ตอนที่แล้วตอนที่ 1035 ชายคนนี้เป็นเพียง ..บุคคลนิรนาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1037 คุณลุง บังเอิญจัง เราได้พบกันอีกแล้ว..

ตอนที่ 1036 หลี่ ซานเฟิ่ง อย่าให้มันมากเกินไป!


สโมสรฟุตบอลหยุนเฉิง

วันนี้เป็นวันที่สองแล้ว ที่ทีมสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ถูกเปลี่ยนมือ

ในวันนี้เอง ชายวัยกลางคนที่พิการคนหนึ่ง ได้เดินโซเซมาที่สโมสรแห่งนี้.. ทีละก้าวๆ พร้อมกับถือจดหมายสมัครงานเอาไว้ในมือ ทั้งสีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความคาดหวัง

ชายวัยกลางคนที่พิการคนนี้ ก็คือคนที่ หลินฟาน ได้พบเจอในวันนั้น.. ว่ากันว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นนักเตะดาวรุ่งในวงการฟุตบอลมาก่อน

หลังจากที่ หยงจิ่ว กรุ๊ป ได้ประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อ สโมสรฟุตบอลหยุนเฉิง สโมสรก็ต้องเผชิญหน้ากับการโยกย้ายบุคลากร และหยงจิ่ว กรุ๊ป ก็ได้ออกจดหมายเชิญไปยังโลกภายนอก เพื่อเชื้อเชิญผู้ที่มีความสามารถเข้าสู่สโมสร

และนั่น.. ก็ได้ทำให้ ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้มาสมัครงาน

เขา.. ได้ตั้งตารอมันมาก เพราะในสายตาของเขา ..หลินฟาน เขาก็คือดาวจื่อเวย (ดาวจักรพรรดิ) ที่ได้ตกลงมาจากฟากฟ้า ลงมาในวงการฟุตบอลจีน และแน่นอนว่า หลินฟาน จะเป็นผู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกฟุตบอล ได้อย่างแน่นอน.. เขาเอง ได้หวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยตาของเขาเอง เขาจึงได้มาสมัครงาน..

แต่เดิมเขารู้สึกท้อแท้อยู่ก่อนแล้ว แต่การดํารงอยู่ของ หลินฟาน ก็ได้ทําให้หัวใจที่เงียบสงัดที่มันแทบตายอยู่แล้วนั้น ได้ลุกไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง

ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้เดินเข้าไปในล็อบบี้ของสโมสร และทันใดนั้น คนกลุ่มหนึ่งก็ได้เข้ามาขวางหน้าเขา..

กลุ่มนักเตะเยาวชน ที่ได้ล้อมรอบชายชราคนหนึ่ง และได้กำลังพูดคุยกันในระหว่างเดิน…

“เจ้านายคนใหม่ของเรา คือคุณหลิน คนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง!”

“คุณหลิน ที่เพิ่งซื้อสโมสร เขาก็ได้เริ่มโยกย้ายบุคลากรแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะวางแผนที่จะปฏิรูปครั้งใหญ่!”

“ไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้านายคนใหม่ของเราเขาคิดจะทําอะไร แต่ฉันก็ยังอยากอยู่ที่นี่ต่อไป!”

พวกเขาได้พูดคุยกัน และทั้งหมดต่างก็ได้มองไปที่ชายชรา และหวังว่าชายชราจะชี้แจงข้อสงสัยทั้งหมดนี้ ..ของพวกเขาได้

ชายชราคนนั้น ได้ทําสีหน้าสงบ และพูดไปว่า : “กลัวอะไรกัน? ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายใหม่ หรือเจ้านายเก่า หัวใจของสโมสรของเราคืออะไร? นั่นคือ นักเตะ! โค้ช! ผู้ที่มีความสามารถคือหัวใจ คือแกนหลักของสโมสรของเรา ดังนั้นทุกคนก็ไม่ต้องกังวล และตอนนี้ก็แค่ทำจิตใจให้มั่นคงที่สุด!”

เมื่อได้ยินคําพูดนี้ กลุ่มนักเตะเยาวชนเหล่านี้ก็ได้พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ..อย่างเห็นได้ชัด

“ถ้าจะต้องบอกว่าใครมั่นคงที่สุด ก็คงต้องเป็นโค้ชหลี่ แน่นอน!”

“ไม่ใช่ๆ ผู้อำนวยการหลี่ เขาคือโค้ชที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมฟุตบอลหยุนเฉิงของเรา!”

“ฉันเห็นว่า คุณหลิน เขาเป็นแค่คนรวย และเขาก็ต้องไม่เข้าใจฟุตบอล ใช่ไหมล่ะ? งั้นต่อไป.. เราเองก็ยังต้องพึ่งพาผู้อำนวยการหลี่!”

จากนั้น ..กลุ่มนักเตะเยาวชนเหล่านี้ ก็พากันชื่นชมชายชรา ทั้งยังพูดจาฉะฉานกันอยู่ไม่น้อย

ประเด็นสำคัญคือ พวกเขาทั้งหมด.. รู้สึกว่า หลินฟาน ไม่เข้าใจฟุตบอล

“มีเหตุผล คุณหลิน เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง เขาคงร่ำรวยมากจริงๆ แต่ส่วนใหญ่แล้ว แน่นอนว่าเขาต้องไม่เข้าใจฟุตบอล แล้วการที่เขาซื้อสโมสรหยุนเฉิงไป ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเพราะคนรวยที่มีเงินมากเกินไป และไม่มีที่จะให้ใช้ ดังนั้นเขาจึงอยากหาโครงการที่ได้ใช้เงินออกไปบ้าง”

“พวกคุณรู้ไหมว่า ..เจ้านายแบบนี้ มักจะดีที่สุด และคนโง่ๆ ก็ย่อมที่จะมีเงินมากมาย!”

“ฮ่าฮ่าๆ…”

ทุกคนได้หัวเราะ และแสดงสีหน้าที่เข้าใจออกมา

เจ้านายที่ไม่เข้าใจฟุตบอล แต่กลับเลือกที่จะซื้อสโมสรไป เช่นนี้ต่อไปในอนาคต เขาก็ยังต้องพึ่งพาคนที่เข้าใจฟุตบอล ..อย่างพวกเขา ทั้งอย่างไรก็ตามเจ้านายก็มีเงินเยอะ ถึงตอนนั้นพวกเขาก็แค่เล่นเล่ห์เหลี่ยมสักเล็กน้อย ดูดเงินในกระเป๋าของเจ้านาย แค่นี้ชีวิตของพวกเขาก็สุขสบายมากแล้ว..

นี่เองที่เรียกว่า ‘คนธรรมดาที่เป็นผู้นำผู้เชี่ยวชาญ และเราก็ต้องไม่ถูกหลอกโดยผู้เชี่ยวชาญจอมปลอม..’

เมื่อคนเหล่านี้ได้พูดออกมาเช่นนี้ พวกเขาก็ต่างได้พากันรู้สึกว่า ..วันดีๆ ของพวกเขากำลังมาถึงแล้ว และในอนาคตพวกเขาก็จะตามเจ้านายคนนี้ไป แล้วก็จะได้กินดีอยู่ดี อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว เจ้านายคนนี้ ก็แค่เป็นคนโง่ ที่มีเงินมากมาย ก็เท่านั้น..

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้จากกลุ่มคนเหล่านี้ ชายวัยกลางคนที่พิการ ที่อยู่ข้างๆ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ

ถึงแม้ว่า ชายวัยกลางคนที่พิการ จะหยุดหัวเราะได้ทันเวลา แต่ชายชรา และกลุ่มนักเตะเยาวชน ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะนี้ และพวกเขาก็ได้พร้อมใจกันมองไปที่ ชายวัยกลางคนที่พิการ..

ชายชราแซ่หลี่ คนนั้น ได้มองไปที่ ชายวัยกลางคนที่พิการ และเขาก็ได้อึ้งไปครู่หนึ่ง และมองดูอย่างละเอียดอีกครั้ง

“ให้ตายเถอะ! ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม! คุณคือ อู๋ ต๋า อดีตนักเตะที่มีฉายาเท้าขวาแข้งทอง ใช่หรือไม่?” ชายชราแซ่หลี่ ได้โพล่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ

ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้รีบก้มหน้าลง แล้วพูดว่า : “คุณมองผิดแล้ว และฉันก็ไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”

พูดจบ ชายวัยกลางคนที่พิการ ก็ตั้งใจจะเดินจากไป

ชายชราแซ่หลี่ ได้เดินตามไปดึงตัว ชายวัยกลางคนที่พิการ เอาไว้ จากนั้นเขาก็ได้หัวเราะเสียงดัง พร้อมกับพูดไปว่า : “ทุกคนดู ฉันไม่ได้มองผิด เขาคือ อู๋ ต๋า! แล้วพวกคุณรู้ไหมว่า อู๋ ต๋า คนนี้เป็นใคร?”

กลุ่มนักเตะเยาวชน ได้พากันมองหน้ากัน

“อู๋ ต๋า คนนี้ หรือว่าเขาจะเป็นเทพองค์นั้น?”

“เขาคือ นักเตะที่มีความสามารถ เจ้าของฉายาเท้าขวาแข้งทอง?”

“นั่น เขาคือนักเตะที่มีพรสวรรค์ที่เกษียณตัวเองก่อนกำหนด เนื่องจากอาการบาดเจ็บ!”

ทุกคนได้พูดคุยกัน

ชายชราแซ่หลี่ ได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “เฮ้.. อู๋ ต๋า คุณยังจําฉันได้ไหม ฉันคือ หลี่ ซานเฟิ่ง เราเคยเล่นด้วยกันมาก่อน เคยอยู่ในทีมเดียวกัน คุณยังจําได้ไหม?”

ชายวัยกลางคนที่พิการ พูดว่า : “ฉันจำคุณไม่ได้ และคุณก็คงได้เข้าใจผิดแล้วจริงๆ”

ชายชราแซ่หลี่ กลับไม่ฟังคำอธิบายใดๆ ของเขาเลย เอาแต่หัวเราะเสียงดัง แล้วพูดไปว่า : “ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่า คุณ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอัจฉริยะในวงการฟุตบอล มาตอนนี้กลับตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ บอกมาตามตรงเถอะ ตอนนี้.. คุณเป็นขอทานแล้วใช่ไหม? ฮ่าฮ่าๆ ฮ่าฮ่าๆ…”

คนอื่นๆ ก็ได้หัวเราะตาม แม้ว่าจะไม่รู้ว่าทําไม ชายชราแซ่หลี่ ถึงได้ดูมีความสุขมากขนาดนี้ แต่เขาก็เป็นโค้ชของพวกเขา เมื่อโค้ชยิ้ม หัวเราะ พวกเขาเองก็ต้องตามสนับสนุน

“ฉันไม่ใช่ขอทาน!” ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้พูดราวกับว่าเขารู้สึกขุ่นเคืองใจ และเขาก็ได้พูดปฏิเสธ เพื่อหักล้างคำพูดของ ชายชราแซ่หลี่

ชายชราแซ่หลี่ กลับยิ่งรู้สึกตลกมากขึ้น : “คุณยังปฏิเสธ? ดูการแต่งตัวของคุณสิ คุณไม่ใช่ขอทานแล้วจะให้เรียกว่าอะไร? เฮ้..ๆ คุณวิ่งมาทําอะไรที่นี่ อยากขอข้าวกินงั้นเหรอ? โอ้.. เช่นนี้ก็ต้องบอกว่า คุณ.. วิ่งมาผิดที่แล้ว คุณเองควรไปที่ถนน และจัดการวางชามต่อหน้าคุณ ไม่นานก็คงได้บางอย่างมา!”

ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้พูดด้วยความโกรธ : “ฉันไม่ใช่ขอทาน! แล้วก็อย่าได้มากเกินไป!”

ชายชราแซ่หลี่ ได้หัวเราะเยาะไม่หยุด

“โค้ชหลี่ เขาคือ อู๋ ต๋า จริงๆ?” นักเตะเยาวชนคนหนึ่งได้ถามด้วยความสงสัย

ชายชราแซ่หลี่ กล่าวว่า : “เป็นเช่นนั้น ฉันจำเขาได้ แม้ว่าเขาจะกลายเป็นเถ้าธุลีก็ตาม ฉันก็ยังจำเขาได้! เมื่อก่อน ฉันได้เคยเล่นกับเขา เขาเป็นอัจฉริยะ ทั้งยังได้รับความสนใจอย่างมาก ตอนนั้นฉันเองก็ยังไม่มีชื่อ ในเวลานั้น ฉันเองก็ได้บูชาเขาเหมือนไอดอล ใครจะไปรู้.. ตอนนี้เขาได้กลายเป็นขอทานไปแล้ว!”

“โอ้.. พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

“โอ้.. มันน่าอายจริงๆ ตอนนี้ ผู้อำนวยการหลี่ เป็นโค้ชแล้ว แต่เขากลับเป็นขอทาน!”

“ก็น่าสงสารนิดหน่อยนะ และก็ไม่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง?”

นักเตะเยาวชนเหล่านี้ต่างได้พากันแสดงความคิดเห็น

ชายวัยกลางคนที่พิการ กัดฟัน แล้วพูดว่า : “ขอย้ำ ฉันไม่ใช่ขอทาน!”

ชายชราแซ่หลี่ หัวเราะ แล้วพูดว่า : “คุณไม่ใช่ขอทาน แล้วคุณมาทำอะไรที่สโมสรของเรา?”

ชายวัยกลางคนที่พิการ พูดไปว่า : “ฉันมาที่นี่เพื่อสมัครงาน”

ชายชราแซ่หลี่ ได้หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง : “สมัครงาน? คุณมันพิการ คุณจะมาสมัครอะไร? หรือว่า มาสมัครเป็นคนทำความสะอาด? ฮ่าฮ่า...”

“ฮ่าฮ่าๆ …”

ทุกคนก็ได้หัวเราะตาม..

“ฉันเห็นว่าต่อให้คุณกวาดพื้น คุณก็ยังไม่สามารถทํามันได้ ท้ายที่สุดแล้ว ยังไงการกวาดพื้นก็เหมือนการเล่นฟุตบอล แล้วก็คุณที่เป็นคนพิการ แค่เดินไปมามันก็ถือได้ว่ายากลำบากแล้ว แล้วเช่นนี้คุณจะไปทำอะไรได้ ด้วยขาของคุณ!” ชายชราแซ่หลี่ ได้กล่าวประชดประชันออกไป

“เอาอย่างนี้ ฉันขอแนะนำคุณสักหน่อยดีกว่า เอาเป็นว่า.. คุณไปทำความสะอาด ล้างห้องน้ำ ยังไงเวลาล้าง ทำความสะอาดห้องน้ำ คุณก็สามารถนั่งได้ ฮ่าฮ่าๆ…” ชายชราแซ่หลี่ ได้เยาะเย้ย ชายวัยกลางคนที่พิการ อย่างป่าเถื่อน

ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้กัดฟัน แล้วพูดไปว่า : “หลี่ ซานเฟิ่ง อย่าให้มันมากเกินไป!”

ชายชราแซ่หลี่ พูดว่า : “ในที่สุดคุณก็ยอมรับว่าตัวเองเป็น อู๋ ต๋า แล้วหรือ? เมื่อกี้คุณยังปฏิเสธไม่ใช่เหรอไง? แล้วทําไม จู่ๆ ความจริงที่ว่าคุณเป็น อู๋ ต๋า มันเกิดทําให้คุณรู้สึกอับอายขึ้นมา หรือว่าจริงๆ แล้ว อู๋ ต๋า เป็นคนที่น่าอับอาย ที่ได้เสียบ้านของตัวเองไปกัน!”

ชายวัยกลางคนที่พิการ ไม่พูดอะไร เอาแต่ก้มหน้าลง แต่ความเจ็บปวดมันได้ฉายชัดอยู่ในดวงตาของเขา

“คุณลุง บังเอิญจังเลย เราได้พบกันอีกแล้ว..”

ทันใดนั้น ก็ได้มีเสียงดังมาจากข้างๆ และก็ได้เห็น หลินฟาน เดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขา

เจ้าของ สโมสรฟุตบอลหยุนเฉิง คนใหม่ ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด