ตอนที่แล้วตอนที่ 4 : ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 2!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 6 : ร้านเสื้อผ้าร้านแรกของฉินหยุน!

ตอนที่ 5 : เซ้งร้านต่อ!


"ได้มาแล้ว!"

ถือบัตรธนาคารไว้ ฉินหยุนก็สงบลงหลังจากตื่นเต้นมาทั้งคืน

"ด้วยการรวบรวมโชคลาภในปัจจุบันของฉัน ฉันสามารถถูกรางวัลใหญ่มากกว่า 120,000 หยวน ด้วยเงินแค่ 10,000 หยวน ถ้าฉันซื้อลอตเตอรี่ด้วยเงิน 100,000 หยวน ด้วยกำไรสูงกว่าสิบเท่า มันอาจจะเป็นไปได้ใช่ไหมที่จะได้เงินมากกว่าหนึ่งล้านหยวน? "

เขาอดไม่ได้ที่จะคิด: "ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันสามารถเปิดใช้งานรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่สองได้เลยไม่ใช่เหรอ!"

รูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับแรกยังมีโชคด้านความมั่งคั่งขนาดนี้ ดังนั้นในระดับที่สองมันจะรวบรวมโชคลาภได้ขนาดไหนกัน?

ฉินหยุนคิดในใจ และถามระบบ

“โฮสต์ ยอดคงเหลือที่จำเป็นในการเปิดรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับใหม่ จะต้องได้รับจากรายได้ที่มีต้นทุนที่แน่นอน* ตั๋วลอตเตอรี่และอื่น ๆ ไม่ถูกนับรวมด้วย จึงไม่อยู่ในขอบเขตดังกล่าว ดังนั้นตอนนี้เงินมากกว่า 120,000 หยวนจึงไม่รวมอยู่ในยอดคงเหลือของระบบ” เสียงระบบดังขึ้น

ยอดคงเหลือของระบบจะอัพเดทเดือนละครั้งในเวลา 12:00 น. ในวันที่ 1 ของแต่ละเดือน และไม่สามารถดูยอดคงเหลือในเวลาอื่นได้

ฉินหยุนเก็บเงินได้ครบ 10,000 หยวน ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม แต่เมื่อยังไม่ถึงวันที่ 1 เขาจึงได้เริ่มเปิดรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับแรกจริงๆหลังจากนั้น

"รายได้ที่มีต้นทุนที่แน่นอน?" เมื่อได้ยินสิ่งที่ระบบบอก ฉินหยุนรู้สึกสับสนเล็กน้อยและถามว่า "ขยายความให้หน่อย"

"เวลา พลังงาน และแม้แต่ความคิดที่โฮสต์ใช้ไปกับมันสามารถนับเป็นต้นทุนได้" ระบบตอบกลับมา

“การซื้อตั๋วลอตเตอรี่ไม่จำเป็นต้องให้โฮสต์ใช้เวลา พลังงาน หรือความคิดเกี่ยวกับมัน ดังนั้นมันจึงเป็นยอดคงเหลือที่ไม่ถูกนับรวม”

การซื้อลอตเตอรี่เขาเพียงแค่ต้องจ่ายเงิน คนอื่น ๆ อาจจะต้องไปขูดตามเสาไม้เก่าๆ หรือตามหาเหล่าซือดังๆ เพื่อขอเลขเด็ด และนำมาตีความต่อว่าหมายเลขไหนที่จะถูกรางวัล แต่ฉินหยุนแค่หลับตาซื้อเขาก็ถูกรางวัลแล้ว

เขาไม่ได้ใช้ต้นทุนที่ระบบว่ามาเลยในกระบวนการดังกล่าว

เมื่อได้ยินสิ่งที่ระบบบอก ฉินหยุนก็เข้าใจอย่างสมบูรณ์

"ไม่นับรวมยอดคงเหลือ ดูเหมือนว่าฉันยังต้องหาเงินไปทีละขั้น"

ฉินหยุนส่ายหัว: "แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ฉันถูกรางวัลใหญ่แล้ว ยังไงฉันก็ไม่สามารถซื้อลอตเตอรี่ได้อีกในเวลาสั้นๆนี้."

เขาเพิ่งได้รับรางวัลใหญ่ไปมากกว่า 100,000 หยวน หากเขาได้รับรางวัลใหญ่อีกครั้งมันจะดึงดูดความสนใจมากเกินไป

ฉินหยุนคิดในใจขณะเดินออกจากร้านลอตเตอรี่

"มีเงินอยู่ในมือแล้ว ต่อไปก็เริ่มแผนการขั้นที่สอง!"

ฉินหยุนรีบเดินไปที่แห่งหนึ่ง

"ไปซื้อโทรศัพท์มือถือก่อน"

...

ถนนซินหัว เขตชิงหวู่ นี่คือศูนย์กลางของเขตชิงหวู่ มีรถสัญจรอยู่บนถนนอย่างต่อเนื่อง และมีผู้คนมากมายเดินไปมาทั้งสองฝั่งของถนน นี่เป็นย่านที่มีผู้คนสัญจรไปมาค่อนข้างมาก

ทั้งสองฝั่งของถนนเต็มไปด้วยหน้าร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ร้านแว่น ฯลฯ เรียงรายกันระยิบระยับ

"ถึงแล้ว!"

ในเวลานี้ ฉินหยุนมาถึงร้านขายเสื้อผ้าและเดินเข้าไป ร้านขายเสื้อผ้าทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 40 ตารางเมตร และมีเสื้อผ้าสตรีแขวนอยู่ทั้งสองด้านของผนัง

ในร้านมีผู้หญิงเพียงคนเดียวในวัยยี่สิบที่กำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างเบื่อหน่าย

แม้ว่าจะมีผู้คนเดินผ่านมากมาย แต่ก็ไม่มีใครแวะที่ร้านเลย

เมื่อรู้สึกว่ามีคนเข้ามาในร้าน หญิงสาวจึงรีบเก็บโทรศัพท์และยืนขึ้น แต่เมื่อเธอเห็นฉินหยุน รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

"ฉินหยุนนี่เอง!"

ฉินหยุนเคยทำงานพาร์ทไทม์ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว แต่เขาหยุดทำไปเมื่อเดือนก่อน

"ไง พี่เสี่ยวชิง"

ฉินหยุนยิ้มตอบ

"ฉินหยุน นายไม่ได้มาที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว แม้ว่านายจะไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว แต่นายก็กลับมาหาพี่ได้ ลืมพี่ไปแล้วเหรอไง?" จางชิงพูดด้วยรอยยิ้ม

เธอรู้ว่าฉินหยุนเป็นกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยม ดังนั้นในใจของเธอจึงถือว่าตัวเองเป็นพี่สาว และเธอเคยชอบหยอกล้อฉินหยุนมาก่อน

ฉินหยุนทำอะไรไม่ถูก เขาไม่ได้ตอบกลับ แต่ชำเลืองมองไปรอบๆร้าน และถามว่า: "พี่เสี่ยวชิง ธุรกิจในร้านเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้"

เมื่อได้ยินคำถามของฉินหยุนแล้ว จางชิงก็ถอนหายใจทันทีและพูดว่า: "ฉันจะทำอะไรได้อีก ธุรกิจกำลังแย่ลงเรื่อยๆ ขาดทุนเกือบทุกวัน และอาจเจ๊งได้ทุกเมื่อ ก่อนหน้านี้มีคนติดต่อบอสมาสองคน แต่บอสคิดว่าค่าเซ้งร้านที่พวกเขาเสนอให้นั้นต่ำเกินไป ดังนั้นเขาจึงลังเลและยังไม่ได้ตกลง"

"เขายังไม่ได้ตกลงเหรอ?" ฉินหยุนคิดเงียบๆ

เขารู้ว่าเจ้าของร้านนี้ต้องการจะเซ้งร้านมาโดยตลอด แต่ก่อนหน้านี้ธุรกิจที่นี่ก็ดีมาก

เพียงแต่ว่ามีร้านขายเสื้อผ้าหลายร้านรอบๆ มากเกินไป และพวกเขายังจัดโปรโมชั่นบ่อยมาก ดังนั้นธุรกิจที่นี่จึงค่อยๆ ซบเซาลง

เนื่องจากไม่สามารถทำกำไรได้อีกต่อไป จึงเป็นการดีที่สุดที่จะจัดการกับมัน

แม้ว่าตอนนี้จะขาดทุน แต่ฉินหยุนก็มั่นใจว่าตราบใดที่เขาจัดวางรูปแบบการรวบรวมโชคลาภไว้ที่นี่ ธุรกิจจะดีขึ้นในทันที

ใช่แล้ว เขาชอบร้านนี้มาก!

ด้วยระบบโคตรโกงที่มีอยู่ เขาไม่กังวลว่าจะไม่มีใครซื้อเลย สิ่งเดียวที่เขาต้องพิจารณาคือการสัญจรของผู้คน! ตราบใดที่มีคนจำนวนมาก คุณก็สามารถทำเงินได้แน่นอน!

หากเปิดร้านในที่ที่มีคนน้อย แม้ว่าจะมีรูปแบบการรวบรวมโชคลาภ ธุรกิจก็อาจจะไม่ได้ดีขึ้นมากนัก

ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเปิดร้านขายเสื้อผ้าในแถบทะเลทราย ในหนึ่งเดือนแทบจะไม่มีคนเลย ไม่ต้องพูดถึงรูปแบบการรวบรวมโชคลาภระดับที่หนึ่ง ต่อให้คุณจัดวางรูปแบบระดับที่สอง แม้กระทั่งรูปแบบระดับที่สาม ก็เป็นไปได้ยากที่จะได้รับเงิน

ทำเลที่ตั้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ขณะที่ฉินหยุนและจางชิงกำลังคุยกันอยู่ มีหญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาจากนอกร้าน ผู้หญิงคนนั้นใส่แว่นตาและสวมสูทที่ดูเรียบร้อย เธอไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า และดูเหมือนเป็นคนที่เข้าหายาก

"คุณจาง"

เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้กำลังเข้ามา จางชิงก็ตะโกนอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีร่องรอยของความยับยั้งชั่งใจปรากฏบนใบหน้าของเธอ

จางหยาพยักหน้า เธอมองไปที่ชายหนุ่มข้างๆ จางชิง และพูดว่า "ฉินหยุน?"

เธอจำชายหนุ่มที่เคยทำงานพาร์ทไทม์ในร้านของเธอได้

"คุณจาง" ฉินหยุนตอบกลับ

จางหยาพยักหน้าเล็กน้อยไม่พูดอะไรมาก จากนั้นจึงเดินไปที่ด้านในร้าน

"คุณจาง ผมมาที่นี่เพื่อคุยกับคุณเกี่ยวกับการเซ้งร้านต่อ!"

เมื่อมองไปที่จางหยา ฉินหยุนก็พูดขึ้นมา

เดิมทีจางหยาคิดว่าฉินหยุนมาที่นี่เพื่อเดินเล่น แต่เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เขาพูด เธออดไม่ได้ที่จะผงะ หันศีรษะไปมองฉินหยุนอย่างสงสัยและพูดว่า "คุณต้องการเซ้งร้านนี้?"

"ใช่ครับ" ฉินหยุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้ยินคำตอบยืนยันของฉินหยุนแล้ว จางหยาเงียบไปสักครู่ และพูดตรงๆ ว่า "มานั่งคุยกันเถอะ เสี่ยวชิงเทน้ำให้ฉินหยุนสักแก้วหน่อย"

เห็นได้ชัดว่ามีร่องรอยของความจริงจังบนใบหน้าของเธอ ไม่ว่าก่อนหน้านี้ฉินหยุนจะเป็นพนักงานของเธอหรือไม่ แต่ตอนนี้เมื่อเขาต้องการพูดคุยเกี่ยวกับการเซ้งร้าน เขาก็กลายเป็นแขกวีไอพีของเธอแล้ว

จางชิงเทน้ำสองแก้วอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปที่หน้าแคชเชียร์

"เกิดอะไรขึ้นกับฉินหยุน ทำไมจู่ๆ เขาถึงต้องการซื้อร้านนี้ เขามีเงินหรือเปล่า" เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ฉินหยุน

เธอรู้ว่าฉินหยุนเป็นนักเรียนมัธยมปลายและเขามาทำงานพาร์ทไทม์ในตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 3 ภูมิหลังครอบครัวของเขาอาจไม่ค่อยดีนักแล้วเขาจะมีเงินซื้อร้านค้าได้อย่างไร?

เธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

...

"คุณจาง คุณตั้งราคาในการเซ้งร้านไว้เท่าไหร่" เมื่อมองไปที่จางหยาที่อยู่ตรงหน้าเขา ฉินหยุนถามเข้าประเด็นทันที

"ฉินหยุน เราต่างก็เป็นคนรู้จักกัน และคุณก็รู้บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ในร้านนี้ ตอนนี้ธุรกิจในร้านไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นฉันจะไม่พูดอะไรมาก"

จางหยาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า : "ค่าเซ้งร้าน 50,000 เสื้อผ้าในร้าน เสื้อผ้าในโกดัง ฯลฯ เป็นของคุณทั้งหมด"

(จบตอน)

--------------------------------------------------------------------------------

หมายเหตุ

**รายได้ที่มีต้นทุนที่แน่นอน

ประโยคนี้ทางต้นฉบับใช้คำว่า

定的成本挣取 ลองใช้กูเกิลแปลได้ความหมายว่า (ได้รับด้วยค่าใช้จ่ายที่แน่นอน) ส่วนตัวงงมากครับ ไม่รู้จะใช้คำไหนดีให้มันสอดคล้องกับบทนิยาย เลยขอใช้คำว่า ต้นทุน แล้วกัน

แนะนำได้นะครับว่าอยากให้ใช้คำไหน เดี๋ยวกลับมาแก้ให้

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด