ตอนที่แล้วตัวประกอบแรงค์ EX — 0055
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตัวประกอบแรงค์ EX — 0057

ตัวประกอบแรงค์ EX — 0056


16. ต้นเดือนพฤษภาคม (2)

* * *

เมื่อไม่กี่วันก่อน

จูซูย็อกที่กำลังเดินกลับบ้านหลังจากเสร็จกิจกรรมของกรรมการรักษาระเบียบ เจอใครบางคนที่โถงทางเดินอาคาร

จากระยะไกล อันดาอินกับคิมยูรีกำลังเดินออกจากอาคารสโมสรนักเรียน

ฝ่ายแรกเผยรอยยิ้มที่พบได้ไม่บ่อยขณะพูดคุยกับคิมยูรีอย่างสนุกสนาน

ทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มอันดาอิน เขาจะรู้สึกเหมือนมีลมอุ่นๆ พัดปะทะหน้าอก

‘ตอนแรกก็กังวลเพราะเห็นเธอซึมๆ หลังจากเลิกเรียน… โล่งอกไปที’

จูซูย็อกยืนมองอันดาอินเดินออกไปไกล พลางลังเลว่าควรเข้าไปทักดีไหม

‘คงเตรียมจะไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน เราอย่ารบกวนเลย’

…ไม่ใช่เพราะเราไม่มีความกล้าที่จะเข้าไปทัก

…เราไม่ได้กำลังปลอบใจตัวเอง!

ไว้ค่อยหาโอกาสทักในอีเวนต์วิจารณ์วรรณกรรมวันหลังก็ได้!

แต่ในอีกไม่กี่วินาทีถนัดมา เขาเริ่มตัดพ้อว่า ‘รู้งี้น่าจะทักไปก็ดี’

“สวัสดีครับนายน้อย”

“ออกรถเลย พี่ชอล”

ด้านหน้าประตูทิศใต้อันเงียบสงบ

จูซูย็อกกล่าวทักทายหลังจากเปิดประตูขึ้นไปนั่งบน ‘แอร์ลีมูซีน’ คันยาวพิเศษที่ขับมารับ

“ตามตาราง ดูเหมือนว่าวันนี้อาจารย์กวักจะมาเป็นผู้สาธิตศิลปะการต่อสู้ครับ… ส่วนการฝึกรอบค่ำถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะนายน้อยต้องไปเข้าร่วมงานครบรอบ 29 ปีของจูโอคอนสตรักชั่น กับคุณหนูโอเยจี”

“หืม… ไอ้งดฝึกน่ะไม่เป็นไรหรอก… แต่พักนี้เจอพี่เยจีบ่อยจังเลยนะ”

หลังจากโฮเยจอง—คู่หมั้นของลูกพี่ลูกน้องจูซูย็อกหนีออกจากบ้านแล้วหายตัวไป ดูเหมือนทางตระกูลจะพยายามผลักดันให้จูซูย็อกเกี่ยวดองกับโอเยจี

ตอนนี้อาจยังไม่สังเกตเห็น แต่เด็กฉลาดอย่างจูซูย็อกคงฉุกคิดได้ในอีกไม่นาน

…ถ้าเราพูดมากเกินความจำเป็นจนท่านประธานไม่พอใจ ในอนาคตอาจไม่มีโอกาสได้อยู่ช่วยเหลือนายน้อยอย่างใกล้ชิด

‘แต่ถ้าเป็นนายน้อยจูซูย็อก คงไม่มีอะไรน่ากังวล’

คิมชอลเชื่อว่า อัจฉริยะอย่างจูซูย็อกคงไขว่คว้าชีวิตและความรักที่ดีได้ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคแบบใดรออยู่ในอนาคต

แต่คิมชอลไม่ได้รู้เลยว่า ความจริงแล้วจูซูย็อกเป็นเด็กปอดแหก ที่ไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวทักทายกับคนที่ตัวเองแอบชอบ

ภายในรถ จูซูย็อกยังคงเอาแต่รำพัน ‘ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกตอนไหน… ถ้าเมื่อกี้ทักไปสักคำก็คงดี’

แอร์ลีมูซีนพาคนทั้งสองแล่นไปยังเป้าหมายด้วยโหมดเพดานบินต่ำแบบอัตโนมัติ

ก่อนที่จูซูย็อกจะลงรถ คิมชอลฉวยโอกาสพูด

“นายน้อยอย่าลืมไปร่วมงานวันเด็กซีรีส์นะครับ ลูกพี่ลูกน้องบางคนกำชับนักหนาให้ผมมาบอก”

“ฮะฮะ! หมายถึงซูรีใช่ไหม? เมื่อวานก็เพิ่งวิดีโอคอลกันไปเอง เรื่องแบบนี้ฝากคนอื่นพูดได้ยังไง… ว่าแต่ ผมชวนเพื่อนไปด้วยได้ไหม”

“เดี๋ยวผมจะตรวจสอบที่นั่งสำรองให้นะครับ… เพื่อนที่ว่าหมายถึงคุณโดซีฮู?”

จูซูย็อกส่ายหน้า

“ไม่ใช่ เป็นเพื่อนที่โรงเรียนน่ะ ครั้งก่อนพวกเราพลาดโอกาสได้เล่นบาสฯ ด้วยกัน… ถ้าว่างสักสองที่ช่วยบอกด้วยนะ”

โฮโลแกรมตรงหน้าจูซูย็อกกำลังฉายภาพห้องแชตที่มีโชอึยชินและเม็งเฮียวทง

* * *

ครั้งหนึ่ง เพลเยอร์เคยเป็นอาชีพ 3D (อาชีพที่ไม่มีใครอยากทำ)

เป็นช่วงเวลาที่โลกเอาแต่พึ่งพาพลังพิเศษของเพลเยอร์ในการโจมตีต่างโลกและต่อกรกับเอนามี โดยปราศจากกลยุทธ์หรือไอเท็มสนับสนุนที่เหมาะสม

หลายคนพยายามปกปิดพลังพิเศษเพื่อไม่ให้ถูกเกณฑ์ไปเป็นเพลเยอร์

ยิ่งมีเพลเยอร์ซ่อนตัวมากขึ้น ประสิทธิภาพในการโจมตีต่างโลกจึงลดลงเรื่อยๆ

ส่งผลให้มีคนตายมากขึ้นในสงคราม และนั่นยิ่งทำให้เพลเยอร์หวาดกลัวและซ่อนตัวมากขึ้น

จนกระทั่งวันหนึ่ง วีรบุรุษผู้กำราบต่างโลกด้วยกำปั้นเพียงอย่างเดียว ปรากฏตัวพร้อมกับการล่มสลายของยุคมืด

มหาบุรุษคนนั้นคือ ‘แขนเหล็ก’ ซงมันซอก ผู้นำพาแสงแห่งรุ่งอรุณมายังวงการเพลเยอร์

“โอ้…! ไม่เจอกันนานเลย กึนยอง”

หมวกกันน็อกจักรยาน แว่นตากันลม ถุงมือ กางเกงจักรยาน และเสือหมอบ

ซงมันซอกแต่งกายในชุดปั่นจักรยานเต็มสูบ เผยให้เห็นร่างกายที่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นของคนอายุเจ็ดสิบ

‘เพิ่งรู้ว่าซงมันซอกกับฮัมกึนยองรู้จักกัน…’

เห็นครูประจำชั้นของตนเดินเข้าไปทักทาย เสียงกระซิบกระซาบเริ่มดังมาจากเพื่อนร่วมห้อง

“ฉันเคยอ่านเจอชื่อซงมันซอกในหนังสือเรียน!”

“อาจจะแค่ชื่อเหมือนก็ได้นี่ ไม่มีทางที่คนในหนังสือเรียนจะยังมีชีวิตอยู่หรอก”

ยังมีชีวิตอยู่แน่นอน พวกนายเงียบไปเลย

เมื่อเทียบกับแล้ว ระหว่างการได้เห็นบุคคลดังในยุคปัจจุบัน กับบุคคลในหนังสือเรียนตัวเป็นๆ อย่างหลังดูน่าตกใจกว่าหลายเท่า

“ไม่ได้เจอกันนานแล้วเหมือนกันนะ”

วังจีโฮก็เคยเจอซงมันซอกมาก่อน?

แต่ประโยคเมื่อครู่ไม่ควรหลุดไปถึงหูซงมันซอก ดังนั้นช่วยเงียบกันก่อนได้ไหม เดี๋ยวสถานการณ์จะยิ่งวุ่นวาย

“เข้าเรียนตรงเวลา?”

ฮัมกึนยองสวมแจ็กเกตบางๆ ทับด้านนอกก็จริง แต่บริเวณหน้าอกไม่ได้ปิดสนิท จึงพอจะมองเห็นข้อความที่เขียนด้วยอักษรตัวใหญ่

ซงมันซอกค่อนข้างสับสนเมื่ออ่านข้อความบนเสื้อฮัมกึนยองจบ

“คติพจน์ของห้องเรียนครับ ผมเป็นคนคิดเอง”

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ต่อหน้าวีรบุรุษของประเทศ ฮัมกึนยองจะพูดประโยคนี้ออกมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

สมแล้วที่เป็นตัวละครของฉัน จิตใจแข็งแกร่งผิดมนุษย์มนาจริงๆ

ซงมันซอกคุยกับฮัมกึนยองสักพักก่อนจะมองมาทางพวกเรา

‘…อย่าบอกนะว่าได้ยินที่วังจีโฮพูด’

ยากที่จะคาดเดาสีหน้าเพราะเขาสวมแว่นตากันลมอยู่

ซงมันซอกกวาดตามองทุกคนก่อนจะหันกลับไป

“มาเที่ยวกับลูกศิษย์ในห้อง?”

“ครับ”

“กือรินมาด้วยไหม? ได้ข่าวว่าวันก่อนก็ไปโรงเรียน”

“วันนั้นมินกือรินมาแค่ครู่เดียวแล้วรีบกลับไปครับ”

“…อ้อ”

เข้าใจแล้ว

ฉันพอจะคาดเดาเนื้อเรื่องได้เบื้องต้น

จากบรรดาเด็กปี 1/0 ที่ยังไม่ได้เข้าเรียน มีอยู่สองคนเป็นตัวละครที่ควบคุมได้

หนึ่งในนั้นคือซงแดซอก หลานชายซงมันซอก และอีกหนึ่งคือมินกือริน เพื่อนสมัยเด็กของซงแดซอก

‘วันแรกของสอบกลางภาค ที่เราจำไม่ได้เพราะเธอปิดหน้าปิดตามิดชิด… เป็นมินกือรินเองหรือ’

ทั้งสองปฏิเสธการมาเรียน และมีแค่คำบรรยายที่ช่วยให้ทราบว่าพวกเขาอยู่ห้องศูนย์ แม้จะไม่ได้เข้าเรียนเลยในปีแรก

ถือเป็นตัวละครเกรดตัวประกอบ

มีส่วนร่วมกับเนื้อเรื่องน้อยมาก แต่ที่จำได้แม่นเพราะพวกเขาเกี่ยวข้องกับซงมันซอก

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะ… ศิษย์ของกึนยองก็ด้วยนะ เที่ยวกันให้สนุกล่ะ”

“ขอบคุณค่ะ”

“แล้วเจอกันใหม่ค่ะ”

“ครับ!”

เพื่อนร่วมชั้นของฉันรีบกล่าวคำอำลาพร้อมกับก้มหน้าคำนับ

มหาบุรุษซงมันซอกพยักหน้าให้เราหนึ่งครั้งแล้วจากไป

แผ่นหลังของเขาเล็กลงเรื่อยๆ

เมื่อเห็นว่าซงแดซอกกับมินกือรินไม่ได้มาเที่ยวกับเพื่อน ทั้งที่อยู่ห้องเดียวกับพวกเรา เขาคงคิดอะไรในใจหลายเรื่อง

‘ซงแดซอกกับมินกือรินสินะ… เราติดหนี้ซงมันซอกอยู่ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากช่วยเหมือนกัน’

ซงแดซอกกับมินกือริน ปี 1/0

คงต้องลองหาทางช่วยพวกเขาดู

หลังจากซงมันซอกลับสายตา คิมยูรีตะโกนอย่างร่าเริง

“เอาล่ะ มาเริ่มการปิกนิกครั้งแรกของปี 1/0 กันเถอะ!”

กำหนดการปิกนิกเริ่มขึ้นพร้อมกับน้ำเสียงทรงพลังของคิมยูรี

ว่าแต่… ครั้งแรก? จะมีครั้งที่สองและสาม?

เป็นประเภทเดียวกับกึมชานซอลสินะ

จะว่าไป คิมยูรีเองก็เป็นเด็กห้องศูนย์

“หลังจากไปถึงท่าเรือยังฮวาที่สวนซอนยูโด เราจะสุ่มทีมเพื่อแข็งเรือเป็ด แล้วให้ทีมที่ชนะเป็นคนเลือกรสชาติไก่ทอด!”

ผลการสุ่มทีมด้วยแอปฯ สุ่มรายชื่อออกมาดังนี้

ทีม 1 ฉัน อีเรนา

ทีม 2 คิมยูรี เม็งเฮียวทง

ทีม 3 วังจีโฮ ซาวอลเซอึม

ทีม 4 ฮัมกึนยอง ฮันอี

เป็นการจับทีมที่ดูไม่สามัคคีกันเท่าไร แต่พวกเราก็ยอมจำนนต่อสิ่งที่พระเจ้าเลือกให้

สวมเสื้อชูชีพเสร็จ นักเรียนปี 1/0 เริ่มแข่งเรือเป็ดโดยมีสิทธิ์การเลือกรสชาติไก่ทอดเป็นเดิมพัน

ทุกคนเป็นเพลเยอร์ เรือเป็ดจึงแล่นได้เร็วกว่าลำอื่นๆ ในสระ

แต่ละทีมก็มีบรรยากาศต่างกันไป

“อึยชิน มาทำให้เต็มที่กันเถอะ!”

“อื้อ”

ทีม 1 ของฉันกับอีเรนา มุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายด้วยความตั้งใจ

“เฮียวทง ถ้านั่งแบบนั้นเดี๋ยวเรือจะเอียงจนน้ำเข้านะ! ขยับมาหน่อยสิ!”

“อ…อื้อ”

ทีม 2ค่อนข้างช้าเพราะเม็งเฮียวทง หนุ่มโสดผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ชีวิตเด็กมัธยม นั่งตัวเกร็งโดยไม่กล้ามองหน้าคิมยูรี

“จีโฮ ฉ…ฉันตามจังหวะไม่ทัน ช่วยช้าลงหน่อย!”

“ฮะฮะฮะฮะ!”

“มันจะหมุนแล้ว จะหมุนแล้ว! หยุดก่อน หยุดก่อน!”

วังจีโฮที่พักหลังกลายเป็นคนบ้างาน คงมีความเครียดสะสมพอควร

ช่วงเวลาที่ควรจะได้พักก็ถูกเจียดมาใช้กับการวิจัยหนังสือโบราณ

ใบหน้าซาวอลเซอึมบ่งบอกชัดเจนว่า เขาพร้อมจะสละเรือด้วยสกิลบินในทุกลมหายใจ

ได้เห็นแบบนั้น วังจีโฮชอบใจและยิ่งแกล้ง

และเนื่องจากเขาเป็นคนคุมคันโยก เรือของทีม 3 จึงแล่นซิกแซกซ้ายทีขวาที

“…”

“…”

ทีม 4 ของฮัมกึนยองและฮันอีแล่นไปข้างหน้าอย่างสามัคคีโดยไม่ต้องพูดอะไรแม้แต่คำเดียว

ฮัมกึนยองสัมผัสได้ว่าฮันอีอยากกินไก่ทอดรสหวานอย่างแรงกล้า จึงตัดสินใจร่วมมือเต็มที่

‘ผลลัพธ์ไม่ผิดจากที่คิดไว้’

ทีม 4 ที่ก้มหน้าถีบเรือโดยไม่ได้คุยกันเลย คว้าอันดับหนึ่งไปครอง

อันดับสองคือทีม 1 ของฉัน

อันดับสามคือคู่หูอาละวาดของทีม 3

และทีม 2 จบบ๊วย

“อีกนิดเดียวเอง…!”

อีเรนาทำหน้าเสียดาย

ก็ตามนั้น เนื่องจากมีแค่ทีม 4 กับทีม 1 ที่แข่งกันอย่างจริงจัง เรือเป็ดของทั้งสองทีมจึงแล่นตีคู่กันมาตลอดทาง

พวกเรารวมตัวถ่ายรูปหมู่ก่อนที่จะถอดเสื้อชูชีพ

“โชคดีที่วันนี้อากาศดี… แต่เปียกไปหน่อยนะ”

“ใช่ คิดไม่ถึงว่าน้ำจะกระเด็นขนาดนี้”

พวกเราตัดสินใจถอดแจ็กเกตเพราะถูกน้ำจากเรือเป็ดกระเซ็นใส่

ส่งผลให้เสื้อแก๊งของทุกคนดูโดดเด่นขึ้นมาถนัดมา แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจ

บางทีความชาชินก็น่ากลัว

“นั่งตรงนี้กันเถอะ”

“ค่ะครู!”

“ฉันจะปูเสื่อแล้วนะ รองหัวหน้าห้องรอรับ!”

“เม็งเฮียวทง ทางนายปูเบี้ยว”

พวกเราปูเสื่อนั่งตรงมุมหนึ่งของสวนสาธารณะแม่น้ำฮัน และเริ่มเปิดแอปฯ สั่งไก่ทอด

“โห… ทำไมไก่ทอดราดน้ำผึ้งมีหลายรสขนาดนี้”

“น่าอร่อยทุกอันเลย”

ไก่กระเทียมน้ำผึ้ง ไก่เนยน้ำผึ้ง ไก่ทอดน้ำผึ้ง…

ฮันอีที่ได้สิทธิ์เลือกรสไก่ เลือกไก่ทอดหวานๆ ด้วยใบหน้าเริงร่า

คิมยูรีกับเม็งเฮียวทงที่ได้อันดับบ๊วย มีหน้าที่จัดการขยะตลอดการปิกนิก

เมื่อกินเสร็จ พวกเราแปดคนช่วยกันเก็บกวาด

“เริ่มจากเกมไหนดีนะ…”

“หยิบอันไหนได้ก็เล่นอันนั้นเลย”

“เห็นด้วย อยากเล่นทุกเกมเลย!”

หลังจากินไก่ทอดก็เป็นการเล่นเกม

ใครบางคนเสนอให้เล่นบอร์ดเกมแทนการเล่นจากอุปกรณ์ จึงมีการเตรียมบอร์ดเกมไว้ล่วงหน้า

“ฉันไม่รู้กฎอ่ะ…”

“ให้ฉันอธิบายเอง!”

พวกเราเริ่มเล่นกันหลังจากฟังคำอธิบายของคิมยูรีจบ

เริ่มจากเกมไพ่อย่าง ‘ผีเสื้อกลางคืนขี้โกหก’ ที่ต้องเลือกว่าจะซ่อนหรือทิ้งไพ่ โดยต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์

หรือจะเป็นเกม ‘ซีทาเดล’ (Citadel) เกมทำลายมิตรภาพ ที่ต้องเอาตัวรอดท่ามกลางเล่ห์เหลี่ยมสุดระห่ำ

หรือเกมสายลับที่ชื่อ ‘โค้ดเนม’ ซึ่งผู้เล่นจะได้รับคำใบ้เพื่อจำแนกพันธมิตร และจับกุมตัวสายลับฝ่ายศัตรู

เป็นต้น

ท่ามกลางเสียงหัวเราะและความผิดหวัง พวกเราเล่นบอร์ดเกมที่เตรียมไว้จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน

“คุณฮัมกึนยองเก่งเกินไปแล้ว!”

“ตอนแรกยังบอกว่าไม่รู้กฎอยู่เลย ต้องล้อกันเล่นแน่!”

“สุดยอด ครูชนะอีกแล้ว…”

ฮัมกึนยองมีอัตราการชนะสูงกว่าใครอย่างเหนือความคาดหมาย

เขาเล่นเกมอย่างจริงจังและสนุกสนานโดยไม่มัวรักษาภาพลักษณ์ สมแล้วที่เป็นตัวละครของฉัน

“ฮะฮะฮะ! ฉันชนะน้อยกว่าใครเพื่อนเลย”

อัตราการชนะต่ำสุดเป็นของวังจีโฮ

แม้จะดำรงชีวิตอยู่มานาน แต่ดูเหมือนว่าเขายังไม่เข้าใจจิตวิทยาในบางแง่มุมของมนุษย์ดีพอ

ส่วนฉัน ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีโชค

ปิกนิกครั้งแรกของนักเรียนปี 1/0 จบลงโดยที่มีครูฮัมกึนยองเป็น MVP

* * *

วันอาทิตย์

เนื่องจากโรงเรียนประกาศคาบเรียนเสริมก่อนจะถึงวันเสาร์ บรรยากาศในโรงเรียนจึงไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควร

นักเรียนบางคนยังต้องเดินเปิดโฮโลแกรมท่องหนังสือไปโรงเรียนในวันอาทิตย์

‘คนเดียวในห้องเราที่ต้องสอบซ่อมคือมินกือริน’

ดูเหมือนว่านักเรียนที่ลงทะเบียนสอบทางไกลจะเอาตัวรอดได้ทั้งหมด

และมินกือรินก็ไม่ใช่คนโง่ที่สอบไม่ผ่าน เธอแค่ไม่ได้เข้าสอบ

ตอนนี้คงนึกเสียใจที่ตัวเองไม่ยอมลงทะเบียนสอบทางไกลตั้งแต่แรก

‘…และเพราะเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหล่อนคงไม่กล้ามาโรงเรียนอีก’

แม้ปัจจุบันจะเป็นเด็กปฏิเสธโรงเรียน แต่หลังจากนี้คงปฏิเสธโรงเรียนยิ่งกว่าเดิม

ถ้าเป็นมินกือรินเดียวกับที่ฉันรู้จัก เวลานึกเสียดายในบางเรื่อง เธอมีนิสัยชอบละเมอไฮคิกเตะผ้าห่มขณะกำลังนอน

ขณะฉันเดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปทางห้องซิมูเลเตอร์ของตึกปีหนึ่ง อยู่ๆ บรรยากาศรอบข้างก็วุ่นวายขึ้นมา

“เฮ้ย! เด็กปีสองกำลังสู้กัน!”

“ใครกับใคร”

“รุ่นพี่มังกรแดงกับรุ่นพี่มา… มาอะไรสักอย่างนี่แหละ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าตอนแรกรุ่นพี่มังกรแดงไม่อยากสู้ แต่อีกฝ่ายตามตื๊อไม่เลิกจนต้องสู้กัน!”

“ในวันหยุดเนี่ยนะ?”

กำลังหมายถึงย็อมจุนยอล กับมาจินซึง?

‘มังกรแดงน้อย’ ย็อมจุนยอลจากสภานักเรียน

และมาจินซึงจากกรรมการรักษาระเบียบ ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีฉายา

ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบคู่แข่ง แต่ดูเหมือนฝ่ายที่คิดแบบนั้นจะมีแค่มาจินซึง

‘…เลือกไม่ถูกเลยแฮะ เป็นตัวละครของเราทั้งคู่’

เอาเป็นว่า ขอเชียร์ทั้งสองคนก็แล้วกัน

เด็กๆ ในโรงเรียนทยอยมุงดูเหมือนกับ ‘ศึกตัดสินเบ๊’ ของฉันไม่มีผิด พวกนี้คงชอบการทะเลาะวิวาทกันมาก

ใครบางคนกล่าวไว้ว่า ฉากที่น่ามุงที่สุดในโลก คือฉากไฟไหม้กับการวิวาท

ถ้าย็อมจุนยอลมีเอี่ยวด้วย หมายความว่าคนดูจะได้เห็นทั้งสองฉาก เป็นธรรมดาที่จะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ

‘พลังของมาจินซึงคือการควบคุมพืช… ทั้งที่รู้ว่าแพ้ทางย็อมจุนยอล แต่เขาก็ไม่เคยรามือ’

มาจินซึงพยายามอย่างหนักเพื่อเอาชนะจุดอ่อนของตัวเอง

เหมือนกับเม็งเฮียวทงและอีเรนา ที่ก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้สอบผ่าน

เห็นตัวละครขยันแบบนี้ ฉันเองก็ต้องพยายามบ้าง

ก่อนจะเริ่มฝึก

ฉันเปิดหน้าที่เซฟไว้ในอุปกรณ์โฮโลแกรม

[ผู้จัด: กลุ่มย่อยหมากรุก, ใบสมัครการแข่งหมากรุกโรงเรียน]

ถึงเวลาเอาชนะจุดอ่อนของตัวเองและก้าวไปข้างหน้า

ผ่านไปสักพัก ข้อความ ‘ลงทะเบียนเสร็จสิ้น’ แสดงขึ้นบนหน้าต่างโฮโลแกรม

* * *

ฉันกลับมาที่ห้องหลังจากการฝึกของวันอาทิตย์จบลง

ขณะพยายามรีเฟรชหน้าจออย่างเอาเป็นเอาตาย โดยหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะตั๋วในโซนดีๆ หลุดจอง ฉันได้รับข้อความหนึ่ง

[จูซูย็อก] อึยชิน เฮียวทง วันที่ 5 พฤษภาติดอะไรไหม?

[เม็งเฮียวทง] ไม่

[จูซูย็อก] ไปดูเบสบอสกันไหม? เหลือสองที่!

เป็นสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

จูซูย็อกส่งแผนผังที่สนามเบสบอลลงมาในแชตกลุ่ม

โซนตรงกลาง แถมยังอยู่หลังแคชเชอร์! สมแล้วที่เป็นหลานของประธานจูโอกรุป!

[ฉัน] ไปด้วย!

[เม็งเฮียวทง] งั้นฉันก็ด้วย

[จูซูย็อก] ตกลง งั้นนัดกินข้าวกลางวันกันก่อน แล้วค่อยเดินเข้าสนามพร้อมกัน

ปัญหาของฉันคลี่คลายได้เองอย่างคาดไม่ถึง

ตอนแรกก็เคยคิดจะขอร้องจูซูย็อกอยู่หรอก แต่ใจหนึ่งก็มองว่าการทำแบบนั้นไร้ยางอายเกินไป จึงพยายามแก้ไขด้วยตัวเอง

‘เจ๋งเป้ง… ไม่ใช่แค่ที่นั่งดี แต่ยังได้ไปพร้อมจูซูย็อก’

หลุดพ้นจากวังวนการจองตั๋วนรกเสียที

ฉันกำหมัดแน่นพร้อมกับรีบขอคืนตั๋วโซนปีกนอก

ฟู่ว!

ทุกทีก็ไม่ใช่คนนอนฝันร้ายอยู่แล้ว แต่วันนี้ดูท่าจะยิ่งหลับฝันดี

ขณะเตรียมเข้านอนอย่างสบายอุรา ข้อความที่อ่านแล้วไม่สบายอุราถูกส่งมาถึง

[วังจีโฮ] ถอดรหัสหนังสือโบราณเสร็จแล้ว

______________________

★★ ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดราคา สามารถตรวจสอบได้ที่ Inbox ของเพจ BJK Novel★★

ตอนฟรีลงทุกวันอังคาร พุธ เสาร์ และอาทิตย์ (4/4)

ติดตามผลงานของผู้แปล และนิยายทุกตอนได้ที่เพจเฟสบุค:

https://www.facebook.com/bjknovel/

หรือพิมพ์ค้นหา: bjknovel

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด