ตอนที่แล้วตอนที่ 37: สงครามการประมูล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 39: ระดับสตาร์เบสขั้นกลาง!

ตอนที่ 38: ปรุงน้ำยา


ตอนที่ 38: ปรุงน้ำยา

ชุดวินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์เป็นชุดต่อสู้สีดำสนิทที่มีการออกแบบอย่างปราดเปรียว ในขณะเดียวกันตัวชุดก็สามารถดูดซับแสงได้อย่างดีทำให้ไม่มีแสงสะท้อนออกไปจากตัวชุดเลยแม้แต่น้อย

เมื่อเซี่ยเฟยได้สวมใส่ชุดต่อสู้ชุดนี้เข้าไปตัวชุดก็รัดแน่นไปทั่วทั้งร่างกายจนทำให้เขารู้สึกเหมือนกับหายใจไม่ค่อยออก

“มันฟิตเกินไปไหมเนี่ย” เซี่ยเฟยกล่าวขณะมองดูตัวเองในกระจก

“ฮ่า ๆ ๆ ชุดที่ดีมันก็ควรจะรัดแน่นแบบนั้นแหละ มันจะทำให้กล้ามเนื้อของนายรัดเกร็งอยู่เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงแรงต้านที่ไม่จำเป็นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับแรงต้านอากาศ หลังจากที่นายได้ใส่มันไปสักพักนายก็จะชินกับมันเอง นี่ยังดีว่าชุดวินด์ชาโดว์เป็นเพียงแค่ชุดต่อสู้ระดับสตาร์ริเวอร์ เพราะถ้าหากว่ามันเป็นชุดต่อสู้ระดับลีเจนด์จริง ๆ ฉันก็คิดว่านายคงจะไม่สามารถใส่มันเข้าไปได้ด้วยซ้ำ” อันธกล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ

“มันต้องถึงขนาดนั้นเลยหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยายามขยับร่างกายและถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่ค่อยสบายใจแต่การเคลื่อนไหวของเขาก็ดูคล่องแคล่วมากกว่าเมื่อก่อน

ในความเป็นจริงมันเป็นเพราะเขายังไม่ค่อยคุ้นเคยกับชุดวินด์ชาโดว์มากนักมันจึงทำให้การเคลื่อนไหวของเขายังคงดูติด ๆ ขัด ๆ อยู่เล็กน้อย

“นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงให้นายซื้อชุดนี้มา” อันธกล่าวถาม

“ไม่รู้” เซี่ยเฟยยอมรับ

“ยิ่งระดับของชุดต่อสู้สูงเท่าไหร่วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตก็จะยิ่งมีคุณภาพสูงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ในขณะเดียวกันวัตถุดิบคุณภาพสูงก็จะสร้างแรงกดดันต่อร่างกายมากมันจึงไม่ใช่สิ่งที่ใครอยากจะสวมใส่ชุดต่อสู้ชุดไหนก็สวมใส่ได้ ไม่อย่างนั้นการสวมใส่ชุดต่อสู้มันก็จะกลายเป็นผลเสียมากกว่าผลดี”

“ด้วยสมรรถภาพร่างกายในปัจจุบันของนาย นายยังไม่สามารถที่จะสวมใส่ชุดต่อสู้ระดับลีเจนด์ได้ ซึ่งถ้าหากว่านายพยายามที่จะสวมใส่มันเข้าไปมันก็ไม่เพียงแต่จะทำให้ความเร็วของนายลดลงเท่านั้นแต่มันจะทำให้ความคล่องแคล่วของนายลดลงไปด้วย”

“อย่างไรก็ตามชุดวินด์ชาโดว์มาร์คโฟร์รุ่นลิมิเต็ดชุดนี้ก็ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับร่างกายของผู้สวมใส่มากนัก มันจึงกลายเป็นชุดต่อสู้ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของนายในปัจจุบันมากที่สุด”

ในระหว่างที่อันธกำลังอธิบายเซี่ยเฟยก็ทำการหยิบเชสซิ่งไลท์ออกมาพร้อมกับทำการกระตุ้นกลไกของมัน

ชิ้ง!

ในทันใดนั้นดาบสั้นสีน้ำเงินก็ยื่นออกมาจากแขนของเขาอย่างรวดเร็ว!

จากนั้นเซี่ยเฟยก็ทำการตวัดมันไปมาในอากาศอยู่ครู่หนึ่งซึ่งไม่ว่าใบดาบจะฟาดฟันไปที่ใดมันก็จะมีเสียงกรีดร้องของสายลมดังขึ้นมาในบริเวณนั้น

เชสซิ่งไลท์เป็นดาบกลที่ถูกติดตั้งอยู่บนแขนของผู้ใช้มันจึงทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการถืออาวุธชิ้นนี้เอาไว้ภายในมือ ในขณะเดียวกันเนื่องมาจากว่ามันเป็นอาวุธที่ติดตั้งอยู่บนแขนนี่เองมันจึงทำให้ผู้ใช้จำเป็นจะต้องพึ่งพากำลังแขนในการใช้เชสซิ่งไลท์มากกว่าข้อมือ

แน่นอนว่ากำลังแขนของมนุษย์ย่อมสามารถออกแรงได้มากกว่าข้อมือ มันจึงทำให้ไม่เพียงแต่เซี่ยเฟยจะสามารถอุดช่องโหว่ด้านกำลังของดาบสั้นได้เท่านั้นแต่การใช้อาวุธชิ้นนี้ยังทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเขาสามารถผ่าภูเขาแยกมหาสมุทรได้อีกด้วย

ขวับ!

แสงสีฟ้าส่องประกายขณะที่เซี่ยเฟยทำการจู่โจมในแนวนอนก่อนที่แก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะจะถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างราบรื่นมากและมันก็เป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าใบดาบมีความคมมากแค่ไหน

“จิตสังหารที่นายปล่อยออกมาในระหว่างการจู่โจมมันสูงมากเกินไป ดังนั้นการใช้มีดสั้นที่ปราดเปรียวคงจะไม่เข้ากับสไตล์การต่อสู้ของนายเท่าไหร่ ดาบกลเล่มนี้น่าจะเป็นอาวุธที่เหมาะสมกับนายแล้ว” อันธกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เอาล่ะตอนนี้นายก็มีอุปกรณ์ทั้งหมดที่จำเป็นแล้ว เหลือเพียงแค่ความสามารถในการดูดซับน้ำยา เรามารอดูกันว่านายจะสามารถเพิ่มระดับได้ก่อนการประเมินหรือเปล่า”

“ตัวเลขดัชนีอัลฟ่ายังอยู่ที่ 73 อยู่เลย” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วขณะที่ถือเครื่องตรวจวัดสารตกค้างเอาไว้ใกล้ ๆ กับหลอดเลือดบนข้อมือ

“ฉันยังเหลือเวลาอีก 10 วันสินะ” เซี่ยเฟยกล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาโยนเครื่องตรวจออกไปด้านข้างก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในห้องฝึกเพื่อทำการฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง

‘ดัชนีอัลฟ่าเหลืออยู่แค่ 73? อัตราการดูดซับน้ำยาของเซี่ยเฟยแม่งโคตรเร็ว ตอนนี้มันเพิ่งจะผ่านไปเพียงแค่ 2 เดือนเองนะ’

‘การปลดล็อกพื้นที่สมองส่วนที่ 7 อย่างสมบูรณ์มันให้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งมากขนาดนี้เลยหรอ? ทำไมฉันถึงไม่สามารถปลดล็อกพื้นที่ในสมองได้แบบนี้บ้างนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะไม่ได้เป็นนักฆ่าที่แย่มากนัก’ อันธบ่นกับตัวเองภายในใจ

‘ช่างมันเถอะเรื่องนั้นมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ฉันกลับไปศึกษาเรื่องบทกวีต่อดีกว่า’

หลังจากมองฝูงชนด้านล่างผ่านหน้าต่างภายในห้อง อันธก็ถอนหายใจออกมาก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในหินมัวร์

—--

ช่วงเวลาเช้าของวันที่ 29 พฤศจิกายน

เมื่อเซี่ยเฟยลุกขึ้นมาจากเตียงแสงอรุณก็เพิ่งที่จะโผล่พ้นขอบฟ้า โดยในปัจจุบันชายหนุ่มกำลังเดินไปล้างหน้าแปรงฟันซึ่งเขาก็จะใช้น้ำเย็นล้างหน้าเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหนของปีก็ตาม เพราะน้ำเย็นจะช่วยปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากอาการง่วงนอนได้รวดเร็วที่สุด

หลังจากที่เซี่ยเฟยเช็ดหน้าเช็ดตาเรียบร้อยแล้วเขาก็นำเครื่องตรวจสอบสารตกค้างมาใช้งานตามนิสัย ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นมาอย่างฉับพลัน

“อันธ! อันธ!” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น

“มีอะไร?” อันธกล่าวหลังจากโผล่หัวออกมาจากหินมัวร์

“ดูนี่สิ!” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ตัวเลขบนเครื่องตรวจสอบ

“ดัชนีอัลฟ่าเหลืออีกแค่ 9! นี่นายสามารถดูดซับน้ำยาได้จนหมดแล้วอย่างนั้นหรอ!” อันธร้องอุทานขึ้นมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็รีบสวมเสื้อผ้าและเดินตรงไปยังโต๊ะภายในห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเครื่องปรุงยาที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าสีขาว

เมื่อชายหนุ่มได้นำผ้าคลุมสีขาวออกไปจากเครื่องปรุงยา เขาก็ดึงกล่องที่บรรจุส่วนผสมที่เขาได้เตรียมเอาไว้ออกมาจากตู้เซฟพร้อมกับนำพวกมันไปวางเอาไว้บนโต๊ะอย่างเรียบร้อย

ในวันที่ 2 ของการประมูลเซี่ยเฟยได้ใช้เงินไปอีก 260 ล้านสตาร์คอยน์เพื่อทำการซื้อซากุระเงินรัตติกาลและวัตถุดิบอื่น ๆ ตามที่อันธได้ขอมา

อย่างไรก็ตามเนื่องมาจากว่าเขามีเงินไม่เพียงพอเขาจึงจำเป็นที่จะต้องขายหัวใจจักรวาลออกไปอย่างไม่เต็มใจ ซึ่งมันก็ทำให้เขาได้รับเงินกลับมาเป็นจำนวน 230 ล้านสตาร์คอยน์

ตอนนี้ในบัญชีธนาคารของเขาเหลือเงินอยู่เพียงแค่ 3 ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น ซึ่งมันก็ทำให้เขาเกือบที่จะหมดตัวอีกครั้งหนึ่งแล้ว

“จำไว้ว่าพวกเรามีดาราหยดน้ำมายากับซากุระเงินรัตติกาลอยู่เพียงแค่อย่างละชิ้นเท่านั้น นายจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะทำผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว” อันธกล่าวเตือน

"อืม!" เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอยากจริงจัง

อีกสองวันจะเป็นวันประเมินของสมาพันธ์จัสทิสแล้ว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในเวลานี้คือการพยายามเพิ่มระดับความสามารถให้ถึงระดับสตาร์เบสขั้นกลางให้ได้ก่อนการประเมิน

ในบรรดาผู้สมัครทั้งหมด ระดับความสามารถของชายหนุ่มถือได้ว่าอยู่ในระดับเกือบล่างสุดและถึงแม้ว่าเขาจะสามารถเพิ่มพลังขึ้นมาจนถึงระดับสตาร์เบสขั้นกลาง แต่ระดับความสามารถของเขาก็ยังถือว่าอยู่ในระดับล่าง ๆ ของผู้สมัครทั้งหมดอยู่ดี

โชคดีที่ในก่อนหน้านี้เขาได้ทำการจัดซื้ออาวุธอุปกรณ์ที่เหมาะสมเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมันก็จะช่วยให้ความแข็งแกร่งโดยรวมของเขาเหนือกว่าค่าเฉลี่ยของผู้สมัครในการประเมิน

ในเวลาต่อมาเซี่ยเฟยก็ค่อย ๆ ทำการสกัดดาราหยดน้ำมายาและซากุระเงินรัตติกาลก่อนที่เขาจะทำการสกัดวัตถุดิบชนิดอื่น ๆ อีก 6 ชนิด

เมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปอีกประมาณ 20 นาที ตรงหน้าของชายหนุ่มก็ปรากฎขวดแก้วที่มีสีสันแตกต่างกันอยู่ทั้งสิ้นจำนวน 8 ขวด ซึ่งเขาก็ทำการเทสารสกัดเหล่านี้ลงไปในเครื่องปรุงยาตามลำดับก่อนที่มันจะได้กลายเป็นน้ำยาขวดสีขาวกลับมาเพียงแค่ขวดเดียว

เซี่ยเฟยได้ยกขวดน้ำยาสีขาวขวดนี้ขึ้นมาพร้อมกับทำการตรวจสอบอย่างใกล้ชิด โดยน้ำยาสีขาวขวดนี้ดูคล้ายกับนมวัวที่มีความเข้มข้นสูงและปราศจากสิ่งเจือปนใด ๆ

เมื่อเซี่ยเฟยได้สูดกลิ่นมันเข้าไป เขาก็ได้กลิ่นอันสดชื่นลอยขึ้นมาจาง ๆ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ ก่อนที่จะกระดกน้ำยาทั้งหมดเข้าไปรวดเดียว

“แหวะ! รสชาติห่วยแตกชะมัด!!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาอย่างหน้ายู่พร้อมกับขมวดคิ้ว

***************

แหวะ!! ความรู้สึกในการกินยานี่มันน่าแหวะจริง ๆ นะ!!!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด