ตอนที่แล้วตอนที่ 15 : โบนัสโชค คะแนนเพิ่มขึ้น!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 17 : งานพาร์ทไทม์ของซุนเจี้ยนเฉียง

ตอนที่ 16 : แผนการขยายสาขา


ในเขตชิงหวู่ เงินเดือน 6,000 หยวนนั้น ถือว่าเป็นเงินเดือนที่สูงมากอย่างแน่นอน

"เสี่ยวซวน นี่คือน้องชายของเธอ เจ้าของร้านเสื้อผ้าแห่งนี้เหรอ?"

"เขายังดูเด็กมาก!"

เมื่อเห็นฉินหยุนกำลังเข้ามา หญิงสาวแปลกหน้าทั้งสามคนก็ถามด้วยความสงสัย

ก่อนหน้านี้พวกเธอเป็นเพื่อนร่วมงานของฉินซวน และหนึ่งในนั้นยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกด้วย

เมื่อพวกเธอมาที่ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนในวันนี้ ตอนแรกพวกเธอรู้สึกตกใจอย่างมากกับความนิยมของร้านนี้!

ฉินหยุนเดินไปที่เครื่องแคชเชียร์และเปิดดูยอดขายของวันนี้ ในวันที่ 6 ยอดสูงถึง 9,900 หยวน เกือบถึง 10,000 หยวน!

ถ้าเป็นแบบนี้ คาดว่าคงได้กำไรประมาณ 5,000 หยวน

ช่วงเย็นยังคงมีเวลาอีกสามชั่วโมง และคาดว่ากำไรน่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

เวลาสี่ทุ่ม ร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนปิดตรงเวลา และรวมยอดขายออกมาได้ถึง 13,600 หยวน! น้อยกว่าเมื่อวานประมาณ 3,000 หยวน และกำไรโดยประมาณคือ 6,500 หยวน

เพราะเมื่อวานมีส่วนลด 10% ดังนั้นผู้ที่ไม่ได้สนใจจะซื้อ จึงซื้อสักหนึ่งหรือสองตัว

ทั้งครอบครัวมีความสุขมาก และในวันรุ่งขึ้นธุรกิจที่กำลังร้อนแรงก็ดำเนินต่อไป

จนถึงตอนปิดร้าน ยอดขายของทั้งวันก็สูงถึง 13,500 หยวน กำไรอยู่ที่ 6,400 หยวน

แค่สามวัน แต่ได้กำไรเกิน 20,000 หยวน!

"พี่ใหญ่"

ร้านขายเสื้อผ้าปิดแล้ว ฉินหยุนมองพี่สาวของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "เสี่ยวจุนจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้แล้ว พี่มีแผนอย่างไรต่อ?"

ฉินซวนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างช่วยไม่ได้ "พี่ยังต้องไปรับไปส่งเสี่ยวจุนที่โรงเรียน และต้องทำอาหารให้เขา ส่วนพี่เขยของแกก็มีธุระที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นพี่อาจจะมาที่ร้านไม่ทัน"

ในสามวันนี้หลี่อี้หังเป็นคนดูแลเสี่ยวจุน เธอจึงมีเวลาอยู่ที่ร้าน แต่วันพรุ่งนี้หลี่อี้หังจะต้องยุ่งอยู่กับเครื่องจักรแปรรูปอีกครั้ง และหลี่จุนลูกชายวัยสี่ขวบของเธอก็จะต้องไปโรงเรียนอนุบาลด้วย

"พี่ใหญ่ มาไม่ทันก็ไม่เป็นไร ตอนนี้พี่ไม่ใช่ลูกจ้างสักหน่อย" ฉินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า "ผมลองคิดดูแล้ว และต้องการมอบร้านนี้ให้พี่ดูแล"

"มอบให้พี่ดูแล?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ฉินซวนรีบพูดว่า: "เสี่ยวหยุน พี่ไม่มีความสามารถในการบริหารจัดการร้านเลยนะ"

ในความคิดของเธอ ทุกวันนี้ เธอเป็นเพียงพนักงานของร้านขายเสื้อผ้าเท่านั้น

เพราะเป็นร้านของน้องชาย เธอจึงดีใจมากที่ธุรกิจไปได้ด้วยดีส่วนการบริหารจัดการร้านเธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด

"พี่ใหญ่ ที่เรียกว่าความสามารถในการบริหารหรือการจัดการร้านนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าการคิดหาวิธีต่างๆเพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อเสื้อผ้าเลย แต่ตอนนี้เราไม่ขาดแคลนลูกค้าในร้านของเรา ดังนั้นเราสามารถเริ่มต้นจากด้านอื่น ๆ ได้" ฉินหยุนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

"เช่น การฝึกทัศนคติในการบริการ การดูแลลูกค้า สิ่งเหล่านี้นั้นสำคัญที่สุด"

ธุรกิจร้านค้าเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะทำกิจการมากมายเพียงใดส่วนใหญ่ล้วนมุ่งเป้าไปที่การดึงดูดลูกค้าเข้าร้านเป็นหลัก แต่ฉินหยุนมีรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง เพราะฉะนั้นร้านของเขาจึงไม่ประสบปัญหากับการขาดแคลนลูกค้าเลย

“นอกจากการฝึกอบรมด้านการบริการสำหรับพนักงานในร้านแล้ว พี่ยังสามารถมาที่ร้านตอนที่พี่ว่างจากงานที่บ้านได้ สิ่งสำคัญคือดูว่าสไตล์เสื้อผ้าหรือชุดแบบไหนที่เรายังไม่มี คอยดูชุดสไตล์ใหม่ๆในตลาดค้าส่งเป็นต้น รับผิดชอบการซื้อในราคาต้นทุนและการขายชุดสไตล์เหล่านี้ ด้านนี้สายตาของผมเทียบไม่ได้กับของพี่เลย”

ในปัจจุบันนี้ แฟชั่นสไตล์เสื้อผ้ามีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา และบางทีสไตล์ใหม่ๆที่เพิ่งจะได้รับความนิยม ผ่านไปสักพักก็อาจจะไม่เป็นที่นิยมของคนส่วนมากแล้ว

ร้านเสื้อผ้าส่วนใหญ่จึงชอบขายเสื้อผ้าสไตล์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้า

ฉินซวนคุ้นชินกับมันตั้งแต่ช่วงที่เธอเลิกเรียนมัธยมต้น เธอทั้งเคยทำงานในโรงงานเสื้อผ้าและร้านขายเสื้อผ้า การจัดการสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอเลย

ท้ายที่สุดแล้ว จ้าวเหมยแม่ของฉินหยุนนั้นยังมีความรู้ที่จำกัด ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่นๆเลย แค่จะใช้งานเครื่องแคชเชียร์มันก็ไม่ง่าย สำหรับเธอแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่เหมาะกับการบริหารจัดการร้านค้าอย่างแท้จริง

สำหรับฉินกั๋วตงเขาไม่เคยทำงานในร้านขายเสื้อผ้ามาก่อนเลยด้วยซ้ำ

สรุปแล้วฉินซวนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ฉินหยุนเริ่มคิดแผนการนี้ตั้งแต่ร้านเสื้อผ้าเปิดขึ้นเป็นครั้งแรก

"พี่ใหญ่ พี่ไม่จำเป็นต้องอยู่ดูแลที่ร้านตลอดเวลาก็ได้ แต่สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อร้านค้า ผมคิดว่ามีเพียงแค่พี่เท่านั้นที่จะทำมันได้ดี"

เมื่อเห็นว่าฉินซวนยังคงลังเลอยู่เล็กน้อย ฉินหยุนยิ้มและพูดว่า "นอกจากนี้ ร้านนี้ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้น ในอนาคตเราจะมีร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนสาขาที่สองหรือแม้แต่สาขาที่สามและสี่! งานของเราจะยุ่งมากกว่านี้อีก"

"เสี่ยวหยุน แกต้องการเปิดสาขาเพิ่มงั้นเหรอ?!" เมื่อฉินซวนได้ยิน เธอรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของฉินหยุน และทันใดนั้นก็เริ่มกังวล

หลายๆร้านแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดสาขาเพิ่มเมื่อตอนเปิดร้านครั้งแรก โดยหวังว่าจะได้รับเงินมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะขั้นตอนการบริหารจัดการที่ไม่ดี ซึ่งนำไปสู่การแตกสลายของห่วงโซ่เงินทุนอย่างกะทันหัน และต้องปิดร้านค้าทั้งหมดลง

ในความคิดของเธอ นี่เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก ท้ายที่สุดแล้ว ร้านค้าที่ดำเนินกิจการไปได้ด้วยดีจะให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อม ที่ตั้ง และการสัญจรของผู้คน หากคุณเปลี่ยนสถานที่กระทันหัน ปัจจัยต่างๆจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง และทุกอย่างจะเริ่มสูญเสียการควบคุม

ร้านสาขาที่กำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทุกๆร้านก็เจริญรุ่งเรือง นี่คือสภาวะการขยายสาขาที่อยู่ในอุดมคติ

เธอต้องการที่จะเกลี้ยกล่อมน้องชายของเธอ แต่สุดท้ายมันก็ถูกเธอเก็บไว้ในใจ

เธอเคยเกลี้ยกล่อมฉินหยุนหลายครั้งเกี่ยวกับประเภทของเสื้อผ้าที่ขายในร้าน แต่เมื่อร้านเปิด เธอก็ตระหนักว่าการตัดสินใจของฉินหยุนนั้นถูกต้องทั้งหมด

"ผมมีแผนแบบนั้นจริง! หากธุรกิจยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง ผมจะตัดสินใจเปิดสาขาที่สองตอนเที่ยงของวันที่ 1 มิถุนายน!" ฉินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ตอนนี้ระบบโชคลาภของเขาสามารถรับรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง เพิ่มได้ 1 จุดของทุกเดือน ซึ่งเขาใช้อันแรกไปแล้วและอันที่สองจะได้รับในวันที่ 1 มิถุนายน!

นั่นคือตอนที่เขาจะเปิดสาขาที่สอง!

"พี่ใหญ่ ช่วงนี้ผมต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย ผมอาจจะไม่มีเวลาให้คิดเรื่องอื่น ดังนั้นผมจึงคอยจัดการหลายๆอย่างในร้านไม่ได้ และเรื่องสาขาที่สองก็สำคัญมากด้วย พี่ต้องช่วยผมหน่อย ตรวจสอบแล้วเลือกสถานที่ตั้งร้านและดูเรื่องการเจรจาต่อรองด้วย"

ฉินหยุนมองอย่างเคร่งขรึมและพูดอย่างจริงจังว่า "ถ้าพี่ไม่ช่วยผม ผมก็ทำได้แค่รับสมัครผู้จัดการร้านคนอื่นเท่านั้น"

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินหยุน ฉินซวนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเธอก็พยักหน้าและพูดว่า "งั้นก็ตกลง เสี่ยวหยุน พี่จะช่วยทำสิ่งเหล่านี้ให้ก่อน อย่าโทษพี่แล้วกันถ้าหากว่าพี่ทำได้ไม่ดี"

เมื่อเห็นว่าฉินซวนเห็นด้วยกับเขาแล้ว ฉินหยุนก็ยิ้มและพูดว่า "พี่ใหญ่ ผมเชื่อว่าพี่ทำได้ดีแน่นอน"

ด้วยระบบโชคลาภที่เขามี เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็จะสามารถเปิดร้านเพิ่มมากขึ้นได้เรื่อยๆ

และกิจการของทุกร้านจะไปได้ด้วยดีแน่นอน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงตั้งใจที่จะช่วยเหลือพี่สาวของเขาด้วย

ก่อนที่จะกู้ซื้อบ้าน ฉินซวนได้ให้พวกเขายืมเงิน 100,000 หยวน ก่อน ซึ่งทำให้พ่อแม่สามีของเธอคัดค้าน

เขาต้องการที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นและให้พี่สาวของเขามีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย นี่คือสิ่งที่เขาต้องการเห็น

หลังจากออกจากร้านเสื้อผ้าเทียนหยุนแล้ว ฉินซวนก็รีบกลับบ้านอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว หลี่อี้หังก็เดินออกจากห้อง

"กลับมาแล้วเหรอ"

"อืม วันนี้ร้านปิดสี่ทุ่มน่ะ" ฉินซวนพูดด้วยรอยยิ้ม

เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอกหลี่อี้หังเรื่องที่ฉินหยุนคุยกับเธอก่อนหน้านี้

"เสี่ยวหยุนขอให้คุณบริหารจัดการร้านขายเสื้อผ้าให้งั้นเหรอ?" เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูด หลี่อี้หังรู้สึกประหลาดใจ

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาพาลูกชายกลับไปที่บ้านเกิดอยู่บ่อยๆ และโดยพื้นฐานแล้วเขายังไม่เคยไปที่ร้านขายเสื้อผ้าเลย แต่เขาได้ยินจากฉินซวนว่าธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าเทียนหยุนกำลังรุ่งเรืองสุดๆ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ได้กำไรวันละหลายพันหยวนเมื่อได้ทราบข่าวเขาตกใจอยู่เป็นเวลานาน

เขารับแปรรูปสิ่งต่างๆด้วยเครื่องจักรให้กับลูกค้ารายอื่นๆในโรงงาน อย่างมากที่สุดเขามีรายได้เพียง 2,000 หยวนต่อวันเท่านั้น

(จบตอน)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด