ตอนที่แล้วตอนที่ 42
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 44

ตอนที่ 43


อเล็กซ์ฟื้นฟูตัวเองจนกลับมาเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งพวกเอมิลและคนอื่นๆก็ได้มอบยาฟื้นฟูพลังงานต่างๆให้อเล็กซ์ด้วย แต่เขาไม่ได้ใช้ และเก็บมันเอาไว้

เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าอเล็กซ์นั้นมีคลาส นินชู ที่มีความสามารถในการรักษาค่าสถานะผิดปกติเกือบทั้งหมดในร่างกาย

อเล็กซ์ถูกเรียกมาประชุมบนเรือใหญ่ พร้อมด้วยบุคคลสำคัญทั้งหมดในปฏิบัติการนี้

" เราได้ทำการยืนยันแน่ชัดแล้วว่า พวกเบฟอกทั้งหลาย เลือกที่จะแยกย้ายกันหลบหนี ไม่เหมือนเมื่อก่อน ที่ยินดีสู้จนตัวตาย…. "

" …. นี้แสดงให้เห็นว่า การสังหารราชินีถือเป็นวิธีจัดการพวกมันที่ได้ผล เพราะฉะนั้นในเวลานี้ เราต้องขอบคุณ สมาคม นักตกปลา ที่ช่วยเหลือทางการเอาไว้ในครั้งนี้ ทำให้พวกเราได้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ "

กัปตันเรือของกองทหารเรือกล่าวขอบคุณไปทางคนของสมาคม นักตกปลาทั้งหมด

ซึ่งแน่นอนเขาหมายความอ้อมๆถึงอเล็กซ์ แต่อเล็กซ์ก็เป็นคนของสมาคม นักตกปลา จะพูดโดยรวมไปเลยก็ถือว่าไม่ผิดนัก

" พวกเราจะมอบเรื่องนี้ให้ทางเบื้องบน และจะมอบรางวัลให้ทุกคนในครั้งนี้อย่างงดงาม "

กัปตันเรือก็พลอยมีความสุขไปด้วย พวกเขาทำผลงานครั้งใหญ่สำเร็จ และเปิดเส้นทางเดินเรือที่เป็นปัญหาของพวกเขามาโดยตลอดได้

ดังนั้น งานนี้ทุกภาคส่วนล้วนยินดีที่ได้รับค่าตอบแทนสูง เพราะภารกิจสำเร็จอย่างงดงาม

รวมถึงอเล็กซ์ ที่ทางสมาคม นักตกปลา จะเป็นคนมอบรางวัลต่างๆให้เอง

สิ่งที่อเล็กซ์ได้ทำลงไป เรียกได้ว่ามีมูลค่าเกินหลัก 10,000 เหรียญทองเลยทีเดียว แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แต่เขาคือกุญแจพวงสุดท้าย ที่ทำให้สิ่งนี้สำเร็จได้ในที่สุด

อเล็กซ์ที่เห็นเวลานี้เป็นโอกาส เขาจึงเดินเข้าไปหาหัวหน้าสมาคม นักตกปลา พร้อมกล่าวความต้องการของตัวเองทันที

" ท่านหัวหน้าสมาคม ข้าอยากที่จะขอรางวัลเป็นสิ่งที่เฉพาะเจาะจงหน่อย ท่านช่วยส่งเรื่องนี้ให้ท่านเจ้าเมืองได้หรือไม่ ? "

" โอ้ เจ้าอยากได้อะไรเป็นรางวัลหล่ะ "

หัวหน้าสมาคมคิดไปไกล จนกลัวว่าอเล็กซ์อาจจะขอเกราะ ที่ทางสมาคมให้ยืมไป เพราะอเล็กซ์เป็นเด็กหนุ่มที่เหมาะกับเกราะนี้มากทีเดียว

แต่มาคิดอีกที เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านไปถึงเจ้าเมืองเลย เขาจึงรอฟังอีกฝ่ายอธิบาย

" ข้าเพียงต้องการที่ดินในเมือง ข้าต้องการเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง "

" ที่ดิน ? เปิดร้านอาหาร ? "

หัวหน้าสมาคมที่ได้ฟัง ก็ประหลาดใจกับคำขอที่กลายเป็นเช่นนี้

แม้เรื่องที่ดินจะเป็นเรื่องซับซ้อนที่มีเพียงพวกขุนนางหรือระดับสมาคมถึงจะซื้อได้ แต่ถ้าเรื่องนี้ไปถึงเจ้าเมืองโดยตรง มันก็อาจจะมีโอกาสเป็นไปได้

" โอเค ตกลง ข้าจะไปบอกเจ้าเมืองให้ แต่ก็ไม่รับรองผลหรอกนะ "

" ข้าเข้าใจ "

อเล็กซ์บอกลา และกลับมาครุ่นคิดถึงแผนการในอนาคต

เขากำลังคิดถึงแผนการสร้างอาณาจักรธุรกิจเป็นของตัวเอง

อย่างแรกเขากำลังพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งสุด เพราะมีข้อมูลจากอนาคตสมัยเล่นเกมส์

แต่เขาก็มีความรู้ในด้านอื่นๆ แถมพละกำลังเพียงอย่างเดียวก็อาจจะช่วยเหลือเขาไม่ได้ทุกอย่าง

เขาจึงอยากจะเริ่มด้วยการทำธุรกิจ ที่ทำเงินให้เขาเป็นกอบเป็นกำ

ซึ่งเขาจะเปิดร้านอาหาร และมีเมนูส่วนใหญ่เป็นเมนูปลา

เขาจะได้ไม่ต้องขายปลาทั้งหมดให้กับทางสมาคม และนำมันไปแปรรูปโดยตรง ทำให้มูลค่าของสินค้าเพิ่มขึ้น

' แต่เราก็ต้องหาคนช่วยบริหาร พ่อครัว ช่างก่อสร้าง ซึ่งทั้งหมดล้วนใช้เงินมหาศาล '

ด้วยภาระเรื่องเงินเริ่มเข้ามา เขาจึงคิดจะใช้เวลาพัฒนาเจ้า อควา ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

มันจะได้ทำให้อเล็กซ์สามารถเก็บปลาจากการเดินทางได้เป็นจำนวนมาก

อเล็กซ์มีข้อได้เปรียบเรื่องการหาปลาวิเศษจากน้ำลึก ซึ่งมันจะเป็นอาหารหลักในร้านอาหารของเขา….

….

เวลาผ่านไป 2 วัน

อเล็กซ์และคนอื่นๆก็เดินทางกลับมาถึงเมือง พวกเขาพูดคุยกันเล็กน้อยและแยกย้ายกันไปพักผ่อน

อเล็กซ์ที่กำลังจะเข้าโรงแรมไปหา สไลม์สองตัวที่ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

ก็มีชายชราหลังค่อมเดินเข้ามาดักเขาเอาไว้ ซึ่งอเล็กซ์ก็พอมองอีกฝ่ายออก จึงดึงเข้าไปในห้องพักของเขา

" บ้าไปแล้ว นายเป็นคนโจมตีเรือสินค้าอาวุธเถื่อนของพวกมันด้วยตัวคนเดียวจริงหรอ ? "

" ใช่ แล้วนายได้ข้อมูลแบบไหนมาหล่ะ "

อเล็กซ์ยกน้ำชาขึ้นมาจิบ พร้อมเดินไปสำรวจสไลม์สองตัวที่ยังอยู่ดี ท่าทีดูไม่ได้แตกตื่นแบบที่อีกฝ่ายแสดง

เขากำลังจะทดสอบข้อมูลที่อีกฝ่ายได้มา หากมันละเอียดมาก ก็แปลว่าเจ้า นักเวทย์เพลิงนั่นอาจจะหักหลังเขาเอา และเป็นการทดสอบว่าชายตรงหน้า มีแหล่งข้อมูลแค่ไหน

" ข้ารู้เพียงแค่ว่าพวกในขบวนเรือนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาพยายามงมหาซากเรือ แต่ในเวลานี้ก็ยังไม่พบ "

อเล็กซ์ที่ได้ฟังก็หรี่ตาลง มีทางเป็นไปได้สองทาง ก็คือนักเวทย์เฒ่านั่นทรยศและปกปิดเรื่องราวเอาไว้

กับทางที่สอง พวกนั้นไม่รู้เรื่องราวทั้งหมดจริงๆ และนักเวทย์เฒ่านั่นก็หลบหนีไปแล้ว

" เจ้าช่างแข็งแกร่งจริงๆ ถ้าข้ามีความแข็งแกร่งของเจ้าซักครึ่งก็คงดี "

ชายชราที่อยู่ในชุดปลอมตัวกล่าวกับตัวเองอย่างหดหู่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความทะเยอทะยานในการแก้แค้น

แต่ในอดีต เขามีบาดแผลอย่างหนักในการต่อสู้ เพียงแค่จะออกหมัด เขายังสั่นไปทั่วทั้งตัว สำหรับเรื่องนี้ ในโลกที่ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่ง มันไม่ต่างจากคำสาป

มันจึงทำให้เขาพัฒนาตัวเอง เกี่ยวกับคลาสต่อสู้ไม่ได้ซักนิด

" ทุกคนต่างมีความเก่งกาจเป็นของตัวเอง ความสามารถด้านนักสืบและการปลอมตัวของเจ้าก็ไม่ธรรมดา เพราะฉะนั้นจงใช้ด้านนั้นให้เป็นประโยชน์ซะสิ "

" แม้จะมีคลาสสายอาชีพมากแค่ไหน แต่ถึงยังไงก็ต้องมีคลาสหลัก เพื่อพัฒนาร่างกายตัวเองอยู่ดี "

" นั่นก็จริง งั้นเจ้ามีคลาสอะไรกัน ? "

" ข.. ข้าเป็นนักสู้ขั้นหนึ่ง แต่ไม่ได้สู้มานานแล้ว "

อเล็กซ์สังเกตุอีกฝ่าย และพบว่าเมื่อพูดถึงการต่อสู้ อีกฝ่ายจะสั่นเทาเบาๆ แม้พยายามจะทำให้นิ่งก็ตาม

นี้เป็นอาการที่เหนือจิตสำนึก ชายคนนี้คงผ่านเรื่องราวที่กระทบจิตใจมาอย่างแรง

" งั้นข้ามีข้อเสนอให้กับเจ้า มาทำงานกับข้าซะสิ ข้าจะช่วยเจ้าทั้งเรื่องแก้แค้น และเรื่องให้เจ้าพัฒนาตัวเองด้วย แลกกับการที่เจ้ามาทำงานต่างๆให้กับข้า "

" จริงหรอ ? แต่ข้าจะทำได้จริงๆหรอ ? "

" นั่นก็ต้องรอดูก่อน แต่ก่อนอื่นเจ้าชื่ออะไรกันแน่ หรือไม่ต้องชื่อจริงก็ได้ ให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไร "

" เรียกข้าว่า เม.. สัน "

เมสันกล่าวออกมาอย่างไม่เต็มเสียงนัก แต่สิ่งนี้ทำให้อเล็กซ์เชื่อว่าอีกฝ่ายกำลังแสดงความจริงใจออกมา

หากเขาเลือกที่จะทำการแสดงเป็นแบบที่เขาทำบ่อยๆ อาการแบบนี้ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น หรืออาจจะเป็นการหลอกลวงที่ก้าวไปเป็นระดับสมจริงแล้ว มันก็มีความเป็นไปได้

" เอาหล่ะ เมสัน ถ้าเจ้าตกลง งั้นเดี๋ยวเรามาทำพันธสัญญากัน แล้วเราค่อยคุยเรื่องอื่น "

" พันธสัญญา นี้เราต้องทำถึงขั้นนั้นเลยหรอ ? "

เมสันเริ่มเกิดอาการต่อต้าน เขาเคยได้ยินเรื่องการทำพันธสัญญาทาสอยู่ เขาไม่อยากจะกลายเป็นทาสของผู้อื่น นี้เป็นสัญชาตญาณของคนทั่วไปที่เข้าใจได้

" หากไม่มีพันธสัญญา เราก็คงจะร่วมมือกันไม่ได้หรอกนะ เจ้าเก็บเรื่องนี้ เอาไปคิดแล้วกัน "

เมสันสตั้นไปอยู่นาน แต่แล้วเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนแววตาไปเป็นแววตาที่แน่วแน่

" ข้ายอมทำก็ได้ แต่เจ้าจะจัดการเรื่องหนี้แค้นให้ข้าจริงๆสินะ "

" แน่นอน สิ่งนั้นก็จะอยู่ในพันธสัญญา อันธพาลในเมืองเล็กๆแบบนี้ ไม่เห็นมีปัญหาตรงไหน "

" ได้ งั้นข้ายอมตกลง "

เมสันตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาต้องการแก้แค้นด้วยทุกวิถีทางอยู่แล้ว

ในเมื่ออีกฝ่ายยื่นข้อเสนอให้ขนาดนี้ แถมอีกฝ่ายก็มีคุณสมบัติที่ทำให้เขาเชื่อว่าทำได้สำเร็จด้วย

" เอาหล่ะ เจ้ารออยู่นี้ ข้าจะไปซื้อคัมภีร์พันธสัญญาก่อน ไม่นานหรอก "

อเล็กซ์เดินออกจากห้องพักไป ทิ้งไว้ให้เมสันงุงงงเล็กน้อย

' พันธสัญญาแห่งทาส มีขายเฉพาะเมืองนอกกฏหมาย หรือในสังคมมืดเท่านั้น แล้วเจ้านั่นจะไปซื้อที่ไหน ? '

แต่อเล็กซ์พอว่าเพียงไม่นาน และให้เขารออยู่ที่นี้

ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง

เมสันกำลังร้อนรนในใจ อเล็กซ์ก็กลับมาพร้อมม้วนคัมภีร์ที่เขาใช้เงินไปเกือบ 25 เหรียญทองเพื่อซื้อมา

" เจ้าพร้อมหรือยัง ? "

" ได้ข้าพร้อมแล้ว "

" เอาหล่ะ เรามาตกลงกันก่อน พันธสัญญาว่าจ้าง ทั้งหมดเป็นเวลา 2 ปี เจ้าจะได้เงินต่อเดือน 10 เหรียญทอง และอาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้นตามผลงาน หน้าที่ของเจ้าเพียงแค่ฟังคำสั่งและทำหน้าที่ที่ถูกมอบหมายให้ ซึ่งอาจจะช่วยคิดวิเคราะห์สิ่งที่ดีกว่าได้ แต่คำสั่งก็ยังมีเงื่อนไขถ้าหากเจ้าไม่ยินยอมก็สามารถปฏิเสธได้… "

เมสันงุนงงในตอนแรกและในที่สุด เขาก็เข้าใจ พันธสัญญาที่อเล็กซ์หมายถึงคือพันธสัญญาว่าจ้าง แต่ถึงอย่างนั้นพันธสัญญานี้ก็ไม่ใช่ราคาถูก

" …. แต่ว่า เจ้าห้ามทรยศหรือนำข้อมูลใดๆของข้าไปเปิดเผยอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกพันธสัญญานี้ฉีกหัวใจเป็นชิ้นๆ …. "

" …. ในทางกลับกัน ในฐานะนายจ้าง ข้าก็ขอรับปากว่าจะช่วยเหลือเจ้ากำจัดหนี้แค้นของเจ้า หากผิดคำสัญญา พวกเราทั้งคู่จะถูกพันธสัญญาฉีกหัวใจเป็นชิ้นๆ … เจ้าตกลงไหม ? "

" ข้าเมสัน ขอทำพันธสัญญา "

เมสันเห็นพันธสัญญาที่เป็นธรรมแบบนี้ เขาก็ไม่มีความลังเลอีกต่อไป ต่อภายในใจส่วนหนึ่ง เขากับคิดถึงเรื่องของน้องสาว แต่หากเพิ่มเงื่อนไขในการหาน้องสาวเข้าไป มันอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไปสำหรับอเล็กซ์

น้องสาวของเขาหายไปหลายปีแล้ว สิ่งที่เขามี มีเพียงความหวังโง่ๆเท่านั้นที่จะเจอเธอ

อเล็กซ์จึงกางม้วนคัมภีร์ แสงสีฟ้าพร้อมตัวอักษรปรากฏ พวกเขาทั้งสองจึงกล่าวตามคำสัญญาและเงื่อนไข

เมื่อกล่าวจบ แสงก็เข้าไปที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายของทั้งสองคน และสัญญามีระยะเวลา 2 ปี

" เอาหล่ะ เราทำพันธสัญญาเรียบร้อย แต่เราต้องมาทำความเข้าใจกันอีกครั้ง ข้าไม่ได้คาดหวังให้เจ้าจงรักภักดีหรือสรรเสริญบูชา แต่เจ้าเพียงแค่ทำหน้าที่ที่รับมอบหมายให้ดี ทำดีมีรางวัล ทำผิดโดนลงโทษ เข้าใจไหม …. "

" ได้ขอรับ "

" เอาหล่ะ เรามาพูดถึงเจ้าซักหน่อย เจ้าควรจะลองถามตัวเองดูชัดๆนะ ว่ายังต้องการต่อสู้อยู่ไหม หากไม่ ข้าจะสอนวิธีกระตุ้นคลาสหลัก ที่ไม่ใช่สายต่อสู้ให้ "

ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ อเล็กซ์พบแต่พวกที่มีคลาสหลักเกี่ยวกับการต่อสู้ แต่ในโลกนี้มีคลาสให้เลือกมากกว่า 1,000+ คลาส

มันมีคลาสโง่ๆอย่าง คลาส นักยกน้ำหนัก คลาส จอมพลัง คลาสนักวิ่ง คลาส จ้าวลมกรด

ซึ่งคลาสพวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นคลาสเงื่อนไขเสริม ที่จะนำไปกระตุ้นคลาสขั้นสาม โดยนำไปรวมกันคลาสสองอื่นเพื่อกระตุ้นคลาสขั้นสาม

หากอีกฝ่ายไม่อยากต่อสู้หรือต่อสู้ไม่ได้ อเล็กซ์ก็จะสอนอีกฝ่ายให้เป็นคลาส จ้าวลมกรดเวหาขั้นสามซะ

ซึ่งคลาสนี้ไม่มีวิชาต่อสู้เลย ไม่สิ มันก็อาจจะมีแต่ไม่ควรเอาไปต่อสู้ ทักษะและความสามารถทั้งหมดคือการวิ่ง

แถมจะได้ค่าสถานะร่างกาย ความว่องไวมหาศาล เรียกได้ว่าไม่มีความสามารถอื่นเลยนอกจากความไว

แต่อเล็กซ์ก็คิดว่ามันก็ไม่เลวนะ คลาสนักสืบกับความรวดเร็ว แม้เขาจะไม่ต้องต่อสู้ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวตนที่มีอิทธิพลได้ ด้วยความสามารถที่ไม่มีใครสามารถจับตัวได้ พร้อมการสืบข้อมูลและการปลอมตัว

เมสันถูกโยนคำถามนี้มาให้ แต่เขาก็ยังคงหาคำตอบมาให้ไม่ได้ พวกเขาจึงแยกย้าย และให้มาพบกันในวันพรุ่งนี้….

….

เมสันกลับมาถึงบ้านพักเก่าๆ เขาถอดผ้านวมที่ด้านหลังพร้อมดึงหนวดปลอมออก

เขาเดินไปในมุมหนึ่งที่มีปลอกแขนวางเอาไว้อยู่ ซึ่งมันเป็นปลอกแขนของพวกนักสู้

หลังจากนั้นเขาก็คุกเข่าพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลออกจากดวงตา

" ท่านพ่อ ขะ… ข้าไม่สามารถ …. ข้าไม่เคยอยากเป็นนักสู้มาตลอด ข้าไม่ชอบต่อสู้ …. ข้ากลัววว… "

" …. แต่ข้าสัญญา ข้าจะล้างแค้นเจ้าฟอรัสนั่น ที่มันหักหลังท่าน และตามหาน้องสาวให้เจอ แม้จะใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตาม …  "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด