ตอนที่แล้วบทที่ 10: ฆ่านางเสียตอนนี้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12: ท่านไม่ใช่นาง

บทที่ 11: อย่าขายหลิงเอ๋อให้กับภูตเร่ร่อน!


ปัจจุบันหลงเหยาเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าหูเจียวเจียวตื่นขึ้นมาแล้ว

เจ้าตัวเล็กยังคงมานะเลียแผลให้แม่ต่อไป

เมื่อหญิงสาวมองไปที่มังกรตัวน้อย เธอก็รู้สึกอุ่นวาบไปทั้งใจ ปรากฏว่าหลงเหยาที่อายุน้อยที่สุดรู้จักดูแลคนอื่นเป็นด้วย

ทว่าในหัวของหลงเหยานั้น…

ซู้ด~ แผล่บ ๆ! เลือดรสชาติเหมือนเนื้อ อร่อยจัง~

ในเวลาเดียวกัน หูเจียวเจียวยกมือขึ้นแตะหัวเล็ก ๆ ของลูกชายคนสุดท้องด้วยความโล่งใจ

โชคดีที่ภูตมีร่างกายแข็งแกร่ง แม้ว่าเธอจะมีอาการบาดเจ็บ แต่มันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตมากนัก พอได้รู้ว่าในมิติไม่มียารักษาเลย เธอก็ถึงกับไปไม่เป็น และหญิงสาวไม่รู้จักสมุนไพรท้องถิ่นด้วย เธอจึงทำได้แค่รอให้แผลหายไปเอง

เมื่อจิ้งจอกสาวนึกถึงฝันร้ายเมื่อครู่นี้ เธอก็ไม่อยากอยู่รอความตายเฉย ๆ เธอเลยลุกขึ้นจากพื้นแล้วเดินออกไปที่ลานบ้าน

เธอจำได้ว่าตัวเองกำลังทำโจ๊กเนื้อหมูไม่ติดมันไว้ก่อนที่เธอจะหมดสติ เด็ก ๆ น่าจะกินข้าวกันหมดแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องออกมาทำความสะอาดหม้อกับเครื่องใช้ในครัวต่าง ๆ

แต่หลังจากที่หูเจียวเจียวออกมาข้างนอก ภาพตรงหน้ากลับทำให้เธอต้องตะลึง

ปรากฏว่าโจ๊กที่ต้มจนเต็มหม้อไม่พร่องลงเลยสักนิด ด้วยระยะเวลาที่ผ่านไปนาน น้ำในหม้อจึงระเหยออกไปหมดจนเหลือแค่ข้าวเหนียว ๆ ติดหม้อ

พอเธอแงนมองท้องฟ้าก็เห็นว่าดวงอาทิตย์ขึ้นเหนือศีรษะแล้ว

เช้าวันใหม่ผ่านไป ลูก ๆ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยแม้แต่น้อย

เมื่อหญิงสาวหันหน้าไปมองที่ประตู เธอเห็นเด็ก 4 คนยืนอยู่ในห้องพลางมองมาที่ตนด้วยสายตาระแวดระวัง

“ทำไมพวกเจ้าไม่กินข้าวที่แม่ทำให้ล่ะ?” ผู้เป็นแม่เกาหัวแล้วเอ่ยถามเสียงเบา

“ท่านไม่ได้บอกให้พวกเรากิน” หลงอวี้ยังคงมีสีหน้าจริงจัง

พวกเขาจะไม่ยอมทำอะไรที่คิดว่าอีกฝ่ายจะนำไปใช้เป็นเหตุผลในการเฆี่ยนตีพวกเขาได้

คำตอบนั้นทำให้คนที่ได้ยินชะงักไปชั่วขณะ

หูเจียวเจียวเมื่อก่อนแม้แต่การทำอาหารให้ลูกกินยังไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้ง แค่เด็กน้อยไปแตะต้องอาหารของนาง พวกเขาก็ถูกซ้อมปางตายแล้ว ผลที่ตามมาก็คือ ตอนนี้ลูกแต่ละคนไม่กล้าแตะต้องสิ่งของของแม่โดยไม่ได้รับอนุญาตเลย

“ที่ผ่านมาแม่ไม่ดีเอง ต่อจากนี้ไปพวกเจ้ากินข้าวที่แม่ทำได้ทั้งหมดเลยนะ พวกเจ้ากินได้เลยโดยไม่ต้องขออนุญาตจากแม่อีก” หญิงสาวกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ

ทางด้านลูกทั้ง 5 คนเม้มปากไม่พูดอะไรกันสักคำ ขณะที่ในใจของพวกเขายังสับสนว่าควรจะเชื่อคำพูดของผู้เป็นแม่ดีหรือไม่

แม่จิ้งจอกที่เห็นเช่นนั้นก็ถอนหายใจแล้วหันหลังไปเติมน้ำลงในหม้อก่อนจะจุดไฟเพื่ออุ่นโจ๊กใหม่

"เด็ก ๆ มากินข้าวกันเถอะ" พอสิ้นเสียงของเธอ ร่างสีดำก็พุ่งออกจากประตูอย่างรวดเร็ว

หูเจียวเจียวเห็นอะไรแว้บ ๆ ผ่านไปจึงหันไปมองแล้วพบว่ามังกรสีดำมาปรากฏตัวต่อหน้าตนพร้อมกับคาบชามกระเบื้องไว้ในปาก

"เหยาเอ๋อ เจ้าบินได้!" ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

เนื่องจากในนิยายบรรยายเกี่ยวกับรายละเอียดของเหล่าตัวร้ายไว้ไม่มากนัก บวกกับเธอมักจะเห็นว่าหลงเหยาคลานไปมากับพื้นตลอด เธอจึงคิดเสมอว่าลูกชายคนเล็กคนนี้คลานได้อย่างเดียวเท่านั้น!

ในเวลาเดียวกัน เจ้ามังกรน้อยกะพริบตาสีแดงปริบ ๆ ก่อนจะยกปลายหางสีดำชี้ไปที่ชามกระเบื้องสีขาวด้วยท่าทางใจร้อน

ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านี้เขาบินไม่ได้ แต่เขาไม่มีแรงบินเพราะไม่ได้กินข้าวเสียมากกว่า

พอได้กินอิ่มแล้วพละกำลังของเขาก็กลับมาเองตามธรรมชาติ

หูเจียวเจียวมองดูหลงเหยาที่อ้อนวอนขออาหาร ท่าทางของเขาตอนนี้ดูไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ เลยสักนิด เขาน่ารักมากจนนางกลั้นหัวเราะไม่ไหว

“ได้เลย แม่จะตักโจ๊กให้เจ้าเดี๋ยวนี้แหละ!”

ลองจิตนาการดูว่าชามกระเบื้องสีขาวใหญ่กว่าหัวของหลงเหยา แล้วเจ้าตัวก็คาบมันไว้ในปาก ภาพนั้นจะน่าเอ็นดูขนาดไหน

หูเจียวเจียวตักโจ๊กหมูใส่ชามจนเต็มแล้ววางลงบนพื้น จากนั้นมังกรสีดำก็พุ่งเข้าใส่ชามพร้อมกับฝังหัวเล็ก ๆ ของเขาลงในนั้น

เมื่อเด็กคนอื่นในห้องเห็นการกระทำของน้องชายคนสุดท้อง พวกเขาก็พากันเดินออกมาจากบ้าน

หลังจากที่เด็ก ๆ ได้กินอาหารมื้อแรกของวัน ทุกคนต่างก็คิดว่าโจ๊กหมูที่แม่ทำอร่อยมาก ประกอบกับกลิ่นหอมสดชื่นทำให้พวกเขากินหมดชามอย่างรวดเร็ว

พอหลงหลิงเอ๋อกินหมดถ้วยแรก นางก็ถือถ้วยเปล่าพลางจ้องมองโจ๊กในหม้อพร้อมกับเลียริมฝีปากเบา ๆ แต่นางไม่กล้าขอเพิ่มอีก

“ถ้าอยากเติมก็บอกแม่ได้เลย แม่มีให้กินเต็มที่ ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้พวกเจ้าต้องอดตายแน่”

หูเจียวเจียวเติมโจ๊กหมูให้ลูก ๆ ทีละคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน

ขณะนี้นอกจากหลงเหยาแล้ว เด็กอีก 4 คนแสดงสีหน้าซับซ้อนมองแม่จิ้งจอกนิ่ง

ผู้หญิงสารเลวคนนั้นทำตัวแปลกมาก!

นางไม่รู้วิธีการล่าสัตว์ด้วยซ้ำ แล้วนางจะช่วยไม่ให้พวกเขาอดตายได้อย่างไร?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ร่องรอยของความตื่นตระหนกก็ปรากฏขึ้นในแววตาของเหล่าเด็กน้อย

“ท่านกำลังพยายามจะทำอะไรกับพวกเรากันแน่? ถ้ามีแผนการอะไรก็บอกมาตรง ๆ เถอะ อย่าอ้อมค้อม!” หลงจงจ้องไปที่คนเป็นแม่อย่างโกรธเคือง แล้วมือซีดบางก็เอื้อมไปจับชามกระเบื้องไว้แน่น

“ท่านยังอยากขายหลิงเอ๋อให้กับภูตเร่ร่อนอีกหรือ?” หลงอวี้ถามพร้อมกับจ้องนางมารร้ายนิ่ง

เมื่อหลงหลิงเอ๋อได้ยินเช่นนี้ นางก็มองหูเจียวเจียวด้วยสายตาหวาดกลัว

“ท่านแม่ อย่าขายข้าเลย ข้าทำงานได้… ข้าเก็บผลไม้ให้ท่านกินได้ด้วยนะ...” เด็กสาวรีบพูดเพราะนางกลัวว่านี่จะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของตน

"หืม? ขายให้ภูตเร่ร่อน?"

หูเจียวเจียวกำลังงงว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ บรรยากาศยามนี้ถึงแย่ลง

เธอแค่อยากให้ลูกกินเยอะกว่านี้ เธอพูดอะไรผิดไปอีกแล้วหรือ?

ในนิยายเรื่องนี้ เจ้าของร่างเดิมเป็นเพียงตัวประกอบ ผู้เขียนจึงไม่ได้เปลืองหมึกมาบรรยายถึงนางสักเท่าไหร่ ส่งผลให้หญิงสาวไม่รู้ว่าหูเจียวเจียวคนเดิมทำอะไรกับลูกตัวเองไปบ้างก่อนที่เธอจะทะลุมิติมาอยู่ที่นี่

ขณะที่เธอกำลังสงสัย หลงจงผู้มีแผลเป็นครึ่งใบหน้าก็ดูเหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ทันที เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะโยนถ้วยลงกับพื้น

เพล้ง!

“ข้าคิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นกับดัก!”

“อย่ามาใช้อาหารล่อพวกเรานะ ข้าจะไม่กินอาหารของท่านอีก ถ้าท่านกล้าขายหลิงเอ๋อให้กับภูตเร่ร่อน ข้าจะฆ่าท่าน!” ดวงตาแข็งกร้าวที่จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

ในขณะเดียวกัน เด็กคนอื่น ๆ ก็มองหูเจียวเจียวด้วยสายตาดุร้าย ราวกับว่าเธอเพิ่งจะทำอะไรที่ไม่น่าให้อภัยลงไป

นั่นทำให้หัวใจของหญิงสาวกระตุกวูบ เธอรีบอธิบายอย่างร้อนรนว่า "หลิงเอ๋อเป็นลูกของแม่ แม่จะขายนางให้กับภูตเร่ร่อนได้ยังไง!"

"ข้าได้ยินที่ท่านแม่พูดหมดแล้ว ท่านต้องการแลกหลิงเอ๋อกับหนังสัตว์และเนื้อของภูตเร่ร่อน" หลงอวี้ลูกชายคนโตเปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง

หากเด็กหนุ่มไม่ได้แอบติดตามนางไปเมื่อ 2-3 วันก่อน เขากับน้อง ๆ คงถูกหลอกแล้ว

เมื่อหูเจียวเจียวเห็นท่าทางไม่เชื่อของลูก เธอก็อยากจะร้องไห้ ทว่าไม่มีน้ำตาไหลลงมาสักหยด

ยัยคนเก่านี่มันสมควรตายจริง ๆ!

ภูตเร่ร่อนล้วนเป็นพวกนิสัยเสียที่ชอบทรมานและฆ่าผู้หญิง ความจริงแล้วนางต้องการขายลูกสาวให้กับอีกฝ่ายเพื่อแลกหนังสัตว์กับเนื้อเพียงไม่กี่ชิ้น

ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอธิบายอย่างอดทน "อันที่จริง แม่ซ่อนอาหารไว้นานแล้ว เราจะมีเนื้อกินกันไปอีกนานเลย พวกเจ้าไม่ต้องกังวลว่าจะอดตายนะ แล้วแม่ก็ไม่มีทางขายพวกเจ้าเพื่อแลกกับปากท้องของคนที่เหลือด้วย"

เหล่าเด็กน้อยที่ได้ยินเช่นนี้ก็คลายสายตาที่ระแวดระวังลงเล็กน้อย

“จริงหรือ?” พี่ชายคนโตขมวดคิ้วถาม “แล้วทำไมท่านไม่เอามาให้พวกเรากินตั้งแต่ก่อนหน้านี้ล่ะ?”

"ใช่!" หูเจียวเจียวพยักหน้าอย่างจริงจัง "แม่เคยทำตัวโง่เขลาและทำไม่ดีต่อพวกเจ้า แต่ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าแม่คิดผิด แม่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น"

เด็ก ๆ ฉลาดมาก นอกจากนี้เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังความผิดพลาดในอดีตจึงตอบรับไปอย่างนั้น

แน่นอนว่าพอลูกทั้ง 5 ได้ยินคำพูดของเธอ สีหน้าของพวกเขากลับมึนงงเล็กน้อย

นางยอมรับผิด?

งั้นต่อจากนี้ไปนางจะทำดีกับพวกเรามากขึ้น…ใช่ไหม?

เมื่อหญิงสาวเห็นว่าในที่สุดเหล่าเด็กน้อยก็ไม่สงสัยอะไรอีก เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องยากมากจริง ๆ

"เอาเถอะ มากินข้าวกันต่อเร็วเข้า เดี๋ยวข้าวเย็นแล้วจะกินไม่อร่อยเอา" หูเจียวเจียวเผยรอยยิ้มอ่อนโยนพลางยื่นโจ๊กหมูให้หลงจงอีกชามหนึ่ง

จากนั้นเธอพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า "ของพวกนี้ท่านยายกับท่านลุงก็ส่งมาให้ ถ้าทำตกอีก ของดี ๆ จะเสียเปล่านะ"

หลังจากที่จิ้งจอกสาวพูดจบ ไม่ว่าเด็กพวกนี้จะมีสีหน้าอย่างไร เธอก็ก้มลงไปเก็บกวาดโจ๊กที่หกลงบนพื้น

ขณะนั้นน้อง ๆ ที่อายุน้อยกว่ามองไปที่พี่ใหญ่ พอเขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต พวกเขาจึงกินโจ๊กต่อไปอย่างเงียบ ๆ

มีเพียงหลงเซียวเท่านั้นที่ถือชามกระเบื้องสีขาวพลางใช้นิ้วมือลูบมันเบา ๆ เพื่อสัมผัสสิ่งของแปลกประหลาดที่อยู่ปลายนิ้ว

ในเวลาเดียวกัน สีหน้าของเด็กหนุ่มนั้นซับซ้อนและกำลังไตร่ตรองอะไรบางอย่าง...

--------------------------------------------------

พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: หลงเหยาทำเราช็อตฟีลมากนะ นึกว่าช่วยแม่เลียแผล ที่ไหนได้ น้องอร่อย 5555555

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด