ตอนที่แล้วตอนที่ 1348 ประลองชะตา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1350 ข้าคือนักรบ!

ตอนที่ 1349 ผนึกประตูชีวิตนิรันดร!


“ประลองตัดสินขั้นสูงสุดคือโอกาสที่ไม่อาจถามหาได้”

“กล่าวอีกอย่างหนึ่งแดนสวรรค์หรือแดนสวรรค์บนจะมีผู้มีคุณสมบัติสองคนที่จะได้เป็นเทพจอมราชันย์  แต่เทพจอมราชันย์เป็นได้แค่คนเดียว ทั้งสองจะต้องประลองตัดสินชะตาที่ไม่เหมือนใคร  ผู้ชนะในหมู่พวกเขาจะได้เป็นเทพจอมราชันย์และผู้แพ้จะกลายเป็นรองเท้าให้เทพราชันย์  ความพยายามความสามารถของเขาจะกลายเป็นสง่าราศีของผู้อื่นไปชั่วนิรันดร! การต่อสู้ประลองแบบนี้น่าเศร้ายิ่งกว่าการตายอย่างเด็ดขาดไม่มีทางถอยและไม่มีทางเลือกที่สองนั่นคือการประลองตัดสินเทพจอมราชันย์

“ในการประลองชะตาครั้งนี้  ต้องชนะเท่านั้น ห้ามแพ้!”

“เจ้าเห็นไหมว่าเทพพิทักษ์ภูเขากวงหมิงโจมตีเราทั้งคู่  แต่เทียนอี้เจ้าตำหนักสูงสุดไม่ปรากฏตัวขึ้นคำอธิบายประการเดียวสำหรับเหตุผลนี้ก็คือเขากำลังเตรียมตัวขั้นสุดท้ายและละทิ้งทุกอย่างจากโลกภายนอกรวมทั้งทุกอย่างที่ดูเหมือนจะมีประโยชน์!” ยิ่งมังกรปีศาจพูดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมีความเข้าใจมากขึ้นในที่สุดเขามองไปทางเย่ว์หยางอย่างจริงจัง

ในที่สุดเขาระงับความตื่นเต้นในใจเขามองเย่ว์หยางด้วยความกระตือรือร้น

น่าเสียดายที่เย่ว์หยางในตอนนี้ไม่มีเวลาสนองตอบ

โดยไม่รู้ตัว

“ถ้าอย่างนั้นเราจะรออะไรรีบไปหาจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อกัน!” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินเช่นนี้เขาดีใจทันที เขาคาดว่าวันเวลาดีๆ ของเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้กำลังจะสิ้นสุดลงผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขาจะต้องพบกับยอดฝีมือไร้เทียมทานระดับโลกเช่นผู้ที่กักตัวอยู่ในเจดีย์ดำรอคอยโอกาสมาหลายหมื่นปีอย่างจักรพรรดิไร้เทียมทาน

“ใครบอกกันเล่าว่าผู้มีคุณสมบัติประลองชะตาคือจิ๋วซื่อ!”  มังกรปีศาจมึนงง

“เทียบกับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแล้วใครมีประสบการณ์ดีกว่า?”  เย่ว์หยางคิดว่าผู้มีคุณสมบัตินี้ไม่น่าจะใช่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีกระมัง?  คิดดูแล้ว นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็อาจจะใช่เช่นกันนางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลีสามารถพิชิตแดนสวรรค์ทั้งหมดสามารถทำให้กำลังหนุนตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ต้องปรากฏตัวในที่สุด

“เป็นเจ้านั่นแหละ เจ้าเด็กโง่!” มังกรปีศาจตีหน้าผากเย่ว์หยาง เขาคิดว่าอยากจะตบเจ้าเด็กนี่ให้หมดสติจริงๆ  “ถ้าเจ้าไม่ใช่คู่ประลองตัดสินชะตาเด็กน้อยอย่างเจ้าจะฝึกฝนได้รวดเร็วอย่างนี้เชียวหรือ?เจ้ามีการผจญภัยมากมายและได้รับคำแนะนำมากมายใช่หรือไม่?  เจ้ามองดูอสูรศึกและสมบัติของเจ้าและลองมองไปที่คนอื่น เจ้าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน บางทีเจ้าอาจเกิดมาในโลกนี้เพราะเจ้าต้องการที่จะเอาชนะเทียนอี้เจ้าตำหนักสูงสุดและกลายเป็นเทพจอมราชันย์ไม่ใช่หรือ?  ข้าก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน ทำไมเจ้าถึงใช้เวลาฝึกฝนเพียงเล็กน้อยก็ตามทันเล่า?  นั่นเป็นเพราะเจ้าคือเทพจอมราชันย์ในอนาคตอยู่ภายใต้การจัดเตรียมของโชคชะตา!”

“ข้าน่ะหรือ?” เย่ว์หยางตะลึงงมงาย

“สีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างเจ้าอย่าทำให้ข้าอิจฉาและแสดงความรุนแรงกับเจ้าได้ไหม?”  มังกรปีศาจเกลียดจนคันฟันเขาไม่เข้าใจว่าทำไมผู้มีคุณสมบัติคนอื่นๆที่จะเข้าประลองตัดสินเทพจอมราชันย์ถึงต้องเป็นเจ้าเด็กปากเหม็นผู้นี้  พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อและนางพญาผู้พิชิตเฟ่ยเหวินหลีนั้นไม่เลวเลยและการฝึกฝนอย่างหนักของคนอื่นก็สามารถชนะได้ แต่เจ้าเด็กนี่มีเส้นทางให้เลือกมากมาย!

“จบกัน ถ้าต้องเป็นข้า  อย่างนั้นศึกนี้แพ้แน่” เย่ว์หยางไม่รู้สึกเลยว่าเขาจะสามารถฆ่าเทียนอี้ได้ในตอนนี้

งั้นก็ปล่อยให้เทียนอี้ฆ่าเจ้า

มันเป็นการท้าทายไม่จำเป็นต้องมีคุณสมบัติก็ได้!

ถ้าพวกเขาทั้งสองขึ้นเวทีประลองตัดสินชะตาแม้แต่เย่ว์หยางเองก็ไม่กล้าเดิมพันว่าตนเองจะชนะ โธ่เอ๊ย..ระดับพลังห่างกันเกินไป เจ้าตำหนักสูงสุดฝึกฝนมากี่ปีแล้ว? ยิ่งไปกว่านั้นว่ากันว่าบุรุษคนนี้ยังบ้าฝึกฝนทุกวี่วันไม่เคยวางมือฉะนั้นเขาจึงเป็นบุรุษอันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์

ในการประลองตัดสินชะตาอัตราการเอาชนะได้จะถึงหนึ่งในพันล้านได้หรือไม่?

“เจ้าไม่ต้องสนใจว่าแพ้หรือชนะ  เจ้ามีหน้าที่ต่อสู้เท่านั้น!” ตอนนี้มังกรปีศาจสงบใจได้มากแล้ว ถ้าเด็กคนนี้คือผู้มีคุณสมบัติอีกคนในการประลองชะตาเทพจอมราชันย์จริงแล้วก็สมเหตุสมผลสำหรับปริศนามากมายก่อนหน้านี้ว่าทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้มีความสามารถที่ผิดปกติ?  ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงมีอสูรพิทักษ์มากมาย?ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงมีของวิเศษมากมาย? ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้มีเรื่องผจญภัยมากมาย? ทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว?  ทำไมเจ้าเด็กนี่จึงสามารถเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้?  ตอนนี้ทุกอย่างมีคำตอบแล้ว...  เพราะเขาคือเทพจอมราชันย์ในอนาคต!

บางทีอาจถูกลิขิตไว้ตั้งแต่เกิด

เป็นเรื่องที่แน่นอน!

นี่อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการตัดชุดวิวาห์เพื่อคนอื่นและในที่สุดผลลัพธ์สุดท้ายจะไม่มีใครรู้จนกว่าจะมีการประลองกัน!

แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม เจ้าเด็กผู้นี้ไม่เหมือนกับคนที่พบกับโศกนาฏกรรมเหมือนตอนที่ใส่ชุดแต่งงานของคนอื่น  บางทีคนที่กลายเป็นศิลารองเท้าเพื่อให้ทำลายชื่อเสียงและก้าวข้ามไปอาจเป็นเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ผู้ที่ไม่เคยถูกผลักลงจากบัลลังก์นานนับหมื่นปี!

“เด็กน้อย มีข้าคอยคุ้มครองเจ้าจะต้องชนะแน่นอน!” มังกรปีศาจตบหน้าอกรับรองด้วยความมั่นใจ “ข้าจะช่วยให้เจ้าไปถึงตำแหน่งสุดยอดแม้ว่าข้าจะต้องตายก็ตาม!  น้องเราข้าคาดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นเทพจอมราชันย์ ข้ารู้สึกเหมือนฝันจริงๆยิ้มได้แม้กระทั่งจนตื่น! ใจเย็นๆ เจ้าไม่ต้องลนลานไปเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้ไม่ยอดเยี่ยมเท่าไหร่ ก็แค่ฝึกมาก่อนเจ้ามาหลายหมื่นปีเท่านั้น เป็นคนบ้าที่เอาแต่ฝึกทุกวี่วัน ไม่เป็นไรมีข้าคอยคุ้มครองเจ้า เจ้าจะต้องชนะได้ในที่สุด  ทำไมทำหน้าแบบนั้น?  เจ้าบังอาจสงสัยฝีมือของข้าหรือ?  ใช่หรือเปล่า?”

“เรายังคงหาที่ซ่อนตัวกันก่อน!”  เย่ว์หยางนึกถึงปัญหาร้ายแรงขึ้นมาได้กะทันหัน  หากเทพพิทักษ์ของภูเขากวงหมิงกลับมาอย่าว่าแต่ประลองตัดสินเทพจอมราชันย์เลย เขาอาจถูกสังหารได้ในไม่กี่วินาที

“เออ, จริงด้วย”มังกรปีศาจก็คิดถึงเทพยักษ์เจ้าเล่ห์ได้  กระดองเต่าของเจ้าผู้นี้แข็งเกินไปยากจะเอาชนะในตอนนี้ได้

“รีบหนีเร็วเข้า ถ้าเจ้าไม่รีบหนีมันจะสายเกินไป..” เย่ว์หยางรู้สึกว่ายังเร็วเกินไปที่จะประลองตัดสินชะตา

“จะตื่นเต้นไปทำไม...ข้ารู้จักอยู่ที่หนึ่ง” มังกรปีศาจร้อนรนและเขาได้แรงบันดาลใจอีกครั้ง  ทันใดนั้นเขาจำสถานที่แห่งหนึ่งได้เขารีบคว้าไหล่เย่ว์หยาง  “ข้าไม่รู้ว่าจะไปที่นั่นถูกหรือเปล่าบางทีอาจเป็นการทำร้ายเจ้า บางทีอาจเป็นการจัดการของโชคชะตาก็ได้เจ้าต้องตัดสินใจในที่สุด จะรอดหรือตายเจ้าเป็นคนเลือกเองและเมื่อถึงเวลานั้นอย่ามาโทษว่าข้าบอกไม่ชัดเจน!”

“จริงจังนักหรือ?  อย่างนั้นสถานที่นั้นอยู่ไหน?  ยอดเขากวงหมิงตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า? เจ้ารู้เส้นทางลับหรือไม่?” เย่ว์หยางจำได้ว่าตอนที่คนจากสำนักใหญ่ทั้งหกปิดล้อมนิกายหมิงเจี้ยว [เม้งก่า] (เข้าใจว่าอ้างอิงจากเรื่องดาบมังกรหยกตอนหกสำนักใหญ่บุกเม้งก่า)จะมีทางลับนำไปสู่ยอดเขากวงหมิง สถานที่อันตรายที่สุดคือที่ปลอดภัยที่สุดหรือ?

“วุ่นวายจริงๆ... ที่ๆเราจะไปคือประตูแห่งชะตา!” โชคดีที่มังกรปีศาจไม่รู้ว่าเย่ว์หยางพูดถึงยอดเขากวงหมิงมิฉะนั้นเขาคงได้คลั่งใจตายแน่นอน

“ประตูแห่งชะตา?”  เย่ว์หยางเมื่อได้ยินแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี

“นั่นคือประตูเทพโบราณ ผู้ท้าทายจะต้องฟันฝ่าชะตากรรมถึงจะออกมาได้ตอนนี้พาเจ้าไปที่นั่นบางทีอาจเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุด  เจ้าตัดสินใจเอง!”  นั่นคือตัวเลือกที่มังกรปีศาจให้เย่ว์หยาง

“จะเป็นโชคหรือคำสาปก็คงเลี่ยงไม่ได้”  เย่ว์หยางพร้อมจะเสี่ยงทุกอย่าง

แม้ว่าจะรู้สึกผิดมาก

แต่เด็กหนุ่มจากโลกอื่นกล้าที่จะทำ

ทันทีที่เขากัดฟันเขาตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีหรือไม่ดี ทุกอย่างจะถูกกำหนดโดยการทำงานอย่างหนักและด้วยความเพียรทำงานอย่างหนักมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จที่ขัดต่อเจตจำนงของสวรรค์ได้การเปลี่ยนแปลงกระแสความสำเร็จของเหตุการณ์นั้นงดงามมาก ส่วนผลอื่นๆ เขาไม่ต้องคิดชั่วคราวทุกย่างก้าวที่ท่านสามารถทำงานหนักด้วยมือของตนเองเพื่อผลสำเร็จ...ทำให้ดีที่สุด เด็กหนุ่มจากโลกอื่นไม่รู้สึกเสียใจ

มังกรปีศาจกล่าวชม“นี่แหละคือความกล้าของเทพจอมราชันย์ในอนาคต!”

ด้วยวิธีนี้สองพี่ใหญ่น้องเล็กไม่ควรถูกฆ่าในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดนี้ในที่สุดพวกเขาเริ่มใช้ปัญญาตัดสินใจเลือกอย่างถูกต้อง

เมื่อเสี่ยวเหวินหลีพาเย่ว์หยางและมังกรปีศาจเข้าไปในแสงศักดิ์สิทธิ์และหายตัวไปในเส้นทางโบราณนักสู้ฝีมือยอดเยี่ยมของเจ้าตำหนักสูงสุด จื้อไจ้เทียน ฮ่วนเล่อเทียนและเทียนฉวงเข้ามาถึงในสนามรบทันที

ถ้าช้าไปสักหนึ่งนาที ไม่สิต้องครึ่งนาที

ผลลัพธ์ที่ออกมา

อาจจะกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง

จื้อไจ้เทียนที่ดูเป็นหัวหน้าได้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของสนามรบและตัดสินได้“การต่อสู้ที่น่าสยดสยองเกิดขึ้นที่นี่ เย่ว์ไตตันที่หายไปคงหนีมาที่นี่แน่นอน

“เย่ว์ไตตันแข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ?”  เทียนฉวงอดไม่ได้ที่จะแสดงความสงสัย

“มีบางคนช่วยเขา!” คำพูดนำของฮ่วนเล่อเทียนแม่นยำกว่า “แม้ว่าที่นี่จะมีรอยแตกสลายไปทุกที่แต่ก็ยังสัมผัสได้ถึงพลังของเทพชั้นสูงสามคนได้ ต้องเป็นเทพพิทักษ์ที่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของศัตรูและปรากฏตัวออกยับยั้งพวกเขาอยู่ที่นี่และมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด แม้ว่าจะไม่ทราบผลการต่อสู้ในขณะนี้ แต่มั่นใจได้ว่ามีศัตรูที่มีพลังใกล้เคียงกับเทพพิทักษ์มาพบกับเย่ว์ไตตัน”

“มังกรปีศาจ!” จือไจ้เทียนตอบสนองทันที “เมื่อตงฟางบอกว่าเย่ว์ไตตันมีสุดยอดนักสู้คอยคุ้มครองเขามังกรปีศาจถือว่าเป็นมือสังหารอันดับหนึ่งของแดนสวรรค์เบื้องบนคงปลดปล่อยเขามาให้คุ้มกันเย่ว์ไตตันเป็นการไถ่โทษ”

“นี่นับว่ามีเหตุผล...”  เทียนฉวงเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานนี้

“แม้แต่ท่านเทพพิทักษ์ก็ไม่สามารถฆ่าเย่ว์ไตตันได้หรือนี่?  ดูเหมือนว่ามีบางคนแยกหนีจากไป”  ในใจของฮ่วนเล่อเทียนสัมผัสได้ถึงรอยฉีกขาดของมิติในเส้นทางโบราณ

“ถ้าเทพพิทักษ์ลงมือแม้ว่าจะไม่สามารถฆ่าได้ทันที แต่ศัตรูคงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน”   เทียนฉวงสรุปอย่างดีใจ

หลังฟังแล้วจื้อไจ้เทียนตัดสินใจทันที  “เรารีบไล่ตามพวกเขาเถอะ!”

ตราบเท่าที่เย่ว์ไตตันยังมีชีวิต

อย่างนั้นการไล่ตามต้องไม่หยุด

ทั้งสามกลายเป็นแสงเทพพุ่งหายไปในเส้นทางโบราณ

ขณะนั้นเองบนสะพานลอยฟ้าของแกนสมดุลโลกจื้อจุนต่อสู้อย่างหนักคู่ต่อสู้ของนางไม่ใช่เจี้ยนจางเซิงที่กระหายการต่อสู้อีกต่อไป  นางเปลี่ยนคู่ต่อสู้หลายครั้งตอนนี้คู่ต่อสู้ของนางชื่อว่าฉวนคงซ่างเป็นปีศาจเฒ่าที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก

ฉวนคงซ่างผู้นี้ตัวดำสนิทเหมือนหมึก

เป็นไปไม่ได้ที่แสงใดๆในโลกจะฉายถูกร่างของเขา ไม่ใช่การกลืนกิน แต่เป็นการปฏิเสธ

จื้อจุนเคยใช้ระเบิดแสงมาแล้วแต่ไม่สามารถใช้ได้กับฉวนคงซ่างผู้นี้ นี่คือปีศาจเฒ่าที่ไม่มีใครเอาชนะได้ด้วยพลังแสงใดๆ  แม้แต่ดวงอาทิตย์ที่มีพลังสูงสุด พลังเหล่านั้นไม่สามารถทิ้งร่องรอยไว้บนร่างของเขา หากจื้อจุนไม่พบว่าฉวนคงซางยังคงกลัวพลังดับสุริยาอยู่สามส่วน อย่างนั้นนางไม่รู้ว่าจะใช้อะไรรับมือกับศัตรูเจ้าเล่ห์ผู้นี้

“เอาไม้ตายออกมาใช้ให้หมด  เจ้ามีวิชาลับต้องห้ามอะไรก็จงเอาออกมาใช้มิฉะนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลง!” หลุมดำอย่างฉวนคงซ่างทรงพลังมากกว่าเจี้ยนจางเซิงก่อนหน้านี้แต่จื้อจุนสู้กับนักสู้ก่อนหน้านั้นจนแทบไม่เหลือแรงยืนแล้ว

“ไม่เลวเลย สามารถสู้ได้จนถึงบัดนี้เป็นสาวน้อยที่ยอดเยี่ยม” สตรีเสียงยั่วยวนแสยะยิ้ม

“สู้ได้ดี น่าตื่นเต้นมากแต่คงจะดีกว่านี้ถ้าเจ้าสู้ได้นานกว่านี้ ตอนนี้บางคนยังดูไม่พอ จิ๋วซื่อ! เจ้าไม่สนใจดูรุ่นอาวุโสของเจ้าและปล่อยให้ฉวนคงซ่างฆ่านางโดยไม่ช่วยเหลือใช่ไหม?”  มีอีกเสียงคอยยั่วยุจักรพรรดิไร้เทียมทานจากระยะไกล  จะลงมือบ้างไหม? เราผู้เฒ่าคันมือเล็กน้อยมาเถอะน่า เราผู้เฒ่าจะให้โอกาสล้างแค้น!”

“ข้ายังไม่ตาย!”  จื้อจุนยืนขึ้นทันทีนางยืนตัวตรงอย่างภาคภูมิใจภายใต้ผลกระทบจากพลังเทพของฝ่ายตรงข้าม ลึกๆในดวงตานางยังมีความดื้อรั้นใจสู้ “ข้าไม่ยอมแพ้!”

ท่านแม่ ท่านดูอยู่บนสวรรค์หรือไม่?

ท่านก็รู้

ข้าแข็งแกร่งที่สุดข้าฝึกฝนมาอย่างหนักโดยตลอด วันนี้จะให้ท่านได้ดูผลของการฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เมื่อสติสัมปชัญญะของจื้อจุนขาดหายพลังเทพรอบตัวนางมีการเปลี่ยนแปลงที่มิอาจจินตนาการภาพแปลกประหลาดปรากฏต่อหน้าทุกคนอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

วังวนดำและขาวหมุนเกี่ยวพันกันรวมเป็นโลกเดียวในนั้นมีแต่สีดำและขาวเท่านั้นไม่มีอะไรอื่น

มันหมุนอยู่นอกร่างของจื้อจุนความเร็วช้ามาก แต่ลึกลับไม่สิ้นสุดราวกับว่าเป็นมาตั้งแต่กำเนิดโลก

“อันตราย!” สตรีเสียงยั่วยวนร้องลั่น ไม่เพียงแต่ฉวนคงซ่างเท่านั้นแต่เจี้ยนจางเซิงที่สังเกตอยู่ในระยะไกลสังเห็นการต่อสู้ครั้งนี้รวมทั้งคู่ต่อสู้คนอื่นที่ได้สู้มาก่อนพวกเขายังให้ความสนใจเต็มที่กับสัญญาณเตือน ทันทีที่โลกใบเล็กลึกลับงดงามนี้ปรากฏทุกคนมีความรู้สึกราวกับว่าพวกเขาจะถูกปิดผนึกไว้ภายในตลอดไปไม่มีวันออกมาได้

ไม่ว่าจะเป็นการวางเท้าในสนามรบหรือการซ่อนลักษณะตนเองอยู่ในท้องฟ้า

ผลย่อมเหมือนกัน

ทุกคนต่างรีบเร่งอย่างบ้าคลั่งหวังว่าจะหยุดการหมุนของโลกที่น่ากลัวในช่วงสุดท้ายนี้ได้ตราบใดที่ยังปล่อยให้เป็นไป ทุกคนจะต้องตาย หรืออย่างน้อยจะถูกผนึกตลอดไป...

“ผนึกประตูชีวิตนิรันดร!” จื้อจุนชูนิ้ว ฉวนคงซางระเบิดพลังสูงสุดเช่นเดียวกับควันไฟที่ถูกดูดซับโดยโลกใบเล็กไม่ได้รับผลกระทบจากพลังงานแสงใดๆ แม้แต่พลังดับสุริยาก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของเทพทำลายล้างโดยตรงได้  ภายใต้สายตาของทุกคนวิญญาณในร่างเทพส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน อ้อนวอนดิ้นรนอย่างสิ้นหวังแต่ไร้ประโยชน์วิญญาณของฉวนคงซางถูกดึงออกมาโดยตรงโดยเจตจำนงสูงสุดที่มิอาจต้านทานได้และถูกผนึกอยู่ในโลกใบเล็ก

เจี้ยนจางเซิงและคนอื่นที่มองดูล้วนหลั่งเหงื่อเยียบเย็น

พวกเขาไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กผู้หญิงข้างหน้าจะมีพลังเจตจำนงและพลังกฎที่น่ากลัวขนาดนี้

ถ้ารู้เรื่องนี้แต่เนิ่นๆแม้ว่าจะได้เปรียบมาก พวกเขาจะไม่ทำอะไรเด็กสาวตัวน้อยผู้นี้ มันน่ากลัวมากนักสู้อย่างฉวนคงซ่างต่อให้ดิ้นรนต่อสู้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายร่างเทพโดยตรงในที่สุด  นางฝึกฝนพลังนี้ได้อย่างไร?

โชคดีที่เป้าหมายไม่ใช่พวกเขาแต่เป็นฉวนคงซ่างที่สู้อยู่ในสนามต่อสู้

มิฉะนั้น ที่นี่จะไม่มีใครรอด

“ยอมแพ้,ข้าไม่ต้องการสู้กับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวนี้!” เจี้ยนจางเซิงกลัว เขาตัดสินใจไม่สู้กับจื้อจุนอีก และตลอดไป

“.....”ไม่มีใครในกลุ่มคนดูหัวเราะเยาะเขา เพราะนี่ไม่ตลกเลยแม้แต่น้อย  เมื่อมองดูฉวนคงซ่างในอากาศหัวใจทุกคนหนักอึ้งราวกับถ่วงด้วยก้อนหินหนัก

“เด็กสาวนั่นดูเหมือนจะเป็นลมหรือเปล่า?” สตรีเสียงยั่วยวนร้องเตือนอีกครั้ง และนางพบว่ามีสิ่งผิดปกติ

จื้อจุนล้มลงกับพื้น

สติค่อยๆ เลือนรางท่ามกลางความสับสนดูเหมือนว่านางเห็นแม่และป้านั่งยิ้มอยู่บนท้องฟ้า น้องสาวนางยกกระโปรงวิ่งตามนางตะโกนเรียกนางอย่างมีความสุขฯลฯ... ห่างออกไปมีเด็กหนุ่มจอมซนเสียงดังมาพร้อมกับพวกพ้องของเขา

จะใช่เขาหรือไม่?

ท่านแม่!  ใช่เขาหรือเปล่า?เขาคือน้องชายที่ท่านมองหาอยู่หรือเปล่า?”

*** *** ***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด