ตอนที่แล้วตอนที่ 65: ยานรบรุ่นพิเศษของกองทัพ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 67: ตลาดมืด

ตอนที่ 66: มันคือฮีโร่


ตอนที่ 66: มันคือฮีโร่

ในจักรวาลมีบริษัทผลิตยานรบขนาดใหญ่อยู่ทั้งสิ้น 4 บริษัทได้แก่ ไกอา, เอ็มม่า คัลดารีและมิททัล โดยบริษัททั้งสี่แห่งนี้ได้ผลิตยานอวกาศออกมามากกว่า 60% ของยานที่ใช้ทั่วทั้งพันธมิตร

อาณาจักรส่วนใหญ่ไม่ได้ผลิตยานรบขึ้นมาเป็นของตัวเองแต่เลือกซื้อยานรบจากบริษัทขนาดใหญ่ทั้งสี่หรือที่เรียกกันว่า ‘บิ๊กโฟร์’ โดยตรง ก่อนที่จะนำยานพวกนั้นไปทำการดัดแปลงเล็กน้อย

ท้ายที่สุดการทำแบบนี้ก็ประหยัดต้นทุนมากกว่าการค้นคว้าและผลิตยานอวกาศขึ้นมาเอง

แต่บางอาณาจักรก็จำเป็นจะต้องใช้ยานรบรุ่นพิเศษจึงมีการสั่งทำยานพิเศษเหล่านี้ขึ้นมาจากบิ๊กโฟร์โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น สตีลฟอลคอนของกองทัพก็ถือว่าเป็นหนึ่งในยานรุ่นพิเศษด้วยเช่นกัน โดยตัวยานได้ถูกปรับปรุงตั้งแต่โครงสร้าง, เกราะ, โล่พลังงานและระบบขับเคลื่อน

ด้วยการปรับปรุงเป็นพิเศษนี่เองมันจึงทำให้ไทนี่ฟอลคอนรุ่นพิเศษของกองทัพมีพลังการป้องกัน, พลังโจมตีและความคล่องแคล่วสูงกว่าต้นแบบอย่างไทนี่ฟอลคอนไม่น้อยกว่า 30%

ในมุมหนึ่งมันอาจจะสามารถกล่าวได้ว่ายานรบพิเศษจากกองทัพถือได้ว่าเป็นตัวแทนของเทคโนโลยียานรบในระดับสูงสุดและพวกมันก็ถือว่าเป็นราชาในหมู่ยานอวกาศ!

เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์อันน่าเกรงขามเซี่ยเฟยก็อดที่จะเดินไปลูบตัวยานอันแข็งแกร่งลำนี้ไม่ได้

ยานลำนี้มีขนาดเล็กกว่ารุ่นปกติอยู่เล็กน้อยแต่ด้วยรูปทรงที่ถูกปรับแต่งไปมันจึงทำให้ทุกคนรับรู้ได้ถึงความดุดัน

ทันใดนั้นเองมันก็เริ่มมีความโกลาหลเกิดขึ้นจากด้านหลัง เมื่อเซี่ยเฟยได้หันมองกลับไปทางเวิร์กช็อปเขาก็เห็นลุงพอตเตอร์กำลังโต้เถียงกับชายชราร่างเตี้ยที่มีอายุประมาณ 60 ปี, สวมใส่แว่นกันแดด, เสื้อผ้าสีเขียวและมีผมบางสีขาว

น่าเสียดายที่ระยะห่างระหว่างเขากับเวิร์กช็อปค่อนข้างไกลเซี่ยเฟยจึงไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา

หลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปครู่หนึ่งชายชราร่างเตี้ยก็เดินออกไปพร้อมกับคนของเขาขณะที่ลุงพอตเตอร์ได้เดินตรงมายังที่ที่เซี่ยเฟยกับซันนี่ยืนอยู่

“เซี่ยเฟยยานไทนี่ฟอลคอนรุ่นของกองทัพลำนี้เป็นของดีที่หาได้ยาก ถ้าเป็นไปได้นายก็จะต้องซื้อมันเอาไว้” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“ฉันรู้แล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ขณะที่กำลังเดินมาพอตเตอร์ก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเสียงดังและถึงแม้ว่าชายชราจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข แต่เซี่ยเฟยก็สังเกตเห็นความกังวลที่ซุกซ่อนเอาไว้ภายใต้รอยยิ้มนี้

“ซันนี่ แม่นายสบายดีไหม!” พอตเตอร์ถามเสียงดัง

“แม่สบายดีครับ แกฝากให้ผมเอาเบียร์กับไส้กรอกมาให้ลุงด้วยแต่ตอนนี้มันน่าจะถูกพวกพี่โบเดนกินหมดแล้ว” ซันนี่กล่าวทักทายพร้อมกับตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

พอตเตอร์พยักหน้ารับก่อนที่เขาจะตะโกนไปทางเวิร์กช็อปว่า “พวกเอ็งอย่างพึ่งกินไส้กรอกหมดนะเว้ย เหลือให้ฉันซัก 2-3 ชิ้น!”

หลังจากตะโกนบอกลูกน้องพอตเตอร์ก็ชี้ไปที่ไทนี่ฟอลคอนรุ่นปกติและคุยกับเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้มว่า “ไทนี่ฟอลคอนลำนี้เป็นยังไงบ้าง นายชอบมันไหม?”

“ผมว่าสิ่งนี้มันไม่ใช่ยาน” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างกระทันหัน ซึ่งมันก็ทำให้พอตเตอร์ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันทีและใบหน้าของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวไปอย่างไม่น่าดู

ในระหว่างนั้นซันนี่ก็พยายามส่งสัญญาณให้กับเซี่ยเฟยอยู่ตลอดเวลา เพราะเขากลัวว่าหากเซี่ยเฟยพูดอะไรไม่ถูกใจ ลุงพอตเตอร์จะไม่ยอมขายยานของเขาให้

อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยกลับไม่สนใจท่าทางของซันนี่เลยและเขาก็ยังคงพูดต่อไปด้วยรอยยิ้มว่า

“ระบบไฮดรอลิกของตัวยานถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความทนทานมากขึ้นกว่าเดิม, แถบยางตรงประตูก็ถูกแทนที่ด้วยโลหะอ่อนที่ทนทานและแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิม, ตัวกระจกก็ถูกเปลี่ยนให้แข็งแกร่งกว่าของเดิมจากเกรด 4 ขึ้นมาเป็นกระจกรุ่นพรีเมี่ยมเกรด 6”

เซี่ยเฟยค่อย ๆ ชี้ไปยังจุดของตัวยานที่ถูกปรับปรุงทีละจุดซึ่งในระหว่างที่เขาอธิบายเขาก็สังเกตใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของพอตเตอร์ตลอดเวลา

“สำหรับระบบกลไกภายในและระบบวงจรของตัวยาน ผมก็สามารถเดาได้เลยโดยไม่ต้องขึ้นไปดูว่ามันจะต้องได้รับการปรับปรุงเป็นพิเศษเพื่อแก้ไขจุดอ่อนของไทนี่ฟอลคอนอย่างแน่นอน ไม่ว่าผมจะมองยังไงสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่ควรจะถูกเรียกว่ายานอวกาศ แต่นี่มันคืองานศิลปะชั้นยอด!” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

เมื่อได้รับคำชมดวงตาของพอตเตอร์ก็เปล่งประกายออกมาอย่างเจิดจ้าก่อนที่เขาจะตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า

“พลังอำนาจในการยิงของไทนี่ฟอลคอนค่อนข้างดีแต่ระบบป้องกันของมันก็ค่อนข้างเปราะบาง แม้แต่ส่วนสำคัญอย่างประตูก็ใช้ของราคาถูก ดังนั้นฉันจึงทำการปรับเปลี่ยนตามที่ฉันเห็นสมควรนิดหน่อยเท่านั้นเอง”

“พวกบิ๊กโฟร์รู้จักแต่วิธีลดต้นทุนแต่ยานรบจะมีดีเพียงแค่การโจมตีอย่างเดียวไม่ได้เพราะความปลอดภัยของผู้ขับขี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน”

เซี่ยเฟยแสร้งทำสีหน้าประหลาดใจก่อนที่เขาจะได้กล่าวออกไปว่า “อ๋อที่แท้ศิลปะชั้นยอดชิ้นนี้ก็เป็นฝีมือของคุณนี่เอง! บอกตามตรงว่าผมชอบมันตั้งแต่แรกเห็น แล้วผมก็สามารถเดาได้เลยว่าคุณต้องเจอกับความยากลำบากมากแค่ไหนในระหว่างซ่อมยานลำนี้”

พอตเตอร์ลูบหัวของเขาอย่างเขินอายเล็กน้อยก่อนที่เขาจะกล่าวต่อไปว่า

“การซ่อมแซมยานลำนี้ยากลำบากมากนิดหน่อยแต่มันก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่า เพราะช่างซ่อมยานที่แท้จริงจะไม่มีวันเพิกเฉยต่อรายละเอียดใด ๆ ของยานรบ”

ปฏิกิริยาของพอตเตอร์ทำให้ซันนี่แอบตะโกนอยู่ในใจ เพราะเขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าในเวลาเพียงแค่พริบตาเซี่ยเฟยก็สามารถเรียกความเอ็นดูจากพอตเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว

อันที่จริงความตั้งใจของเซี่ยเฟยไม่ได้หยุดอยู่ที่ไทนี่ฟอลคอนลำนี้เพราะสิ่งที่เขาต้องการคือไทนี่ฟอลคอนรุ่นของกองทัพ

“อาจารย์พอตเตอร์นอกเหนือจากยอดศิลปะชิ้นนี้แล้วผมยังได้พบกับฮีโร่ในอู่ของคุณด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง

“ฮีโร่?” ทั้งซันนี่และพอตเตอร์ต่างก็อุทานขึ้นมาด้วยความสงสัยในเวลาเดียวกัน

เซี่ยเฟยเดินไปที่สตีลฟอลคอนด้วยใบหน้าที่จริงจังก่อนที่เขาจะใช้มือลูบตัวยานเบา ๆ

“ยานลำนี้แหละคือฮีโร่ตัวจริง” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

“ไทนี่ฟอลคอนรุ่นนี้เป็นรุ่นพิเศษของกองทัพที่มีการเสริมโครงสร้างเกราะป้องกัน, ปรับปรุงระบบอิเล็คทรอนิกส์…” เซี่ยเฟยเริ่มสาธยายประโยชน์ของยานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ซึ่งพอตเตอร์ก็พยักหน้ารับครั้งแล้วครั้งเล่า

“ฉันไม่นึกเลยว่าคนหนุ่มอย่างนายจะมีความรู้มากขนาดนี้”

“ใช่แล้วยานลำนี้เป็นยานรุ่นพิเศษของกองทัพ ในตอนนั้นจักรวรรดิซัตตันได้ทำการดัดแปลงยานรบรุ่นนี้ขึ้นมาทั้งสิ้น 18 ลำและมอบให้กับทหารชั้นยอดของตนเอง พวกมันถูกออกแบบมาเพื่อทำงานพิเศษที่ต้องใช้ความคล่องตัว แต่ต่อให้ยานลำนี้จะพิเศษแค่ไหนมันก็เป็นเพียงแค่ยานรบธรรมดา ทำไมนายถึงเรียกมันว่าฮีโร่ล่ะ?” พอตเตอร์กล่าวถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความลึกลับ

เซี่ยเฟยเดินไปด้านหน้าเล็กน้อยพร้อมกับชี้ไปที่เครื่องหมายรูปดาว 5 แฉกจำนวนมากที่ประดับเอาไว้บนตัวยาน จากนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมาว่า

“ดาวพวกนี้เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงจำนวนของศัตรูที่เคยถูกมันทำลายมาก่อนหรือมันก็หมายความว่ายานลำนี้ทำลายยานข้าศึกไปได้ 39 ลำ ซึ่งมันก็คงจะช่วยให้สถานการณ์ทางฝั่งของยานได้เปรียบฝั่งศัตรู ถ้าไม่เรียกยานลำนี้ว่าฮีโร่ผมก็คิดคำอื่นมาเรียกมันไม่ออกแล้วจริง ๆ”

เมื่อได้ฟังคำอธิบายร่างของพอตเตอร์ก็แข็งค้างอยู่เล็กน้อยและถึงแม้ว่าเขาจะดูตื่นเต้นแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“น่าเสียดายจริง ๆ ยานลำนี้สมควรที่จะได้โลดแล่นในอวกาศแท้ ๆ แต่มันกลับต้องถูกนำมาจอดทิ้งไว้ในอู่ของคุณ” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจ

พอตเตอร์เดินไปด้านข้างยานรบพร้อมกับใช้นิ้วลูบไปยังดาวที่ประดับบนตัวยาน จากนั้นเขาก็พึมพำขึ้นมาว่า “แกควรจะต้องอยู่ในสนามรบสินะ”

อย่างไรก็ตามหลังจากจ้องมองยานรบอยู่ไม่นานพอตเตอร์ก็ถอนหายใจและกล่าวออกมาว่า

“ยานลำนี้เป็นยานชั้นยอดที่หาได้ยากจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่ระบบภายในของยานได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้มันไม่สามารถขึ้นบินได้อีกต่อไป”

“แล้วทำไมคุณถึงไม่ซ่อมมันล่ะ ผมเชื่อว่าด้วยทักษะของคุณ คุณย่อมสามารถฟื้นฟูมันให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้งได้อย่างแน่นอน” เซี่ยเฟยกล่าว

ดวงตาของพอตเตอร์เปล่งประกายอยู่ครู่หนึ่งแต่มันก็ดับไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง จากนั้นเขาก็กล่าวขึ้นมาว่า

“การซ่อมยานลำนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นเพราะมันเป็นยานรบรุ่นพิเศษทำให้ชิ้นส่วนของยานเกือบทั้งหมดได้รับการปรับแต่งและหาชิ้นส่วนมาทดแทนได้ยากมาก”

“อาจารย์พอตเตอร์คุณจะรู้ได้ยังไงถ้าหากว่ายังไม่ได้ลอง” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เอาล่ะพวกเรากลับไปดื่มที่ห้องทำงานของฉันกันดีกว่า” พอตเตอร์พูดตัดบทก่อนที่จะเดินนำชายหนุ่มทั้งสองกลับไปยังเวิร์กช็อป

“ยานลำนี้มันซ่อมแซมไม่ได้แล้วจริง ๆ หรอ?” เซี่ยเฟยยังคงมองย้อนกลับไปยังยานสตีลฟอลคอนขณะที่เขาเดินตามพอตเตอร์กลับไป

“นายต้องการยานลำนี้จริง ๆ ใช่ไหม?” ทันใดนั้นพอตเตอร์ก็ถามขึ้น

“ใช่สิครับ มันคงจะมีแค่คนโง่เท่านั้นแหละที่ไม่อยากได้ยานพิเศษแบบนี้” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่เก็บซ่อนความปรารถนาของเขาอีกต่อไป

พอตเตอร์หั่นไส้กรอกที่ซันนี่เอามาใส่จานพร้อมกับหยิบแก้วเบียร์มา 3 ใบ จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งรอบโต๊ะวงกลมเล็ก ๆ พร้อมกับเริ่มดื่มกินของที่แม่ซันนี่ได้ฝากมาให้

เบียร์ของดาวดวงนี้มีปริมาณแอลกอฮอล์ค่อนข้างสูงและเซี่ยเฟยก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทนี้เลย ดังนั้นในระหว่างการดื่มเขาจึงรู้สึกว่าถูกเบียร์บาดคออยู่เล็กน้อย

พอตเตอร์หยิบแท็บเล็ตแบบเก่าขึ้นมาวางบนโต๊ะก่อนที่เขาจะเปิดภาพการแข่งขันระหว่างเซี่ยเฟยและเฉินตง จากนั้นเขาก็ยื่นมันไปให้เด็กหนุ่มจากดาวโลก

“นายคือเซี่ยเฟยคนนี้ใช่ไหม?” พอตเตอร์ถามหลังจากดื่มเบียร์แก้วใหญ่

“คุณรู้ได้ยังไงกันเนี่ย!?” เซี่ยเฟยส่งเสียงหัวเราะพร้อมกับคืนแท็บเล็ตให้พอตเตอร์

พอตเตอร์วางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะก่อนที่เขาจะกล่าวขึ้นมาว่า

“เมื่อกี้ตอนที่นายกำลังพูดถึงยานไทนี่ฟอลคอนของกองทัพดวงตาของนายเปล่งประกายขึ้นมาและจู่ ๆ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่านายคือคนที่ต่อสู้กับเฉินตงแน่ ๆ เพราะนายมีดวงตาอันแน่วแน่เหมือนกับเขาคนนั้น”

“อะไรนะ? คุณคือเซี่ยเฟยหรอ!?” ซันนี่อุทานพร้อมกับตัวชาไปทั่วทั้งตัว

เซี่ยเฟยเพียงแค่พยักหน้ายิ้มรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร

“นี่คุณรู้ไหมว่าแม่ผมคลั่งคุณแค่ไหน!? แม่บอกว่าคุณเป็นเด็กหนุ่มที่ฉลาดหลักแหลมและเด็ดเดี่ยวที่สุดเท่าที่แกเคยเห็นมา นี่ถ้าแม่รู้ว่าผมคิดเงินจากคุณผมจะต้องโดนแกฆ่าแน่ ๆ” ซันนี่กล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางจริงจัง

“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ถ้านายไม่บอก ฉันก็ไม่บอก แม่นายก็ไม่รู้” เซี่ยเฟยตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

พอตเตอร์ดื่มเบียร์เข้าไปอีกแก้วก่อนที่เขาจะได้กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงที่เจือไปด้วยความเศร้าว่า

“ถ้านายต้องการยานไทนี่ฟอลคอนรุ่นกองทัพลำนั้นจริง ๆ ฉันก็จะลองดู แต่ฉันไม่รับรองนะว่าฉันจะซ่อมได้”

“ลุงพอตเตอร์นี่คุณตกลงขายยานลำนั้นให้กับผมแล้วใช่ไหม!?” เซี่ยเฟยถามออกไปด้วยความดีใจ

พอตเตอร์ถอนหายใจพร้อมกับกล่าวต่อไปว่า

“ยานลำนั้นเป็นของต่างหน้าที่เพื่อนฉันทิ้งเอาไว้ให้และฉันก็ไม่อยากจะปล่อยมันไปจริง ๆ แต่หลังจากฉันได้พิจารณาสิ่งที่นายพูด ยานลำนั้นก็ไม่ควรถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ที่นี่ แต่มันควรได้กลับไปโลดแล่นในทะเลดาว”

“อย่าดูถูกว่ายานลำนั้นมันเก่าแล้วเพราะโครงสร้างและตัวเกราะของมันยังแข็งแกร่งเหมือนใหม่ ตราบใดก็ตามที่พวกเราซ่อมแซมมันขึ้นมาได้ ยานลำนี้ก็ยังคงเป็นยานรบอันดับ 1 ในจักรวาล!”

“ผมเห็นด้วย! ว่าแต่เรายังขาดอุปกรณ์ชิ้นไหนในการซ่อมยานหรอครับ?” เซี่ยเฟยถาม

พอตเตอร์มองไปยังใบหน้าอันแน่วแน่ของเซี่ยเฟยด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ส่งแท็บเล็ตเครื่องเก่าไปให้เซี่ยเฟยอีกครั้ง

“ลองดูเอาเองสิ”

เมื่อเซี่ยเฟยมองไปที่รายการชิ้นส่วนที่พอตเตอร์ได้เปิดไว้มันก็ทำให้เขาได้อุทานออกมาด้วยความตกใจ

“โอ้แม่จ้าว!”

***************

ดูเป็นผู้มีความรู้สุดๆ จริงๆคือฟังคำอธิบายจากอันธมาพูด 5555

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด