ตอนที่แล้วตอนที่ 1020 ดูเหมือน.. คุณ จะรู้จักเขา?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1022 นี่เธอ.. ไปหา ผู้ชายที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิง มาเป็นแฟน?

ตอนที่ 1021 อ้าว.. เชี่ยแล้วไง


เมื่อมองไปที่ชายวัยกลางคนที่พิการคนนี้ หลินฟาน ยังคงมองไม่ออกเลยว่า.. เขาเคยเป็นอดีตดาวเตะชื่อดังของวงการฟุตบอล

เดี๋ยวก่อนนะ!

จีน.. เคยมีดาราฟุตบอลชื่อดังอยู่หรือไม่?

จากความรู้ที่มีอยู่จำกัดของ หลินฟาน เกี่ยวกับฟุตบอลทีมชาติ ในความประทับใจของเขา ฟุตบอลทีมชาติ ไม่ได้สร้างดาราดาวรุ่งขึ้นมาเลยด้วยมั้ง แม้ว่าจะมีนักเตะบางคนที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นดาวรุ่ง นั่นก็เพราะความแข็งแกร่งของพวกเขานั้น.. ยังไม่คู่ควร

มีนักเตะคนหนึ่งที่รู้จักกันในนาม ‘ต้าตี้’ (*大帝 - จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่) แต่นั่น.. มันก็เป็นเพียงการแซวเล่นๆ ขำๆ เท่านั้น

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง กล่าวว่า ชายวัยกลางคนคนนี้ เคยเป็นอดีตดาวเตะชื่อดังของวงการฟุตบอล ซึ่งมัน.. ก็อาจจะเป็นแค่การประชดประชันก็ได้มั้ง?

ไม่ว่า ชายวัยกลางคนคนนี้ ..จะเป็นใครก็ตามที แต่กลุ่มวัยรุ่นที่ได้รังแก ชายวัยกลางคนที่พิการ ..เช่นนี้ มันก็ดูออกจะไม่สมเหตุสมผล

“เขาทําอะไรไม่ดี พวกคุณถึงได้ทุบตีเขา?” หลินฟาน ได้ถาม

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง กล่าวว่า : “การทุบตี ไอ้แก่พิการ ยังต้องไปใช้เหตุผลอะไร? ใครบอกให้มันเดินไม่ดูทาง แล้วมาชน เล่าจื้อ แล้วดู.. กลิ่นเหม็นโสโครกจากตัวมัน ก็ทำเอาเสื้อผ้าของ เล่าจื้อ สกปรกไปหมด เล่าจื้อ บอกให้มันจ่ายมา แต่ดู.. ไอ้ขยะพิการนี่ มันไม่แม้แต่จะมีเงิน ดังนั้นฉันก็แค่ทุบตีมัน เพื่อระบายความโกรธ ซึ่งมันก็ถือว่าถูกต้องแล้ว!”

หลินฟาน กล่าวว่า : “พวกคุณได้ทุบตีเขาแล้ว มันก็สมควรที่จะหยุดได้แล้ว ถูกไหม?”

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้พูดไปว่า : “ถ้าแกบอกให้หยุด นี่ฉันต้องหยุด? แกคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ? เล่าจื้อ ยังทุบตีไม่พอ!”

หลินฟาน พูดว่า : “หยุดตีเขาได้แล้ว ดูร่างกายของเขา แล้วถ้าเกิดฆ่าคนตาย พวกคุณไม่ต้องติดคุกหรือไง? เอาอย่างนี้ พวกคุณก็มาตีฉัน ฉันจะรับมันแทนเขาเอง”

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง และคนอื่นๆ มองหน้ากัน และมีความสุขในทันที..

ชายวัยกลางคนที่พิการคนนั้น ก็ได้เงยหน้าขึ้นมอง ..ด้วยความประหลาดใจ เขาได้มองไปที่ หลินฟาน ชายหนุ่มคนนี้ ทำให้เขารู้สึกประทับใจมาก ทำไมเขาถึงยอมเสียสละได้ถึงขนาดนี้ ถึงขนาดที่ยอมถูกทุบตีแทนเขา?

“เฮ้ๆ พวกนายเคยได้เห็นคนดีแบบนี้ ..บ้างไหม?” ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้พูดติดตลก

คนอื่นๆ ก็พากันหัวเราะกันใหญ่

“ฉันเอง ..เกรงว่า ไอ้นี่ มันจะเป็นคนโง่ล่ะมั้ง!”

“หรือว่าไอ้นี่มันคิดว่าตัวเองเป็นพระบิดาอันประเสริฐ?”

“มัน.. ยอดเยี่ยมมาก…. งั้นเราก็มาทำให้มันรู้สึกพอใจกันเถอะ!”

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้จ้องมองไปที่ หลินฟาน และพูดพร้อมกับหัวเราะออกไปว่า : “แกต้องการจะถูกทุบตีแทนมัน จริงๆ นะเหรอ?”

หลินฟาน พูดด้วยสีหน้าจริงจังไปว่า : “เป็นความจริง พวกคุณก็รีบๆ เข้ามาเถอะ หรือ.. ไม่กล้าเข้ามา ถ้าพวกคุณไม่กล้า งั้นฉันก็จะถือว่าพวกคุณยอมแพ้ งั้นพวกคุณก็ออกไปได้แล้ว”

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้หัวเราะออกมาด้วยความโกรธ : “ไอ้หนู แกมารนหาที่ตายเอง งั้นก็อย่าได้มาโทษฉัน!”

พูดปุ๊บ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ก็ได้ยกกำปั้นขึ้น และกระโจนเข้าใส่ หลินฟาน เมื่อเขาได้มาถึงต่อหน้า หลินฟาน เขาก็ได้ต่อยเข้าไปที่หน้าท้องของ หลินฟาน หนึ่งหมัด และพยายามให้ หลินฟาน ล้มลงไป.. แล้วนี่ใครมันใช้ให้ หลินฟาน มาแสร้งทำเป็นบังคับ ไอ้ผู้ชายคนนี้ มันสมควรที่จะถูกสั่งสอนให้รู้ถึงจุดจบของไอ้พวกที่แกล้งทำเป็นบังคับ!

“พ่อหนุ่ม หนีไปเร็วๆ เข้า ไม่ต้องมาสนใจฉัน ฉันขอบคุณสําหรับความเมตตาของคุณ แต่คุณ และฉันไม่ใช่ญาติกัน คุณไม่จําเป็นต้องมาทําแบบนี้!” ชายวัยกลางคนที่พิการคนนั้น ได้ร้องตะโกน และพยายามเกลี้ยกล่อมให้ หลินฟาน หนีไป

วินาทีต่อมา หมัดของ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ก็ได้มาถึงหน้าท้องของ หลินฟาน และก็กำลังจะกระแทกหน้าท้องของ หลินฟาน อย่างแรง

วัยรุ่นกลุ่มนั้นต่างแสดงสีหน้ายินดี และเฝ้ารอดูความโชคร้ายของ หลินฟาน..

อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตา หลินฟาน ก็ได้หักหลบไปด้านข้างเล็กน้อย เพื่อหลีกเลี่ยงหมัดของ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง และเขาก็ได้ยกเข่าขึ้นกระแทกเข้าไปที่หน้าท้องของ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง โดยตรง

“อั๊กก!”

ดวงตาของ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง แทบที่จะระเบิดออกมา ใบหน้าของเขาก็ได้บิดเบี้ยว และร่างกายของเขาก็ได้โค้งงอเป็นกุ้ง มันเจ็บปวดมาก!

นี่...

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ทุกคนพากันมองหน้ากัน..

หลินฟาน ได้วางมือไว้บนไหล่ของ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง และพูดด้วยรอยยิ้มไปว่า : “เป็นไงบ้าง คุณ.. ทุบตีพอหรือยัง?”

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้ตกตะลึง เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเขา ..ได้ไปยั่วยุ ‘ต้าเฉิน’ (*大神 - มหาเทพ / เทพผู้ยิ่งใหญ่) มาตอนนี้เขาได้เข้าใจแล้ว ..ว่าทำไม หลินฟาน ถึงบอกให้เข้ามาทุบตีเขา แม่ง! แบบนี้แทนที่ฉันจะทุบตีเขา แต่กลับเป็นเขานี่แหละจะถูก หลินฟาน ทุบตี!

ฮือๆ ชายที่ย้อมผมสีเหลือง อยากจะร้องไห้จริงๆ

“พอแล้ว พอแล้ว..” ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว

หลินฟาน พูดว่า : “พอแล้ว.. งั้นทำไมพวกคุณไม่ช่วยกลิ้งออกไปโดยเร็ว?”

ชายที่ย้อมผมสีเหลือง ได้อดทนต่อความเจ็บปวด และหันไปพูดกับคนอื่นๆ ว่า : “พวกเราไป อ่า.. เฮ้ย พวกแกสองคนมาช่วยฉันที…”

นี่มัน.. ห่า อะไร!

ชายที่ย้อมผมสีเหลืองคนนี้ เดินไม่ได้!

จากนั้นไม่นาน ก็ได้มีชายสองคนได้เข้ามาพยุง ชายที่ย้อมผมสีเหลือง.. และกลุ่มวัยรุ่นก็ได้พากันหนีออกไป

หลินฟาน ไม่คิดที่จะสนใจพวกเขา คนกลุ่มนี้ถือได้ว่าเป็นตัวประกอบเล็กๆ น้อยๆ ของเรื่อง ยิ่งสําหรับเขาแล้ว มันก็แค่เป็นเรื่องของการกระดิกนิ้ว เท่านั้น..

หลินฟาน ได้เดินไปหาชายวัยกลางคนที่พิการทันที เมื่อนั้นเขาก็ได้ยื่นมือออกไป แล้วพูดว่า : “คุณลุง เป็นไรหรือเปล่าครับ แล้วลุกขึ้นไหวไหม? มาผมช่วย..”

ชายวัยกลางคนที่พิการ ได้เอื้อมมือไปจับมือของ หลินฟาน และลุกยืนขึ้น เขาได้พูดด้วยรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของเขาไปว่า : “พ่อหนุ่ม ขอบคุณมาก คุณช่างเป็นคนดีจริงๆ!”

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ผมแค่ผ่านมา ทั้งมันเป็นแค่ความพยายามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”

ชายวัยกลางคนที่พิการ กล่าวว่า : “ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณได้เลย ดังนั้น.. ฉันจึงได้แต่พูดขอบคุณ ใช่ จริงสิ.. ตอนนี้ คุณเป็นแฟนบอลหรือเปล่า? ถ้าคุณเป็นแฟนบอล ฉันเองมีเสื้อที่มีลายเซ็นของ โรนัลโด (Ronaldo) อยู่ที่บ้าน และฉันสามารถมอบให้คุณได้ เพื่อเป็นการขอบคุณ”

หลินฟาน ได้ร้องโอ้.. แล้วพูดไปว่า : “เสื้อที่มีลายเซ็นของ โรนัลโด (Ronaldo)?”

แม้จะบอกว่าเขา ..ไม่ใช่แฟนบอล แต่เขาก็รู้ดีว่า โรนัลโด เป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของวงการฟุตบอล และชายวัยกลางคนที่พิการคนนี้ มีเสื้อที่มีลายเซ็นของ โรนัลโด จริงๆ นะหรือ?

“คุณลุง เมื่อกี้ชายที่ย้อมผมสีเหลืองคนนั้น บอกว่าคุณ เคยเป็นอดีตดาวเตะของวงการฟุตบอล เรื่องนี้จริงเหรอครับ?” หลินฟาน ได้ถาม

ชายวัยกลางคนที่พิการ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ แววตาของเขา.. ก็ได้ฉายแววแห่งความเจ็บปวด เขา.. ได้ยิ้มอย่างขมขื่น แล้วพูดว่า : “คุณจะเอามั้ย? หากไม่.. ก็ช่างมันเถอะ”

หลังจากพูดจบ ชายวัยกลางคนที่พิการ ก็ได้โบกมือลา และหันหลังกลับ และได้เดินจากไป เขาได้เดินกะเผลก และเมื่อได้มองไปที่แผ่นหลังนี้ มันก็ดูเหงา และอ้างว้างมาก ราวกับว่ามันเป็นตัวอย่างเล็กๆ ของความอ้างว้างในโลกใบนี้

แม้ว่า หลินฟาน จะไม่มีข้อมูลเชิงลึกระดับบนสุด แต่เขาก็สามารถมองออกได้ว่า.. ลุงคนนี้ ต้องมีเรื่องราวอะไรบางอย่างที่เจ็บช้ำซ่อนอยู่ภายในส่วนลึก

แต่ดูเหมือนคนอื่นจะไม่ยินยอมพูดถึงเรื่องในอดีต หลินฟาน ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องถามอะไรออกไปอีก

สําหรับ หลินฟาน นี่เป็นเพียงตอนเล็กๆ ..เท่านั้น

จากนั้น หลินฟาน ก็ได้กลับไปที่รถ Rolls-Royce ทันที และขับรถไปหา หลัว หลี่..

พอมาถึงสนามกีฬาแห่งหนึ่ง

หลินฟาน ก็ได้เห็นว่า หลัว หลี่ กำลังรอเขาอยู่แล้ว.. ดังนั้นเขาจึงได้จอดรถเอาไว้ที่ลานจอดรถของสนามกีฬา

“ทำไมคุณถึงได้มาช้าจัง?” หลัว หลี่ ได้เดินเข้ามา และถามออกไปด้วยความสงสัย

หลินฟาน พูดไปว่า : “ผมได้พบปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ในระหว่างทาง เลยทำให้ล่าช้าไปนิดหน่อยนะ”

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “เรารีบเข้าไปในสนามกันเถอะ การแข่งขันใกล้จะเริ่มแล้ว”

“อืม” หลินฟาน ได้พยักหน้าเห็นด้วย และเดินตาม หลัว หลี่ เข้าไปในสนามกีฬา

ทั้งสองได้เดินเคียงข้างกัน หลัว หลี่ เองก็ได้แอบชำเลืองมอง หลินฟาน มือของเธอเองก็ดูกระสับกระส่ายไปมา และใบหน้าของเธอก็ได้แดงระเรื่อ…

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลินฟาน ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันเล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปจับมือเล็กๆ ของเธอ

เมื่อนั้น.. ใบหน้าของ หลัว หลี่ ก็ได้ยิ่งแดงมากขึ้น แต่แววตาของเธอก็กลับปรากฏความพึงพอใจ และดูราวกับว่าเธอจะมีความสุขมาก เมื่อนั้นหัวใจของเธอมันก็ได้รู้สึกหวานขึ้นมา ราวกับได้กินน้ำผึ้งเข้าไป บางทีนี่อาจจะเป็นกลิ่นของความรัก..

ทั้งสองได้ดูเหมือนคู่รักหนุ่มสาวที่รักกันมาก.. และได้พากันเดินจูงมือเข้าไปในสนามกีฬา ..ด้วยกัน

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “ด้านหน้าเป็นสนามแบดมินตัน พอเราเดินผ่านสนามแบดมินตัน ก็จะเป็นสนามฟุตบอลแล้ว”

ทั้งสองได้เดินมาถึงสนามแบดมินตัน ..อย่างรวดเร็ว ในเวลานี้มีคนกําลังเล่นแบดมินตัน และหลายคนก็กําลังดูอยู่ข้างสนาม

ทันใดนั้น ฝ่ายที่กำลังเล่นอยู่ก็ได้ตบลูกขนไก่อย่างแรง และลูกขนไก่ ก็ได้บินลอยออกมานอกสนาม และมันก็กำลังจะไปโดน หลัว หลี่ เข้าพอดี ทั้งนี้.. ในขณะที่ หลัว หลี่ กำลังมีความสุข เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะมองสิ่งรอบข้าง เมื่อเห็นว่า ลูกขนไก่ กำลังจะตกกระแทกเข้าที่หน้าผากของเธอ

หลินฟาน ก็ได้เอื้อมมือ เข้าไปคว้าลูกขนไก่ เอาไว้ได้ทัน

หลินฟาน ที่กำลังเป็นกังวล และเพื่อปกป้อง หลัว หลี่ เขาก็ไม่ได้กะแรงให้พอดี ในทันใด ลูกขนไก่ ก็ได้ถูกมือของเขา บดขยี้..

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนก็ได้มองมาที่ที่พวกเขายืนอยู่..

“เพื่อน.. ขอโทษนะ แต่คุณช่วยโยนลูกกลับมาให้หน่อยได้ไหม?” เสียงผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งได้ตีลูกออกไปนอกสนาม ได้พูดขึ้น..

อ้าว.. เชี่ยแล้วไง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด