ทุกคนต่างเห็นพ้องกันว่าชายคนนี้คือคนที่สมบูรณ์แบบ

ดวงตาของตงเจียหยานเป็นประกายในทันที พระเจ้า เมืองหลวงเป็นที่ที่มหัศจรรย์จริง ๆ ด้วย ตั้งแต่เกิดมา ฉันยังไม่เคยเห็นผู้ชายที่ไหนหล่อถึงขนาดนี้เลย

กลับไปที่เมือง F เมื่อไหร่ ฉันก็มีเรื่องไปโม้กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนแล้ว!

ขณะที่เธอกำลังคิดอย่างลับ ๆ ก็แอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถ่ายรูปชายหนุ่มคนนี้เอาไว้