ตอนที่แล้วตอนที่ 4 : การอัพเกรดระบบ ได้รับอาคารในเขตโรงเรียน (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 : พูดถึงเรื่องเล็กน้อยในสมัยมัธยม!

ตอนที่ 5 : รวมรุ่น นายเงินเดือนเท่าไร?


ตอนที่ 5 : รวมรุ่น นายเงินเดือนเท่าไร?

เงียบ!

ทุกคนจากเหลียนเจียเงียบมากจนแม้แต่เข็มตกก็ยังได้ยิน

ปากของเฉียวซือหย่าเปิดอ้าออกครึ่งหนึ่ง และเธอก็อึ้งกิมกี่ไปเลย

เธอได้ยินว่าอะไรนะ?

หลินฝานมอบหมายให้เหลียนเจียดูแลเรื่องการปล่อยเช่าของอาคารทั้งหมดในวอชิงตันพาเลซงั้นเหรอ?

เขาเป็นเจ้าของตึกทั้งหลังเลยเหรอ?

และมันยังอยู่ในวอชิงตันพาเลซด้วยเหรอ?

ราคาเฉลี่ยของบ้านในวอชิงตันพาเลซอยู่ที่ 50,000 หยวนต่อตารางเมตร บ้านหนึ่งหลังจะมีราคาประมาณ 5 ล้านหยวน อาคารทั้งหลังจะมีราคาเท่าไหร่กัน?

ทันทีหลังจากนั้น เฉียวซือหย่าก็นึกถึงลัมโบร์กีนี่แสนสุดยอดที่หลินฝานขับเมื่อวาน

กลายเป็นว่าเขาเป็นคนรวยจริงๆ—มหาเศรษฐี!

อย่างไรก็ตาม เธอ… ก็ปฏิเสธเขาไปเมื่อวาน!

ถ้าเธอได้ลงเอยกับเขา วันนี้เธอก็คงไม่ต้องเสียเหงื่อแม้แต่หยดเดียว!

การสำนึกได้ที่แสนเจ็บปวด

เฉียวซือหย่ารู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกของเธอไม่รู้คลาย

หลินฝานเหลือบมองเฉียวซือหย่าอย่างไม่แยแสก่อนที่จะเดินออกไป

เขาไม่ได้มีความประทับใจที่ดีกับผู้หญิงคนนี้ที่ดูถูกคนอื่น

เฉียวซือหย่ารีบตะโกนเรียก “หลินฝาน… ฉันหมายถึง คุณหลิน…”

อย่างไรก็ตาม แผ่นหลังสูงของเขาก็คือคำตอบเดียวที่เธอได้รับ

“คุณครับ คุณยังอยากเช่าบ้านในวอชิงตันพาเลซอยู่ไหมคะ?” ฮั่นเทียนถาม

“ค่า ฉันอยากเช่าบ้านอยู่” เฉียวซือหย่าตอบ

ในเวลานั้นเองเธอก็ได้สติกลับมา

ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอก็ต้องเช่าบ้านอยู่ดี

“ยูนิต 104 ในตึก A เป็นที่เดียวที่มีให้เช่า” ฮั่นเทียนกล่าว “ค่าเช่าเดือนละ 30,000 หยวนค่ะ”

ก่อนหน้านี้ฮั่นเทียนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในการแสดงออกของหลินฝาน เธอจึงรู้ว่าหลินฝานเกลียดผู้หญิงตรงหน้าของเธอ

หลินฝานเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเธอ เขาเป็นลูกค้าสุดหล่อที่ไว้วางใจในตัวเธอ!

หลินฝานเกลียดผู้หญิงตรงหน้าของเธอ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เธอจะต้องสอนบทเรียนให้กับผู้หญิงคนนี้

“30,000 เหรอคะ? มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ? มันมีย่านหรูๆ อีกแห่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่และค่าเช่าแค่เดือนละ 3,000 หยวนเท่านั้นเอง!” เฉียวซือหย่าอุทานออกมา

“นอกจากนี้ เมื่อครู่นี้ พนักงานขายของคุณยังบอกว่ามีหลายยูนิตให้เลือก ทำไมคุณถึงบอกว่าเหลือแค่ยูนิต 104 ล่ะคะ?”

“เขาไม่ใช่พนักงานขายคนเดียวในบริษัทของเราค่ะ เขาจะรู้เรื่องสักแค่ไหน?” ฮั่นเทียนพูดอย่างไม่เร่งรีบ “หลายๆ ยูนิตถูกจองโดยลูกค้าคนอื่นแล้วค่ะ”

“และเนื่องจากคุณบอกว่าค่าเช่าในย่านหรูอื่นที่อยู่ใกล้ๆ นั้นราคาถูก คุณก็ไปเช่าที่นั่นก็ได้ค่ะ”

หลังจากเธอพูดจบ เธอก็เดินจากไป

“คุณมันไร้เหตุผล!”

เฉียวซือหย่าโมโห

ในเวลานั้นเอง โทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็ดังขึ้น

“ซือหย่า ลูกต้องช่วยหาบ้านเช่าให้น้องในวอชิงตันพาเลซนะ! ถ้าช้าออกไปอีก น้องจะไม่ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมต้นเจียงเป่ย” เสียงของเฉินหมินเฟินฟังดูเป็นกังวล

“แม่ หนูเจอบ้านแล้วค่ะ” เฉียวซือหย่าพูดอ้อมแอ้ม

“จริงเหรอ? ดีเลย งั้นก็รีบเช่าเลย อย่าปล่อยให้คนอื่นแย่งไปได้!” เฉินมินเฟินตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น

“แต่ราคาค่าเช่า…”

“ราคาอะไรกัน? พวกเราต้องเช่าให้ได้ไม่ว่ามันจะแพงแค่ไหน! สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือโรงเรียนของน้องชายลูกไม่ใช่เหรอ?” เฉินมินเฟินตะโกนออกมา

“ก็ได้ค่ะ หนูจะเช่าเดี๋ยวนี้แหละ” เฉียวซือหย่าถอนหายใจออกมา

“แม่ เมื่อวานแม่บอกว่าหลินฝานมาจากครอบครัวธรรมดาๆ ใช่ไหมคะ?”

“ใช่ พวกเขาเปิดร้านขายเสื้อผ้าเล็กๆ ทำไมเหรอ?” เฉินมินเฟิงกล่าว

“ไม่มีอะไรค่ะ…” เฉียวซือหย่าถอนหายใจออกมา

เธอคิดกับตัวเอง ‘ร้านเสื้อผ้าเล็กๆ งั้นเหรอ? พวกเขาน่าจะถ่อมตัว ในความเป็นจริง พวกเขาต้องบริหารบริษัทแฟชั่นขนาดใหญ่แน่ๆ’

หลังจากวางสาย เฉียวซือหย่าก็ไม่มีทางเลือกอีกนอกจากต้องเดินหน้าต่อไปอีกครั้ง เธอกัดฟันและกล่าวว่า “ฉันจะเช่ายูนิต 104 เองค่ะ!”

หลังจากหลินฝานมาทานข้าวเที่ยงที่โรงแรมฮิลตันแล้ว เขาก็ไปที่ห้องเพรซซิเดนเชิลสวีทเพื่องีบหลับ

ตอนนี้เขาได้เอาข้าวของส่วนตัวทั้งหมดออกจากอพาร์ทเมนต์ที่เช่าไว้แล้ว มันจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะไม่กลับไปที่นั่นอีก

หลินฝานหลับตาและเข้าสู่โลกแห่งความฝันอย่างช้าๆ

เมื่อเขาลืมตาขึ้น มันก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว

หลินฝานเลื่อนดูโทรศัพท์ของเขาอย่างไม่ตั้งใจและตระหนักว่าการสนทนากลุ่มในโรงเรียนมัธยมของเขาซึ่งเงียบไปนานนั้นได้กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้งในวันนี้

กลายเป็นว่าพวกเขาได้จัดงานรวมรุ่นขึ้น ณ โรงแรมเฟิงไหลในเมืองเจียงเป่ย ตอนเวลาหนึ่งทุ่มในวันนี้ ทุกคนที่ว่างจะไปที่นั่น

หลินฝานอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสมัยเรียนมัธยมปลาย เขาจำเสียงหัวเราะและใบหน้าของเพื่อนดีๆ ที่มีเพียงไม่กี่คนของเขาได้

ในเวลาเดียวกัน เขาก็คิดว่าในคืนนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจะไปร่วมงานรวมรุ่น

หลินฝานรู้สึกว่ามันจะเป็นชั่วโมงเร่งด่วนบนท้องถนน มันต้องมีรถบนถนนเยอะมากแน่ๆ และมันคงจะแออัดมาก

ดังนั้นเขาจึงออกจากโรงแรมฮิลตันเร็วกว่ากำหนด

อย่างที่หลินฝานคิดไว้ มันมีรถเป็นจำนวนมากอยู่บนท้องถนน

อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่ได้นับความจริงที่ว่าเขากำลังขับรถลัมโบร์กินี่ ดังนั้นรถที่อยู่รอบตัวเขาจึงเริ่มเว้นระยะห่างจากเขาไป

ประกอบกับทักษะการขับรถอย่างมืออาชีพของหลินฝาน เขาจึงไม่มีอุปสรรคเลยตลอดทาง

เวลา 18:40 น. หลินฝานก็มาถึงห้อง 666 ของโรงแรมเฟิงไหล

“หืม หลินฝานเหรอ?” ชายหนุ่มใบหน้ากลมกล่าวด้วยความไม่แน่ใจ

“เซินเหลียง นายเปลี่ยนไปเยอะเลย!” หลินฝานหัวเราะออกมาและพยักหน้า

ตอนมัธยมปลาย เซินเหลียงทั้งสูงและผอม เขามีชื่อเล่นว่า ‘ไม้ไผ่’

ในตอนนี้กลับกลายเป็นก้อนเนื้อ เวลาช่างเป็นดั่งมีดในเขียงหมูจริงๆ

“เป็นนายจริงๆ ด้วย! ฉันไม่ได้เจอนายมาตั้งหลายปี นายหล่อขึ้นเยอะเลย ฉันเกือบจำนายไม่ได้แล้ว!” เซินเหลียงกล่าว

ชายหนุ่มนามหวังฮ่าวฉีกล่าว “หลินฝาน นี่คือครั้งแรกที่พวกเราได้เจอกันหลังเรียนจบเลยใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่านายเริ่มทำงานเลยหลังจากเรียนจบมอปลาย นายเงินเดือนเท่าไรกัน?”

“ก็ไม่กี่พัน” หลินฝานตอบแบบผ่านๆ

“ไม่กี่พัน? งั้นนายต้องกินให้เยอะๆ นะ เพราะอาหารที่พวกเรากินกันในวันนี้น่าจะเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของนายเลย” หวังฮ่าวฉีหัวเราะเยาะเขาด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

หลินฝานจะหล่อแล้วยังไง?

เขามีรายได้เพียงไม่กี่พันหยวนต่อเดือน

หลินฝานขมวดคิ้ว

เขาจะไม่ได้ยินคำเยาะเย้ยในคำพูดของหวังฮ่าวฉีได้ยังไง?

อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็เป็นวันรวมรุ่น มันไม่สมควรที่จะทำอะไรไม่เหมาะสมออกไป

ดังนั้นหลินฝานจึงไม่พูดอะไรมาก

หยางเวิ่นซูซึ่งสวมชุดแบรนด์ดังเดินเข้ามาพร้อมกับชายวัยกลางคนที่อ้วนลงพุง

เมื่อคนอื่นๆ เห็นเธอ พวกเขาต่างก็เริ่มทักทายเธอ

“โว้ว! เธอคือหยางเวิ่นซู สาวสวยจะชั้นปีของพวกเราไม่ใช่เหรอ?”

“ฉันไม่เจอเธอมาหลายปีเลย เธอทั้งเด็กลงและสวยขึ้นไปอีก!”

“หยางคนสวย เธอจะไม่แนะนำคนที่อยู่ข้างๆ เธอให้พวกเรารู้จักหน่อยเหรอ?”

...

หยางเวิ่นซูรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยินคำชมจากเพื่อนร่วมชั้นของเธอ เธอหัวเราะจนตัวสั่น แป้งจากรองพื้นบนใบหน้าของเธอหลุดออกมาและตกลงมาที่โต๊ะ

“ขอบคุณสำหรับคำชมนะ นี่คือสามีของฉันเอง ตู้เล่ย” หยางเวิ่นซูกล่าว

หลินฝานเองก็มองไปที่หยางเวิ่นซูและสามีของเธอ หลินฝานถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ย้อนกลับไปตอนมัธยมปลาย มันมีสาวๆ สองสามคนในชั้นเรียนของเขาที่แสดงความชื่นชอบในตัวเขา

หยางเวิ่นซูเป็นคนที่ตรงไปตรงมาและกล้าหาญที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้นหลินฝานก็สนใจเรื่องเรียนเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธหยางเวิ่นซูและสาวๆ คนอื่นไป

เมื่อมองดูหยางเวิ่นซูตอนนี้ หลินฝานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจกับการตัดสินใจในตอนนั้น

ตึก ตึก

ในเวลานั้นเอง ฉินอวี่ซวนซึ่งมีผิวขาวและผมสีดำขลับที่ย้อยลงมาอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนน้ำตกก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆ

ฉินอวี่ซวนแต่งกายด้วยชุดลำลอง แต่ผิวพรรณอันละเอียดอ่อนและรูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอก็ทำให้เธอดูไม่ธรรมดา

เมื่อเธอมาถึง ราวกับว่าห้องส่วนตัวทั้งห้องสว่างขึ้น

แม้แต่หลินฝานก็ยังตาเป็นประกาย

“ฉินอวี่ซวน! ฉันไม่คิดเลยว่านักเรียนตัวท็อปอย่างเธอจะมาด้วย!”

“ช่างเป็นวันที่หาได้ยากจริงๆ”

“ยังไงก็เถอะ ไม่ใช่ว่ามันมีข่าวลือตอนมอปลายว่าฉินอวี่ซวนและหยางเวิ่นซูสนใจในตัวหลินฝานงั้นเหรอ? สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้เป็นไงบ้าง?”

“สถานการณ์อะไรล่ะ? หยางเวิ่นซูแต่งงานกับตาเสี่ยนั่นไปแล้ว! ฉันได้ยินมาว่าฉินอวี่ซวนกำลังเรียนอยู่ในเมืองโม่ตู้!”

“หยางเวิ่นซูเป็นคุณนายไปแล้ว ส่วนฉินอวี่ซวนก็ยังคงเป็นเทพธิดา! หลินฝานเริ่มทำงานเลยหลังจากจบมอปลาย ตอนนี้เขาก็มีเงินเดือนแค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น เขามันคนจน นายคิดว่ามันจะมีสถานการณ์อะไรอีกล่ะ?”

3 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด