ตอนที่แล้วตอนที่ 1000 หลินฟาน.. แกมันร้ายกาจนัก!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1002 เหนือล้ำกว่าบทเพลงต้นฉบับ!

ตอนที่ 1001 อ้าปาก ..แล้วคุกเข่า!(3)


หัว อี้อู่ ได้ยั่วยุ หลินฟาน โดยเขาคิดว่า หลินฟาน ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาวิจารณ์เขา นั่นก็เพราะเขาเชื่อว่า หลินฟาน ต้องร้องเพลงได้แย่กว่าเขาอย่างแน่นอน แล้ว หลินฟาน จะกล้าขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีไหม? แน่นอนว่าต้อง ไม่!

แต่ หลินฟาน กลับไม่มีแม้แต่ความลังเลใจ และคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะวิ่งขึ้นไปบนเวทีจริงๆ…

“เกี่ยวกับสิ่งที่ เสี่ยวหัว พูดเมื่อกี้.. ผมกลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป เสี่ยวหัว คิดว่าผมร้องเพลงได้ไม่ดีเท่าเขา ดังนั้นเขาจึงได้คิดไปว่าผมไม่มีสิทธิ์ไปวิจารณ์เขา คำพูดนี้ดูออกไม่ดีเลยจริงๆ มันก็เหมือนกับว่าเราได้ไปกินข้าวในร้านอาหาร แล้วเราที่เป็นลูกค้าที่ไม่รู้วิธีทำอาหาร แล้วแบบนี้เราจะบอกได้ไหมว่าอาหารที่เชฟทำนั้น ไม่อร่อย?” หลินฟาน ได้พูด พร้อมกับได้หัวเราะออกมาเบาๆ

ทุกคนได้พยักหน้า หลินฟาน พูดดูมีเหตุผลมาก และถึงขนาดบางคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

หลินฟาน กล่าวต่อไปว่า : “ผมกลับคิดว่าทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ เสี่ยวหัว เช่นเดียวกับที่ผมทำได้ และทุกคนที่อยู่ที่นี่เองก็เช่นกัน แล้วถ้าหากคุณร้องเพลงได้น่าเกลียด แล้วกลับอยากไม่ให้ใครพูดถึงมัน งั้นก็ขอโทษ ที่นี่มันไม่ใช่บน เวยป๋อ ของคุณ เพราะมันไม่ได้มีแฟนๆ ของคุณที่จะเข้ามาควบคุมคำวิจารณ์”

เมื่อนั้นเสียงหัวเราะก็ได้ดังลั่นขึ้นมาทันที…

หัว อี้อู่ อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง : “คุณมันไปมีหน้ามาจากไหนที่จะมาพูดว่าฉัน ดู หนิง เสี่ยวเยว่ ของคุณ เธอเองก็ร้องเพลง และเต้น ได้แย่ และเธอมันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นขยะ เธอต่างหากที่เป็นขยะในขยะ!”

ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนก็ได้มองไปที่ หนิง เสี่ยวเยว่ หนิง เสี่ยวเยว่ ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดง และต้องยอมรับว่าความสามารถของเธอก็แย่มากเช่นกัน

หลินฟาน กล่าวว่า : “เป็นความจริงที่ความสามารถในการร้องเพลง และการเต้นของ เสี่ยวเยว่ นั้นแย่มาก ทุกคนเองก็ได้รู้เรื่องนี้ดี และในแง่ของความแข็งแกร่ง คุณยังดีกว่า เสี่ยวเยว่ แต่ความแตกต่างก็คือ เสี่ยวเยว่ ไม่เคยบอกว่าเธอแข็งแกร่งมาก.. ดูแฟนๆ ของเธอสิ พวกเขาไม่ได้ออกมาปกป้อง หรือปกปิดอะไรในเรื่องนี้ ทั้งยังปล่อยให้สาธารณชนหัวเราะเยาะเพราะว่ามันไม่ดีจริงๆ ทุกคนเองก็สามารถพูดได้ แต่มันกลับไม่เหมือน เสี่ยวหัว แม้ว่าความแข็งแกร่งของคุณจะแย่มาก แต่คุณก็ชอบแสร้งทำเป็นแข็งแกร่งมาก เห็นได้ชัดว่าคุณคือ ‘สงครามห้ากาก’(1) แต่ดันบอกว่าตัวเองเป็นศิลปิน คุยโวโอ้อวดต่างๆ นาๆ ทั้งแฟนคลับยังได้เข้ามาควบคุมคอมเมนต์กันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งไม่ให้มีใครพูดความจริง และความแข็งแกร่งของคุณมันก็นับได้ว่า ไม่มีดีอะไรเลย อีกอย่างนะ เพราะความสามารถมันบ่มเพาะกันได้ แต่ถ้าไม่มีกําลัง แล้วยังมาชอบเสแสร้งแกล้งทำเป็นบังคับ นี่มันก็นับว่าไม่ถูกต้องแล้ว..”

ทุกคนก็ได้พากันหัวเราะออกมาอีกครั้ง

หัว อี้อู่ ได้โกรธมาก และเขาก็ได้พูดอย่างเย็นชาออกไปว่า : “ทำไมคุณถึงได้พูดมากจังนะ คุณจะร้องเพลงหรือไม่ร้องกันแน่? หากคุณไม่คิดจะร้อง งั้นคุณก็อย่างได้มาพูดจาไร้สาระ! คุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ งั้นมันก็เยี่ยมมาก เพราะฉันกำลังวางแผนที่จะวิจารณ์คุณ”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ไม่มีทางหรอกมั้ง เสี่ยวหัว หากคุณต้องการจะหาความรู้สึกที่เหนือกว่าจากผมจริงๆ ผมจะบอกให้ว่าผมไม่เคยเรียนร้องเพลง เป็นแค่คนธรรมดา เสี่ยวเยว่ เองก็เป็นเหมือนกันกับผม เธอไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างจริงจัง พรสวรรค์ของเธอเองก็ไม่ใช่ดี และพื้นฐานก็แย่เช่นกัน ดังนั้นความแข็งแกร่งของ เสี่ยวเยว่ จึงไม่ดี และมันก็เป็นเรื่องที่ให้อภัยได้ แต่ เสี่ยวหัว คุณได้มาจากชั้นเรียนมืออาชีพ ได้รับการฝึกสอนโดยครูมืออาชีพที่มีเงินเดือนหลายล้าน แต่กลับยังร้องเพลงได้แย่มากขนาดนี้ ผมไม่รู้จริงๆ ว่า เสี่ยวหัว คุณได้แอบนอนหลับในชั้นเรียน หรือว่าคุณแค่โง่เขลากันแน่?”

“คุณ!” หัว อี้อู่ ได้โกรธอย่างมาก

หลินฟาน กล่าวว่า : “เสี่ยวหัว คุณไม่จําเป็นต้องโกรธไป เพราะคำพูดเหล่านี้คุณไม่สามารถเห็นมันได้ใน เวยป๋อ ของคุณ และทั้งหมดนี้มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นความจริงที่ยิ่งใหญ่”

เมื่อนั้นทุกคนก็ได้หัวเราะกันดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง…

หัว อี้อู่ ได้พูดตะคอกกลับไปว่า : “คุณที่ได้พูดมากขนาดนี้ นั่นมันก็เป็นเพราะคุณแค่ไม่อยากร้องเพลงใช่ไหม? คุณก็แค่พูดมันออกมาตรงๆ ก็ได้ ว่าคุณกลัวที่จะต้องอับอายขายหน้าในที่สาธารณะ! และนี่มันก็คือสิ่งที่คุณขอให้ฉันทำไปในก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือไง? ทำไม ตอนนี้มันก็ถึงตาฉันบ้างแล้ว.. เป็นไรไป คุณไม่กล้างั้นเหรอ? โอ้.. ฉันก็ไม่เคยคิดเลยว่าคุณมัน ..จะช่างขี้ขลาดได้ถึงขนาดนี้!”

หลิว จินเวย ได้ยกยิ้ม จากนั้นเขาก็ได้หัวเราะออกมา แล้วพูดว่า : “เสี่ยวหัว ฉันเองก็คิดว่า คุณหลิน ไม่กล้าร้องเพลงจริงๆ หรอก นั่นก็เพราะเขาทำมันไม่ได้จริงๆ ดังนั้นคุณเองก็อย่าได้ไปทำให้ คุณหลิน ต้องลำบากใจเลย”

เขาดูเหมือนจะพูดเพื่อ หลินฟาน แต่จริงๆ แล้ว เขาเพียงแค่พูดย้ำขึ้นมา ทั้งมันยังเป็นความหมายแฝงอยู่ในนัยว่า หลินฟาน ร้องเพลงไม่เป็น..

หลินฟาน กล่าวว่า : “เมื่อกี้ผมแค่บอกเหตุผลกับ เสี่ยวหัว ผมเองก็ไม่ได้บอกว่าผมจะไม่ร้องเพลง แม้ว่าเราเองจะเป็นเพียงแค่มือสมัครเล่น แต่เราก็กล้าที่จะไม่คิดหลอกตัวเอง เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ผมเองก็เกรงว่า เสี่ยวหัว จะมาบอกว่าผมไม่กล้าที่จะร้องเพลง…”

อะไรนะ?

หลินฟาน จะร้องจริงๆ งั้นเหรอ?

พวกเขาคิดไปว่าเมื่อกี้เขาก็แค่พูดเพื่อเปลี่ยนเรื่อง และกำลังจะหาทางหลบหนี แต่ใครจะไปรู้ว่าเขาต้องการที่จะร้องเพลงจริงๆ ดูเหมือนว่าวิธีการยั่วยุของ หัว อี้อู่ จะมีประโยชน์ไม่ใช่น้อย หลินฟาน ในตอนนี้คงต้องกัดฟันสู้ แล้วก้าวเข้าสู่สนามรบ..

ฉากนี้มันค่อนข้างตลก ทุกคนคิดจินตนาการถึงการร้องเพลงของ หลินฟาน ที่จะออกมาไม่ดี และเมื่อนั้นก็จะได้เห็น หลินฟาน วิ่ง แค่เพียงคิดบางคนก็อดไม่ได้แล้วที่จะหัวเราะออกมา

พอ หลิว จินเวย ได้ยินว่า หลินฟาน จะร้องเพลง เขาก็ได้รีบแอบสั่งให้คนถ่ายบันทึกวิดีโอฉากนี้เอาไว้ และต่อไปเขาก็ยังสามารถเก็บมันเอาไว้เยาะเย้ย หลินฟาน ได้ ผู้ชายคนนี้ คงมีเสียงที่แย่มาก และมันก็จะกลายเป็นประวัติศาสตร์อันมืดมนที่ไม่สามารถลบออกได้ เมื่อนั้นเขาจะกลายเป็นที่หน้าอับอายขายหน้าในอนาคตอย่างแน่นอน และเมื่อนั้นเขาก็จะใช้มันเพื่อกดดัน หลินฟาน ..และแค่ดึงคลิปวิดีโอนี้ออกมา มันก็นับว่าเพียงพอแล้ว

หัว อี้อู่ ได้ยิ้มเย้ยหยันออกมา เยี่ยมมาก หลินฟาน นับได้ว่ามันไม่มีสมองจริงๆ มันกระโดดเข้าไปตกหลุมพรางของเขาได้โดยง่าย มาในตอนนี้เขาก็ได้รู้สึกตื่นเต้นมากๆ จุดประสงค์ของเขาคือการเบี่ยงเบนความสนใจของทุกคน และตราบใดที่ หลินฟาน ได้ร้องเพลง และมันได้ออกมาน่าเกลียดยิ่งไปกว่าเขา เมื่อนั้นทุกคนก็จะได้หันมาหัวเราะเยาะ หลินฟาน.. ส่วนตัวเขาเองก็สามารถแอบหลบหนีออกไปได้ ..อย่างราบรื่น วิธีนี้เรียกว่า เคราะห์หันเหไปทางทิศตะวันออก(2)

ต้องบอกว่า หัว อี้อู่ ก็ยังพอมีความสามารถอยู่บ้าง เพราะท้ายที่สุดแล้ว เขามีทีมประชาสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง และทุกครั้งที่เขามีเรื่องอื้อฉาว ทีมประชาสัมพันธ์ก็มีวิธีที่จะช่วยเขาชะล้าง และเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้เรียนรู้มันมาเล็กๆ น้อยๆ

นี่แค่เขาใช้กลอุบายเล็กๆ น้อยๆ หลินฟาน ก็ถูกหลอกด้วยกลอุบายเล็กน้อยนี้ไปเสียแล้ว..

และเพื่อให้ทุกคนได้เห็นมุขตลกของ หลินฟาน เขาเลยได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าการร้องเพลงของ หลินฟาน นั้นแย่ยิ่งกว่าเขา หัว อี้อู่!

และในข้อนี้ หัว อี้อู่ ก็ไม่ได้คิดมันให้ดี เพราะเขามั่นใจตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่า หลินฟาน ร้องเพลงไม่เป็นอย่างแน่นอน และนั่นเขาก็ต้องด้อยยิ่งกว่าเขา โดยไม่ต้องสงสัย…

ท้ายที่สุดแล้ว หลินฟาน ก็เป็นแค่มือสมัครเล่น.. ทั้งเรื่องนี้เขาก็เป็นคนพูดมันออกมาเอง

ยิ่งไปกว่านั้น เพลงที่จะร้องตอนนี้ ก็ไม่ใช่เพลงกล่อมเด็ก แต่มันกลับเป็นเพลงที่ได้รับการยอมรับว่ายากเป็นอย่างมาก ‘ที่ราบสูงทิเบต’ เพลงนี้โดยเฉพาะท่อนสุดท้ายหากให้ร้องตามต้นฉบับ ก็ไม่มีใครสามารถทำได้

เมื่อเสียงดนตรีเริ่มขึ้น หลินฟาน ก็ได้หยิบไมโครโฟนขึ้นมา และเขาก็ได้พร้อมที่จะเริ่มร้องเพลงแล้ว..

ทันใดนั้น ทุกคนก็เงียบลง และรอชมการแสดงของ หลินฟาน แต่ในอีกหลายคนก็พยายามกลั้นเสียงหัวเราะ และถึงขนาดบางคนก็ได้พยายามอัดอั้นได้อย่างยากลําบาก พวกเขาทั้งหมดกําลังรอท่วงทํานอง และจังหวะบทเพลง ตราบใดที่มีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย หลินฟาน ก็ต้องเผชิญหน้ากับการเยาะเย้ยที่ประดังเข้ามาเหมือนกับ พายุ…

หัว อี้อู่ อดที่จะหัวเราะไม่ได้แล้ว หลินฟาน ต้องเสียใจมากที่ได้คิดเริ่มการต่อสู้ในครั้งนี้ และการต่อสู้ในครั้งนี้มันก็จะทำให้เขาต้องอับอาย ตอนนี้มันถึงตาของตัวเขาเองแล้ว ช่างเป็นกรรมตามสนองจริงๆ

ในขณะที่ทุกคนกําลังรอชม หลินฟาน อับอายอยู่นั้น ในที่สุด หลินฟาน ก็ได้เปิดปากขึ้นแล้ว…

“ผู้ใดกันกู่ก้องร้องเรียกหามาแต่กาลอันไกลโพ้น ผู้ใดกันทิ้งความปรารถนาไว้เบื้องหลังนานนับพันปี หรือจะยังเป็นทำนองเพลงที่ไร้…”

เสียงที่ดังขึ้นมา และไพเราะนี้ ..ราวกับว่ามันได้พาทุกคนไปที่ที่ราบสูงได้พร้อมๆ กัน

อ้าปาก ..แล้วคุกเข่า!(3)

อ้าปากแล้วคุกเข่าคืออะไร? นี่แหละคืออ้าปากแล้วคุกเข่า!

ทุกคนตกตะลึง และต่างพากันสงสัยในตัวเอง.. นี่มันห่าอะไร? ฉันฟังไม่ผิด? นี่มันฟังดูดีจริงๆ ใช่ไหม?

เดี๋ยว มันอาจจะเป็นฉันที่หลอนไปเองก็ได้ ไม่.. ต้องฟังใหม่อีกครั้ง

“โอ้… ขุนเขามากมาย.. เหลือเกินที่ฉันมองเห็น ขุนเขาเรียงทอดยาวประหนึ่ง ..กระแสน้ำกระเพื่อม แน่แท้แล้ว! ..นี่คือที่ราบสูงชิงไห่ธิเบต”

น้องสาวมันเถอะ!

ถ้าเมื่อกี้คิดว่าตัวเองหูแว่ว หรือหลอนไป แต่ตอนนี้ทุกคนได้ยินมันอย่างชัดเจนแล้ว ฟังดูดีจริงๆ และจริงๆ แล้ว มันก็น่าฟังมากๆ เหมือนได้ฟังเสียงของเซียนเลย…

หลินฟาน ร้องเพลงได้ดีมาก บางคนอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงไป คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่า หลินฟาน จะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ การตีความบทเพลง การสื่อความรู้สึก โดยรวมแล้วการแสดงของ หลินฟาน นั้นไม่ด้อยไปกว่าบทเพลงต้นฉบับ และมันถึงขนาดแอบแฝงไปด้วยความรู้สึกที่เหนือชั้นกว่า!

อะไร?

ความรู้สึกนี้.. นี่มันเหนือจากเพลงต้นฉบับแล้ว?

คนที่เกิดความคิดนี้ขึ้นมา ต่างพากันตกใจกับความคิดของตัวเองทันที.. หลินฟาน เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ คาดไม่ถึงเลยว่าจะทําให้ผู้คนรู้สึกว่าการร้องเพลงของเขานั้น มันเหนือกว่านักร้องต้นฉบับ!

มันเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้มั้ง ตอนนี้ก็ต้องมารอลุ้นดูกันต่อไป ยังไงมันก็ยังมีเสียงแหลมสูงในวรรคท่อนสุดท้ายของเนื้อเพลงนี้ และนี้ก็คือ จุดที่ยากที่สุดของบทเพลงนี้

ทุกคนไม่รู้ว่า หลินฟาน ได้รับรางวัล พรสวรรค์ทางด้านดนตรีชั้นยอด มาก่อน และการตีความเพลงนี้ มันก็เป็นเพลงในระดับชั้นนํา

ชั่วขณะหนึ่ง.. สถานที่จัดงานทั้งหมดก็ได้พากันเงียบกริบ ทุกคนต่างก็ได้ดื่มด่ำไปกับบทเพลงที่ หลินฟาน ได้ขับร้องออกมา..

(1)[สงครามห้ากาก (战五渣)] - เป็นคำ วลี ที่ได้มีต้นกำเนิดมาจากการ์ตูนเรื่อง “ดราก้อนบอล (Dragon ball)” ฟรีเซอร์ (Frieza) และพรรคพวก มักใช้เครื่องตรวจจับกำลังรบเพื่อคำนวณกำลังรบของคู่ต่อสู้ และในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของ ฟรีเซอร์ ราดิช (Raditz) ก็ได้มาถึงโลก และหลังจากออกจากยานอวกาศ ราดิช ก็ได้ใช้ Scouter ตรวจจับกำลังรบ แต่สิ่งแรกที่เขาพบเจอก็คือ ชาวนา ที่มีพลังต่อสู้อยู่แค่เพียง ‘5’ ที่มันได้แสดงอยู่บน Scouter ราดิช จึงได้ตัดสินว่าความอ่อนแอไม่มีสิทธิที่จะมายืนอยู่ตรงหน้าเขา หลังจากหมดความอดทน เขาก็ได้พูดไปว่า “ไอ้พวกสวะที่มีพลังต่อสู้เพียงแค่ 5” เมื่อนั้น ราดิช ก็ได้สังหารทันที..

(2)[เคราะห์หันเหไปทางทิศตะวันออก (祸水东引)] - หมายถึงการใช้วิธีการบางอย่างเพื่อป้องกันตนเองจากการสูญเสีย และปล่อยให้คนอื่นแบกรับการสูญเสียแทนตนเอง

    ไม่ใช่สำนวน แต่ส่วนใหญ่มักจะพบเห็นได้ในอินเทอร์เน็ต.. มันหมายถึงเรื่องราว ก่อน สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อผู้คนได้เอาใจช่วยอังกฤษ และฝรั่งเศส ให้อยู่ในอำนาจ และพยายามที่จะส่งหายนะสงครามของฮิตเลอร์ไปยังสหภาพโซเวียตทางตะวันออก..

(3)[อ้าปากแล้วคุกเข่า (开口跪)] - ใช้เมื่อผู้พูดได้ยินคนเริ่มพูดหรือร้องเพลง แสดงความตกใจ และความรู้สึกที่ไม่คาดคิดของผู้พูด ซึ่งเทียบเท่ากับ “ฉันได้คุกเข่า เมื่อได้ยินเขาพูด (听到他开口我就跪了)” ส่วนใหญ่ใช้เป็นคำบรรยายเมื่อดูวิดีโอบนอินเทอร์เน็ต หรือใช้แสดงความคิดเห็นของมิวสิควิดีโอ..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด