ตอนที่แล้วบทที่ 33: ชุดกระโปรงหนังสัตว์ตัวโปรดของท่าน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35: ไม่รู้สึกขนลุกบ้างหรือไง?

บทที่ 34: ปลดล็อกชั้นวางใหม่


ในตอนที่หลงเซียวถูกผู้เป็นแม่สัมผัส เขาตัวแข็งทื่อพยายามถอยหลังหนีไป 2 ก้าว

จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจว่า "ท่านรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ถ้าท่านป่วย ไม่มีใครช่วยท่านได้หรอกนะ"

เด็กหนุ่มพูดจบแล้วก็หันหลังเดินไปนั่งเล่นอยู่หลังบ้านไม้พร้อมกับไม้ยาวโดยไม่สนใจหูเจียวเจียวอีก

หญิงสาวเม้มริมฝีปากก่อนจะเผยรอยยิ้ม เด็กคนนี้ปากจัดพอ ๆ กับหลงจง แต่เธอรู้ว่าหลงเซียวมีจิตใจดีและอ่อนโยนกว่าอีกคนเป็นไหน ๆ

ถ้าเด็กหนุ่มไม่เอาชุดกระโปรงหนังสัตว์ออกมา เธออาจจะต้องสวมหนังสัตว์เปียกไปทั้งวัน

แต่ทว่า…

หูเจียวเจียวก้มลงมองไปที่มือของเธอแล้วเห็นว่ามีหมัด 2-3 ตัวพุ่งออกมาจากฝ่ามือ...

ถ้าเป็นในการ์ตูน บนหัวของเธอคงจะมีเส้นสีดำขีดอยู่เป็นแถว เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะพวกภูตไม่ใส่ใจเรื่องสุขอนามัยหรือไม่มีใครดูแลเด็กพวกนี้ พวกเขาจึงมีหมัดอยู่บนหัว ต่อจากนี้ไปเธอคงจะต้องดูแลเรื่องความสะอาดของเจ้าตัวเล็กทั้งหลายเสียแล้ว

เมื่อนึกถึงภาพลูกตัวน้อยที่มีสภาพไม่ต่างจากขอทาน ความมุ่งมั่นของหูเจียวเจียวที่จะดูแลเด็กทั้ง 5 คนก็พุ่งสูงขึ้น

หลังจากที่หญิงสาวเข้าไปในห้องแล้ว เธอก็จัดการถอดชุดกระโปรงหนังสัตว์ตัวเดิมที่เปียกโชกออก

ที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีโอกาสได้อาบน้ำเลยตั้งแต่ทะลุมิติมาที่นี่ วันนี้พระเจ้าคงเห็นใจจึงช่วยให้เธอมีเวลาได้ไปอาบน้ำในแม่น้ำ

พอจิ้งจอกสาวถอดเสื้อผ้า เธอก็เผลอชำเลืองมองร่างกายของตัวเอง หุ่นของเจ้าของร่างเดิมนี่ได้สัดส่วนดีจริง ๆ ตรงไหนควรจะเล็กก็เพรียวบาง ตรงไหนควรจะอวบอั๋นก็นูนขึ้นมา ส่งผลให้รูปร่างของนางดูสมบูรณ์แบบมาก

คำว่า ‘มีเสน่ห์’ คงจะสามารถใช้อธิบายร่างกายของนางได้ดีที่สุด

ในชีวิตที่แล้ว เธอเป็นสาวเนิร์ด แม้ว่าเธอจะไม่ได้อ้วนจ้ำม่ำ แต่รูปร่างของเธอก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น มันสามารถเอาไปเปรียบกับกระดานโต้คลื่นได้เลยก็ว่าได้…

ยามนี้หูเจียวเจียวสัมผัสตัวเอง 2-3 ครั้งด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากนั้นเธอก็กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง เมื่อคิดถึงว่าปัจจุบันร่างกายนี้เป็นของเธอแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่ผิดที่เธอจะตรวจสอบว่ามีตรงไหนผิดปกติหรือไม่

หลังจากสลัดความคิดที่ทำให้ตัวเองหน้าแดงไปได้ หญิงสาวก็นำชุดกระโปรงหนังสัตว์มาสวมดู

ชุดกระโปรงหนังสัตว์ตัวใหม่ทำจากหนังเสือดาว ด้านนอกจึงมีลายเสือดาวสีเหลืองสลับสีน้ำตาลเข้ม ทว่าชุดกระโปรงตัวนี้ยาวไม่ถึงหัวเข่า แล้วเกือบจะปกปิดต้นขาไม่มิด

ส่วนท่อนบนเป็นเสื้อแขนกุดซึ่งเธอจะต้องนำผ้ามาผูกเอวไว้ เนื่องจากในเผ่าภูตหาเครื่องมือตัดเย็บได้ยากมาก เสื้อผ้าส่วนใหญ่จึงเป็นแบบชิ้นเดียวและต้องใช้วิธีเอาหนังสัตว์มาผูกเป็นเข็มขัดเอา

หลังจากที่หูเจียวเจียวสวมเสื้อผ้าตัวใหม่เสร็จแล้ว เธอก็เผยสีหน้าเศร้าสร้อย

เนื่องจากชุดกระโปรงหนังสัตว์ก่อนหน้านี้ยาวเลยหัวเข่าไป ซึ่งชุดนั้นเธอยังพอรับได้ แต่ชุดกระโปรงตัวนี้สั้นมาก ประกอบกับพวกภูตไม่มีกางเกงในใส่ด้วย... เธอทำใจยอมรับไม่ได้จริง ๆ เพราะมันโล่งจนเกินไป

แม้ว่าพวกภูตจะไม่สนใจว่าพวกเขาจะเผลอเปิดเผยอะไรที่ไม่ควรเปิดหรือไม่ แต่เธอเป็นมนุษย์ เธอรับไม่ได้กับการสวมชุดกระโปรงสั้นโดยไม่มีอะไรปกปิดอยู่ข้างใน

ในขณะที่ยังมีเวลาเหลืออีกพอสมควร หูเจียวเจียวรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบผ้าสีขาวผืนหนึ่งมาทำชุดชั้นใน

ตอนนี้เธอไม่จำเป็นต้องทำชุดชั้นในท่อนบนเพราะว่าเธอไม่สามารถใส่อะไรไว้ใต้เสื้อแขนกุดได้ ประกอบกับโชคดีที่หนังสัตว์นั้นหนามากพอจนไม่เปิดเผยจุดน่าอายออกมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวเธอคิดว่าเอาไว้แก้ไขภายหลังได้

การเข้าสู่มิติในครั้งนี้ จิ้งจอกสาวพบว่ามีชั้นวางเปิดให้ใช้งานได้อีก 2 ชั้น

โดยที่บนชั้นหนึ่งมีผ้าชนิดต่าง ๆ วัสดุที่ทำมาจากขนสัตว์ และอุปกรณ์ตัดเย็บต่าง ๆ ถึงขนาดที่ว่าพวกมันเป็นอุปกรณ์ระดับช่างตัดผ้ามืออาชีพเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การใช้ผ้าเหล่านี้มาทำเสื้อผ้านั้นจะทำให้เธอถูกเปิดโปงความจริง หญิงสาวเลยไม่คิดที่จะนำมันออกมา ดังนั้นเธอจึงใช้ผ้ามาตัดเป็นชุดชั้นในเท่านั้น

อีกชั้นหนึ่งเป็นชั้นที่มีอาวุธ, ดาบ, หอก, คันธนู, ลูกธนูและหน้าไม้... นอกจากนี้ยังมีอาวุธอีกมากมายที่หูเจียวเจียวไม่สามารถบอกชื่อได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นอาวุธเย็น*

*อาวุธเย็น เป็นอาวุธที่ไม่เกี่ยวข้องกับไฟหรือระเบิด

ขณะที่จิ้งจอกสาวนึกถึงอันตรายในปัจจุบัน เธอรู้สึกว่าเธอยังต้องการอาวุธทั้งหมดนี้ อย่างน้อยที่สุดมันก็ช่วยชีวิตเธอในช่วงเวลาวิกฤตได้ หากมีอาวุธร้อนอยู่บนชั้นวาง เธอคงไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไร...

พอหูเจียวเจียวสวมกางเกงในที่ทำขึ้นใหม่แล้ว เธอก็หยิบของบนชั้นวางมาบางส่วน จากนั้นเธอเดินไปที่ชั้นวางอาหารเพื่อหยิบมันฝรั่ง ผัก และเครื่องปรุง

ทันทีที่เธอออกมาจากมิติ เธอก็เดินออกจากบ้านไปเพื่อเริ่มทำอาหารเย็น

ตามปกติแล้วภูตจะกินอาหารวันละ 2 มื้อ บางคนถึงขั้นกินแค่วันละมื้อด้วยซ้ำ หูเจียวเจียวเองก็เคยชินกับร่างกายของเจ้าของเดิม เธอจึงเพิ่งรู้สึกหิวทั้ง ๆ ที่กินข้าวไปตั้งแต่เช้า

ยามนี้หญิงสาวหั่นเนื้อส่วนหน้าอกของวัวชิ้นใหญ่และนำขากวางออกมา 3 ขา เธอกำลังจะทำเนื้อตุ๋นกับมันฝรั่ง ขากวางย่าง และหุงข้าวขาวหอมกรุ่น 1 หม้อ

เมื่อหูเจียวเจียวเตรียมผักและจุดไฟอย่างช่ำชอง เธอก็ยกหม้อขึ้นตั้งบนเตา พอเติมเนื้อลงในหม้อต้มน้ำแล้ว เธอก็ใช้ประโยชน์จากเวลาว่างในการทำเนื้อรมควันอีกอย่าง

เธอวางเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ได้กินเมื่อวานไว้บนตะแกรง ก่อนจะยัดไม้ชื้น ๆ ไว้ใต้ตะแกรง

ไม่นานหลังจากที่จิ้งจอกสาวจุดไฟ ควันสีขาวก็ลอยขึ้นห่อหุ้มเนื้อชิ้นใหญ่

เมื่อเนื้อส่งกลิ่นหอมโชยมา ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดลง

ระหว่างที่เด็กทั้ง 4 คนกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน พวกเขาเห็นเพียงควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากลานบ้าน

ทันใดนั้นทุกคนก็นึกถึงบ้านของสงฮวาที่เพิ่งถูกไฟไหม้ แล้วใบหน้าของเด็ก ๆ ก็ซีดเซียวก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่บ้านให้เร็วที่สุด

“ท่านแม่! ท่านอยู่ไหน!” หลงหลิงเอ๋อร้องเรียกแม่พร้อมกับมองหาร่างของอีกคน

“น้องสาม ไปเอาน้ำจากถังหินมาดับไฟเร็ว!” หลงอวี้รีบพูดกับหลงจง

ส่วนหลงเหยาซึ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลังบินตามพี่ชายทั้ง 2 เข้ามา

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เด็กทั้ง 4 คนจะเข้าไปในลานบ้าน หูเจียวเจียวก็เดินออกมาพร้อมกับยกมือปิดปากตัวเองข้างหนึ่ง และอีกมือหนึ่งก็บีบจมูกพลางมองดูพวกเขาด้วยความประหลาดใจ

"อะแฮ่ม... ทำอะไรกันน่ะ?"

คำถามนั้นทำให้เหล่าเด็กน้อยตกตะลึง

หลงจงกัดฟันและชี้ไปที่หูเจียวเจียวอย่างโกรธเกรี้ยว "นังผู้หญิงสารเลว ข้าคิดไว้แล้วว่าเจ้ามีเจตนาไม่ดี เจ้าจะเผาพี่รองให้ตายอยู่ในบ้านระหว่างที่เราไม่อยู่!”

ทันทีที่เด็กหนุ่มพูดจบ หลงเหยาก็รีบพุ่งเข้าไปกัดนิ้วของเขาที่กำลังชี้ใส่แม่จิ้งจอก

"โอ๊ย!"

หลงจงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“พี่สาม ท่านเป็นอะไรไหม เสี่ยวเหยา ปล่อยนะ! นี่พี่สามไง เจ้าจะกัดพี่สามทำไม!” หลงหลิงเอ๋อพุ่งไปดึงเจ้ามังกรตัวน้อยออกมา

แม้ว่าหลงเหยาจะถูกกักไว้ในอ้อมแขนของเด็กสาว แต่เขาก็ยังคงมีสีหน้าดุร้ายพลางกัดฟันราวกับว่าเขาต้องการจะพุ่งเข้าไปกัดหลงจงได้ทุกเมื่อ

“น้องห้า!” หลงอวี้ขมวดคิ้วมองไปที่น้องชายคนเล็กด้วยความโกรธ

ในอดีต เสี่ยวเหยาเป็นคนที่เชื่อฟังและประพฤติตัวดีมากที่สุด แต่วันนี้เขากัดพี่สามของตัวเองเพราะหูเจียวเจียว ผู้หญิงใจมารคนนี้แอบวางยาเสน่ห์ให้เขาหรือเปล่า?

ทางด้านผู้เป็นแม่ตกตะลึงและรีบไปตรวจสอบบาดแผลที่มือของหลงจง

“ขอแม่ดูหน่อย มือเจ้าเป็นแผลไหม?”

หลงเหยาเองก็เป็นภูต เขี้ยวของเขาจึงคมมาก หากเป็นแผลร้ายแรงล่ะก็ เด็กหนุ่มจะติดเชื้อและอาจเป็นโรคพิษสุนัขบ้า

ตอนที่เธออ่านนิยาย เธอจำได้ว่ามีภูตในเผ่าที่กัดกันและตายด้วยโรคพิษสุนัขบ้า

พอหญิงสาวสำรวจบาดแผลของลูกชายคนที่ 3 ก็พบว่ามือของเขานั้นบางจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แล้วผิวหนังก็เหี่ยวย่นราวกับลำต้นของต้นไม้ที่ตายแล้ว

ตอนนี้มีรอยฟัน 2 แถวอยู่ที่นิ้วชี้ของเด็กหนุ่ม ซึ่งเป็นรอยแผลลึกที่มีเลือดไหลซึมออกมา

หูเจียวเจียวขมวดคิ้วแน่น หลงเหยาเป็นมังกรตัวเล็ก แต่ฟันของเขาแหลมคมมาก เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจกัดพี่ชายตัวเองอย่างแรง

“แผลเลือดออกด้วย แม่จะช่วยล้างแผลและทายาให้เจ้า”

เธอตั้งใจจะจับมือของหลงจงไปล้างน้ำ แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดมือออก

"เจ้าไม่ต้องมาเสแสร้งทำเป็นใจดี หากเจ้าไม่ได้วางยาเสน่ห์ใส่เสี่ยวเหยา จู่ ๆ เขาจะมากัดข้าได้ยังไง เจ้าต้องวางยาเสี่ยวเหยาแน่ ๆ นังผู้หญิงชั่ว อย่ามาแตะต้องตัวข้า!"

หลงจงผู้มีแผลเป็นบนใบหน้าสลัดมือของหูเจียวเจียวแล้ววิ่งไปหลบอยู่ข้างหลงอวี้

ดวงตาสีเข้มคู่นั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง นัยน์ตาที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งจ้องเขม็งเหมือนอยากจะฉีกนางจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ให้เป็นชิ้น ๆ!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด