ตอนที่แล้วตอนที่ 233 หยูเจียวหลงหึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 235 มันคับไป

ตอนที่ 234 พลังแท้จริงของหยูเจียวหลง(ตอนฟรี)


ซูสือแปลกใจเล็กน้อย

หยูเจียวหลงเป็นคนพิเศษมาก

ทั้งกล้า ทะลึ่ง แน่วแน่ อิสระ ว่าง่ายและโหดเหี้ยม

ไม่เพียงจะโหดต่อศัตรู แต่ยังโหดกับตัวเองด้วย

โดนแช่แข็งด้วยน้ำแข็งนิรันดร์มาหลายปี

สุดท้ายนางก็ได้รับการรักษาและนางก็ต้องทนความเจ็บปวดของพิษเย็นที่กัดกินตัวนางทั้งวันทั้งคืน

คนอื่นคงไม่เข้าใจความเจ็บปวดที่นางประสบ

แต่นางยังแข็งเหมือนเหล็กกล้า ไม่แสดงความอ่อนแอสักนิด

ในเมืองทรายใต้ดิน โดยการพึ่งพาคำพูดของซูสืออย่างเดียว นางกล้าจะฆ่าตัวตายตรงนั้น

ภาพของหอกเงินที่แทงทะลุหน้าอกนางยังสดใหม่ในหัวเขา

ในแง่การบ่มเพาะ นางด้อยกว่าจักรพรรดินมารและจักรพรรดินี

แต่ในแง่ของความเด็ดขาด ซูสือไม่เคยเจอใครเด็ดขาดเท่านาง!

นางเป็นหญิงแกร่ง แต่ตอนนี้ นางกำลังเกลี่ยนิ้วอย่างอ่อนโยนและกระซิบข้างหูเขา

“นักบุญหยู..”

พอเห็นแก้มแดง ซูสือก็กลืนน้ำลาย

หยูเจียวหลงพูดเสียงเบา“มีอะไรหรือ?”

“ท่านควันออก”

เขาเห็นควันขาวลอยเหนือหัวนาง

นี่เป็นสัญญาณว่านางอาย

หยูเจียวหลงเงียบไปและรกะซิอบ“เซิ่งจื่อคิดว่าข้าประหลาดไหม?”

ซูศือขมวดคิ้ว“ทำไมถึงพูดแบบนั้น?”

หยูเจียวหลงพึมพำ“มันดูเหมือนข้าจะเกาะติดเจ้าเกินไป”

ก่อนซูสือจะตอบ นางก็พูด“ข้าไม่รู้ว่าข้าเป็นอะไร ข้ามักอยากอยู่ข้างกายเจ้า หัวใจข้ารู้สึกว่างเปล่าเมื่อไม่เจอเจ้า”

“ข้ารู้ว่ามันไม่ถูกต้อง แต่ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้”

ไม่มีน้ำมากพอเมื่อข้ามทะเล

ก่อนหน้านี้ ความหนาวเย็นเป็นเรื่องปกติสำหรับนาง

แต่เมื่อนางเห็นแสงแดดแท้จริง นางจึงไม่สามารถต้านทานความหนาวเย็นได้อีก

ซูสือเหมือนแสงแดดในหุบเหว หลอมละลายน้ำแข็งรอบใจนาง นางไม่เคยตระหนักชัดเจนขนาดนี้มาก่อนว่านางยังมีชีวิต

นางเริ่มรู้สึกไม่แน่นอน

นางอยากเข้าใกล้ขึ้น แต่กังวลว่าเขาจะไม่ชอบ

“นักบุญหยูไม่ต้องควบคุมตัวเอง”

ซูสือยิ้ม“ข้าก็ชอบอยู่กับท่าน”

หยูเจียวหลงกะพริบตา.“จริงสิ ข้าชอบนิสัยท่าน”

“และตัวท่านยังทั้งนุ่มและหอม กอดสบายมาก ต่อให้มันเพื่อช่วยท่านขับไล่พิษเย็น แต่ตามตรงแล้ว..ข้าค่อนข้างชอบ’

ซูสือแตะจมูกเขินนๆ

เขายังหน้าแดงด้วยตอนพูด

หัวใจของหยูเจียวหลงเต้นกระหน่ำ ควันเหนือหัวนางหนาขึ้น

นางกัดริมฝีปาก “ข้าคิดว่าข้าคงไม่อยากแยกจากเซิ่งจื่อ”

หัวใจของซูสือเต้นเป็นจังหวะ

สิ่งที่น่าประทับใจสุดคือความจริงใจ

ไม่ต้องมากความ แค่ความจริงใจก็พอ

บรรยากาศทั้งสงบและอบอุ่น

ตอนนั้นเอง ซูสือคิดถึงบางสิ่ง“ว่าแต่ ไฟเทพของข้าเปลี่ยนแปลงแล้ว ข้าควรสามารถลองขับไล่พิษเย็นได้”

“เปลี่ยนแปลงอีกแล้ว?”

หยูเจียวหลงตกตะลึง

ในเวลาไม่นาน ไฟของซูสือเปลีย่นแปลงถึงสองรอบ

การพัฒนาไฟเทพนั้นยากมาก แต่ละการพัฒนาต้องการโอกาสครั้งใหญ่ ไม่งั้น นางคงไม่ต้องทนพิษเย็นมานานขนาดนี้

แต่สำหรับเขา มันง่ายเหมือนกินดื่ม

ซูสือคว้าข้อมือของหยูเจียวหลง

ไฟสีทองเจิดจ้าค่อยๆใหลไปตามเส้นชีพจร

พิษเย็นในตัวถูกกระตุ้น พุ่งออกจากไขกระดูก พยายามดับไฟ

แต่ไม่เหมือนครั้งก่อน ครั้งนี้ไฟเทพไม่ถอยร่น แต่กลับรุกคืบ

ไฟเทพดวงดาวได้แต่ขับไล่ความหนาวเย็น

แต่พลังของไฟสวรรค์ดาวเจิดจ้านี้ไม่เหมือนกัน!

ซูสือพยักหน้า“เช่นนี้แล้ว มันจะใช้เวลาประมาณเดือนเพื่อถอนพิษเย็นจนหมด จากนั้นท่านจะกลับมาเป็นปกติ”

“กลับเป็นปกติ?”

ดวงตาของหยูเจียวหลงเหม่อลอย

นางลืมไปแล้วว่าชีวิตปกติเป็นอย่างไร

“ข้าไม่อยาก!’

หยูเจียวหลงดึงมือนางออกและพูดอย่างประหม่า“ถ้าพิษเย็นถูกถอน ข้าก็จะไม่สามารถกอดเซิ่งจื่อได้แล้วนะสิ?!”

ถ้าเป็นเช่นนั้น นางยอมทนความเจ็บปวดเสียดีกว่า

ซูสือหัวเราะ“กอดได้สิ”

“ค่อยโล่งอกหน่อย”

หยูเจียวหลงถอนหายใจ“งั้นเซิ่งจื่อโปรดทำต่อเลย”

ไฟเทพกัดกินพิษเย็น และกระดูกกับเส้นชีพจรที่แข็งตัวก็ค่อยๆละลย

ความง่วงกลืนกิน แต่นางปฏิเสธที่จะหลับและจ้องมองซูสือ

หลังผ่านไปนาน พิษเย็นส่วนใหญ่บนแขนขวาก็โดนกำจัด

แคร่ก

มีเสียงปริแตกเบาๆจากภายในตัวหยูเจียวหลง

หลังจากนั้น ลมก็พัดและพลังปราณก็พุ่งเข้าตัวนาง

กลิ่นอายคเพิ่มขึ้น และทรงพลังกว่าเดิมหลายเท่า!

ซูสือขมวดคิ้ว“นกบุญหยู นี่…”

“ฐานบ่มเพาะของข้าโดนทำลายไป”

“ตอนนี้มันฟื้นฟูแล้ว’

สีหน้าของหยูเจียวหลงสงบ ราวกับคาดเอาไว้แล้ว

“ฟื้นฟู?”

ซูสือสับสน.“นักบุญหยูอยู่ในอาณาจักรประสานลึกล้ำไม่ใช่หรือ?”

หยูเจียวหลงส่ายหัว”ก่อนข้าโดนแช่แข็งด้วยน้ำแข็งนิรันดร์ อาณาจักรของข้าคืออาณาจักรสวรรค์ขั้นสูงสุด’

“ว่าไงนะ?”

ซูสืออุทาน

จุดสูงสุดของอาณาจักรสวรรค์?

ไม่น่าแปลก ท่ามกลางสี่นักบุญ อีกสามล้วนมีฐานบ่มเพาะสูงกว่านาง มีแค่นางที่อยู่ในอาณาจักรประสานลึกล้ำ

แม้ฐานบ่มเพาะนางจะด้อย พลังก็แข็งแกร่งกว่าอีกสามรวมกัน

มันกลายเป็นว่าฐานบ่มเพาะนางโดนผนึก

“แต่ในเมื่อท่านคือยอดฝีมือที่ก้าวข้ามบททดสอบของสวรรค์มาแล้ว แล้วท่านจะโดนแช่แข็งได้ไง?”

ซูสือสับสน

แสงเย็นแวบในดวงตาของหยูเจียวหลง“’ต่อให้มันเป็นอาณาจักรสวรรค์ขั้นสูงสุด มันก็ยังไม่นับเป็นอะไรต่อหน้าผู้ยิ่งใหญ่…แต่นี่เป็นเรื่องในอดีต”

ผู้ยิ่งใหญ่?

ซูสือขมวดคิ้ว

ประสบการณ์ของนางต้องไม่ธรรมดา

แต่พอเห็นอีกฝ่ายไม่อยากพูด เขาจึงไม่ถามเพิ่ม

ตอนนี้ เสียงเท้าดังจากด้านนอกห้อง

“ชิงเอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงคอยหยุดข้า?”

“วันนี้เจ้าดูแปลกมาก เจ้าซ่อนอะไรไว้?’

เสียงของเซินอี้เหรินดัง

ทั้งสองมองหน้ากัน

หยูเจียวหลงถอนหายใจ ลุกขึ้นและเดินไปทางหน้าต่าง

ซูสือสงสัย”นักบุญหยู ทำอะไรนะ?’

หยูเจียวหลงพูด“เซิ่งจื่อ อย่าบอกว่าข้าอยู่ที่นี่ ไม่งั้นนางจะบอกว่าข้าเป็นวัวแก่ที่จ้องกินหญ้าอ่อนอีก”

ซูสือ“..”

หยูเจียวหลงมองเขาและพูดอายๆ“คืนนี้ข้าจะมานอนกับเจ้า”

หลังพูดจบ นางก็เปิดหน้าต่างและกระโจนออกไป

ในเวลาเดียวกัน ประตูก็ถูกผลักเปิด

“ข้าอยากเห็น เจ้าซ่อนอะไรไว้กันแน่..”

“ซูสือ?!”

เซินอีเหรินตกตะลึง

พอมองหนุ่มหล่อด้านหน้านาง นางก็ขยี้ตา“ข้าไม่ได้ตาฝาด!”

ไป่ชิงยังกอดแขนเซินอี้เหริน นางโล่งใจที่เห็นว่าไม่มีหยูเจียวหลงในห้อง

“ถ้านักบุญหยูกับเซินอี้เหรินเจอกัน บ้านนี้น่าจะพัง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด