ตอนที่แล้วตอนที่ 1338 ทูตซ้ายจื้อไจ้เทียน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1340 แกนสมดุลโลกผู้ปกป้องเทพบรรพต

ตอนที่ 1339 ประตูเทพเปิด


แสงฉายกระจายไปทั่ว

จุดลานต้อนรับไม่เหลือให้เห็นอีกต่อไปเหลือแต่เพียงโลกที่ว่างเปล่า

ในโลกที่ว่างเปล่านี้ไม่มีแสงไม่มีชีวิต ไม่ว่าอะไรล้วนถูกทำลายหมดยกเว้นจื้อไจ้เทียนที่อยู่ตรงกลางไม่มีอะไรเหลืออยู่อีกต่อไป

ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดในโลกไร้แสง มีความคิดผุดขึ้นมาเหมือนกับฝัน “จื้อไจ้เทียนเขาถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ากำจัดหรือไม่?”

บุรษวัยกลางคนจื้อไจ้เทียนยืนคิดเงียบๆ

ไม่มีคำตอบ

มีอีกความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ“นี่คือพลังของอัจฉริยะแท้จริงของโลกหรือ? อ่อนแอเกินไป!  อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์เช่นนี้ไม่น่าประหลาดใจที่สำคัญเขายังเด็กเกินไป! เดิมทีข้ายังมีความคาดหวังบางอย่างอยู่บ้างเมื่อตอนที่เขาต่อสู้กับจางเฮิ่นแต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขาไม่สามารถต้านรับพลังโจมตีของเจ้าจื้อไจ้เทียนได้แม้แต่ท่าเดียวหอทงเทียนตกต่ำมากเสียเหลือเกิน เย่ว์ไตตันโดดเด่นมากที่สุดแล้ว แต่ก็ยังน่าผิดหวังมากอยู่ดี..”

“เย่ว์ไตตันแม้ว่าร่างจะถูกแสงศักดิ์สิทธิ์กำจัดไปแต่ข้ารู้สึกว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่โค่นล้มได้ง่าย  บางทีอาจเป็นภาพลวงตาของข้า!”  เทียนฉวงถอนหายใจเล็กน้อย

“ฮ่าฮ่า!  ฮวนเล่อเทียนเจ้ามักจะมองโลกในแง่ร้ายอยู่เรื่อย!  คนก็ถูกทำลายลงไปแล้วเจ้ายังกังวลมากอยู่อีกความจริง เจ้าต้องไม่ลืมนะว่าท่านเจ้าตำหนักสูงสุดเจ้านายเราตั้งใจตั้งชื่อเจ้าเป็นฮวนเล่อเทียนเพื่อให้เจ้ามองโลกในแง่ดีมาก   วางใจเถอะและมีความสุขกับชีวิตต่อไปเจ้าเป็นเทพที่มีบัลลังก์เทพแล้ว อย่าทำตัวเหมือนเมื่อก่อน มีแต่สตรีที่ไร้ความสามารถและอ่อนแอเท่านั้นจึงจะเป็นเช่นนี้ได้ทั้งวัน  ฮวนเล่อเทียนเจ้ายังบอกว่ายังมีเทพที่ตามเราทั้งคู่ทันอีกด้วยบางครั้งเราก็ควรมีความสุขและเพลิดเพลินกับชีวิตอมตะ!” ความคิดที่สื่อสารทางจิตกระตุ้นสหายด้วยความไม่พอใจ

“ข้าเพิ่งจะรู้สึกเป็นครั้งคราวหวังว่าจะเป็นภาพลวงตา!”  เทียนฉวงเรียกสหายของเขาแต่ฮวนเล่อเทียนก็ยังไม่ผ่อนคลาย

“ไม่,ไม่ใช่ภาพลวงตาแม้แต่น้อย” บุรุษวัยกลางคนจื้อไจ้เทียนพูดออกมาในที่สุด

“ว่าไงนะ?”

กระแสความคิดที่ติดต่ออยู่ในหัวของเขาตกใจ

หลังจากจื้อไจ้เทียนเอ่ยปากเขาไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้แต่ความคิดของเขาเหมือนกับมีแสงผุดวาบขึ้นฉายไปทั่วโลกที่ว่างเปล่าทันที  “เย่ว์ไตตันไม่ตาย นี่เป็นเรื่องแน่นอน  เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ใครก็ฆ่าได้ทันที  อย่าว่าแต่เราเลย ต่อให้เป็นเจ้าตำหนักสูงสุดของเรามาเองก็ยังเป็นไปไม่ได้”

กระแสความคิดอีกสายงงงวย“ข้าเห็นอย่างชัดเจนว่าเขาถูกแสงศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ากำจัดไปแล้วเรื่องนี้ไม่น่าผิดพลาดได้!”

บุรุษวัยกลางคนที่ดูคล้ายจื้อไจ้เทียนพยักหน้า  “แสงศักดิ์สิทธิ์ของข้ากำจัดศัตรูได้แน่นอนแต่นั่นไม่ใช่เย่ว์ไตตัน ข้าคิดว่าน่าจะเป็นเงาเจตจำนงของเขา ไม่น่าจะใช่อสูรศึก!”

ฮวนเล่อเทียนพยักหน้าเห็นด้วย“ตอนนี้ ข้าต้องการทำความเข้าใจ จางเฮิ่นฉุดลากเย่ว์ไตตันลงไปในนรกหนาม  ทำไมเขาสามารถหลบหนีออกมาจากการจองจำกฎสวรรค์ของมหาเทพโบราณได้?เป็นเพราะว่าที่จางเฮิ่นฉุดดึงเข้าไปนั้นไม่ใช่ร่างจริงแต่เป็นร่างเงาของเย่ว์ไตตัน เช่นเดียวกับที่จื้อไจ้เทียนที่ดึงเขาเข้าสู่โลกว่างเปล่าก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกันที่ข้ากังวลไปนั้น ไม่มีอะไรผิดพลาด เย่ว์หยางไตตันตัวจริงตอนนี้ข้าเกรงว่าคงไปสู้กับท่านเจ้าตำหนักสูงสุดแล้วในตอนนี้...”

จื้อไจ้เทียนยังคงเงียบ

เกี่ยวกับปฏิกิริยาทุกอย่างของเย่ว์ไตตันรวมทั้งการตอบโต้ที่บ้าคลั่งเขาได้เตรียมใจไว้แล้ว

อย่างไรก็ตามเขาสามารถหลบไปได้อย่างเงียบๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัวทิ้งไว้แต่เงาที่เหมือนจริงเกินกว่าจะแยกแยะว่าสิ่งใดจริง สิ่งใดเท็จเพื่อให้เกิดความสับสนและโจมตีไม่ถูกการจบลงแบบนี้เป็นเรื่องที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

เป็นไปได้ไหมว่าบุรุษหนุ่มคนนี้คุณชายสามตระกูลเย่ว์จะเป็นอัจฉริยะที่ดีที่สุดของหอทงเทียนทั้งยังยอดเยี่ยมกว่านางพญาเฟ่ยเหวินหลีและจักรพรรดิอวี้จ้านฟง!

เทียนฉวงยังคงเงียบจากนั้นจู่ๆ เขาก็หัวเราะขึ้น “ฮ่าฮ่าฮ่า ฮวนเล่อเทียน, จื้อไจ้เทียน พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลใจเกินไปเจ้าตำหนักสูงสุดนายเราไม่ใช่มีพวกเราแค่สามคน แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้รับสถานะบัลลังก์เทพเหมือนกับเราแต่ในอีกมุมมองหนึ่ง พลังรบของพวกเขาไม่ด้อยไปกว่าเรา ซ้ำยังอาจจะแข็งแกร่งมากกว่าตอนที่เราลงมือทำก็ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่ แต่ถ้าเย่ว์ไตตันไปพบกับพวกเขา อาจใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ก็จะถูกพวกเขาจับฉีกเป็นชิ้นและกลืนลงท้อง!”

“ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”  จื้อไจ้เทียนพยักหน้าอีกครั้ง  “ตงฟางพูดถูก นี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ใครจะดูแคลนได้จนถึงบัดนี้ข้าค่อยเข้าใจคำพูดของตงฟางได้อย่างเต็มที่”

“ยิ่งคู่ต่อสู้น่าสนใจมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุกมากขึ้นเท่านั้นไม่ใช่หรือ?” เทียนฉวงไม่ได้รู้สึกกดดัน แต่เขายิ่งมีความกระตือรือร้นมากขึ้น

“แน่นอนในช่วงชีวิตที่ยาวนานนับปีไม่ถ้วน ข้าต้องการคู่ต่อสู้เช่นนี้มาช่วยในการปรับตัวเองวันเวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำ ช่างน่าเบื่อเหลือเกิน ข้าตั้งตารอคอยให้สงครามระหว่างหอทงเทียนและภูเขากวงหมิงจบ”  จื้อไจ้เทียนมีดวงตาเป็นประกายร่างของเขาเปล่งรัศมีแห่งความปรารถนานับพันๆ สาย

“ข้ายังคงลงมือได้ไหม?เย่ว์ไตตันอยู่ที่นี่ ข้าได้ยินตงฟางพูดว่าเย่ว์ไตตันมีคู่หมั้นที่มีสติปัญญายอดเยี่ยมวางแผนอยู่เบื้องหลังเขาทุกอย่างนางมักเป็นมือขวามือซ้ายให้เขาเสมอ ข้าอยากเห็นสาวน้อยผู้นี้จริงๆ”  เทียนฉวงก็เริ่มสนใจเช่นกัน

“กี่ปีแล้วที่เราไม่ได้ถูกส่งออกไปพร้อมกันข้าคิดถึงช่วงเวลานั้นจริงๆ” เทียนฉวงตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามเย่ว์ไตตันที่พวกเขาพูดถึงไม่อยู่ในจุดต้อนรับ

ไม่ได้อยู่แม้แต่ในภูเขากวงหมิง

มีเงาร่างสูงๆต่ำๆ พยายามค้นหาในพื้นที่ใกล้เคียง แต่ไม่มีร่องรอยเย่ว์หยางให้พบเจอแม้แต่น้อย

เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยเหมือนควันถ้าไม่ใช่เพราะเจตจำนงของจื้อไจ้เทียนที่ส่งผ่านออกมาจากโลกว่างเปล่าต้องบอกว่าคุณชายสามตระกูลเย่ว์สามารถหลบหนีสำเร็จจากนั้นเงาร่างไม่กี่ร่างพยายามค้นหา พวกเขาสงสัยเหมือนกันว่าเย่ว์ไตตันจะถูกจื้อไจ้เทียนฆ่าได้ในไม่กี่นาทีในโลกที่ว่างเปล่าไม่มีทางหลบหนี

เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?

คุณชายสามตระกูลเย่ว์ฆ่าได้ยากจริงๆหรือ?

เขา

หนีไปอยู่ที่ไหน?

หอทงเทียนบันไดสวรรค์ชั้นที่สิบ ในมิติที่แตกทำลายจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อกำลังเปิดช่องทางลับด้วยพลังเทพไร้เทียมทาน

ขณะที่เขาเดินเข้าไปคนเดียวในช่องว่างคล้ายกระแสวังวนของหลุมดำเขามีร่างเทพสีทองขนาดใหญ่หมื่นเมตรเดินเข้าไปตามลำพังพฤติกรรมเช่นนี้ดูเหมือนจะเคยเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายพันปีราวกับว่าเขาไม่มีสหายร่วมทาง

ไม่รู้ว่าเขาเดินทางไปไกลแค่ไหนไม่รู้ว่าต้องผ่านห้วงมิติเวลามากเท่าใด

ในที่สุดเขาชะลอฝีเท้าลง

ที่อยู่ต่อหน้าเขา

เป็นประตูยักษ์บานหนึ่งเป็นสิ่งที่มีมาแต่โบราณกาลมีความสูงถึงสามแสนเมตร กว้างสองแสนเมตร  ประตูยักษ์ข้างหน้านี้มีแต่เทพเท่านั้นที่ผ่านเข้าไปได้ถึงแม้จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อจะมีความสูงหมื่นเมตร ก็ยังดูเล็กไปถนัดตา

เขาแสดงความเคารพประตูยักษ์ข้างหน้าอย่างมีมารยาท

ภายในประตูยักษ์ดูเหมือนมีความรู้สึกที่ถอนหายใจและเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มหาเทพโบราณผู้ยิ่งใหญ่ชีวิตที่ไร้ที่สิ้นสุดแห่งหอทงเทียน ข้ามาตามนัดหมายแล้ว ขอมหาเทพโปรดเมตตาเปิดประตูเทพรับข้า”  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อสูดหายใจลึก

ประตูเทพขนาดใหญ่โตมีอักขระรูนโบราณอยู่บนประตูผลักดันผังภูมิรูนโบราณให้ทำงานรัศมีเทพฉายไปทั่วประตู ค่อยๆ มีรอยเปิดออก

แค่เพียงร่องเล็กๆก็เพียงพอให้จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแทรกตัวเข้าไป

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแทรกตัวเข้าไป

เขาก้าวเท้ายาว

เดินลงไปทีละก้าว

ด้านนอกประตูยักษ์เป็นทางผ่านที่มีหลุมดำที่สามารถกลืนกินทุกอย่างได้ตลอดเวลา  แต่ภายในประตูยักษ์นั้นเป็นโลกที่มีสีสันงดงามอย่างหาที่เปรียบมิได้

ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดูแย่เลยดูงดงามไปหมด และแม้แต่อากาศที่นี่ดีกว่าสดชื่นกว่าแดนสวรรค์ร้อยเท่า  ที่นี่เป็นทะเลดอกไม้และมีดอกไม้แปลกๆและวัชพืชที่หายากในแดนสวรรค์นับไม่ถ้วนเติบอยู่ทั่วไปในที่นี่ ไม่มีอสูรร้ายมีแต่วิญญาณและอสูรที่ต้องการอยู่อย่างมีความสุขและอิสระ

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่หยุดยังคงก้าวไปข้างหน้าต่อไปทีละก้าวๆ เป้าหมายของเขาคือภูเขาที่อยู่ไกลๆ

เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสูงอย่างน้อยหนึ่งล้านเมตรซึ่งเป็นความสูงที่ทะลุเมฆขึ้นไปบนฟ้ามากมาย

พร้อมกับฝีเท้าของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อจู่ๆ ก็มีฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้ามีเสียงร้องไห้และเสียงร้องอย่างมีความสุขดังผ่านมาจากยอดเมฆขาว  “จิ๋วซื่อ เจ้าไม่ควรมาเจ้าควรจะเข้าใจว่าเรื่องบางอย่างไม่สามารถบังคับกันได้ เจ้าไม่ควรมาเลยจริงๆ!”

“ข้ารู้ทุกอย่างและเข้าใจทุกอย่าง” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อจู่ๆก็ยิ้มพร้อมกับยื่นมือออกไปรับสายฝนที่โปรยปราย

“อย่างนั้นเจ้ามาที่นี่ทำไม!” เสียงนั้นดูเหมือนจะบ่นมากกว่าดีใจ

“ข้าเบื่อกับการอยู่ในเจดีย์ดำแค่มาหาสหายคุยด้วย แค่นั้นเอง” เสียงของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อนุ่มนวล เช่นกับสายลมแสงแดดอ่อนและแสงจันทรา ดวงตาของเขาอ่อนโยนเป็นประกายเพราะรอยยิ้ม

“อย่าโกหก,เลือดท่วมตัวเจ้าขนาดนี้ ต้องการต่อสู้ที่กราดเกรี้ยวรุนแรงเจ้าจะเบื่อแบบนี้ได้อย่างไร... ข้าไม่ต้องการเจ้าที่นี่ ไม่สำคัญหรอกเจ้าก็รู้ว่าข้าคุ้นชินมาหลายปีแล้ว แต่ข้างนอกพอไม่มีเจ้าข้าไม่รู้ว่าความวุ่นวายเป็นอย่าง  กลับไปเสียเถอะจิ๋วซื่อเจ้าไม่ต้องมาที่นี่อีก เจ้าควรจะอยู่ในเจดีย์ดำ และไม่ควรมาคุยกับข้าที่นี่อีก!”เสียงจากเมฆด้านบนเบาลงและนุ่มนวลและกลายเป็นลมอ่อนโยนไล้ผ่านร่างของจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อทำให้บาดแผลและเลือดที่ตัวเขาหายไป

“ถ้าข้าไม่อยู่ข้างนอกก็ไม่มีปัญหาอะไร  ข้าถูกขังอยู่ในเจดีย์ดำมานานหลายปีแล้ว  หอทงเทียนยังคงเหมือนเดิมไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเจ้าเป็นสหายเพียงคนเดียวของข้า ข้าไม่มา ใครจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า!” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อมองดูท้องฟ้า ดวงตาที่สว่างเหมือนดวงจันทราเหมือนกับจะมองทะลุเมฆไปข้างบน

“โง่จริงๆข้ากลายเป็นแบบนี้ ข้าชินแล้ว โปรดอย่ามองข้าเหมือนเป็นเด็กโง่ในตอนนั้นอีก”  เสียงที่ดังมาจากเมฆขาวปนเสียงหัวเราะไพเราะและนุ่มนวลอ่อนโยนยิ่งกว่าสายรุ้งโค้งบนภูเขา

“ข้ายังเป็นเหมือนอดีตในตอนนั้นเจ้าก็รู้” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อยิ้ม แต่รอยยิ้มของเขาสุดฝืนอย่างอธิบายไม่ได้

“ไม่ต้องกังวลไม่ว่าข้าจะหลับไปนานเพียงไหน ข้าก็ยังไม่ลืมเจ้า” เสียงที่ดังมาจากยอดเมฆเหมือนกับว่าไม่เต็มใจจะพูดคุยหัวข้อนี้นักและเปลี่ยนเป็นสอบถาม “ข้างนอกไม่เป็นไรจริงๆ หรือ?  จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อทำให้คนอื่นโจมตีได้อย่างคาดไม่ถึง ดูไม่สมเหตุสมผลเสียเลย เรื่องเป็นยังไงจะไม่อธิบายหน่อยหรือ?”

“นี่เป็นแค่เพียงการเข้าใจผิด!” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อโบกมือตามปกติ  “ความจริงมีโคถึกมาท้าสู้ข้าถึงหน้าประตูบ้าน”

“ข้าหวังว่าความจริงจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด!”  เสียงจากบนเมฆถอนหายใจทันที

“ข้าไม่ได้โกหกเจ้า  เจ้าก็รู้ว่านั่นเป็นเรื่องจริง” จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อไม่ต้องการปกปิดความจริง  เพราะคนที่อยู่ในม่านเมฆปฏิบัติต่อเขาด้วยความจริงใจอย่างสมบูรณ์มิฉะนั้นจะยอมรักษารอยแผลและเลือดให้เขา จากนั้นยอมให้เขามาในประตูเทพ เขาไม่ต้องการพูดคุยเรื่องภายนอกมากนักเขาไม่ต้องการให้ผู้นั้นถูกเรื่องภายนอกรบกวน

“ใช่แล้วเจ้าจะไม่โกหกข้า แต่ข้าเชื่อว่าเรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าพูด...” ทันใดนั้นเสียงที่ดังมาจากม่านเมฆขาวดังขึ้นเล็กน้อย  “ทำไมไม่ให้ข้าสอบถามสาวน้อยที่ลอบติดตามเจ้ามาเล่านั่นจะไม่ดีกว่าหรือ? ข้าเคยเห็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นมากมาย แต่ข้าไม่เคยเห็นใครเหมือนเจ้าที่สามารถซ่อนตัวจากหูตาของจิ๋วซื่อติดตามหลังเขาผ่านเข้าประตูเทพมาได้!  สาวน้อยเจ้าชื่ออะไร?ทำไมถึงได้ติดตามจิ๋วซื่อเข้ามาในนี้? เจ้าเป็นคนทำร้ายเขาบาดเจ็บใช่ไหม?  ยังอายุเยาว์มาก ตลอดหมื่นปีที่ผ่านมา  มีแต่จักรพรรดิอวี้จ้านฟงที่โดดเด่นไม่ใช่หรือ?ยังมีผู้เยาว์โดดเด่นอย่างเจ้าขึ้นมาได้อย่างไร?”

จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อได้ยินเช่นนั้นเขาหันไปพบเห็นเงาโปร่งแสงเหมือนดวงดาว

ลอยตัวอยู่เหนือทะเลดอกไม้เงียบๆ

ถอนหายใจเบาๆ

เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติดูราวกับว่านางอาศัยอยู่ที่นี่อย่างกลมกลืนมาเป็นเวลาหมื่นปี แสนปีแล้ว

****** ***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด