ซวยแล้วไง! ดันไปเพิ่มอัตราการดรอปไอเท็มให้สูงสุดซะงั้น ตอนที่ 4 เลี้ยงนกกระจอกหลากสี
หลังจากวิเคราะห์กลไกการดรอปของไอเท็มแล้ว
เซียวซีจึงเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในนิกายที่สอดคล้องกับระดับผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้
นอกเหนือจากราชาหนอนที่ถูกพบแล้ว ดูเหมือนจะมีเพียงนกกระจอกหางหลากสีสันเท่านั้น
ไม่งั้นเขาก็คงต้องออกไปหาสิ่งมีชีวิตด้านนอกนิกายเอา
“ปกติแล้วแมงดาทะเลจะมีอยู่น้อยมาก คราวนี้ยังโชคดีได้เจอสักตัวบ้าง แต่อนาคตคงไม่โชคดีแบบนี้แล้ว”
"ส่วนนกกระจอกหางวิญญาณสีสันสดใสที่เป็นทรัพยากรที่สำคัญของนิกายนั้น มีมูลค่าสูงถึง 8,000 คะแนน แค่คิดจะซื้อยังเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ"
"ถ้าคิดจะฆ่าคงยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย"
เซียวซีส่ายหัว
สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถฆ่าได้แค่หนอนลายด่างเท่านั้น
หากเขาตั้งใจฝึกฝนและออกไปทำภารกิจ เขาก็คงจะได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระดับเทียบเท่าศิลปะการต่อสู้ข้างนอกในระหว่างที่ทำภารกิจไปแล้ว
แต่ด้วยบุคลิกของเขาที่เป็นคนระมัดระวังตัวแบบสุดขั้วแล้ว มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเอาตัวเองออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกโดยที่ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย
"ยังไงก็ฆ่าพวกแมลงที่หาเจอไปก่อนแล้วกัน"
แม้ว่าโดยพื้นฐานแล้วหนอนลายด่างจะดรอปแค่ไอเท็มระดับมนุษย์ แต่ก็ยังมีโอกาสที่พวกมันจะดรอปเป็นไอเท็มระดับการต่อสู้อยู่บ้าง
เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความปลอดภัย
สำหรับเซียวซีแล้ว ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกเสมอ
หลังจากฆ่าหนอนลายด่างและไส้เดือนที่เหลือในถุงจนหมดแล้ว
ไอเท็มระดับมนุษย์จำนวนมากก็ถูกกองไว้ในห้องของเซียวซี
มีทั้งของใช้ประจำวันและอาหารทุกประเภท
ในช่วงเวลานั้น เขายังทดลองอีกว่าเขาจะสามารถฆ่าหนอนลายด่างหลายๆ ตัวพร้อมกันได้รึเปล่า...
และผลที่เกิดขึ้นก็คือ หลังจากที่เขาฆ่าหนอนลายด่างหลายๆตัวในเวลาเดียวกันไปแล้ว ไอเท็มที่ถูกดรอปออกมาจากหนอนลายด่างพวกนั้นกลับเชื่อมติดกันราวกับทากาวเอาไว้และหลอมรวมเข้าด้วยกันในที่สุด
ตอนนี้ยังมีแหวนที่เชื่อมติดกับหม้อดินวางอยู่ตรงหน้าเขาอยู่เลย
จากหลักฐานที่วางอยู่ตรงหน้าหลังจากการทดสอบแล้ว
เขาก็ยังคงสามารถฆ่าได้แค่ทีละตัวเท่านั้น
หากต้องการที่จะฆ่าในเวลาเดียวกันแล้วล่ะก็ อย่างน้อยๆก็ต้องรักษาระยะห่างระหว่างสิ่งมีชีวิตทั้งสองตัว หากระยะห่างนั้นใกล้เกินไปและพวกมันดันตายพร้อมๆกัน ไอเท็มที่ถูกดรอปออกมาจะติดกันทันที
…
ตอนนี้ก็เป็นเวลาดึกแล้ว
แต่เซียวซีกลับไม่รู้สึกง่วงเลย
เขากำลังพลิกหน้าหนังสือสูตรโกงที่มีชื่อว่า “อาร์คแฟลช” อย่างระมัดระวังเพื่อศึกษาเทคนิคการเคลื่อนไหวระดับปฐพีอยู่
แล้วเขาก็พบว่า…
วิธีขยับร่างกายของอาร์คแฟลชนั้นแตกต่างจากวิธีขยับร่างกายในแบบทั่วไปมาก
เพราะการเคลื่อนไหวส่วนใหญ่ของอาร์คแฟลชนั้นจะเน้นไปที่ขา
อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการที่จะแสดงเทคนิคร่างกายที่มีชื่อว่าอาร์คแฟลชแล้วล่ะก็ ตามที่หนังสือบันทึกเอาไว้คาดว่ามันจำเป็นต้องใช้ความแข็งแกร่งทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งหากต้องการจะใช้เทคนิคนี้จริงๆก็ต้องมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบซะก่อน
ด้วยความแข็งแกร่งทางกายภาพในปัจจุบันของเซียวซีแล้ว ดูเหมือนว่าการใช้เทคนิคร่างกายนี้จะค่อนข้างยาก
เซียวซีคิดถึงเรื่องนี้และตัดสินใจลองดูก่อน
ตามคำอธิบายในหนังสือลับ ด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนใคร พลังจะรวมอยู่ในทุกส่วนของร่างกาย มันจะทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกหวาดกลัว
เขาลองก้าวไปข้างหน้าและตั้งท่า
ฟึ่บ!
ภายในพริบตาเดียว
ร่างของเซียวซีก็ปรากฏอยู่ห่างออกไปไกลถึงห้าเมตร
นอกจากนี้ ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน
อากาศรอบข้างก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและระเบิดขึ้นในไม่ช้า!
เทคนิคร่างกายนี้ไม่เพียงเกี่ยวกับความเร็วเท่านั้น แต่ยังมีพลังโจมตีที่รุนแรงอีกด้วย
หลังจากที่เซียวซีทำตามขั้นตอนเหล่านี้ไปแล้ว เขาก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั่วทั้งร่างกาย มันเจ็บปวดราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
ถ้าเขาลองทำมันอีกรอบล่ะก็ เขารู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเขาคงจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆก่อนที่จะทำสำเร็จแน่นอน
"แน่อยู่แล้วล่ะ...ก็พละกำลังของฉันมันยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะใช้เทคนิคการเคลื่อนไหวนี้นี่นา!"
ใบหน้าของเซียวซีซีดเผือด
แม้ว่าหนังสือลับระดับสี่ของสวรรค์ ปฐพีและสีเหลืองจะหายากและทรงพลังเนื่องจากมีระดับที่สูงกว่า แต่ความยากลำบากในการฝึกฝนและการดำเนินการก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เซียวซีตัดสินอย่างคร่าวๆ
หากเขาต้องการใช้อาร์คแฟลชโดยที่ไม่ต้องการบาดเจ็บแล้วล่ะก็ อย่างน้อยๆก็ต้องมีศิลปะการต่อสู้ถึงระดับที่ห้า
และเพื่อให้เขาสามารถแสดงศิลปะการต่อสู้ได้อย่างอิสระและง่ายดายแล้ว ความแข็งแกร่งทางกายภาพก็จะต้องอยู่ในระดับที่หกหรือเจ็ดของศิลปะการต่อสู้
การเลือกที่จะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เป็นอันดับแรก ส่วนใหญ่ก็เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่ง สร้างร่างกาย ฝึกฝนพลังงานและเลือด เพื่อให้ร่างกายแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ตัวอย่างเช่น พยัคฆ์แดงนิทรา ที่เซียวซีกำลังฝึกฝนอยู่ เทคนิคนี้นั้นสามารถปรับปรุงร่างกายในด้านต่างๆได้ เช่น ร่างกาย พลังชี่ และเลือด ภายใต้การไหลเวียนของโจวเทียน
ความแตกต่างระหว่างแต่ละระดับของศิลปะการต่อสู้มักจะสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของร่างกาย
และเมื่อถึงระดับที่เก้าของศิลปะการต่อสู้แล้ว ก็จะสามารถไปถึงขีดจำกัดของร่างกายได้
…
เวลาเช้าตรู่
ละอองฝนโปรยปรายลงมาที่พื้น
เซียวซีมาถึงป่าเพาะพันธุ์นกกระจอกหลากสี เขาเตรียมพร้อมที่จะจับหนอนลายด่างต่อไป
และเพื่อหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจจากผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
เขาจึงรับงานเลี้ยงนกกระจอกหลากสีมาเองโดยตรง
งานพวกนี้จะจ่ายคะแนนความร่วมมือให้แค่น้อยนิดเท่านั้น
ในตอนท้ายของวัน เขาจะได้รับเพียงห้าคะแนนความร่วมมือ
ถือเป็นค่าผลงานของลูกศิษย์
ตามปกติแล้วจะไม่มีสาวกภายนอกมาทำงานประเภทนี้
แต่เซียวซีรู้ว่าถ้าเขาเข้าป่ามาจับหนอนลายด่างทุกวันๆ ไม่ใช่แค่เพียงครั้งสองครั้ง แน่นอนว่ามันย่อมต้องเรียกความสนใจจากผู้คนได้อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขารู้ว่านอกจากสาวกช่างซ่อมบำรุงบางคนที่รับผิดชอบในการปลูกป่าแล้ว ยังมีผู้อาวุโสที่ดูแลมันเป็นพิเศษ
หากผู้อาวุโสคนนี้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา...
เขาจะมีปัญหาเอาได้
ดังนั้นเขาจึงเลือกเลี้ยงนกกระจอกหลากสีไว้เป็นที่กำบัง คนอื่นจะได้ไม่รู้สึกแปลกใจหากเขามาที่นี่หลายครั้ง
เขาเพียงแค่ต้องระวังพยายามอย่าให้คนอื่นเห็นเมื่อจับหนอนลายด่าง
คนที่เขาต้องระวังเป็นพิเศษก็มีแค่ผู้อาวุโสเท่านั้น
แต่เมื่อเซียวซีเริ่มเลี้ยงนกกระจอกหลากสีได้ซักพัก เขาก็ค่อยๆพบว่าความกังวลของเขานั้นดูไม่จำเป็นเอาซะเลย
ผู้อาวุโสที่รับผิดชอบที่นี่มีชื่อว่า “ชิว”
แม้ว่าเซียวซีจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งและการฝึกฝนของผู้อาวุโสชิวคนนี้ แต่เขาก็พบว่าผู้อาวุโสชิวคนนี้เป็นพวกที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องต่างๆรอบตัวมากนัก
ตอนที่เซียวซีพบผู้อาวุโสชิวคนนี้เป็นครั้งแรก ก็พบเขานอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ไผ่ กำลังดื่มไวน์อย่างสบายๆและไม่สนใจสถานการณ์แพร่พันธุ์ของนกกระจอกหลากสีเลยสักนิด
ดูเหมือนผู้อาวุโสชิวจะมาที่นี่เพียงเพื่อขัดขวางผู้ที่มีแรงจูงใจแอบแฝงต่อนกกระจอกหางวิญญาณหลากสีสัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าคิดเกี่ยวกับนกกระจอกหางวิญญาณหลากสี
นอกเหนือจากเรื่องนกกระจอกหลากสีแล้วเขาก็จะไม่ใส่ใจดูแล
ชีวิตประจำวันของผู้อาวุโสชิวก็คือการดื่มและตกปลาอยู่ที่นี่
เรื่องนี้ทำให้เซียวซีโล่งใจมาก
เพราะในด้านการจับหนอนลายด่างแล้ว เขาโดดเด่นกว่ามาก
สามวันต่อมา
เขาจับหนอนลายด่างได้มากกว่าสองร้อยตัว
ทำให้มีไอเท็มกองพะเนินอยู่ในห้องของเขามากขึ้นเรื่อยๆ
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีไอเท็มระดับศิลปะการต่อสู้ถูกดรอปออกมาเลยสักอัน ทั้งหมดล้วนเป็นไอเท็มระดับมนุษย์ทั้งนั้น
“หนอนลายด่างก็มีตั้งมากกว่าสองร้อยตัว แต่ราชาหนอนดันไม่มีเลยแม้แต่ตัวเดียว หรือราชาหนอนจะมีแค่ตัวเดียวกันนะ?”
เซียวซีรู้สึกทุกข์ใจเล็กน้อย
โดยทั่วไปแล้ว ความเป็นไปได้ที่หนอนลายด่างปกติๆทั่วไปจะดรอปไอเท็มระดับศิลปะการต่อสู้ออกมานั้นมีต่ำมาก
ถ้าหากว่าราชาหนอนมีเพียงแค่ตัวเดียวจริงๆ
และถ้าหากเขาต้องการฆ่าสิ่งมีชีวิตที่สามารถดรอปไอเท็มระดับศิลปะการต่อสู้ให้ได้ล่ะก็ เป้าหมายก็คงจะเหลือเพียงแค่นกกระจอกหางหลากสีสันเท่านั้น
ทุกวันนี้เวลาที่เขาเลี้ยงนกกระจอกหลากสีสัน เซียวซีเฝ้าสงสัยมากกว่าหนึ่งครั้งว่าจะมีวิธีใดบ้างที่เขาจะได้นกกระจอกหลากสีมาครอบครอง
แต่เมื่อเขารู้ว่านกกระจอกหางวิญญาณสีสันสดใสเหล่านี้ล้วนมีเครื่องหมายพิเศษที่ผู้อาวุโสชิวทิ้งไว้ วิธีทั้งหมดที่เขาคิดออกก็ไร้ผลไปในทันที
ตราบใดที่ยังมีเครื่องหมายพิเศษนี้อยู่
เมื่อใดก็ตามที่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนกกระจอกหลากสี ผู้อาวุโสชิวก็จะสามารถตรวจจับได้ในทันที
นี่เป็นเหตุผลหลักๆเลยที่ผู้อาวุโสชิวไม่จำเป็นต้องมาลาดตระเวนที่นี่ทุกวัน และเขาก็ยังไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครกล้าขโมยนกไปด้วย
หากเขาต้องการนกกระจอกหางวิญญาณหลากสีก็คงไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว เว้นแต่ผู้อาวุโสชิวจะถอดเครื่องหมายให้เป็นการส่วนตัวและมอบนกกระจอกหางวิญญาณหลากสีให้กับตัวเขาเองโดยตรง…
แต่นั่นมันเป็นไปไม่ได้เลยสักนิด
"ไม่มีวิธีอื่นเลยหรอ"
จู่ๆ เซียวซีก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
จากการติดต่อและสังเกตการณ์ในวันนี้
เขาพบว่าผู้อาวุโสชิวดูเหมือนจะชอบดื่มมาก
ทุกครั้งที่เขาเห็นผู้อาวุโสชิว อีกฝ่ายก็มักจะถือเหยือกไวน์ไว้ในมืออยู่ตลอดเวลา โดยปกติแล้วเขาแทบไม่เคยเอาตัวออกห่างจากไวน์เลยด้วยซ้ำ
"ถ้าผู้อาวุโสชิวเป็นคนประเภทติดเหล้า..."
ดวงตาของเซียวซีเป็นประกาย
เขาหันศีรษะไปมองที่มุมห้องทันที
มีเหยือกไวน์ถูกวางไว้อยู่หลายสิบเหยือก
มันถูกดรอปออกมาหลังจากที่เขาจัดการพวกหนอนลายด่างที่จับมาได้ตั้งแต่วันแรกๆจนถึงตอนนี้