ตอนที่แล้วตอนที่ 19
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21

ตอนที่ 20


การเตรียมการสอบรอบที่ 4 นั้นเป็นไปอย่างราบรื่น

แม้แต่ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ‘เทศกาลใหญ่’ หรือ ‘นักเรียนอันดับหนึ่ง’ โรงเรียนก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยกันเรื่องผมและไมเคิล

แต่ผมก็เลือกที่จะสนใจกับเรื่องที่จำเป็นต้องทำ

ซึ่งก็คือ ภารกิจ

ผมฝึกฝนต่ออีก 4 วันหลังจาก strength ของผมเพิ่มขึ้น

และสุดท้าย

คุณได้มี strength 1000

คุณได้รับฉายา ‘การเตรียมการจบลงแล้ว’

ภารกิจทำซ้ำได้จะเลื่อนเป็นระดับ II

ความยากของภารกิจทำซ้ำได้จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และรางวัลจะเพิ่มเป็นสามเท่า

รางกำเนิดแห่งพลัง สแตรงได้เลื่อนเป็นขั้น 2**

Strength เพิ่ม 200 เป็นรางวัล

เมื่อ strength ของผมถึง 1000 สแตรงนั้นถูกเลื่อนเป็นขั้น 2

และเพราะแบบนี้ strength ของผมจึงเพิ่มขึ้นทันที

“อืม strength ของเจ้าเพิ่มขึ้นเป็น 1000 แล้วใช่ไหม?”

“ใช่ ถ้าพูดชัด ๆ ก็ 1200 ล่ะนะ”

“นี่คือจุดที่เจ้าจะได้เริ่มของจริง ดูภารกิจเจ้าสิ ความยากและรางวัลควรจะเพิ่มขึ้นแล้ว”

ผมเปิดหน้าต่างภารกิจ

เป็นเรื่องจริง

ภารกิจทำซ้ำได้

ฝึกฝนร่างกาย II

คุณฝึกระดับพื้นฐานจนมากพอสำหรับการต่อสู้แล้ว แต่การฝึกไม่เคยจบสิ้น จงก้าวต่อไปข้างหน้า

ต่อย : 0/5000

เตะ : 0/5000

หมุนเตะ : 0/5000

วิ่ง 15 กิโลเมตร : 0/1

ฝึกฝนสู้จริง : 0/1

*รางวัล : strength +30

เมื่อภารกิจเข้าสู่ขั้นสอง จำนวนการเตะและต่อยที่ผมต้องทำในแต่ละวันก็เพิ่มขึ้น และยังมีการวิ่ง 15 กิโลเมตรเพิ่มขึ้นมาด้วย

แต่ต้องขอบคุณคำแนะนำของสแตรงในเร็ว ๆ นี้ ผมได้เพิ่มการเตะและต่อยมาเป็น 5000 ครั้งแล้ว และตั้งแต่ที่ผมเพิ่มการวิ่งเข้าาด้วยแล้ว มันก็ไม่ใช่จำนวนที่มากเกินไป

และมันยังเป็นสถานการณ์ที่เป็นใจเพราะการฝึกแทบจะรู้สึกเหมือนเดิม แต่รางวัลที่ได้นั้นเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า

แต่ก็มีภารกิจหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจในทีแรก

ซึ่งก็คือ

นี่เราต้องทำอะไรกัน?

ในตอนนั้น สแตรงที่กินจนอิ่มหลังจากเป็นขั้น 2 ก็บอกผมขณะที่ลูบท้องที่บวมขึ้นมา

“เอิ้ก~! ดีจริง ๆ ข้าบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? ว่าข้าเป็นอะไรก็ได้น่ะ?”

“หืม? ก็บอกนะ”

“ตอนนี้ข้าทำได้แล้ว การแปลงร่างน่ะ”

ตอนนี้สแตรงเป็นขั้น 2 แล้ว เขาไม่ดูเหมือนกับภูติตุ๊กตาหมีที่จะแปลงร่างเป็นร่างที่เห็นและสัมผัสได้

“ถ้างั้น แปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ไหม?”

“ได้สิ ถ้าเป็นขั้น 5 น่ะ แต่ตอนนี้ข้ายังแปลงร่างเป็นมนุษย์ไม่ได้”

“แล้วตอนนี้แปลงร่างเป็นอะไรได้บ้างล่ะ?”

“ให้ทำให้ดูไหม?”

สแตรงหัวเราะติดตลก

ก่อนที่ผมจะตอบ ควันสีแดงก็ปกคลุมร่างกายสแตรง

ควันหมุนรอบตัวสแตรง และจากนั้นไม่นานเขาก็ปรากฏตัวเป็นร่างที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง

ซึ่งก็คือ…

“...หุ่นไล่กา?”

รูปร่างหุ่นไล่กา

มันดูแตกต่างจากหุ่นไล่กาไม้ปกติเล็กน้อยเพราะมีแขนและขาติดอยู่

ดูจากการเป็นร่างกำเนิดแห่งพลัง ผมคิดว่าเขาจะใช้ร่างที่ดูดีกว่านี้ การแปลงร่างเป็นหุ่นไล่กานั้นไม่ได้คิดมาก่อน

สแตรงพูดเมื่อผมทำหน้าสับสน

“อย่าเมินข้าแค่เพราะข้าเป็นหุ่นไล่กา เจ้ารู้ไหมว่าข้าช่วยได้มากแค่ไหนในตอนที่ดราก้าฝึกฝนต่อสู้จริงครั้งแรกน่ะ?”

“ฝึกการต่อสู้จริง? หรือจะบอกว่า…แกถูกใช้ฝึกงั้นเหรอ?”

“ใช่ ถ้าบอกชัด ๆ ก็เพื่อทำการกิจนั่นแหละ”

“...อา”

ใช่แล้ว

เป้าหมายของการแปลงร่างของสแตรงในตอนนี้ก็คือ…

เป็นหุ่นไล่กาเพื่อทำภารกิจ

“ก็คือนับจากนี้ไป ชั้นต้องฝึกสู้กับแกทุกวันสินะ?”

“ใช่แล้ว”

จากนี้ไป หนึ่งครั้งในทุกวัน…

ผมต้องประลองกับสแตรงอย่างไม่มีหยุดพัก

“ตอนนี้ข้าอ่อนแอเกินไป เป็นได้แค่จอมเวทย์ชั้น 3 หรืออัศวินขั้น 3 น่ะ…แต่ต่อไปที่ข้าได้พลังทั้งหมดคืนมา ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ถ้าเจ้าต้องการ แม้แต่ปีศาจหรือมังกรข้าก็เป็นได้”

ขั้นแรก หุ่นไล่กาแบบมนุษย์

ต่อมาก็มนุษย์ของจริง

และหลังจากนั้นยังเป็นสัตว์ประหลาดมากมายและยังเป็นปีศาจได้อีก

ความสามารถเฉพาะตัวของสแตรงนั้นทำให้เขาเป็นอิสระจากรูปร่างเดียว

ถ้าหากเงื่อนไขตรง เขาจะแปลงร่างเป็นอะไรในรูปร่างและขนาดใดก็ได้

และยังหมายความว่ายังใช้สำหรับการฝึกฝนเพื่อเพิ่มความชำนาญในการต่อสู้ได้

“...ว้าว”

โคตรเจ๋ง

ไมเคิลเป็นจอมเวทย์

และเป็นจอมเวทย์ที่พอใช้ได้ด้วย

ผมเป็นนักเรียนล้มเหลวมาตลอด 5 ปี ผมไม่เคยต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งกับจอมเวทย์คนอื่นเลย และในเวลาแบบนี้ ผมต้องเตรียมตัวให้พร้อม

และตอนนี้การฝึกก็เป็นไปได้

เป็นความสามารถที่มีขึ้นมาในเวลาที่ผมต้องการมากที่สุด

ผมไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว

ผมพูดกับสแตรง

“ถ้างั้น ก็มาทำกันเลย”

“แบบไหนล่ะ?”

“จอมเวทย์”

สแตรงสร้างรอยแยกในอากาศและคทาไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏในมือเมื่อผมขอจอมเวทย์

“ได้สิ”

และจากนั้น อย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง…

“ฮึบ!”

เริ่มถาโถมเวทมนตร์ใส่ผม

สแตรงตะโกน

“ต่อให้เจ้าโดนเวทย์ของข้ามันก็ทำได้แค่กระเด็นเท่านั้น มันทำร้ายเจ้าไม่ได้ ไม่ต้องห่วงอะไรหรอก!”

แค่กระเด็น ต่อให้โดนเวทย์

ถ้าผมโจมตีสแตรง เขาก็ไม่เป็นอะไร

สถานการณ์นี้ทำให้เกิดการฝึกที่ไม่จบสิ้นได้เลยทีเดียว

“...แบบนี้สินะ?”

ผมอัดพลังใส่หมัดทั้งสองข้าง

พลังมหาศาลที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนอัดแน่นในมือผม จากนั้นผมก็วิ่งเข้าใส่สแตรง

ในตอนนี้ ผมคิดถึงไมเคิล เกลฮิล

‘ไมเคิล เกลฮิล…เจ้านั่นเตรียมตัวมามากแค่ไหนนะ?’

ขณะที่ผมเตรียมตัวสู้กับไมเคิล ไมเคิลเองก็ต้องเตรียมตัวต่อสู้กับผมอีกแน่

ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่ดี…

หรือที่เลวร้าย

อาจารย์แผนกปรุงยาเอลริค เกลฮิลระเบิดความโกรธจากความหงุดหงิด

“บ้าเอ้ย! บัดซบ!”

เขาให้รูนสู้กับโอเกอร์ได้สำเร็จ

แต่ใครจะไปเดาผลลัพธ์ได้กันล่ะ?

สำหรับนักเรียนที่ไม่มีประสบการณ์สู้จริงและแสดงพลังในการต่อสู้ที่เทียบเท่าโอเกอร์ออกมาได้และถึงกับเอาชนะได้ในการใช้พลังครั้งเดียว

และเขายังได้คะแนนพิเศษเพื่อฟื้นเกรดขึ้นมาอีกด้วย

ถ้ามองจากมุมอื่น มันจะดูราวกับว่าอาจารย์เอลริคนั้นอยากจะให้รูนได้คะแนนดีจึงช่วยเขาไม่มีผิด

และเพราะเรื่องนี้ รูน อาเดลก็ถึงจุดสูงที่คนอื่นเอื้อมไม่ถึงและยังได้รับความสนใจจากทุกคนในโรงเรียน

แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือ…

‘ต้องสู้กับรูน อาเดลทั้ง ๆ ที่มีคนอื่นตั้งมากมาย…’

เรื่องที่หลานของเขา ไมเคิล เกลฮิลต้องสู้กับรูนในการสอบรอบที่ 4

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตระกูลเกลฮิลจะต้องขายหน้าในการสอบรอบที่ 4

ซึ่งมันยังหมายความว่าการได้เป็นตัวแทนของ ‘เทศกาลใหญ่’ ที่จะเริ่มในเดือน 7 จะไม่เกิดขึ้น

และตอนนี้ก็มีโอกาสที่พวกเขาจะเสีย ‘นักเรียนอันดับหนึ่ง’ ไปด้วย

นี่คือ…สิ่งที่จะเกิดขึ้นไไม่ได้

‘ต้องหาทางพลิกผันเรื่องนี้ให้ได้’

ตระกูลเกลฮิลจะต้องเป็นจุดสูงสุดของโรงเรียน

ถ้าไมเคิล เกลฮิลขาดความสามารถ เอลริคในฐานะอาจารย์ก็ต้องทำให้ได้

ตระกูลจอมเวทย์ที่ดีที่สุดอย่างเกลฮิลนั้นเป็นตระกูลที่ดีที่สุดในอาณาจักรเรเดียนมาอย่างยาวนานแล้ว

และมันจะต้องดีที่สุดต่อไปในอนาคต

การใช้ทุกวิถีทางนั้นเป็นสิ่งจำเป็น

ก๊อก ก๊อก

ขณะนี้ มีคนเคาะประตูห้องวิจัยของอาจารย์เอลริคและเขาก็รอบราวกับรออยู่แล้ว

“เข้ามา”

คนที่เข้ามาในห้องวิจัยนั้นคือไมเคิล เกลฮิล

ไมเคิลทำหน้ารำคาญในทันทีที่เห็นลุงของเขา

“แล้วเราจะทำยังไงกันดี?”

“ไอ้เด็กเวร นี่เป็นสิ่งที่แกควรจะพูดตอนนี้เหรอ? ถ้าแกแข็งแกร่งกว่านี้ซักหน่อยล่ะก็…”

“มีคนบอกว่าลุงเป็นคนเพิ่มเกรดของรูนไปเยอะเลย”

“วะ…ว่าไงนะ?”

“ก็ถูกไม่ใช่รึไง? มันคือความคิดของลุงที่ให้รูนสู้กับโอเกอร์ไม่ใช่เหรอ? เป็นเพราะลุง รูนเลยได้คะแนนดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และถ้าหากเรื่องนี้รู้ถึงบ้านเกลฮิล ลุงจะต้องตกที่นั่งลำบากแน่”

“เด็กอย่างแกกล้าขู่ชั้…”

“มันไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?! ลุงคิดจะปล่อยให้เจ้ารูนนั่นลอยนวลงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าหมอนั่นกลายเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปที่ ‘เทศกาลใหญ่’ ล่ะก็…”

“...ไม่ จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นเด็ดขาด”

อาจารย์เอลริคส่ายหน้าและหยิบขวดยาในลิ้นชัก

“หึหึหึ รับนี่ไปสิ”

ขวดนั้นมีดอกไม้ดอกเล็กวาดเอาไว้ แต่มันแปลกที่ดอกไม้นั้นกำลังดื่มเลือดอยู่

“นี่มัน…สมุนไพรแห่งการตื่น ดอกไม้แผดเผา”

สมุนไพรแห่งการตื่น ดอกไม้แผดเผา

เติบโตในดินแดนมายา เป็นสมุนไพรหายากที่ล้ำค่า

และยังใช้สร้างยาวิเศษได้ด้วย

มันจะกระตุ้นผู้ใช้โดยการเพิ่มอัตราการเก็บมานาเพื่อลดความเร็วการร่ายและผลักดันการปลุกมานาให้ถึงขีดจำกัดสูงสุด

ผลของมันยังทำให้ประสาทสัมผัสทื่อลงและลืมความเจ็บปวดไปด้วย

มันมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้ แต่ก็มีผลข้างเคียงที่รุนแรง

“ถะ…ถ้าผมดื่มนี่…ว่ากันว่าจะแยกเพื่อนกับศัตรูไม่ได้”

ด้วยผลของภาพหลอน มันยากที่จะแยกมิตรกับศัตรู

สภาวะถูกกระตุ้นทำให้ผู้ใช้ยาลืมการใช้เหตุผลไป

เพราะแบบนี้ มันจึงเป็นยาอันตรายที่จะใช้แค่ในสนามรบหรือสถานการณ์เลวร้ายที่สุดเท่านั้น

อาจารย์เอลริคพยักหน้า

“ใช่แล้ว แกแค่จะมองเห็นไม่ชัด หึหึ ดูเหมือนว่าแกจะไม่ได้แอบวอกแวกในชั้นเรียนของชั้นสินะ”

“ตะ…แต่ทำไมกัน? ไม่มีทาง…ลุงจะให้ผมดื่มนี่เหรอ?”

“ใช่”

ความมั่นใจของไมเคิลจางหายในทันที

“ลุงบ้าไปแล้วเหรอ?”

ดื่มยาต้องห้ามนั้นจะทำให้หมดสิทธิ์สอบ

และถ้ามันเป็นยาที่อันตรายมากแบบนี้ล่ะ?

บทลงโทษก็จะยิ่งหนักหนา

มากพอที่จะทำให้โดนไล่ออกจากโรงเรียนได้

แต่อาจารย์เอลริคเพียงแค่หรี่ตาพูด

“แกเลือกได้รึไง? ไม่เห็นเจ้ารูนนั่นสู้เรอะ? แกอยากจะแพ้ให้เด็กนั่น ให้ตระกูลต้องขายหน้า และโดนไล่ออกจากตระกูลใช่ไหม?”

“ตะ…แต่ผมถูกจับได้แน่ อาจารย์คนอื่นจะจับได้แน่”

“ลืมไปแล้วเรอะว่าชั้นเป็นใคร? งานตรวจเรื่องยาเป็นของชั้นไม่ใช่เหรอ?”

เอลริค เกลฮิล

อาจารย์แผนกปรุงยา

ผู้ตรวจสอบที่จะตรวจสอบยาของนัะกเรียนทุกคนและตัดสินใจว่าใช้ได้หรือไม่

แต่ไมเคิล เกลฮิลส่ายหน้า

“อาจารย์ฮะ…ไฮเดลรู้ระดับพลังของผมดี เขาจะตะ…ต้องรู้การเปลี่ยนแปลงแน่”

“คิดว่าชั้นไม่ได้เตรียมตัวกับเรื่องเล็กน้อยนั่นรึไง?”

อาจารย์เอลริคหยิบอีกขวดออกมา

มันคือขวดแก้วที่ไม่มีร่องรอยและมีของเหลวใสอยู่ข้างใน

“นี่เป็นยาที่จะปิดบังว่าแกใช้ยาหลอนประสาท ดื่มนี่หลังจากดื่มยานั่น แล้วแกจะไม่มีวันถูกจับได้”

อาจารย์เอลริคคิดจะใช้ทุกวิถีทาง

“ถ้ามีคนถามว่าทำไมแกถึงแข็งแกร่งขึ้นเหรอ? ใครจะสนล่ะ? ถ้าไม่มีหลักฐาน แกก็ไม่ถูกจับได้ หึหึ”

ไม่ว่าวิธีการจะอันตรายแค่ไหน…

ไมเคิล เกลฮิล แม้ว่าเขาจะทำใจแล้วยังเริ่มกลัวที่จะต้องกินยาอันตรายและความเกินเลยที่ไม่คาดคิด

“มะ…มันเป็นทางเดียวเหรอ?”

แต่อาจารย์เอลริคก็ยิ้มชั่วร้ายเหมือนกับงูและพยายามสงบไมเคิลลง

“อย่ากลัวไปหน่อยเลย พี่น้องแก พ่อของแก ปู่ของแก่ ทุกคนก็ชนะแบบนี้ แกแค่ต้องเป็นจอมเวทย์ที่เด่นกว่าใคร เข้าใจไหม?”

จอมเวทย์ที่โดดเด่น

การเป็นจอมเวทย์ที่โดดเด่นหมายถึงการเป็นคนที่ใช้ทุกวิถีทางเพื่อชัยชนะ

จอมเวทย์ประเภทนั้น

ยอมทำเรื่องเลวร้ายทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่เหนือคนอื่น

ถ้าอยู่เหนือคนอื่นได้ การโกงก็จะกลายเป็น ‘ความยุติธรรม’

นี่คือ…ธรรมเนียมของตระกูลเกลฮิล

ทางเดียวที่พวกเขาใช้เพื่อเอาตัวรอด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด