ตอนที่แล้วตอนที่ 19 : ครึ่งเดือน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 21 : สัญญาเช่าหมดอายุ

ตอนที่ 20 : ขึ้นค่าเช่า?


"ถูกต้อง"

เมื่อเห็นลูกชายถามพลางทำหน้าตางงๆ ซุนหยาตงพยักหน้าตอบ และถามกลับ "เกิดอะไรขึ้น"

"ฉินหยุนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผมเอง!" ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าว

"เพื่อนร่วมชั้นของแก?" ซุนหยาตงรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่รู้จริงๆว่าลูกชายของเขาจะมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับฉินหยุน

"ใช่ เป็นเพื่อนร่วมชั้นของผม"

ในเวลานี้ไม่รู้ว่าซุนเจี้ยนเฉียงคิดอะไรอยู่ แต่ใบหน้าของเขาดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

“พ่อ กิจการร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนเป็นอย่างไรบ้าง?” เขาถามอย่างรวดเร็ว

ซุนหยาตงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ธุรกิจร้านนี้ดีมาก ก่อนหน้านี้เคยเป็นร้านที่ขายเฉพาะเสื้อผ้าผู้หญิง แต่กิจการก็ไม่ค่อยดี จากนั้นฉินหยุนก็เข้าเซ้งต่อและเปลี่ยนมาขายเสื้อผ้าบุรุษและสตรีในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นที่นิยมทันที กำไรต่อวันไม่น้อยเลยทีเดียว”

“กำไรไม่น้อยเลยเหรอ?” ซุนเจี้ยนเฉียงตกใจอย่างเห็นได้ชัดและถามว่า “พ่อ ร้านของฉินหยุนทำเงินได้เท่าไหร่?”

“ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าธุรกิจไปได้สวยเลย” ซุนหยาตงพูดต่อ "เดิมทีฉันวางแผนที่จะขึ้นค่าเช่าในเดือนหน้า เนื่องจากเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นของแก ดังนั้นฉันจะเพิ่มไม่มากแล้วกัน"

เมื่อธุรกิจของร้านค้าเช่าไปได้ดี เจ้าของที่ก็ขึ้นค่าเช่า นี่เป็นเรื่องปกติของพวกพ่อค้าในการทำธุรกิจของพวกเขา

หลังจากคำพูดของซุนหยาตงจบลง ซุนเจี้ยนเฉียงก็พูดอย่างรวดเร็วว่า "พ่อ ฉินหยุนกับผมไม่ค่อยถูกกัน เราเคยทะเลาะกันที่โรงเรียนมาก่อน พ่อไม่ต้องลดค่าที่ให้เขา"

"แกเคยทะเลาะกันที่โรงเรียนเหรอ?"

เมื่อได้ยินคำพูดของซุนเจี้ยนเฉียง ใบหน้าของซุนหยาตงก็เย็นชาขึ้นทันที "ถ้าแค่นี้แกยังไม่สามารถจัดการกับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นให้ดีได้ ต่อไปแกจะไปทำอะไรได้ในอนาคต!"

เขาคาดหวังไว้สูงในตัวซุนเจี้ยนเฉียง แต่ลูกชายคนนี้ของเขาทำให้เขากังวลอยู่ตลอด

"พ่อ มันเป็นแค่ความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ" เมื่อเห็นว่าซุนหยาตงโกรธ ซุนเจี้ยนเฉียงก็หัวเราะแห้งๆและพูดว่า "ตอนนี้ผมไม่ได้ก่อเรื่องที่โรงเรียนแล้ว และผมก็ยังเข้ากับเพื่อนร่วมชั้นได้ดีด้วย"

เมื่อเห็นใบหน้าของพ่ออ่อนลง ซุนเจี้ยนเฉียงก็พูดขึ้นอีกครั้ง "แต่ฉินหยุนกับผมไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน พ่อไม่ต้องช่วยเขา ขึ้นค่าเช่าเลย เพิ่มให้เยอะกว่าเดิม!"

เขาอารมณ์เสียมากกับฉินหยุน ถึงขั้นอยากให้ร้านขายเสื้อผ้าที่เขาเปิดล้มละลายไปเลย

ซุนหยาตงพยักหน้าและพูดว่า "ฉันรู้ว่าแกอยากพูดอะไร"

เขาเลี้ยงซุนเจี้ยนเฉียงมาตั้งแต่ยังเล็ก เขาจะไม่รู้นิสัยของลูกชายได้อย่างไร

พวกเขาออกจากที่นี่ แต่เมื่อซุนเจี้ยนเฉียงกลับถึงบ้าน เขาเรียกหาใครบางคนและออกคำสั่ง

...

คืนต่อมา ซุนเจี้ยนเฉียงมองชายตรงหน้าเขาและถามด้วยความตกใจว่า "นายบอกว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนขายเสื้อผ้าได้ประมาณ 60 ตัวในทุกวัน และยังมีคนสมัครบัตรแทนเงินสดด้วยงั้นเหรอ!? "

เขารู้ว่าร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน ที่เปิดโดยฉินหยุนนั้นได้รับความนิยมมาก และเขาต้องการทราบว่าธุรกิจดำเนินไปอย่างไร ดังนั้นเขาจึงส่งคนไปสืบข่าว

แต่ผลลัพธ์สุดท้ายทำให้เขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

ยอดขายมากขนาดนี้ถือว่าดีเกินไปสำหรับร้านค้าขนาดเล็กที่มีพื้นที่เพียงแค่ 40 ตารางเมตร

แม้แต่ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์ใหญ่ก็ยังแทบจะไม่สามารถทำยอดขายแบบนี้ได้ภายในวันเดียว

“ทำไมธุรกิจนี้ถึงไปได้ดีขนาดนี้กัน!” สีหน้า แววตาของเขาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เห็นได้ชัดว่าเขากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ตรงไปหาซุนหยาตง

"พ่อ วันนี้ผมให้คนไปดูที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนมา!" เมื่อมาถึงซุนเจี้ยนเฉียงก็พูดขึ้นทันที

ซุนหยาตงมองไปที่ลูกชายของเขาและพูดด้วยความประหลาดใจว่า "แกทำอะไร ให้คนไปแอบดูที่ร้านเสื้อผ้าทำไม?"

ปกติแล้วเขาจะทำเพียงบริหารจัดการแค่ซูเปอร์มาร์เก็ตของตัวเอง เขาไม่สนใจร้านค้าเหล่านี้เลย

"เพื่อคำนวณยอดขายของพวกเขา" ซุนเจี้ยนเฉียงอธิบายต่อ "วันนี้ผมให้คนไปเฝ้าดูที่ร้านนั่นหนึ่งวันเต็มๆ และร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนขายเสื้อผ้าได้ประมาณ 60 ตัว!"

"60 ตัว?" เมื่อได้ยินเช่นนี้ซุนหยาตงก็รู้สึกประหลาดใจ

เขารู้ว่าธุรกิจร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นกำลังไปได้ดีและมีลูกค้าเข้าออกอยู่ที่นั่นเกือบตลอดเวลา แต่เขาไม่รู้ว่ามันดีขนาดไหน

"เสื้อผ้า 60 ตัว กำไรเฉลี่ยต่อตัวอย่างน้อยก็ 100 หยวน ดังนั้นกำไรในหนึ่งวันนั้นอาจจะมากกว่า 6,000 หยวน แม้จะหักค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน ฯลฯ รายได้ก็ยังเหลือประมาณ 100,000 หยวนต่อเดือน!"

ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าวว่า "และวันนี้ มีคนสมัครบัตรแทนเงินสดที่ร้านของเขาอีกคนหนึ่ง มีคนสมัครบัตรในช่วงเวลาสั้นๆแบบนี้ ผมลองคำนวนดู ยอดเงินรวมของการสมัครบัตรในหนึ่งเดือนน่าจะหลายหมื่นหยวน ดังนั้นกำไรต่อเดือนของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอย่างน้อยคือ 150,000 หยวน หรือมากกว่านั้นอีก!"

รายได้ 150,000 หยวนต่อเดือน แนวคิดแบบนี้มันคืออะไร?

ซุนหยาตงพูดไม่ออกเป็นเวลานาน เห็นได้ชัดว่าเขาตกใจมาก

ตอนนี้ แม้ว่าคุณจะมีรายได้ เพียง 150,000 หยวนต่อปี คุณก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

หลังจากหยุดเล็กน้อย เขากล่าวต่อ "พ่อ ครั้งนี้เราไม่เพียงแต่จะขึ้นค่าเช่า แต่ยังเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เขาจะถูกเรียกเก็บค่าเช่า 20,000 หยวนทุกเดือน!"

"20,000 หยวนเหรอ แกบ้าไปแล้วเหรอไง?!" ซุนหยาตงตระหนักได้ทันทีว่าลูกชายของเขาต้องการอะไร และอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา

"ถ้าขึ้นค่าเช่าแบบส่งเดช มันจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของฉัน ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป ใครจะกล้ามาเช่าที่ของฉัน"

"นอกจากนี้ค่าเช่ายังสูงเกินไป ถ้าฉินหยุนไม่เช่าต่อล่ะ? ไม่ใช่ว่าเราต้องหาผู้เช่าคนใหม่อีกเหรอไง"

ซุนหยาตงรู้สึกว่าลูกชายของเขากำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่

"พ่อ กำไรต่อเดือนของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนคือ 150,000 หยวน! ถ้าเขาไม่เช่าที่ของเรา เขาจะหาเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้อย่างไร 20,000 หยวนมีค่าน้อยกว่าหนึ่งในเจ็ดของกำไรต่อเดือนของเขาเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มากอะไรเลย"

ซุนเจี้ยนเฉียงกล่าวต่อ "ยังมีอีกครับพ่อ ตอนนี้พ่อยังไม่ได้คิดถึงประเด็นสำคัญ ถ้าฉินหยุนยอมจ่ายค่าเช่าที่ 20,000 หยวน ก็วินวินกันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าเขาไม่จ่าย ร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนก็ไม่ได้เปิด และเนื่องจากมันจะไม่ได้เปิด เราก็จะเปิดมันแทน!"

"เราจะเปิดมันงั้นเหรอ!?" ซุนหยาตงตกตะลึง

"ใช่ครับ!" ซุนเจี้ยนเฉียงพยักหน้าพร้อมกับแสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา

"พ่อ ไม่ใช่ว่าพ่อบอกว่าสัญญาเช่าร้านนั้นจะหมดอายุในเดือนนี้หรอกเหรอ? เราเปิดเองก็ได้หนิ รูปแบบสไตล์เสื้อผ้าในร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนนั้นไม่ซับซ้อนเลย แค่เสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิงผสมกัน ถ้าเป็นร้านอาหาร แค่รสชาติเปลี่ยนไป ธุรกิจก็อาจจะเจ๊งได้เลย แต่นี่เป็นร้านขายเสื้อผ้า ดังนั้งลูกค้าร้านเสื้อผ้าก็จะจำแค่เสื้อผ้า แต่ไม่ใช่เจ้าของร้าน"

"เราแค่ขายเสื้อผ้าสไตล์เดียวกันแบบเดียวกันกับร้านเทียนหยุน พ่อคิดดูสิ มองยังไงร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ของเราก็คือร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนอีกร้านหนึ่ง ด้วยวิธีนี้เรายังจะทำเงินไม่ได้อีกเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าซุนหยาตงดูเหมือนจะกำลังคิดอะไรอยู่ ซุนเจี้ยนเฉียงจึงดำเนินการป้อนยาต่อไป “พ่อครับ นี่แค่กำไรต่อเดือนยังมากถึง 150,000 หยวน ถ้านับกำไรในหนึ่งปีมันจะเท่ากับ 1.8 ล้านหยวน! ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วนะครับ”

ตอนแรกเขาแค่อยากเอาคืนฉินหยุนเฉยๆ แต่หลังจากรู้เรื่องยอดขายที่ทำได้ของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุน หัวใจของเขาร้อนรุ่มไปหมด คิดถึงเพียงแค่เงินเท่านั้น

เช่นเดียวกับเขา ฉินหยุนก็เป็นเพียงนักเรียนมัธยมปลาย ดูเผินๆแล้วเขาดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษเลยในชั้นเรียน แล้วเขาก็รู้สึกดูถูกฉินหยุนนิดหน่อยในใจอยู่ตลอด เพราะเห็นว่าเขาเคยทำงานพาร์ทไทม์มาก่อน

ในความคิดของเขา ความสำเร็จของร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนล้วนเกิดจากความบังเอิญทั้งหมด

ถ้าฉินหยุนสามารถประสบความสำเร็จได้ เขาที่ทำร้านออกมาเหมือนกัน เสื้อผ้าก็สไตล์เดียวกัน แล้วทำไมเขาจะประสบความสำเร็จไม่ได้?

เมื่อนึกถึงว่าเขาจะหาเงินได้มากเท่าไหร่ในอนาคต หัวใจของเขาก็สั่นไหวด้วยความตื่นเต้น

"1.8 ล้าน..." หัวใจของซุนหยาตงเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาได้ยินคำพูดของลูกชาย

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด