ตอนที่แล้วNH-ตอนที่ 63 การตัดสินใจของหัวหน้าเผ่าโคโบลด์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปNH-ตอนที่ 65 ได้โปรด...แต่งงาน...

NH-ตอนที่ 64 คิดถึง...


เสียงหวดไม้กวาดดังอย่างแผ่วเบาในบริเวณโดยรอบ ขณะที่เวร่าเก็บใบไม้ที่ร่วงหน้าบ้านของเธอ

เธอทำแบบนี้เกือบทุกวันตั้งแต่ที่ ลุกซ์ จากไป เพราะเธอไม่มีอะไรจะทำ หลังจากกวาดใบไม้มารวมกันเป็นกองแล้ว เธอก็นำพวกมันไปไว้ในส่วนหนึ่งของสวน ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอใช้เป็นวัสดุสำหรับคลุมดินให้กับพืชชนิดอื่น

หลังจากเสร็จสิ้นหน้าที่นี้แล้ว เธอก็กลับเข้าไปในบ้านและตรงไปยังห้องของลุกซ์ เมื่อเธอเข้ามาแล้ว เธอก็ตรวจดูรอบๆ ว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ จากนั้นเธอก็ใช้เวทย์มนตร์เพื่อทำความสะอาดห้องของเขา

สายลมอ่อนได้พัดโชยไปทั่วห้อง โดยทิ้งกลิ่นหอมอันสดชื่นไว้เบื้องหลัง เวร่า ได้ทำความสะอาดห้องของหลานชายทุกวันโดยใช้เวทย์มนตร์ เพื่อให้แน่ใจว่าหลังจาก ลุกซ์ กลับมาแล้ว เขาจะสามารถพักผ่อนได้อย่างสะดวกอย่างสบาย

เธอผงกศีรษะด้วยความพึงพอใจเมื่อใช้เวทย์มนตร์ทำความสะอาดเสร็จ ขณะที่เธอกำลังจะจากไป เธอก็เหลือบมองไปเห็นลูกบอลสีรุ้งที่วางอยู่บนโต๊ะของลุกซ์ ซึ่งเป็นของที่เธอซื้อมาจากพ่อค้าที่เดินผ่านไปมา เมื่อตอน ลุกซ์ อายุ 2 ปี

หลังจากหยิบลูกบอลขึ้นมาดูแล้ว รอยยิ้มแห่งความคิดถึงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าของ เวร่า ขณะที่เธอนึกถึงความยากลำบากของหลานชายของเธอเมื่อตอนเขาอายุ 2 ปี

_____

สองปีหลังจากที่ เวร่า ช่วยลุกซ์ มาจากจระเข้ยักษ์…

“อรุณสวัสดิ์ คุณย่าเวร่า อรุณสวัสดิ์ลุกซ์!”

“พวกคุณสองคนเตรียมออกไปเดินเล่นกันเหมือนเดิมใช่ไหม”

“ดูเหมือนว่า ลุกซ์ จะโตขึ้นอย่า่งรวดเร็ว หลังจากที่คุณรับเลี้ยงเขา อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาจะต้องกลายเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาอย่างแน่นอน”

เวร่า ยิ้มขณะที่เธอพูดคุยกับคนในฐานที่มั่นวิลด์การ์ด ลุกซ์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่พิเศษในฐานที่มั่น นี่ไม่ใช่เพราะเขาเป็นฮาล์ฟเอลฟ์ แต่เขาเป็นหลานชายบุญธรรมของเธอ

ฐานที่มั่นวิลด์การ์ดมีผู้พิทักษ์ทั้งหมด 9 คน ซึ่งพวกเขาคือตัวตนที่ทำให้ฐานที่มั่นยังคงเป็นเจ้าเหนือหัวของดินแดนแห่งนี้ มีหลายครั้งที่นักรบจากทั้งในประเทศและต่างประเทศพยายามรุกรานฐานที่มั่นของพวกเขาเพื่อขยายอาณาเขต

อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานของพวกเขาก็พังทลายหลังจากที่ผู้พิทักษ์ทั้ง 9 คนเหล่านี้เคลื่อนไหว ซึ่ง เวร่า เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์เหล่านี้ ดังนั้นสถานะของเธอในวิลด์การ์ดจึงสูงมาก ในฐานะที่เธอเป็นผู้พิทักษ์การที่เธอรับเลี้ยงหลานบุญธรรมอย่างลุกซ์ มันจึงได้กลายเป็นประเด็นร้อนในหมู่ผู้อยู่อาศัย

ลุกซ์ ที่ถูก เวร่า อุ้มไว้ในอ้อมแขน เขากำลังดูดนิ้วหัวแม่มือของเขาในขณะที่เขามองไปรอบๆ ด้วยความยอากรู้อยากเห็น เมื่อใดก็ตามที่มีใครพยายามจะลูบแก้มของเขา เขาจะร้องไห้ออกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นสาวสวยพยายามที่จะจูบเขา เขาก็ยังร้องไห้ เมื่อมีคนพยายามพูดคุยกับเขา เขาก็จะร้องไห้ออกมาเช่นกัน

สิ่งนี้ทำให้ เวร่า รู้สึกหมดหนทางมาก เพราะหลานชายของเธอไม่ชอบให้ใครมาสัมผัส จูบ หรือพูดคุยกับเขาเลย

เมื่อ เวร่า เข้าใกล้สนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ที่มีเด็กจากฐานที่มั่นมารวมตัวกัน ทารกที่ดูดนิ้วหัวแม่มือในอ้อมแขนของเธอก็จะเงยหน้าขึ้นมองเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยความสนใจ ซึ่ง เวร่า เธอมักจะพาเขามาที่นี่เพื่อดูเด็กเหล่านี้เล่นอยู่เสมอ

แต่วันนี้มันแตกต่างออกไป เพราะ เวร่าพาเขามาที่สนามเด็กเล่นเพื่อที่เขาจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับเด็กวัยเดียวกัน ขณะที่หญิงชราเดินไปทางด้านซ้ายของสนามเด็กเล่น ซึ่งสามารถพบเด็กวัยเตาะแตะกลุ่มหนึ่ง และ มีผู้หญิงหลายคนมารวมตัวกันเพื่อดูแลลูกๆของพวกเธอ พวกเธอเหล่านั้นก็ลุกขึ้นและโค้งคำนับให้เธอสั้นๆ

สิ่งนี้ทำให้ เวร่า โบกมือให้พวกเธอเหล่านั้นทำตัวสบายก่อนที่จะวางลุกซ์ลงกับพื้น

ลุกซ์ อายุได้ 2 ปีแล้ว เขาสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง แต่ส่วนใหญ่แล้ว เขายังคงชอบที่จะคลานสี่ขาเพื่อไปยังสถานที่ที่เขาต้องการ

“ลุกซ์ ไปเล่นกับเด็กคนอื่นๆ นะ” เวร่า กล่าวพูดและพยายามเกลี้ยกล่อมหลานชายของเธอให้ไปเล่นกับคนอื่นๆ

พื้นที่ของเด็กวัยหัดเดินมีเวทย์มนตร์พิเศษป้องกันอยู่ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับเด็กๆ

เวร่า ถอยห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าว เมื่อเห็น ลุกซ์ ตามาข้างหลังเธอ เมื่อหยุด ลุกซ์ ก็จับขาของเธอและหัวเราะออกมา

สิ่งนี้ทำให้ ผู้หญิงที่เฝ้าดูลูกของพวกเธออยู่หัวเราะคิกคัก พวกเธอเคยเห็นลุกซ์หลายครั้งในอดีต เพราะ เวร่า มักจะพาเขาไปด้วยทุกครั้งที่เธอเดินไปรอบๆ ฐานที่มั่นเพื่อลาดตระเวนตามปกติ

การได้เห็น ฮาล์ฟเอลฟ์ตัวน้อยเดินตามคุณย่าไปรอบๆ เหมือนกับลูกเป็ดน้อยที่ทำให้สาวๆหลายคนใจละลาย สิ่งนี้ทำให้พวกเธออดไม่ได้ที่จะคิดว่า เขาค่อนข้างน่ารักเป็นอย่างมาก

“ลุกซ์ หลานไม่อยากจะเล่นกับเด็กคนอื่นๆ เหรอ?” เวร่า กล่าวถาม “ดูสิ พวกเขากำลังเล่นกันอย่างน่าสนุกเชียว”

เวร่า ชี้ไปที่กลุ่มเด็กอายุ 2-4 ปีที่กำลังเล่นลูกบอลหลากสีและกล่องเล็ก ๆ ที่เกลื่อนอยู่เต็มพื้น

ลุกซ์ ชำเลืองมองไปที่จุดที่ เวร่า ชี้ไปและเริ่มดูดนิ้วโป้งอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าโอกาสมาถึง หญิงชราจึงได้จับมือซ้ายของลุกซ์ ที่เกาะขาของเธอออก และ กระโดดขึ้นไปบนยอดไม้ที่ลุกซ์มองไม่เห็นเธอ

เนื่องจาก ลุกซ์ ยังเป็นทารก เขาจึงไม่ทันสังเกตุเห็นว่าคุณย่าของเขาหายไปไหน ทันทีที่เขาหันศีรษะมองไปข้างหลัง เวร่า ก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาอีกต่อไป

ฮาล์ฟเอลฟ์ตัวน้อย ได้หันศีรษะไปรอบๆ ทุกทาง เพื่อพยายามมองหาคุณย่าของเขาจนกระทั่ง 1 นาทีต่อมา ลุกซ์ ก็ยังไม่พบเงาของ เวร่า สิ่งนี้ทำให้เขาเริ่มร้องไห้และเรียกร้องหาคุณย่าของเขา

“มันม่า!”

(A/N : มันม่า คือ มาม่าและคุณย่ารวมกัน)

ฮาล์ฟเอลฟ์ตัวน้อย ได้ส่งสายตาอ้อนวอนออกมา สิ่งนี้ทำให้ พวกผู้หญิงที่เฝ้าดูเขาก่อนหน้านี้ อยากจะเข้าไปกอดและเกลี้ยกล่อมเขาจนกว่าเขาจะหยุดร้องไห้ อย่างไรก็ตาม พวกเธอก็ไม่กล้าขยับเพราะรู้ว่า เวร่า อยู่บนต้นไม้ข้างๆ หลานชายของเธอ และ คอยสังเกตุการเคลื่อนไหวของเขา

“มันม่าาาา! มันม่าา!”

ลุกซ์ ร้องเรียกซ้ำไปซ้ำมาจนหน้าแดง ใครก็ตามที่เห็นเขาตอนนี้ก็คงรู้สึกใจสลายเพราะเขาดูน่าสมเพชมาก

เวร่า ถอนหายใจออกมาเพราะตระหนักว่า ลุกซ์ อาจจะยังไม่พร้อมที่จะเล่นกับเด็กคนอื่นๆ ขณะที่เธอกำลังจะกระโดดลงจากต้นไม้ ลุกซ์ ก็ทรุดตัวลงไปนอนบนพื้นโดยที่ไม่ขยับ

พวกผู้หญิงที่เห็นเหตุการณ์ต่างร้องขึ้นด้วยความตกใจและลุกจากที่นั่ง แต่ในขณะที่พวกเธอกำลังจะไปช่วย ลุกซ์ ก็ปรากฏตัวขึ้นเคียงข้างเขา

หญิงชราได้อุ้มหลานชายขึ้นมาและเช็ดน้ำตารวมถึงน้ำมูกบนใบหน้าก่อนที่จะออกไปเยี่ยมเพื่อนของเธอ ซึ่งเป็นผู้รักษาของฐานที่มั่นวิลด์การ์ด เธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจให้เพื่อนของเธอช่วยวินัจฉัยหลานชายของเธออย่างละเอียดเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา

_____

“เขาไม่ได้เป็นอันตรายอะไรร้ายแรง อย่างน้อยก็ในตอนนี้” นาตาชา นักบวชที่แข็งแกร่งที่สุดในฐานที่มั่นวิลด์การ์ด กล่าวพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ร่างกายของเขาไม่ได้มีอะไรผิดปกติ แต่เธอจำที่ฉันบอกเธอตอนที่เธอพาเขามาหาฉันหลังจากที่เธอกลับมาที่ฐานที่มั่นพร้อมกับเขาได้ไหม?”

เวร่าพยักหน้า “เธอบอกว่าเขาอาจจะโดนพวกเวทย์มนตร์ทำลายวิญญาณใช่หรือไม่? ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาอาจจะมีปัญหาบางอย่างเมื่อเขาโตขึ้น”

“ใช่” นาตาชา ตอบกลับ “ในตอนนั้นเขายังเด็กเกินไป ดังนั้นปัญหาเหล่านี้จึงยังไม่ได้ปรากฏออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทว่าตอนนี้มันกลับแตกต่างออกไป เพราะนี่เป็นผลข้างเคียงจากการที่วิญญาณของเขาได้รับความเสียหาย”

“ถึงแม้ว่ามันจะเร็วเกินไปที่จะบอก แต่ฉันมีความรู้สึกว่าเขาจะหมดสติทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่หนักหน่วง ในกรณีเลวร้ายที่สุด มันคงถูกกระตุ้นเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอารมณ์ที่รุนแรงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น ความสุข โกรธ เศร้า หรือ เสียใจ”

เวร่า มองดูหลานชายของเธอด้วยสีหน้าที่กังวลก่อนที่จะหันกลับมามองเพื่อนของเธอ ซึ่งอยู่ในระหว่างการวินิจฉัย

“มีวิธีรักษาเขาไหม?” เวร่า กล่าวถาม “บอกฉันมาได้เลยว่าเธอต้องการอะไร ฉันจะรีบไปหามาให้”

นาตาชาถอนหายใจออกมาและส่ายหัว “สิ่งนี้เกินกว่าความสามารถของฉัน ฉันพยายามใช้พลังของฉันดูแล้ว และยังเคยให้ยาวิเศษที่แรงมากแก่เขาเมื่อปีที่แล้ว ที่จะช่วยรักษาวิญญาณของเขาเมื่อเวลาผ่านไป แต่มันก็ไม่ได้ผล”

“แล้วต้องทำยังไง?”

“อย่าปล่อยให้เขาเครียดหรือเจอสิ่งต่าง ๆ ที่กังวลมากเกินไป พาเขามาตรวจสุขภาพเป็นประจำ และ คอยสังเกตุอาการของเขาตลอดเวลา ไม่แน่บางทีเราอาจจะมีวิธีแก้ไขปัญหาของเขาได้ก่อนที่เขาจะโตพอที่จะเข้าสู่เอลิเซียม”

หลังออกจากบ้านเพื่อนของเธอ เวร่า ก็อุ้มหลานชายของเธอกลับไปที่พัก เมื่อเธอเดินทางไปได้ครึ่งทาง ลุกซ์ ก็ลืมตาขึ้นและมองไปที่เวร่าอย่างง่วงงุน หลังจากเห็นว่าเป็นคุณย่าที่อยู่ต่อหน้าเขา เขาก็รีบโอบแขนรอบคอของเธอและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่า ฮาล์ฟเอลฟ์ตัวน้อยยังไม่เข้าใจถึงความจริงที่ว่า เวร่าได้หายตัวไปก่อนหน้านี้

“นี่ ย่าอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องร้อง” เวร่า เกลี้ยกล่อมขณะที่เธอตบหลังของเขาเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ย่าจะไม่ทิ้งหลานอีกแล้ว เอาล่ะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”

เวร่า ใช้เวลากว่า 5 นาทีเต็มในการเกลี้ยกล่อม ลุกซ์ ให้หยุดร้องไห้ ในขณะนั้นเอง เธอก็เดินผ่านแผงขายของซึ่งมีสินค้าหลากหลายวางขายอยู่

เพื่อเป็นการขอโทษหลานชายของเธอ เวร่า จึงซื้อลูกบอลสีรุ้งจากพ่อค้าและมอบมันให้กับลุกซ์

ที่น่าแปลกก็คือ ฮาล์ฟเอลฟ์ตัวน้อยชอบของขวัญที่ เวร่า มอบให้และสนุกกับมันมาก มีหลายครั้งที่เขามักจะเป็นลมหลังจากเล่นกับลูกบอลเนื่องจากความตื่นเต้น ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ เวร่าตกใจหลายครั้งเพราะมันกระทันหันเกินไป

_____

“เวลาผ่านไปเร็วขนาดนี้เชียว” เวร่าพึมพำขณะที่เธอวางลูกบอลหลากสีกลับคืนบนโต๊ะด้วยความรัก เธอคิดถึงวันที่ลุกซ์ยังคงเป็นเด็ก และ เธอก็เข้าใจว่าเขาไม่สามารถเป็นเด็กตลอดไปได้

นี่คือเหตุผลที่เธออนุญาติให้ลุกซ์เข้าไปในเอลิเซียมและสอนเทคนิคพิเศษของครอบครัวให้เขา ซึ่งเธอหวังว่ามันจะเพียงพอที่จะทำให้ ลุกซ์ปลอดภัยเมื่อเผชิญหน้ากับอันตราย

ขณะที่เธอกำลังสงสัยว่าจะทำอะไรเป็นอาหารกลางวัน เธอก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนภายในบ้าน

เวร่า ไม่รีรอและวิ่งไปที่ห้องฝึก ตอนที่เธอเปิดประตู ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มผมแดงและมีตาสีเขียว ก็จ้องมองมาที่เธอ

“ผมกลับมาแล้วคุณย่า” ลุกซ์ กล่าวพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมคิดถึงคุณย่ามาก”

หญิงชราเดินเข้าไปหาหลานชายของเธอและกอดเขาแน่น มันเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่ ลุกซ์ เข้าไปในเอลิเซียม ดังนั้นเธอจึงคิดถึงเขามากเช่นกัน

“ยินดีต้อนรับกลับมา ลุกซ์” เวร่า ตอบขณะที่เธอลูบหัวหลานชายเบาๆ เหมือนเช่นเคย “ผมของหลานยาวไปหน่อย ให้ย่าตัดให้ไหม?”

“มันยาวขนาดนั้นเชียว?” ลุกซ์ กล่าวถามขณะที่เขาเกาหัว

“ใช่” เวร่าตอบ “แต่เรื่องนี้เราค่อยว่ากันทีหลัง ว่าแต่หลานกินอะไรแล้วหรือยัง? เที่ยงนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย?”

วันนั้น เวร่าได้ทำอาหารจานโปรดของลุกซ์ทั้งหมด ซึ่ง ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มได้กินมันอย่างเอร็ดอร่อย และ เขาคิดถึงฝีมือการทำอาหารของคุณย่ามาก ในช่วงเวลาอาหาร ลุกซ์ ได้เล่าเรื่องการผจญภัยของเขาในเอลิเซียมให้ เวร่า ฟัง

เวร่ายิ้มขณะที่เธอฟังหลานชายของเธอโม้ เธอพบว่ามันเป็นเรื่องตลก ที่ลุกซ์บอกเธอว่าเขาต่อสู้กับพวกโคโบลด์ในรังด้วยตัวคนเดียว ในฐานะคนที่เคยต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์เหล่านี้ในอดีต เธอจะเชื่อเรื่องที่หลานชายของเธอพูดเกินจริงได้อย่างไร

‘อืม ตราบใดที่เขาปลอดภัยกลับมา นี่ต่างหากที่สำคัญ’ เวร่าคิดขณะที่เธอชม ลุกซ์ สำหรับการแสดงที่น่าทึ่งของเขา

ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากแยกทางกันนานกว่าหนึ่งเดือน ดังนั้น เวร่าจึงไม่มีเจตนาที่จะทำลายอารมณ์ที่ดีของลุกซ์และปล่อยให้เขาคุยโม้เท่าที่เขาต้องการ

ในขณะที่คู่คุณย่าและหลานชายกำลังใช้เวลาดีๆ ร่วมกัน ข่าวที่เกิดขึ้นในรังของโคโบลด์ก็ไปถึงหูบุคคลสำคัญระดับสูงในอาณาจักรกิวลิเว่น

เมื่อถึงเวลาที่ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มกลับไปผจญภัยที่หมู่บ้านลีฟต่อ เขาจะเข้าใจว่าเผ่าดวอร์ฟไม่ใช่เผ่าที่ควรมองข้ามได้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด