ตอนที่แล้วตอนที่ 87: การแข่งขันที่น่าตื่นเต้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 89: ความซวยของทีม 13

ตอนที่ 88: ตอนจบที่ไม่คาดคิด


ตอนที่ 88: ตอนจบที่ไม่คาดคิด

ด้วยสภาพรถแข่งในปัจจุบันเซี่ยเฟยก็รู้แต่เพียงว่ามันใกล้จะพังเต็มทีแล้วและมันก็คงจะมีเพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ารถของเขาจะพังลงเมื่อไหร่

สถานการณ์ภายในห้องคนขับเต็มไปด้วยเสียงเตือนจากชิ้นส่วนที่เสียหายไม่น้อยกว่า 10 จุด ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดในกรณีนี้คือผู้ขับขี่ควรที่จะต้องหยุดรถเพื่อตรวจสอบความเสียหาย

แต่เซี่ยเฟยไม่ได้มีความคิดที่จะหยุดรถเลยแม้แต่นิดเดียว โดยเขากำลังพยายามชั่งน้ำหนักภายในใจและคิดว่าโอกาสที่รถจะทนได้จนจบการแข่งขันมีประมาณ 50%

สำหรับเขาแล้วโอกาสเพียงแค่ครึ่งเดียวก็คุ้มค่าที่จะลองดู เพราะถ้าหากว่าเขาชนะเขาก็จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ถ้าหากว่าเขาแพ้อย่างน้อยเขาก็จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง

รถแข่งพุ่งเข้าสู่สนามอย่างดุเดือดพร้อมกับส่งเสียงร้องคำรามราวกับฟ้าผ่าทำให้เหล่าบรรดาผู้รับชมรู้สึกหวาดผวาไปตาม ๆ กัน

เสียงจากรถแข่งของเซี่ยเฟยถือว่าเป็นอาวุธที่ค่อนข้างดี เพราะรถคันด้านหน้ามักจะกลัวว่ารถของเขาจะระเบิดอย่างกะทันหัน ดังนั้นมันจึงไม่มีรถคันไหนพยายามขัดขวางรถหมายเลข 99 เอาไว้เลย

หากมีคนบ้าไล่จี้มาทางด้านหลังพวกเขาก็ไม่ควรจะเอาตัวไปขวางเอาไว้ เพราะรางวัลที่พวกเขาได้มันไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยง

“เซี่ยเฟยกลับมาที่อันดับ 11 อีกครั้งหนึ่งแล้วครับ! นี่คืออันดับสูงสุดในการแข่งขันของเขาครั้งนี้ แต่เหลืออีกสองรอบการแข่งขันก็จะสิ้นสุดลงแล้ว เซี่ยเฟยจะสามารถทำอันดับได้ดีกว่านี้หรือไม่!!” ผู้บรรยายผมแดงเริ่มส่งเสียงพากย์อย่างเร่าร้อนหลังจากที่เซี่ยเฟยเริ่มเร่งความเร็วกลับมาอีกครั้ง

ความจริงแล้วมันไม่ใช่เพียงแค่ผู้บรรยายผมแดงที่รู้สึกตื่นเต้น เพราะผู้ชมเกือบทั้งหมดต่างก็กำลังลุ้นการกลับมาอีกครั้งของเซี่ยเฟยเช่นเดียวกัน

ผู้ชนะการแข่งขันมักจะได้รับการชื่นชมโดยผู้คนเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ในบางครั้งผู้เข้าแข่งขันที่ไม่ชนะแต่แสดงความสามารถออกมาอย่างเร้าใจก็มักที่จะได้รับความชื่นชมจากผู้ชมเช่นเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดผู้ชนะก็ผูกขาดอยู่เพียงแค่ไม่กี่คนและสำหรับบางคนการเชียร์มวยรองก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นกว่า

“อันดับที่ 6!! เซี่ยเฟยขึ้นมาถึงอันดับที่ 6 แล้วครับ! แต่รถที่ตามหลังมาคือรถหมายเลข 0 ของทีมมังกรสองหัว นี่พวกเขาน็อครอบคันอื่น ๆ มาจนถึงตรงนี้แล้วเหรอเนี่ย! เร็วเข้าเซี่ยเฟย! อย่าปล่อยให้ทีมมังกรสองหัวแซงขึ้นไปได้นะ!!”

ปัจจุบันมันก็ดูเหมือนกับผู้บรรยายผมแดงจะลืมหน้าที่ของเขาไปแล้ว เพราะเขาเอาแต่พากย์เข้าข้างเซี่ยเฟยจนลืมไปแล้วว่าเขาจะต้องพากย์อย่างเป็นกลาง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่สนใจโดยทุ่มเทพลังทั้งหมดพากย์แต่เรื่องของเซี่ยเฟยจนในบางครั้งหากใครไม่รู้จักพวกเขา คนพวกนั้นก็คงจะคิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์บางอย่างต่อกันและกัน

รถด้านหน้าของเซี่ยเฟยในตอนนี้คือรถจากทีมของแผนกเครื่องกลหมายเลข 73, 21 และ 194 ซึ่งรถทั้งสามคันนี้เคลื่อนไหวเป็นทีมเดียวกัน โดยมีรถหมายเลข 73 ของหนี่เว่ยเป็นผู้นำ ขณะที่รถหมายเลข 21 และหมายเลข 194 ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เซี่ยเฟยแซง

การแข่งขันได้มาถึงสองรอบสุดท้ายแล้วและเมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเคลื่อนที่ผ่านโค้งมรณะ พวกเขาก็จะเริ่มการแข่งขันในรอบสุดท้าย

จากข้อมูลที่เพื่อน ๆ ได้รายงานมา เซี่ยเฟยได้รู้แล้วว่าตอนนี้รถของไป๋เย่กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งมรณะแล้ว และมันก็คงจะใช้เวลาอีกไม่นานก่อนที่ชายหนุ่มคนนี้จะวิ่งผ่านจุดสตาร์ทเพื่อรอวิ่งเข้าสู่เส้นชัย

หากเซี่ยเฟยต้องการแซงไป๋เย่ที่อยู่อันดับที่ 2 เขาก็จำเป็นจะต้องทำเวลาในช่วงโค้งมรณะเพื่อลดระยะห่างระหว่างเขากับไป๋เย่ จากนั้นเขาค่อยเริ่มทำการต่อสู้เพื่อตัดสินในรอบสุดท้าย

ผู้ขับรถโดยทั่วไปจะรู้อยู่แล้วว่าการพยายามทำความเร็วบนทางโค้งเป็นเรื่องยากและอันตรายมากแค่ไหน ซึ่งมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงว่ารถที่เซี่ยเฟยกำลังขับไม่ใช่รถโดยทั่วไปและสนามที่เขากำลังแข่งก็ไม่ใช่ถนนสาธารณะ

นอกจากนี้ยังมีนักแข่งที่มีประสบการณ์อยู่ด้านหน้าเขาอีกด้วย ที่สำคัญคือรถแข่งทั้งสามคันยังทำงานร่วมกันเพื่อไม่ให้เขาแซง

หากรถแข่งคันใดในสามคันนี้เปิดช่องว่างรถอีกสองคันจะเข้ามาปิดช่องว่างนั้นในทันทีทำให้เซี่ยเฟยไม่สามารถหาช่องทางในการแซงขึ้นไปด้านหน้าได้เลย

ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันเซี่ยเฟยจึงวิ่งเกาะหลังรถหมายเลข 194 อย่างใกล้ชิด โดยเว้นระยะห่างจากรถด้านหน้าเพียงแค่ไม่กี่สิบเมตรเท่านั้นและมองหาโอกาสในการแซงขึ้นไปด้านหน้า

ทันใดนั้นเองหลังจากรถหมายเลข 194 เลี้ยวผ่านโค้ง เขาก็ได้เปิดช่องว่างในมุมเลี้ยวเล็ก ๆ ซึ่งเซี่ยเฟยพอจะเคลื่อนที่ผ่านมุมนั้นไปได้

เซี่ยเฟยเหยียบคันเร่งโดยไม่ลังเลเคลื่อนที่ผ่านช่องระหว่างรถและคอนกรีตด้านข้างสนาม โดยระยะห่างระหว่างตัวรถของเขาอยู่ห่างจากคอนกรีตน้อยกว่า 1 เมตร ซึ่งถ้าหากว่าเขาบังคับรถพลาดแม้แต่เพียงนิดเดียวรถของเขาก็จะเสียหลักและพุ่งเข้าชนรั้วอย่างรุนแรง

รถหมายเลข 21 รับรู้ถึงความผิดพลาดของสหายร่วมแผนกได้อย่างรวดเร็ว เขาจึงรีบหักพวงมาลัยเพื่อไปปิดกั้นเซี่ยเฟยเอาไว้

เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมพลาดโอกาสในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด

แม้ว่าชายหนุ่มจะเห็นว่ารถของเขากำลังจะชนท้ายรถหมายเลข 21 แต่เซี่ยเฟยก็ไม่มีความตั้งใจที่จะเบารถเลยแม้แต่น้อยและยังคงเหยียบคันเร่งพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง

วิธีการที่สิ้นหวังของเซี่ยเฟยทำให้คนขับรถหมายเลข 21 รู้สึกหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงรีบหักพวงมาลัยไปอีกทางเพื่อไม่ให้ขวางคนบ้าอย่างเซี่ยเฟย

บรื้น!

รถหมายเลข 99 ของเซี่ยเฟยสามารถแซงรถหมายเลข 194 ได้สำเร็จ จากนั้นมันก็ส่งเสียงคำรามผ่านรถหมายเลข 21 ไป!

“โอ้พระเจ้า! เซี่ยเฟยแซงรถ 2 คันในคราวเดียวและพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 แล้วครับ ด้านหน้าของเขาตอนนี้เหลือแค่รถหมายเลข 73 ของหนี่เว่ยและรถหมายเลข 201 ของไป๋เย่ การแข่งขันได้เข้าสู่รอบสุดท้ายแล้ว! พวกเรามารอดูกันว่าเซี่ยเฟยจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้หรือไม่” ผู้บรรยายผมแดงกล่าวอย่างตื่นเต้น

หลังเซี่ยเฟยพุ่งผ่านโค้งเขาก็มองเห็นไฟท้ายของรถหมายเลข 73 อยู่ไม่ไกล ซึ่งมันเป็นระยะเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร

สนามแข่งในส่วนที่ 2 ที่เชื่อมระหว่างสนามแข่งส่วนที่ 1 กับส่วนที่ 3 เป็นทางตรงทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เซี่ยเฟยจึงใช้ความได้เปรียบทางด้านความเร็วจี้เข้าใกล้รถหมายเลข 73 อย่างรวดเร็ว

หนี่เว่ยรู้ว่าเขาตัวคนเดียวไม่สามารถหยุดเซี่ยเฟยเอาไว้ได้ ดังนั้นมันคงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าหากเขาจะปล่อยให้เซี่ยเฟยแซงขึ้นไปวัดกับไป๋เย่ตัวต่อตัว

“ปีนี้โชคร้ายจริง ๆ นี่ฉันโดนนักเรียนใหม่แซงขึ้นไป 2 คนเลยหรอเนี่ย” หนี่เว่ยส่ายหัวพร้อมกับเผยรอยยิ้มให้ตัวเองเบา ๆ ขณะที่เขาหมุนพวงมาลัยไปด้านข้างเพื่อเปิดเส้นทางให้เซี่ยเฟยแซงขึ้นไป

ในระหว่างที่รถหมายเลข 99 พุ่งแซงขึ้นมานั้น หนี่เว่ยได้มองเห็นจากมุมสายตาว่าเซี่ยเฟยกำลังแสดงท่าทางขอบคุณเขาอยู่

“รีบแซงขึ้นไปเถอะ วันนี้ฉันรู้สึกหดหู่มากพอแล้ว” หนี่เว่ยพึมพำอย่างไม่สามารถจะทำอะไรได้

หลังการเร่งเครื่องอย่างบ้าคลั่งควันสีขาวก็เริ่มพวยพุ่งออกมาจากเครื่องยนต์อีกครั้ง เซี่ยเฟยจึงทำได้เพียงแต่กัดฟันและเหยียบคันเร่งของรถต่อไป

การแข่งขันใกล้จะสิ้นสุดลงแล้วแน่นอนว่าเซี่ยเฟยย่อมไม่มีทางยอมแพ้ ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะมีความหวังอยู่เพียงแค่เล็กน้อยแต่เขาก็จะมุ่งหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

หลังจากเคลื่อนที่มาสักพักในที่สุดเซี่ยเฟยก็มองเห็นรถหมายเลข 201 ของไป๋เย่ โดยในตอนนี้ระยะห่างระหว่างรถทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณ 1 กิโลเมตรเท่านั้น

ด้วยความได้เปรียบทางด้านความเร็ว รถของเซี่ยเฟยจึงจี้เข้าใกล้รถของไป๋เย่มากขึ้นเรื่อย ๆ

800 เมตร!

500 เมตร!

300 เมตร!

เมื่อรถของเซี่ยเฟยจี้เข้ามาไป๋เย่ก็บังคับพวงมาลัยเข้าไปขวางเพื่อไม่ให้รถของเขาถูกแซง

ไป๋เย่ถือว่าเข้าใจเส้นทางในสนามแข่งนี้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้รถของเขาจึงเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ

หากเซี่ยเฟยต้องการจะแซงเขาก็จำเป็นจะต้องเลือกเส้นทางที่อันตราย ขณะเดียวกันควันสีขาวที่พุ่งขึ้นมาจากเครื่องยนต์ก็มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงรู้ดีว่ารถของเขาใกล้จะพังเต็มทีแล้ว

หากเขาโชคดีรถของเขาก็คงจะวิ่งต่อได้อีก 2 นาที แต่ถ้าหากโชคร้ายรถของเขาก็อาจจะดับลงในวินาทีต่อมา

รถทั้งสองคันได้เคลื่อนที่มาจนถึงพื้นที่ในส่วนที่ 3 และตราบใดก็ตามที่ไป๋เย่เคลื่อนที่ผ่านโค้ง 128 โค้งนี้ไปได้ เขาก็จะเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2

เซี่ยเฟยขมวดคิ้วพร้อมกับใช้สมองประมวลสถานการณ์อย่างหนักอีกครั้งและเนื่องมาจากว่าในตอนนี้เครื่องยนต์รถของเขาร้อนจนเกินไป มันจึงทำให้กำลังของเครื่องยนต์ลดต่ำลงมากกว่าปกติ

ในตอนแรกถนนเส้นตรงเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับเซี่ยเฟยที่ใช้ในการแซง แต่เนื่องมาจากในปัจจุบันเครื่องยนต์ของเขาร้อนจนเกินไป มันจึงทำให้ความเร็วรถสามารถวิ่งได้เพียงแค่ประมาณ 90% ของความเร็วเดิม ดังนั้นเขาจึงได้สูญเสียความได้เปรียบในด้านของความเร็วไป

เมื่อสถานการณ์บีบบังคับชายหนุ่มก็กัดฟันพร้อมกับวางนิ้วลงบนปุ่มสีแดงด้านซ้ายของแผงควบคุม

ปุ่มสีแดงนี้คือฟังก์ชั่นปลดการป้องกันของเครื่องยนต์ ซึ่งตราบใดก็ตามที่เขากดปุ่มนี้ลงไปเครื่องยนต์จะสามารถระเบิดพลังงานออกมาได้ถึง 200%

อย่างไรก็ตามการทำแบบนี้คงจะทำให้เครื่องยนต์สามารถทนได้เพียงแค่ 1 วินาทีและในวินาทีถัดไปเครื่องยนต์ก็จะหมดกำลังโดยสิ้นเชิง

ยังเหลือระยะทางอีกประมาณ 5 กิโลเมตรก่อนจะถึงเส้นชัย เซี่ยเฟยจึงรอคอยจังหวะก่อนที่จะกดปุ่มสีแดงลงไปอย่างแรง

แง้น!

รถแข่งของเซี่ยเฟยกระโดดออกไปอย่างกะทันหัน

ถูกแล้ว กระโดด!!

แรงขับที่ทรงพลังได้ผลักให้ตัวรถของเขากระโดดขึ้นไปในอากาศ!!!

ไป๋เย่แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง เมื่อรถของเซี่ยเฟยกระโดดข้ามหัวของเขาไปราวกับว่ารถคันนั้นเป็นเครื่องบิน

“เป็นไปไม่ได้!!” ไป๋เย่ส่งเสียงตะโกนพร้อมกับเท้าที่เหยียบคันเร่งจนสุดแรง

ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็ได้ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงอีกครั้ง โดยเขาได้เอียงตัวไปด้านข้างพร้อมกับทำการหักเลี้ยวอย่างรุนแรง

รถคันสีแดงเพลิงหมุนตัวในอากาศราวกับว่ามันกำลังเต้นระบำ ก่อนที่มันจะลงจอดตรงด้านหน้ารถของไป๋เย่ราวกับว่าเขาได้คำนวณเอาไว้พอดิบพอดี

เมื่อเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันมันจึงทำให้ไป๋เย่ไม่สามารถที่จะหยุดรถได้

ตูม!

รถของไป๋เย่ชนเข้าที่ท้ายรถแข่งของเซี่ยเฟย!

บรื้น!

เซี่ยเฟยได้ใช้ประโยชน์จากแรงกระแทกนี้ในการบังคับให้รถพุ่งตัวไปด้านหน้า

เครื่องยนต์ของเขาได้ถูกทำลายหลังจากที่เขาได้กดปุ่มสีแดงแล้ว มันจึงทำให้รถของเขาไม่มีกำลังที่จะขับเคลื่อนไปด้านหน้าอีกต่อไป แต่การชนของไป๋เย่ทำให้รถของเขากระเด็นไปด้านหน้าอย่างรุนแรงก่อนที่รถคันนี้จะพุ่งผ่านเส้นชัยไปอย่างรวดเร็ว!

“อันดับที่ 2! ไม่น่าเชื่อครับท่านผู้ชมว่าเซี่ยเฟยจะสามารถพลิกกลับมาแซงได้ในวินาทีสุดท้าย”

“จากอันดับสุดท้ายขึ้นมาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 นี่มันปาฏิหาริย์ชัด ๆ!!” ผู้บรรยายผมแดงส่งเสียงร้องตะโกนขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“ไม่น่าเชื่อจริง ๆ เขาต้องลงไปซ่อมรถในระหว่างการแข่งขัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 ได้” ผู้บรรยายวัยกลางคนอดที่จะชื่นชมเซี่ยเฟยขึ้นมาไม่ได้

เหล่าบรรดาผู้ชมบนอัฒจันทร์เป็นจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็กำลังกระโดดอย่างดีใจเช่นเดียวกัน ทำให้ป๊อบคอร์นพุ่งกระจายขึ้นไปในอากาศราวกับดอกไม้ไฟที่กำลังเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะของเซี่ยเฟย

ผู้ชมเฉลิมฉลองราวกับคนบ้าและไม่ว่าอะไรที่อยู่ในมือ พวกเขาก็จะโยนพวกมันขึ้นไปในอากาศ

“โอ้ยรองเท้าใครวะ!” ชายฉกรรจ์หัวโล้นเอามือจับศีรษะขณะมองไปยังผู้ชมนับไม่ถ้วนที่กำลังกระโดดโลดเต้นดีใจ

แต่ก่อนที่ชายคนนั้นจะพูดจบแก้วน้ำก็พุ่งลงมาตกกระทบบนศีรษะของเขาอีกครั้ง

ห่างออกไปหลายปีแสง

จู่ ๆ มันก็มีเสียงของแตกดังขึ้นมาจากห้องของแอวริล พ่อบ้านชราจึงรีบเปิดประตูเข้ามาในห้องด้วยความตื่นตระหนก

“คุณหนูเป็นอะไรไหม?”

แอวริลใช้นิ้วชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ที่พังอยู่บนพื้น ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสาว่า

“หนูเพิ่งทำคอมพัง ลุงรีบเอาคอมมาให้หนูเร็ว ๆ เข้า! หนูอยากเห็นเซี่ยเฟยตอนรับรางวัล!!”

“ได้ครับคุณหนู” พ่อบ้านชราโค้งคำนับพร้อมกับเม้มริมฝีปาก

หลังเดินออกมาจากห้องพ่อบ้านชราก็ส่งเสียงพึมพำขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้าภายในใจว่า

“เมื่อก่อนคุณหนูชอบทำลายของเล่น ตอนนี้คุณหนูน่าจะเริ่มทำลายคอมพิวเตอร์แล้ว ดูเหมือนฉันจะต้องสั่งคอมพิวเตอร์มาสำรองเอาไว้สักพันชุด”

เมื่อรถแข่งสีแดงเพลิงของเซี่ยเฟยก้าวข้ามเส้นชัย ระบบทุกอย่างภายในรถก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์

หลังตัวรถได้สูญเสียระบบควบคุมสมดุลย์ รถคันสีแดงก็ครูดไถลไปกับพื้นจนก่อให้เกิดประกายไฟไล่เป็นทางยาว

โชคดีที่โครงรถถูกออกแบบมาอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะไถลไปในระยะไกลแต่โครงรถก็ยังไม่ได้รับความเสียหายและไม่ก่อให้เกิดไฟไหม้ขึ้นมา

หลังจากรถได้หยุดลงเซี่ยเฟยก็เปิดประตูแล้วกระโดดออกมาจากรถแข่ง พร้อมกับโยนหมวกกันน็อกลงบนพื้นและเดินไปที่รถของไป๋เย่ที่อยู่ด้านหลัง

รถของไป๋เย่ในปัจจุบันไม่ได้มีสภาพดีไปกว่ารถของเซี่ยเฟยเลย เพราะหลังจากที่รถของเขาชนเข้ากับท้ายรถของเซี่ยเฟยรถแข่งของเขาก็สูญเสียการควบคุม มันจึงตีลังกา 2-3 ตลบก่อนที่จะร่วงลงมาพังบนสนามแข่ง

สิ่งที่น่าสลดใจกว่าก็คือเซี่ยเฟยได้ใช้แรงกระแทกจากรถของไป๋เย่เพื่อเข้าเส้นชัย แต่รถของไป๋เย่กลับเสียอยู่หน้าเส้นชัยเพียงแค่ไม่กี่เมตร

เซี่ยเฟยได้ใช้โอกาสนี้แซงไป๋เย่เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 2 แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นทำให้รถของไป๋เย่ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถจบการแข่งขันในครั้งนี้ได้

ไป๋เย่คลานออกมาจากห้องคนขับด้วยความเจ็บปวด โดยเสื้อผ้าของเขาขาดรุ่งริ่ง, ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยคราบสีดำและผมเผ้าของเขาก็ยุ่งกระเซอะกระเซิง

เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยมีความสุขมาก เขาจึงเดินเข้าไปหาชายตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม

“คุณไป๋เป็นอะไรไหม? เมื่อกี้รถของผมเสียการควบคุมจนพลาดไปขวางทางรถของคุณเข้า ผมต้องขอโทษด้วยจริง ๆ” เซี่ยเฟยพูดอย่างเสแสร้ง

ในระหว่างรอบคัดเลือกไป๋เย่พยายามยั่วยุเซี่ยเฟยครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ชายหนุ่มก็อดทนมาโดยตลอด นอกจากนี้ในการแข่งขันไป๋เย่ยังจงใจขับรถเฉี่ยวชายหนุ่มและพยายามทำร้ายเขาด้วยแรงลม ดังนั้นเซี่ยเฟยจึงไม่คิดที่จะอดทนอีกต่อไป

คนโบราณกล่าวเอาไว้ว่าบุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ!

เซี่ยเฟยไม่เพียงแต่จะใช้รถของไป๋เย่เพื่อเข้าเส้นชัยในการแข่งขันเท่านั้น แต่เขายังใช้โอกาสนี้ชำระความแค้นที่ไป๋เย่เคยก่อเอาไว้กับเขาอีกด้วย

“ไม่ต้องมาพูด! ฉันรู้ว่าแกตั้งใจ!!” ไป๋เย่ตะโกนขึ้นมาอย่างดุเดือดขณะที่พ่นฟันที่หลุดออกมาจากปาก

“คุณไป๋ใจเย็น ๆ เรื่องนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าไร้เดียงสา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาต่ออีกว่า

“ตอนที่รถผมประสบอุบัติเหตุรถของคุณก็เกือบจะชนผมตรงนี้เหมือนกัน ใครจะรู้ว่าตอนนั้นคุณจงใจด้วยหรือเปล่า”

คำตอบของเซี่ยเฟยทำให้ไป๋เย่ผงะเล็กน้อยและทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าสถานที่ที่เขากำลังยืนอยู่คือจุดที่เขาใช้ในการโจมตีเซี่ยเฟยพอดี!!

ทันใดนั้นไป๋เย่ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเซี่ยเฟยได้โจมตีเขาเหมือนกับสิ่งที่เขาเคยทำ แม้แต่สถานที่ก็ยังเป็นตำแหน่งเดียวกันกับจุดที่เขาเคยใช้ในการโจมตี

เพียงแต่วิธีการโจมตีของเซี่ยเฟยเป็นเรื่องที่แนบเนียนและโหดเหี้ยมกว่า เพราะถ้าไม่ใช่ระบบป้องกันที่รัดกุมไป๋เย่ก็อาจจะไม่รอดจากการพลิกคว่ำในครั้งนี้เลย

จู่ ๆ ไป๋เย่ก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับสีหน้าที่กลับมาเป็นปกติ

“เอาล่ะดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่า ถึงยังไงพวกเราก็อยู่ค่ายเดียวกันและฉัน ไป๋เย่! ก็ไม่ใช่คนที่ชอบคิดแค้นใคร”

“อันที่จริงผมก็ไม่ชอบเก็บความแค้นเอาไว้เหมือนกัน เพราะถ้าหากว่าผมมีความแค้นผมจะล้างแค้นในทันที!” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

***************

เป็นไงล่ะ! นอกจากจะแกล้งไม่ได้แล้วยังช่วยพี่เฟยเข้าเส้นชัยด้วย สะใจจริง ๆ!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด