ตอนที่แล้วตอนที่ 26 : ร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 28 : ปัดฝุ่นธุรกิจ

ตอนที่ 27 : ใช้หนี้คืน


"เสี่ยวหยุน สาขานี้ก็ได้รับความนิยมเหมือนกันด้วย!" ฉินซวนพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นภาพความคึกคักของร้านเสื้อผ้า

"ผมบอกไปแล้วว่าไม่ต้องกังวล" ฉินหยุนยิ้ม

ฉินซวนมองดูน้องชายของเธอ ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าเขาดูเหมือนจะถูกปลาหลีฮื้อเข้าสิงจริงๆ* เขาเปิดร้านค้า 2 ร้านติดต่อกันและพวกมันก็ยังได้รับความนิยมมากด้วย

น้องชายของเธอมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เธอมีความรู้สึกว่า ในอนาคตตราบใดที่เขามีโอกาส ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ทันที

...

ในช่วงเดือนพฤษภาคม อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก ก่อนหน้านี้อาจมีแดดจัด แต่ทันใดนั้นเมฆดำก็ปรากฏขึ้น เหมือนกับอารมณ์ของซุนหยาตงในเวลานี้

ธุรกิจร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งสองแห่งกำลังเฟื่องฟูแถมยังได้รับความนิยมอย่างสูง แต่ร้านขายเสื้อผ้าฉีหยุนนั้นเงียบเหงาเหมือนกับป่าช้ามากในเวลานี้

"พ่อ พ่อพูดจริงเหรอ ที่ว่าเรายังไม่ได้ขายเสื้อผ้าแม้แต่ตัวเดียวในเช้าวันนี้?" ซุนเจี้ยนเฉียงมองไปที่ซุนหยาตง และอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

หลังจากเลิกเรียนเขามาที่ร้านในช่วงเที่ยงวัน

ขณะนี้เองยังคงมีเค้าของความไม่อยากจะเชื่อในดวงตาของเขา

"เป็นไปได้ยังไง? ยกเว้นชื่อร้านเพียงคำเดียวที่เปลี่ยนไป นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย สไตล์ของเสื้อผ้ายังคงเหมือนเดิมและราคาก็ยังเหมือนเดิม นี่ไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าเหล่านี้ให้ความสำคัญหรอกเหรอ?"

ที่ตั้งของร้านก็ไม่ได้ถูกเปลี่ยนไปไหน เมื่อวานธุรกิจของร้านนี้ยังคงร้อนแรงมาก แต่ตอนนี้มันถูกทิ้งให้รกร้างภายในพริบตา

พอคิดดูให้ดี เรื่องนี้มันก็ค่อนข้างแปลก

"ฉันจะโกหกแกไปทำไม!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของซุนหยาตงก็ดูเศร้าหมองเล็กน้อย เขาพูดต่อ "ธุรกิจของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนยังคงขายดีและเป็นที่นิยม ลูกค้าเหล่านั้นดูเหมือนจะจำร้านนั้นได้แล้ว"

มันคือซุนเจี้ยนเฉียงเองที่เป็นผู้ที่เสนอให้เปิดร้านเสื้อผ้า ดังนั้นซุนหยาตงจึงมีความคิดแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้จะโกรธซุนเจี้ยนเฉียงด้วยเหตุผลนี้

“งั้นมันเป็นเพราะอะไรกัน?”

ซุนเจี้ยนเฉียงขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "พ่อครับ มีลูกค้ามากมายภายในร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน หรืออาจเป็นเพราะว่าคนเหล่านั้นถูกจ้างมา?"

"ถูกจ้าง?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ซุนหยาตงก็ผงะ

“ใช่ครับพ่อ ผมได้ยินมาว่าหลายๆร้านจะเจาะจงจ้างหน้าม้าให้มายืนในร้านเฉยๆ เพื่อสร้างภาพลวงตาว่าธุรกิจกำลังได้รับความนิยม ด้วยวิธีนี้ลูกค้าคนอื่นๆจะเข้ามาดูที่ร้าน เมื่อเห็นว่าร้านค้ากำลังเป็นที่นิยมลูกค้าบางคนก็อาจจะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อของบ้าง ต่อให้มีไม่กี่คนที่ซื้อจริงๆ พวกเขาก็ยังสามารถที่จะได้รับทุนคืนพร้อมกำไรอีกนิดหน่อย” ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าวอย่างจริงจัง

"เป็นแบบนั้นจริงเหรอ?" แม้ว่าที่ซุนเจี้ยนเฉียงพูดจะฟังดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ซุนหยาตงก็อดคล้อยตามไม่ได้

แม้ว่าลูกชายของเขา ซุนเจี้ยนเฉียงจะไม่ค่อยชอบการเรียนสักเท่าไร แต่เขาก็มีจิตใจที่ยืดหยุ่นมากกว่าซุนหยาตง ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้มาก่อน

“พ่อคิดดูสิ ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนได้รับความนิยมมากตอนที่เปิดกิจการครั้งแรก ส่วนเราที่เปิดกิจการพร้อมกัน กลับขายเสื้อผ้าไม่ได้เลยสักตัว? แบบชุด สไตล์และราคาของเสื้อผ้านั้นก็ไม่ต่างกัน ซึ่งมันผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด”

ซุนเจี้ยนเฉียงวิเคราะห์ต่อ "ดังนั้นฉินหยุนต้องใช้วิธีนี้แน่นอน!"

ยิ่งเขาวิเคราะห์มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น

"พ่อครับ ผมคิดว่าเราสามารถใช้วิธีนี้และจ้างหน้าม้ามาที่นี่เพื่อรอดูผลลัพธ์ได้"

ซุนเจี้ยนเฉียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ในเมื่อวิธีของฉินหยุนทำแล้วประสบความสำเร็จ เราก็สามารถลองทำได้เช่นกัน"

เห็นได้ชัดว่าซุนหยาตงคล้อยตามเล็กน้อย เขารู้สึกว่าความคิดเชิงวิเคราะห์ของลูกชายของเขานั้นมีเหตุผลมาก และนั่นอาจเป็นสิ่งที่ฉินหยุนทำจริงๆ

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดซุนหยาตงก็ตัดสินใจทำตามคำแนะนำของลูกชาย

"ฉันรู้จักเพื่อนคนหนึ่งที่เคยทำสิ่งที่คล้ายกันมาก่อน ฉันจะลองโทรหาเขาและถามเขาเกี่ยวกับช่องทางของคนที่รับงานนี้" ซุนหยาตงกล่าวออกมาทันที

โดยไม่เสียเวลาเพิ่ม เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรออกอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะมีความคิดว่า กิจการในร้านอาจจะไปได้ไม่ดีหรืออาจขาดทุนได้ทันที แต่ตอนนี้ ในเมื่อเปิดร้านแล้ว อย่างน้อยก็ต้องเปิดอีกสัก 2-3 วัน เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน เป็นไปไม่ได้ที่จะปิดทันทีหลังจากเปิดไปได้แค่ครึ่งวัน

...

เวลาไหลผ่านไปราวกับสายน้ำ และก็ผ่านไปอีกวันอย่างรวดเร็ว

ในเวลานี้ กำไรของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในเดือนพฤษภาคมได้รับการคำนวณออกมาทั้งหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ฉินหยุนรู้เพียงข้อมูลคร่าวๆ อย่างยอดขายของร้านเท่านั้น

ในเดือนพฤษภาคม ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเปิดทำการเป็นเวลา 27 วัน โดยมียอดขายทั้งหมด 387,000 หยวน

หลังจากหักทุนเสื้อผ้าที่รับมาขาย กำไรคือ 193,000 หยวน!

หักเงินเดือนของพนักงานสิบคน รวมถึงเงินเดือนของฉินซวน ยังมีเงินเดือนของจ้าวเหมยที่ถูกคำนวณโดยระบบโชคลา�

หลังจากหักจำนวนภาษีที่ต้องชำระ ฯลฯ กำไรสุทธิขั้นสุดท้ายจะเหมือนกับที่ระบบความโชคลาภคำนวนออกมา ซึ่งมากกว่า 126,000 หยวน

อย่างไรก็ตามยอดเงินในบัตรแทนเงินสดของเดือนพฤษภาคมมีเกือบ 110,000 หยวน ซึ่งถูกลูกค้าใช้ไปแล้วเกือบ 20,000 หยวน ยอดเงินในบัตรซึ่งรวมอยู่ในยอดขายจึงมีทั้งหมดประมาณ 90,000 หยวน!

ดังนั้น หลังจากหักค่าใช้จ่ายที่จำเป็นทั้งหมดตลอดเดือนพฤษภาคม ฉินหยุนก็จะได้รับเงินเป็นจำนวนเกือบ 220,000 หยวน!

นี่คือผลลัพธ์ของรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง!

ภายในเวลาไม่ถึงเดือน ร้านค้าเล็กๆขนาดแค่ 40 ตารางเมตรได้เก็บสะสมเงินมากมายให้ฉินหยุน!

"รูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับหนึ่งจะรับได้ในทุกเดือน ดังนั้นจะมี 12 จุด ภายในหนึ่งปี ถ้าร้านค้าทั้ง 12 แห่งเปิดขึ้น เมื่อตอนนั้นมาถึง ในหนึ่งเดือนพวกมันจะทำเงินได้มากมายขนาดไหนกัน!?"

ในเวลานี้ ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างตื่นเต้น

"และถ้าฉันมีรายได้ครบหนึ่งล้านหยวน ฉันก็สามารถเปิดรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่สองได้! ถ้านับความเร็วจากตอนนี้ ในปัจจุบันฉันได้รับรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งไปแล้ว 2 จุดภายในเดือนมิถุนายน และภายในเดือนกรกฎาคมก็จะได้รับเพิ่มเป็น 3 จุด ด้วยการเพิ่มขึ้นระดับนี้ น่าจะแค่ 4-5 เดือน ฉันก็จะสามารถทำให้ยอดคงเหลือของระบบถึงหนึ่งล้านได้อย่างแน่นอน!"

รูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง สามารถเพิ่มยอดคงเหลือของระบบได้ประมาณหนึ่งแสนกว่าหยวน และในวันที่ 1 กรกฎาคม ภายใต้อิทธิพลจากสองรูปแบบการรวบรวมโชคลาภ ยอดคงเหลือของระบบโชคลาภน่าจะสามารถเพิ่มได้อย่างน้อยสองแสนหยวน!

และในวันที่ 1 สิงหาคม เมื่อมีการเปิดใช้รูปแบบการรวบรวมโชคลาภทั้ง 3 จุด จะสามารถเพิ่มได้อย่างน้อยสามแสนหยวนแน่นอน!

ถ้าเป็นแบบนี้ ในวันที่ 1 กันยายน ยอดคงเหลือของระบบก็จะเกินหนึ่งล้านหยวน! เมื่อถึงเวลานั้น รูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่สองก็จะเปิดขึ้น!

แค่ผลลัพธ์ของรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่งนั้นยังยอดเยี่ยมขนาดนี้ ดังนั้นผลลัพธ์ของระดับที่สองจะได้รับการอัพเกรดไปได้ไกลขนาดไหน? ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะตั้งตารอคอย

"เสี่ยวหยุน แกให้เงินเดือนพี่มากเกินไป" ในขณะนี้เอง เสียงของฉินซวนก็ดังขึ้น เธอมองไปที่น้องชายของเธอและพูดขึ้นมา

เงินเดือนของเดือนพฤษภาคมออกแล้ว และเงินเดือนเธออยู่ที่ 9,000 หยวน!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินหยุนยิ้มและพูดว่า "พี่ใหญ่ ฐานเงินเดือนที่ผมตั้งให้พี่คือเงินเดือนของผู้จัดการร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทั้งสองสาขา เงินเดือนพื้นฐานคือ 6,000 หยวน ค่าเข้างาน 1,000 หยวน และโบนัสอีก 3,000 หยวน ตอนนี้ที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนประสบความสำเร็จและเป็นที่นิยมมากนั้น พี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมันมาก และเงินเดือนเหล่าก็นี้ไม่ได้สูงมากเกินไป"

พี่น้องกันก็ต้องชำระบัญชีให้ชัดเจน ฉินซวนเองก็ต้องได้รับเงินเดือนที่สอดคล้องกันด้วย

เนื่องจากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนทำกำไรได้มาก จึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะให้เงินเดือนพี่สาวของเขามากขึ้นอีกเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม เขาจะอยู่ที่เขตชิงหวู่อีกอย่างน้อยแค่ 2-3 เดือน จากนั้นเขาก็จะเริ่มเข้าเรียนในมหาลัยแล้ว

ในท้ายที่สุด เขาจะมอบร้านค้าทั้งหมดที่เปิดในเขตชิงหวู่ให้ฉินซวน พี่สาวของเขาดูแลต่อ

"เสี่ยวซวน รับไปเถอะ เรารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของพ่อแม่สามีของลูกด้วย ถ้าหากลูกหาเงินได้มากขึ้น พวกเขาอาจจะพูดน้อยลงสักสองสามคำ" จ้าวเหมยยิ้ม

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉินซวนก็เงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้า

จ้าวเหมยพูดอีกครั้ง "เสี่ยวหยุน, เสี่ยวซวนได้รับเงินเดือนแล้ว แล้วลูกจะให้เงินเดือนแม่เท่าไหร่?"

ฉินหยุนจึงให้เงินเดือนเธอ 5,000 หยวน

"แม่ นี่คือขั้นตอนอย่างเป็นทางการ" ฉินหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม

"เด็กคนนี้..." จ้าวเหมยทำอะไรไม่ถูก

อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้รับเงิน

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จ้าวเหมยก็พูดว่า "เสี่ยวหยุน ตอนนี้เรามีเงินแล้ว เราควรคืนเงินที่เรายืมมาก่อนหน้านี้ไหม?"

แม้ว่าจะมีการจ่ายเงินดาวน์เพียงก้อนเดียวในการกู้ซื้อบ้าน แต่จากจำนวนเงินดาวน์สองแสนหรือมากกว่านั้น พวกเธอต้องหายืมคนอื่นอีกมากกว่าแสนหยวน

สำหรับจ้าวเหมย การติดหนี้เหล่านี้ทำให้เธอรู้สึกไม่ดีอยู่ตลอดเวลา

"ได้เวลาจ่ายคืนแล้ว พี่ใหญ่ ผมจะโอนให้พี่ทันทีสำหรับเงินหนึ่งแสนหยวนที่เรายืมพี่มา" ฉินหยุนพยักหน้าและพูด

(จบตอน)

———————————————————————

**หมายเหตุ**

*ปลาหลีฮื้อ = ปลาคราฟ (สัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง,โชคดี)

*ถูกปลาหลีฮื้อเข้าสิง น่าจะหมายถึง โชคดีมากๆ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด