ตอนที่แล้วตอนที่ 1029 ไม่จำเป็น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1031 ตอนนี้คุณก็แค่บอกมาว่า คุณมันกล้าหรือไม่กล้า!

ตอนที่ 1030 ฉันจะขอเดิมพันกับคุณด้วยขนมล่าเถียวหนึ่งห่อ(1)


หลินฟาน ต้องการยกน้ำหนัง 180 กิโลกรัม?

ทุกคนได้พากันมึนงงไปหมดแล้ว นี่.. พวกเขาฟังไม่ผิดไป ..ใช่ไหม?

นี่มันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกัน แน่ๆ!

“ไม่ใช่!”

แม้แต่ หง จวิน ก็ดูมึนงง และสับสนไปเล็กน้อย เขาได้พูดว่า : “พี่หลิน คุณไม่เคยได้ยกน้ำหนักมาก่อนเลยจริงๆ? และคุณ.. ก็ไม่รู้กฎของการยกน้ำหนัก? เอาเป็นว่า.. ฉันจะบอกให้คุณฟังสักเล็กน้อย การยกน้ำหนัก แบ่งออกเป็น ท่าสแนตช์ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก......”

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ฉันรู้กฎนะ”

เขามีพรสวรรค์ทางด้านกีฬาระดับบนสุด และเมื่อกี้ เขาก็เพิ่งได้เห็นการแข่งขันของ หง จวิน และแจ็คสัน และมันก็ทำให้เขารู้จักกีฬายกน้ำหนักเป็นอย่างดีแล้ว และในโลกนี้ คงจะไม่สามารถหานักยกน้ำหนักที่แข็งแกร่งกว่าเขาได้อีก เขาตอนนี้เป็นนักยกน้ำหนักที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เช่นเดียวกับที่เขา ..เป็นนักฟุตบอลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก

ไม่ว่าจะพูดถึงกีฬาอะไร แค่ทันทีที่เขาได้สัมผัส เขาก็จะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดได้ ในทันที!

และนี่มันก็คือ พรสวรรค์ทางด้านกีฬาระดับบนสุด ซึ่งมันก็ยอดเยี่ยมมากๆ!

“ฮ่าๆๆๆ… ..”

แจ็คสัน ได้หัวเราะออกมาอีกครั้ง : “ที่แท้.. เขามันก็เป็นมือใหม่จริงๆ นี่พวกคุณอยากที่จะทำให้ฉันหัวเราะจนตายเลยใช่ไหม? พวกคนหัวเซี่ย อย่างพวกคุณนี่มัน.. ก็ตลกเกินไปจริงๆ ไปหามือใหม่ไก่อ่อนมาแข่งขันกับฉันได้ ฮ่าฮ่า…”

หลินฟาน ไม่ได้โกรธเลย เขาได้พูดอย่างสบายๆ ไปว่า : “ดูเหมือนว่า.. จะเข้าใจผิดไปนิดหน่อยนะ ใช่.. ฉันไม่เคยเล่นยกน้ำหนักมาก่อนจริงๆ  แต่ฉันก็เข้าใจกฎกติกาดี สถิติโลกของท่าสแนตช์คือ 174 กิโลกรัม เมื่อกี้ หง จวิน ได้ทำลายสถิติโลก ส่วนคุณ.. แจ็คสัน ได้ยกด้วยท่าสแนตช์ได้ในน้ำหนัก 175 กิโลกรัม นั่นก็เท่ากับว่าคุณได้เพิ่งสร้างสถิติใหม่ขึ้นมา และตอนนี้ฉันเองก็ต้องการท้าทายด้วยน้ำหนัก 180 กิโลกรัม พูดแบบนี้.. ทุกคนก็คงจะชัดเจนแล้ว”

อะไรนะ?

ทุกคนมองหน้ากัน ดูเหมือนว่า หลินฟาน จะเข้าใจกฎดี และการที่เขาสามารถพูดคำเหล่านี้ได้ แสดงว่าเขานั้นต้องมีสภาพจิตใจที่ปลอดโปร่ง และดูมีความมั่นใจ เท่านั้น!

กล่าวคือ หลินฟาน ต้องการสร้างสถิติโลกใหม่ และมันก็มากกว่าสถิติโลกที่ แจ็คสัน เพิ่งสร้าง ถึง 5 กิโลกรัม!

ต้องรู้ว่า การยกน้ำหนักมันก็เหมือนกับการวิ่ง การวิ่งหากต้องการพัฒนาให้วิ่งได้เร็วขึ้นหนึ่งวินาที นักกีฬาเองก็ต้องผ่านการฝึกซ้อมที่หนักมาก การยกน้ำหนักก็เหมือนกัน และมันก็เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับนักกีฬายกน้ำหนักที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักอีกหนึ่งกิโลกรัม ภายในระดับของตัวเอง มันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ยากมาก พวกเขาต้องผ่านการออกกําลังกายมาอย่างหนัก และอัตราความล้มเหลวก็ยังมีสูงมาก

แจ็คสัน ยกได้ 175 กิโลกรัม ซึ่งนั้นก็เป็นขีดจํากัดปัจจุบันของ แจ็คสัน แล้ว และหากเขาอยากที่จะยกให้ถึง 176 กิโลกรัม มันก็เป็นเรื่องยากมาก และอาจจะทำมันไม่ได้ไปตลอดชีวิต นั่นก็เพราะทุกสิ่งอย่างมันก็ต้องผ่านการฝึกซ้อม

แต่.. หลินฟาน คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเลือกท้าทาย 180 กิโลกรัม ซึ่งนี่มันเกินระดับของ แจ็คสัน ไปถึง 5 กิโลกรัม ในคราวเดียว!

ฟังดูแล้ว นี่มันก็ช่างเป็นเรื่องเพ้อฝันจริงๆ..

ถ้า หลินฟาน ไม่เข้าใจกฎ และพูดตัวเลขนี้ออกมา ทุกคนคงได้พูดกันสนุก..

แต่ หลินฟาน กลับรู้.. และเขาก็จริงจังกับมัน จริงๆ!

“อา.. นี่ใครมันไปให้ความกล้าหาญแก่เขากันวะ แม่ง!”

“นี่เขาจริงจังกับมัน?”

“โอ้.. พระเจ้า เขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเนี่ย แล้วนี่ไม่กลัวที่จะกลายเป็นเรื่องตลกเหรอไง!”

“มันน่าอายมาก ฉันดูแล้ว เขาคงไม่สามารถขยับมันได้แม้แต่นิดเดียวล่ะมั้ง และตอนนี้ก็แทบไม่ต้องพูดถึงมันแล้ว!”

ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์ และเกือบจะทุกคนคิดว่าครั้งนี้ หลินฟาน หาเรื่องใส่ตัว

หลินฟาน จริงจัง?

หง จวิน เองก็ตกใจเช่นกัน หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ได้สั่งให้ผู้ช่วยของเขาปรับน้ำหนักของบาร์เบลให้เป็น 180 กิโลกรัม

หลินฟาน ก็ได้เดินขึ้นไป และได้มายืนอยู่ด้านหน้าบาร์เบล

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนก็ได้มองไปที่ หลินฟาน และหลินฟาน ก็ได้กลายมาเป็นจุดสนใจของผู้คนทั้งสนาม

แจ็คสัน ได้หัวเราะเสียงดังออกมา แล้วพูดว่า : “เด็กน้อย.. ฉันได้ให้คุณลงบันไดดีๆ แต่กลับไม่ลง.. คาดไม่ถึงเลยว่าจะยังคิดหาที่ตายอยู่อีก นี่จะมาโทษฉันไม่ได้แล้วนะ ฉันเองคิดว่า ตัวเล็กๆ อย่างคุณจะไปทำอะไรได้ กลัวว่า.. แม้แต่บาร์เบลก็คงไม่สามารถขยับได้เลยมั้ง? ฮ่าฮ่า... ฉันอยากจะหัวเราะให้ตายจริงๆ! โอเค ให้ตายเถอะ.. ฉัน.. แทบรอไม่ไหวแล้ว ที่จะได้เห็นเรื่องตลกนี้”

ทุกคนก็คิดเหมือนกับ แจ็คสัน และเฝ้ารอดูเรื่องตลกของ หลินฟาน

หง จวิน ได้เช็ดเหงื่อเย็นๆ เขารู้ว่า หลินฟาน แข็งแกร่งจนน่าทึ่ง แต่ หลินฟาน ดูจะรีบร้อนเกินไปที่จะท้าทายน้ำหนัก 180 กิโลกรัม ในคราวเดียว และนี่เขาจะบุ่มบ่ามเกินไปหรือไม่?

หลินฟาน ไม่คิดจะสนใจ แจ็คสัน เขาเองได้ก้มตัวลง และจับบาร์เบลด้วยมือทั้งสองข้าง ทั้งการการกระทําของเขาก็เป็นไปตามมาตรฐานมาก

ในมุมมองของ หลินฟาน ในเมื่อต้องการที่จะชนะ เขาจึงไม่สามารถปล่อยให้อีกฝ่ายเลือกที่จะจับผิดใดๆ ได้ และก็จะต้องทำให้อีกฝ่ายเลือกที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ ได้เท่านั้น..

แจ็คสัน ยังคงหัวเราะเยาะต่อไป : “อืม.. มันก็ดูเหมือนนิดหน่อยแล้ว แต่มันก็เปล่าประโยชน์ คุณยังทำไม่สำเร็จเลยด้วยซ้ำ เด็กน้อย.. คุณมองข้ามจุดที่สำคัญที่สุดไปหรือเปล่า? น้ำหนักของคุณมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับฉัน และหง จวิน เลยด้วยซ้ำ!”

แจ็คสัน และหง จวิน ต่างก็เป็นนักกีฬาในรุ่น 77 กิโลกรัม!

และน้ำหนักของ หลินฟาน นั้นต้องไม่ถึง 77 กิโลกรัมอย่างแน่นอน ดังนั้นขีดจำกัดที่ หลินฟาน สามารถเข้าถึงได้ก็จะต้องต่ำกว่าน้ำหนักของพวกเขาโดยธรรมชาติ

หลินฟาน มีน้ำหนักน้อยกว่าพวกเขา แต่กลับเลือกที่จะท้าทายน้ำหนักที่พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ ถ้านี่เขาสามารถยกมันขึ้นได้ มันคงได้กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ

“เด็กน้อย ทำไมไม่มองดูตัวเองบ้างล่ะ ฮ่าๆ…”

แจ็คสัน ได้หัวเราะเยาะ

“ฮึบ!”

เมื่อเห็น หลินฟาน ตะโกนเสียงออกมา เขาก็ได้คว้าจับบาร์เบลไว้แน่น พร้อมกับย่อตัวลง แล้วยกบาร์เบลขึ้นเทียมบ่า ในทันที!

การเคลื่อนไหวนี้ของเขานั้นรวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรฐานมาก และยากมากที่จะมองหาข้อบกพร่อง!

ฮะ?

ทุกคนได้ตกใจมาก คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยกบาร์เบลน้ำหนัก 180 กิโลกรัมขึ้นได้จริงๆ?

หรือนี่.. พวกเขามองผิดไป?

แน่นอนว่าพวกเขามองไม่ผิด และพวกเขาก็ไม่ได้ตาบอด มองเห็นอยู่ชัดเจนเห็นๆ ว่า หลินฟาน สามารถยกบาร์เบลขึ้นได้จริงๆ!

แม้ว่าเขาจะยังนั่งยองๆ อยู่ แต่เขาก็เก่งมาก ทรงพลังมาก ทั้งมันก็ยังเกินความคาดหมายของทุกคน!

ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่า หลินฟาน ไม่สามารถขยับเขยื้อนมันได้ แต่เขากลับยกมันขึ้นมาได้!

เสียงหัวเราะของ แจ็คสัน ได้หยุดชะงัก ..นี่มันเกิดขึ้นจริง?

แจ็คสัน ได้ตกตะลึงไปแล้ว

“ดี!”

หง จวิน อดไม่ได้ที่จะตบต้นขาของเขา และโพล่งเสียงออกไปว่า : “เยี่ยม เหนือความคาดหมายมาก” เขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

“ฮึ่ม!” ใบหน้าของ แจ็คสัน ได้เปลี่ยนไปเป็นอัปลักษณ์ในทันที หลังจากที่ได้ถูกตบหน้าไปเมื่อกี้นี้ และเขาก็ได้พูดเย้ยหยันออกไปว่า : “แม้ว่าคุณจะยกมันด้วยท่านี้ได้สำเร็จ แต่.. คุณยังจะลุกขึ้นยืนได้ไหมนั้น?”

แจ็คสัน ได้พูดอย่างเย่อหยิ่งว่า : “ฉันจะขอเดิมพันกับคุณด้วยขนมล่าเถียวหนึ่งห่อ(1) ว่าคุณ.. ไม่สามารถยืนขึ้นได้อย่างแน่นอน คุณ…”

เขายังพูดไม่ทันจบ..

หลินฟาน ก็ยกบาร์เบลขึ้นสูง และสามารถยืนขึ้นได้ ใบหน้าของเขาเองก็ไม่ได้เปลี่ยนสี และดูเหมือนจะไม่ได้ใช้แรง หรือความพยายามใดๆ

อันที่จริงแล้ว น้ำหนักแค่นี่ยังเด็กเกินไปจริงๆ สำหรับ หลินฟาน.. นั่นก็เพราะหลังจากที่เขาได้กิน แคปซูลเซรั่มเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย ร่างกายของเขาก็ทรงพลังมาก และนับประสาอะไรกับน้ำหนัก 180 กิโลกรัม ต่อให้น้ำหนัก 500 กิโลกรัม เขาก็สามารถยกมันได้อย่างสบาย!

หลังจากที่ หลินฟาน ได้ยกน้ำหนัก 180 กิโลกรัม เขาเองก็ได้เลือกตัดสินใจที่จะยกน้ำหนักขั้นต่ำสุด เพราะถ้าเขายกที่น้ำหนักสูงมากกว่านี้ ..ก็เกรงว่าจะสร้างความฮือฮาเกินไป, นั่นก็เพราะ หลินฟาน เองยังชอบทำตัวเงียบๆ

ที่จริงแล้ว หลินฟาน ยังมองแค่ผิวเผินเกินไป และการที่เขาสามารถยกน้ำหนัก 180 กิโลกรัมได้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึง และมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เกิดความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่…

หลินฟาน ได้หัวเราะอย่างขมขื่นในใจ ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ เขาก็จะลดมันลงมาอีก และคงจะเลือกยกที่ 176 กิโลกรัม เพื่อรักษาความสงบของตัวเอง

อะไร?

ในเวลานี้ ผู้ชมทั้งหมดต่างตกตะลึงไปกันหมดแล้ว และทุกคนก็ได้ตกตะลึงจริงๆ!

ทั้งสนามได้พากันเงียบกริบ เงียบจนถึงขนาดได้ยินเสียงเข็มตกลงบนพื้น

เขายกมันขึ้นได้!

หลินฟาน สามารถยกบาร์เบลหนัก 180 กิโลกรัม ขึ้นได้สำเร็จ!

แจ็คสัน เองก็ได้ตัวแข็งทื่อไปในทันที และรอยยิ้มของเขามันก็ได้แข็งค้าง ณ เวลานี้ กล้ามเนื้อใบหน้าของเขามันก็ได้กระตุก ที่ไหนจะยังยิ้มได้อีก

แม่ง!

ไอ้หมอนี่ มันเป็นสัตว์ประหลาดหรือไงวะ!

(1)[เดิมพันกับคุณด้วยขนมล่าเถียวหนึ่งห่อ (我跟你赌一包辣条)] - กล่าวได้คือ เป็นการพาดพิงถึงเด็กประถม เพราะทุกวันนี้เด็กประถมหลายคนก็ชอบกิน ‘ล่าเถียว’ ซึ่งมันก็เป็นการบ่งบอกว่าอีกฝ่ายนั้น เป็นเด็ก 

    แต่โดยปกติทั่วไปแล้ว ‘ล่าเถียว’ จะขายอยู่ที่ 5 เหมา แต่ชาวเน็ตเองก็ได้ไปค้นพบว่าราคาหนึ่งซองบน eBay ซึ่งเป็นเว็บไซต์ช้อปปิ้งของอเมริกา ได้มีราคาพุ่งสูงถึง 10 ดอลลาร์ และภายใต้อิทธิพลของภาษีนำเข้า และส่งออก ราคาโดยทั่วไปของ “สินค้าอเมริกัน” คือมีราคาแพงจนน่าตกใจ แต่เมื่อทุกคนได้เห็นว่าราคาของ ‘ล่าเถียว’ ที่เป็นขนมที่ค่อนข้างติดดินในจีน กลับยังขายได้เท่ากับ “ราคาทองคำแท่ง” ในต่างประเทศ ทุกคนก็ได้พากันหัวเราะอย่างมีความสุข….

     กล่าวได้อีกคือ เป็นการดูถูกอีกฝ่ายว่า ‘ไม่มีค่า’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด