ตอนที่แล้วบทที่ 57: การดิ้นรนของไป่เยว่เจอ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 59: ห้องสมุดสกิล

บทที่ 58: คำเชิญจากสโมสรเมฆา


บทที่ 58: คำเชิญจากสโมสรเมฆา

ชุดการโจมตีของไป่เยว่เจอนั้นเฉียบคมมาก เขาไม่เพียงแต่จะบังคับให้ลู่หยานต้องถอยกลับมาเท่านั้น แต่เขายังฆ่าโครงกระดูกระดับสูงทั้งสองลงได้ในทันทีอีก

แม้ว่าลู่หยานจะไม่ได้อัพเกรดโครงกระดูกระดับสูงอะไรมากมาย แต่มันก็ยังทรงพลังมากอยู่ดี

หวือ!

หวือ!

ไป่เยว่เจอกำหอกเงินและหอบหายใจเล็กน้อย การโจมตีเมื่อกี้ได้สร้างภาระหนักให้กับร่างกายของเขาและทำให้เขาใช้พละกำลังไปจนเกือบหมด

ลู่หยานมองไปที่ไป่เยว่เจอข้างหน้าเขาและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ไม่เลว นายเก่งดีนี่”

หากไม่ใช่เพราะชุดเกราะผู้วายชนม์ ผลของการแข่งขันในครั้งนี้ก็คงจะไม่แน่นอน

แน่นอนว่านี่เป็นเพราะเขายังไม่ได้ใช้กำลังอย่างเต็มที่

ถ้าเขาใช้พละกำลังเต็มที่ตั้งแต่ต้น ไป่เยว่เจอก็คงจะอยู่ได้ไม่เกินสิบวินาที

ด้วยเคียวกระดูกทมิฬในมือ ลู่หยานก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาเตรียมพร้อมที่จะใช้พละกำลังทั้งหมดของเขา

ทันใดนั้นลู่หยานก็พุ่งไปข้างหน้า และความเร็วของเขาก็พุ่งสูงขึ้นในทันที เขามาถึงด้านหน้าของไป่เยว่เจอและตวัดเคียวในมือลง

ไป่เยว่เจอโบกหอกของเขาเพื่อป้องกัน พละกำลังอันมหาศาลส่งผ่านเข้ามาและทำให้มือของเขาชา ขณะเดียวกัน ร่างกายของเขาก็ถอยหลังไปสองก้าว

“ก้าวฉับพลัน!”

ความเร็วของลู่หยานเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และเขาก็ไปปรากฏตัวขึ้นข้างหลังไป่เยว่เจอราวกับผี เขาโบกเคียวกระดูกทมิฬในมือและปะทะเข้ากับหอกเงินของไป่เยว่เจอ

ปัง!

พร้อมกับเสียงเหล็กปะทะกัน หอกเงินก็ถูกส่งกระเด็นออกไป

ในช่วงเวลาต่อมา เคียวกระดูกทมิฬในมือของลู่หยานก็ถูกวางพาดอยู่บนคอของไป่เยว่เจอ

ร่างกายของไป่เยว่เจอแข็งทื่อก่อนที่เขาจะเผยรอยยิ้มอันขมขื่นออกมา

“ฉันแพ้แล้ว”

แม้ว่าเขาจะรู้มานานแล้วว่าเขาจะแพ้ แต่ไป่เยว่เจอก็ไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาจะมาพ่ายแพ้ลงอย่างสมบูรณ์ เขาแทบจะต้านทานอีกฝ่ายไม่ได้เลย

“เยี่ยมไปเลย การต่อสู้ของนักศึกษาใหม่สองคนนี้ทำให้เลือดของฉันเดือดพล่าน ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นรุนแรงมาก”

“ไม่เลวๆ มันเป็นการเคลื่อนไหวที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ นั่นคือไป่เยว่เจอใช่ไหม ฉันคิดว่าแม้แต่นักศึกษาปีสองและปีสามก็ยังจะต้องตกตะลึงกับความชำนาญของเขา”

“ฉันให้ความสนใจกับลู่หยานคนนั้น ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขานั้นผิดปกติเกินไปเล็กน้อย แม้หลังจากใช้พละกำลังอย่างเต็มที่แล้ว แต่เขาก็ยังสามารถกลั่นแกล้งอีกฝ่ายได้ ยิ่งไปกว่านั้น เกราะดำนั่นมันเป็นสกิลอะไรกัน? พลังป้องกันของมันสูงมากจริงๆ”

ลู่หยานพยักหน้าให้ไป่เยว่เจอและเดินลงจากเวทีในทันที

พยานที่อยู่ด้านข้างได้ประกาศผลการแข่งขันในครั้งนี้

จากนี้ไป ลู่หยานจะเป็นเจ้าของบ้านอันดับ 2 ไป่เทียนหยูจะเป็นเจ้าของบ้านอันดับ 3 และไป่เยว่เจอจะถูกลดโดยตรงไปอยู่บ้านอันดับ 10

ขณะที่ลู่หยานกำลังจะจากไป นักศึกษาสองสามคนก็เดินเข้ามาและขวางทางเขา

ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำมองไปที่ลู่หยานและยิ้ม “สวัสดีรุ่นน้องลู่หยาน ฉันชื่อหยางหมิงลู่ ฉันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สาม และฉันก็ยังเป็นประธานของสโมสรเมฆาแห่งสถาบันมุมทอง ฉันอยากจะถามรุ่นน้องลู่หยานว่าเธอสนใจที่จะเข้าร่วมกับสโมสรเมฆาของเราไหม?”

“ตราบใดที่เธอเต็มใจ เราก็จะให้การปฏิบัติต่อเธอในฐานะรองประธาน”

ขณะที่เขาพูด หยางหมิงลู่ก็มองไปที่พี่น้องตระกูลไป่ทั้งสามที่ด้านข้างและพูดว่า “แน่นอนว่ามันเหมือนกันสำหรับรุ่นน้องไป่เมี่ยว หากเธอยอมเข้าร่วมกับสโมสรเมฆาของเรา เธอเองก็จะถือได้ว่าเป็นรองประธานด้วย”

“สำหรับอีกสองคนที่เหลือ หลังจากเข้าร่วมกับสโมสรเมฆาแล้ว พวกเธอก็จะได้รับตำแหน่งรักษาการณ์รองประธาน”

เมื่อนักศึกษารอบข้างได้ยินคำพูดของหยางหมิงลู่ ดวงตาของพวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความอิจฉา

สโมสรเมฆาเป็นหนึ่งในสามสโมสรชั้นนำของสถาบันมุมทองและยังเป็นสโมสรที่มีชื่อเสียงที่สุดอีกด้วย

เมื่อเข้าสู่สโมสรเมฆา มันก็ไม่เพียงแต่จะมีเงินอุดหนุนรายเดือนเท่านั้น แต่รุ่นพี่ในสโมสรก็ยังสามารถพารุ่นน้องไปยังที่ถิ่นทุรกันดารเพื่อยกเลเวลได้ฟรี เมื่อพวกเขารับภารกิจ พวกเขาก็ยังสามารถร่วมมือกับรุ่นพี่ชั้นนำในสโมสรได้อีกด้วย มันยอดเยี่ยมมาก

โดยทั่วไปแล้ว สโมสรระดับแนวหน้าอย่างสโมสรเมฆาก็จะรับสมัครสมาชิกจากสิบอันดับแรกของสถาบัน นอกจากนี้ เลเวลของพวกเขาก็จะไม่ต่ำกว่า 20

แม้ว่าจะมีการรับสมัครนักศึกษาใหม่ แต่พวกเขาก็จะเคลื่อนไหวหลังจากที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของนักศึกษาใหม่อย่างชัดเจนแล้วเท่านั้น

พวกเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเห็นประธานของสโมสรเมฆามาเชิญนักศึกษาใหม่สี่คนเป็นการส่วนตัวในครั้งนี้

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสองคนนี้ได้รับการดูแลในระดับรองประธาน นี่คือสิ่งที่สมาชิกหลายคนของสโมสรเมฆาต่างใฝ่ฝัน

ดูเหมือนว่าประธานของสโมสรเมฆาหยางหมิงลู่จะให้ค่ากับศักยภาพของลู่หยานและไป่เมี่ยวเป็นอย่างมาก

เดิมทีหยางหมิงลู่ก็วางแผนที่จะเชิญสามพี่น้องไป่เข้ามาเพราะเขารู้จักตระกูลไป่แห่งแม่น้ำเหนือดี

ตระกูลไป่แห่งแม่น้ำเหนือถือเป็นตระกูลทหาร สมาชิกตระกูลไป่หลายคนเข้าร่วมกับกองทัพ และเกือบทั้งหมดก็มีอำนาจสูงมาก

นี่เป็นเพราะคนที่อ่อนแออาจตายไปแล้วก่อนที่พวกเขาจะทันได้ก้าวเข้าสู่โลกภายนอกเสียด้วยซ้ำ

หยางหมิงลู่ได้เห็นวิดีโอการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของไป่เมี่ยวและตัดสินใจเชิญไป่เมี่ยว

สำหรับลู่หยาน เขาก็ได้ตัดสินใจหลังจากดูการต่อสู้ระหว่างเขากับไป่เยว่เจอ

ศักยภาพของผู้ชายคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าของไป่เมี่ยวเลย

ในฐานะประธานของสโมสรเมฆา การตัดสินใจของหยางหมิงลู่ก็เด็ดขาดมาก

ลู่หยานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับสโมสรมาจากในฟอรัมของสถาบันแล้ว

สโมสรนั้นเทียบเท่ากับกลุ่มเล็กๆ ในสถาบัน สถาบันยังให้การสนับสนุนสโมสร และสโมสรที่แข็งแกร่งก็จะสามารถได้รับทรัพยากรจำนวนมากจากสถาบันได้

แน่นอน สถาบันจะให้สโมสรทำภารกิจพิเศษบางอย่างด้วย

นอกเหนือจากนักศึกษาบางคนที่มีบุคลิกแปลกๆ แล้ว คนอื่นๆ ก็มักจะเข้าร่วมกับสโมสรเพื่อพัฒนาตน

ลู่หยานมีความคิดเป็นของตัวเอง ในฟอรัม ชื่อเสียงของสโมสรเมฆาก็สูงมากเช่นกัน มันมียอดฝีมือมากมายในหมู่พวกเขา

อย่างไรก็ตาม การเข้าร่วมกับสโมสรก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เขาต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

อย่างน้อยที่สุด เขาก็ต้องทำความรู้จักกับสโมสรอีกสองสามแห่งก่อนที่จะเข้าร่วม

“เอ่อ ผมจะขอเก็บไปคิดดูก่อนนะ ถ้าผมต้องการจะเข้าร่วมด้วยล่ะก็ ผมก็จะติดต่อคุณไป” ลู่หยานมองไปที่หยางหมิงลู่ข้างหน้าเขาแล้วพูด

หยางหมิงลู่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่กล้าจะปฎิเสธคำเชิญส่วนตัวของเขา อย่างไรก็ตาม จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “แน่นอน นี่คือข้อมูลการติดต่อของฉัน เมื่อรุ่นน้องลู่หยานพิจารณาเสร็จแล้ว เธอก็สามารถติดต่อฉันได้ตลอดเวลาเลย”

จากนั้นหยางหมิงลู่ก็จ้องมองไปที่ไป่เมี่ยว

ไป่เมี่ยวมองไปที่หยางหมิงลู่และพูดว่า “ฉันขอโทษด้วย แต่ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันต้องการจะเข้าร่วมกับสโมสรอะไร”

เมื่อได้ยินคำพูดของไป่เมี่ยว รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางหมิงลู่ก็แข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่จากนั้นเขาก็พูดต่อด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ในเมื่อพวกเธอทั้งสี่คนได้เลือกแล้ว งั้นฉันก็จะไม่บังคับพวกเธอ”

เมื่อพูดจบ หยางหมิงลู่ก็เดินออกไปพร้อมกับสมาชิกของสโมสร

“ให้ตายเถอะ นั่นเจ๋งไปเลย พวกเขากล้าจะปฎิเสธสโมสรเมฆาด้วย!”

“หยางหมิงลู่เสนอการปฏิบัติแบบรองประธานให้กับพวกเขา แต่ลู่หยานคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กัน? ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงจะตอบตกลงไปแล้ว”

“ฉันอยากรู้จังว่าไป่เมี่ยวจะเลือกสโมสรไหน สโมสรนั้นน่าจะรับเธอมาเข้าร่วมด้วยตั้งแต่ล่วงหน้าแล้ว”

ขณะที่ทุกคนพูดคุยกัน ลู่หยานก็ออกจากเวทีและเตรียมไปที่ห้องสมุดเพื่อดูว่ามันมีสกิลที่เป็นประโยชน์หรือไม่

สามพี่น้องตระกูลไป่อยู่ข้างหน้าเขา และเขาก็ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะไปที่ไหน

หลังจากเดินไปได้สักพัก ไป่เยว่เจอก็หันกลับมาและหยุดอยู่หน้าลู่หยาน เขามองไปที่ลู่หยานด้วยท่าทางโกรธจัด

“เฮ้ นายไม่เห็นต้องตามติดฉันขนาดนี้เลยก็ได้นี่จริงไหม? ฉันรู้ว่าในเมื่อฉันแพ้แล้ว บ้านอันดับ 2 ก็จะตกเป็นของนาย ฉันจะเปลี่ยนบ้านกับนายในคืนนี้แน่ นายไม่จำเป็นต้องมาเร่งฉันแบบนี้ก็ได้!”

5 3 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด