ตอนที่แล้วตอนที่ 79: การแข่งขันที่รุนแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 81: นักปราชญ์!

ตอนที่ 80: ไป๋เย่


ตอนที่ 80: ไป๋เย่

“ไสหัวไปซะ! ถ้าใครกล้าพูดอะไรอีกอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!!!” เยว่เกอตะโกนขณะผลักฝูงชนออกไปด้านข้าง

ฝูงชนรีบแยกย้ายกันออกไปอย่างรวดเร็วแต่พวกเขาก็ยังคงกระซิบกระซาบกันเรื่องรถแข่งคันนี้ด้วยความเยาะเย้ยและดูถูก

ในขณะเดียวกันเป๋ยไฮ่กับหมานจุนก็เดินมานั่งข้างรถคันสีแดงด้วยความสลดใจ โดยเป๋ยไฮ่ได้ทุบไปยังเครื่องยนต์ของรถด้วยกำปั้นพร้อมกับกล่าวออกมาว่า

“พวกเราประกอบรถตามคู่มือทุกอย่างแล้ว ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!!”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน…” หมานจุนกล่าวด้วยความหงุดหงิด

รถแข่งเอ็กซ์ตรีมเป็นรถแข่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งจักรวาลและถึงแม้ชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถจะสามารถปรับแต่งได้ แต่โครงรถและเครื่องยนต์ไม่สามารถที่จะทำการเปลี่ยนแปลงได้

แต่ถึงกระนั้นรถคันนี้ก็ยังคงมีอุปกรณ์ที่ทำมาช่วยสนับสนุนอีกอย่างมากมาย ทำให้ผู้ประกอบสามารถเลือกชิ้นส่วนเหล่านั้นมาเสริมสร้างประสิทธิภาพให้กับตัวรถได้

การแข่งขันรถประเภทนี้จึงไม่เพียงแต่จะเป็นการทดสอบทักษะการขับขี่ของผู้เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือวิธีการประกอบรถและการจับคู่ชิ้นส่วนต่าง ๆ

ท้ายที่สุดรถประเภทนี้ก็มีอุปกรณ์สนับสนุนหลายพันชนิด ยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งการติดตั้งของอุปกรณ์แต่ละชนิดก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพของรถคันนั้นด้วย

เป๋ยไฮ่และหมานจุนคิดว่าขอเพียงแค่พวกเขาติดตั้งอุปกรณ์บนตัวรถจนครบก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่าความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นตำแหน่งการติดตั้งอุปกรณ์จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของรถด้วย

เซี่ยเฟยสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าทักษะในการประกอบรถของพวกเขาอยู่เพียงแค่ระดับเริ่มต้นเท่านั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่การประกอบรถในระดับนี้จะดึงดูดความสนใจและการเยาะเย้ยจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง

ชายหนุ่มหันศีรษะเหลือบตามองไปยังเฉินตง ในขณะที่ชายตรงหน้าก็ทำได้แต่กางแขนทั้งสองข้างออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“ไม่ต้องมามอง ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเครื่องยนต์”

หลังจากที่เซี่ยเฟยได้เดินวนรอบรถประมาณ 2-3 รอบ เขาก็ได้ค้นพบข้อผิดพลาดมากกว่า 100 รายการ

เดิมที่เขาต้องการที่จะให้คำแนะนำเป๋ยไฮ่และหมานจุนเพื่อปรับปรุงส่วนที่ผิดพลาด แต่เขาก็ได้พบว่ารถคันนี้มันแย่มากและคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการรื้อมันทั้งหมดก่อนที่จะประกอบขึ้นมาใหม่

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกับเฉินตงกลับก่อนนะ” เซี่ยเฟยกล่าว

เป๋ยไฮ่พยักหน้ารับเงียบ ๆ ซึ่งท่าทางของเขาก็ดูท้อแท้มาก

ส่วนทางเยว่เกอก็กำลังถูมือด้วยความไม่พอใจ ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวผู้แข็งแกร่งคนนี้กำลังพยายามคิดหาวิธีแก้ปัญหาอย่างหนักและมันก็ทำให้เธอดูกระวนกระวาย

เซี่ยเฟยขยิบตาให้เฉินตงและกำลังจะหนีกลับไปที่ห้องพัก แต่ทันใดนั้นมันก็เกิดความโกลาหลบริเวณด้านนอกอาคาร ก่อนจะมีนักเรียนหญิงจำนวนมากปรากฏขึ้นตรงบริเวณประตู

สถานการณ์นี้ดึงดูดความสนใจจากเซี่ยเฟยได้ทันทีเนื่องจากการแข่งรถมักจะได้รับความสนใจจากผู้ชาย แต่ไม่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงเท่าไหร่

แล้วทำไมในตอนนี้มันถึงมีนักเรียนหญิงจำนวนมากปรากฏตัวที่นี่?

ท่ามกลางเสียงเชียร์ของนักเรียนหญิงมันก็ได้มีชายหนุ่มชุดขาวยืนอยู่ ซึ่งผมของเขาถูกหวีอย่างพิถีพิถันและกางเกงของเขาก็ถูกรีดอย่างเรียบร้อยโดยไม่มีรอยยับใด ๆ

ชายหนุ่มคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าและเขาก็กำลังพูดทักทายคนรอบข้างในขณะที่เดินเข้ามาภายในอาคาร

ทุก ๆ รอยยิ้มที่ชายหนุ่มส่งออกไปมันก็ได้ทำให้สาว ๆ ที่อยู่ด้านข้างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดราวกับว่าดาราใหญ่กำลังเดินขึ้นเวที

“ใครอ่ะ?” เซี่ยเฟยถาม

“เขาชื่อ ‘ไป๋เย่’ เป็นลูกชายคนที่ 3 ของตระกูลไป๋จากภูเขาเยว่หู” เยว่เกอพูดด้วยน้ำเสียงอันโกรธเคือง

“เขาก็เป็นเด็กโควตาพิเศษเหมือนกัน แต่สถานการณ์ของเขาดีกว่าพวกเราเยอะและเขายังได้รับการต้อนรับจากนักเรียนหญิงทุกคนในค่ายด้วย”

เซี่ยเฟยพยักหน้าอย่างเข้าใจเพราะด้วยท่าทางและบุคลิกของไป๋เย่เป็นเหมือนดารา มันจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกผู้หญิงจะชื่นชอบเขา

“เธอก็เป็นผู้หญิงนี่ ทำไมฉันถึงคิดว่าเธอไม่ชอบเขา?” เซี่ยเฟยถาม

“ฉันชอบผู้หญิง! ผู้ชายตุ้งติ้งแบบนี้ไม่ใช่สเปคฉัน” เยว่เกอตอบอย่างโกรธเคือง

เมื่อเหล่าฝูงชนที่พลุกพล่านเดินเข้ามาภายในอาคาร มันก็ทำให้เซี่ยเฟยและเฉินตงต้องถอยห่างออกไปเพื่อหลีกทางให้กับบรรดาแฟนคลับที่คลั่งไคล้และไอดอลสุดหล่อของพวกเธอ

จากนั้นเซี่ยเฟยก็ได้มองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจรถแข่งคันอื่น ๆ ที่อยู่ภายในอาคารและเขาก็ได้พบว่ารถแข่งเหล่านี้ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีข้อบกพร่องกันทุกคัน

“แปลก ๆ แหะ นี่ฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่ารถแข่งพวกนี้มันมีปัญหาทุกคันเลย?” เซี่ยเฟยกระซิบกับตัวเอง

ว่ากันว่านักเรียนภายในค่ายฝึกจัสทิสลีกจะมีแต่เหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญ แต่ไม่ว่าเขาจะมองยังไงรถแข่งข้างหน้าต่างก็มีปัญหาและทักษะของผู้ประกอบก็ไม่ได้สูงมากเท่าไหร่เลย

“เป็นไปได้ไหมที่ทักษะช่างยนต์ของฉันจะเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว” เซี่ยเฟยครุ่นคิดอย่างลับ ๆ

เขาเคยเรียนรู้งานเหล่านี้จากอู่ของพอตเตอร์มาเป็นเวลานาน ซึ่งในบางครั้งพอตเตอร์ก็ได้สอนทักษะใหม่ ๆ และคอยสั่งสอนเขาด้วยตนเอง

ในช่วงเวลาที่เซี่ยเฟยอาศัยอยู่ในอู่ของพอตเตอร์ ทักษะช่างยนต์ของเขาอยู่ในระดับพื้นฐานเท่านั้น ในขณะที่พอตเตอร์และลูกศิษย์ทั้งสี่มีความเชี่ยวชาญยิ่งกว่าชายหนุ่มไปไกล ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดอยู่เสมอว่าระดับทักษะของเขาน่าจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของคนโดยทั่วไป

ยิ่งเซี่ยเฟยได้คิดพิจารณาเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเท่านั้น

“ทักษะของฉันน่าจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยไม่ใช่หรอ? แล้วระดับการประกอบรถแข่งพวกนี้แย่กว่าฉันได้ยังไง?”

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ชายหนุ่มก็ได้เดินไปสำรวจรถแข่งของแต่ละทีม ทีละคัน ๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง

ในขณะเดียวกันไป๋เย่ก็ได้เดินมาถึงด้านข้างของเยว่เกอ ก่อนเขาจะโค้งคำนับให้หญิงสาวอย่างสุภาพและส่งรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าออกไป

เหตุการณ์นี้ได้ทำให้นักเรียนสาวที่อยู่ข้าง ๆ ไม่สามารถทนต่อรอยยิ้มกระชากใจของไป๋เย่ได้ เธอจึงกรีดร้องออกมาเสียงดังและเป็นลมล้มพับไป

แต่สำหรับเยว่เกอแล้วเธอก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นการทักทายของชายหนุ่มและหันหน้าไปมองยังทิศทางอื่นอย่างเย็นชา

การแสดงออกของเยว่เกอทำให้ไป๋เย่รู้สึกอับอายมาก เขาจึงเผยรอยยิ้มแห้ง ๆ และไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะส่ายหัวแล้วเดินไปยังพื้นที่ประกอบรถของทีมที่อยู่ไม่ไกล

เมื่อมาถึงเขาก็จัดการถอดเสื้อนอกส่งให้กับคนรับใช้ จากนั้นเขาก็พับแขนเสื้อขึ้นมาอย่างเรียบร้อยและถือคีมอเนกประสงค์ขนาดเล็กไว้ในมือ

การกระทำที่เรียบง่ายเช่นนี้ก็ได้ทำให้สาว ๆ ที่อยู่ด้านข้างร้องอุทานออกมาและใบหน้าของพวกเธอก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูด้วยความตื่นเต้น

การปรากฏตัวของไป๋เย่และแฟนคลับได้ทำให้นักเรียนชายภายในอาคารรู้สึกไม่พอใจและทุกคนก็จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างหงุดหงิด

ท้ายที่สุดแม้แต่ครูฝึกที่ดูแลอาคารก็ทนไม่ไหว เขาจึงต้องจัดการเชิญเหล่าบรรดาแฟนคลับที่คลั่งไคล้เหล่านี้ออกไปยังข้างนอกตัวอาคาร

แต่นักเรียนหญิงเหล่านี้ก็ไม่ได้ยอมแพ้ พวกเธอจึงยืนขวางประตูและเรียกชื่อไป๋เย่เสียงดังเพื่อคอยส่งกำลังใจให้ไอดอลของพวกเธอ

อาคารแห่งนี้มีรถแข่งที่กำลังประกอบมากกว่า 300 คัน เซี่ยเฟยจึงเลือกเข้าไปตรวจสอบรถแต่ละคันอย่างละเอียดถี่ถ้วน

แต่ยิ่งเขามองพวกมันนานเท่าไหร่เขาก็ยิ่งตระหนักได้ว่ารถแข่งเหล่านี้มีปัญหามากมายและยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบตามที่เขาจินตนาการไว้

“นี่ฉันประเมินนักเรียนในค่ายสูงไป หรือว่ามันสมควรเป็นแบบนี้อยู่แล้วกันแน่” เซี่ยเฟยคิดขณะที่ถูคางของเขาไปมา

จากนั้นชายหนุ่มก็ได้เดินกลับไปยังจุดเดิมพร้อมกับหยิบคีมอเนกประสงค์ขึ้นมาขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องมองไปยังรถแข่งสีแดงข้างหน้า

ก่อนที่เขาจะรู้ตัวเซี่ยเฟยก็ได้หลุดเข้าไปอยู่ในภวังค์ของตนเองและเสียงรอบ ๆ ข้างก็ค่อย ๆ หายไปอย่างช้า ๆ

ช่างยนต์ที่ดีจำเป็นที่จะต้องจำลองทุกขั้นตอนในการประกอบรถหลาย ๆ ครั้งภายในใจก่อนการลงมือทำเสมอ เพื่อค้นหาข้อบกพร่องและวิธีแก้ไขที่สมเหตุสมผล ทำให้รถทุกคันที่พวกเขาสร้างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ได้นั่งลงบนพื้นแล้วเคาะคีมอเนกประสงค์ภายในมือเบา ๆ ในขณะที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังรถสีแดงด้วยความแน่วแน่และจริงจัง

เฉินตงเป็นคนแรกที่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของเซี่ยเฟย โดยเขาคุ้นเคยกับท่าทางเหล่านี้เป็นอย่างดีเพราะมันคือลักษณะท่าทางและสายตาที่เหมือนกับตอนที่พวกเขาต่อสู้กันอย่างสุดกำลัง

เขารู้ได้ในทันทีว่าเมื่อเซี่ยเฟยเข้าสู่สถานะนี้หมายความว่าชายหนุ่มกำลังพยายามอย่างเต็มที่ แต่เพียงว่าตอนนี้เขาไม่เข้าใจว่าเซี่ยเฟยกำลังตั้งใจทำอะไรอยู่กันแน่

“ไอ้บ้าเซี่ย! นี่นายกำลังจะทำอะไร? จู่ ๆ ก็เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!?” เยว่เกอกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิด

แต่เนื่องจากเซี่ยเฟยกำลังทุ่มเทสมาธิทั้งหมดไปยังรถสีแดงข้างหน้า มันจึงทำให้เขาไม่ได้ยินคำพูดของเยว่เกอและยังคงใช้ความคิดของตนเองโดยไม่สนใจหญิงสาวเลยแม้แต่น้อย

“เฮ้ไอ้บ้าเซี่ย! นี่ฉันคุยกับนายอยู่นะ!!” เยว่เกอตะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเกรี้ยว

เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเฉินตงก็รีบจับไหล่ของเยว่เกอด้วยท่าทางจริงจังและกล่าวขึ้นมาว่า

“อย่าพึ่งไปกวนเขา เขากำลังใช้ความคิดอยู่”

เมื่อเยว่เกอได้ยินคำห้ามปรามของเฉินตงเธอก็นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความไม่พอใจ แต่เมื่อเธอได้มองไปยังเซี่ยเฟย เธอก็ได้พบว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังแสดงท่าทีจริงจังที่ต่างจากเดิมราวกับเป็นคนละคน

ในขณะเดียวกันไป๋เย่ก็เริ่มขยับมือของเขาเพื่อทำการดัดแปลงรถแข่ง ซึ่งแม้ว่าภาพภายนอกชายคนนี้จะดูเจ้าสำอางแต่จริง ๆ แล้วเขาค่อนข้างเชี่ยวชาญในเรื่องเครื่องจักรเป็นอย่างดี

การเคลื่อนไหวของเขาดูสง่างามและเชื่องช้าราวกับผู้เชี่ยวชาญด้านการปักผ้า ในขณะที่นิ้วที่ยืดหยุ่นของเขาก็ขยับอย่างมีจังหวะคล้ายกับการเต้นระบำ

อันที่จริงแล้วไป๋เย่ไม่ชอบการแข่งรถที่รุนแรงนี้เลย เพราะเขารู้สึกว่าการแข่งรถที่บ้าคลั่งและป่าเถื่อนแบบนี้ไม่เหมาะกับความสง่างามของเขา นอกจากนี้การประกอบรถแข่งจะทำให้มือของเขาสกปรกซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ

เหตุผลที่ทำให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันรถในครั้งนี้ก็เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่สำคัญสำหรับเขามาก แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่เคยชายตามองเขาเลยด้วยซ้ำ

นักเรียนภายในอาคารสังเกตเห็นการกระทำของไป๋เย่อย่างรวดเร็วและในตอนนี้ทุกคนก็ได้มารวมตัวกันเพื่อดูชายหนุ่มประกอบรถของตัวเอง

ไป๋เย่ถือว่ามีทักษะเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างสูงและส่วนประกอบทุกอย่างที่เขาเลือกนั้นก็เหมาะสม จนทำให้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญทางเครื่องยนต์ก็ไม่สามารถหาข้อบกพร่องของเขาได้

ฝูงชนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เริ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อไม่สามารถมองหาข้อผิดพลาดในการประกอบรถของไป๋เย่ได้ ซึ่งสถานการณ์นี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้เขายังชอบความรู้สึกที่ถูกจับตามองและยิ่งเขาได้รับความสนใจมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อมีคนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก คนอื่น ๆ ก็เริ่มให้ความสนใจและทุกคนต่างก็พูดถึงวิธีการประกอบรถที่ยอดเยี่ยมของไป๋เย่อย่างท่วมท้น

แต่ทันใดนั้นเองเซี่ยเฟยที่ก่อนหน้านี้อยู่ในสภาวะการทำสมาธิก็เริ่มขยับตัวของเขาแล้ว

**************

เอาว่ะ!! เรียนประกอบยานมาประกอบรถแข่งว่ะ!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด