ตอนที่แล้วตอนที่ 1295 มีเขา ย่อมมีทุกอย่าง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1297 ภาวนา

ตอนที่ 1296 อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว


ภาพยักษ์ชะตายืนตระหง่านราวกับภูเขาสูงเสียดฟ้า

ไม่ต้องพูดถึงพลังแรงกดดันและกฎสวรรค์ที่ให้มนุษย์ต้องก้มศีรษะให้

เป็นการยากที่จะเงยหน้ามองดู

แม้แต่ความสูงของตัวมันเองก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นร่างตัวเองได้ทั้งหมดทุกคนสามารถใช้การสื่อสารทางจิตได้อย่างน่ากลัวเงียบ ทำให้ภาพมีความสูงถึง 18,000กิโลเมตรครอบคลุมไปทั้งโลก

ภายใต้การชี้นำด้วยความสามารถพิเศษของจักรพรรดิหัวซิ่วรี่สหายและญาติพี่น้องทุกคนผู้ได้ยินเสียงของแม่สี่หรือสหายที่สนับสนุนเย่ว์หยางเข้าร่วมการแบกรับพลังชะตาในขณะนี้ไม่จำเป็นต้องปิดตาของตนเองแล้ว พวกเขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าความสูงของยักษ์ชะตาที่จะหลอมรวมเข้าด้วยกันในไม่ช้า 18,000 กิโลเมตรเป็นพลังสูงสุดเพื่อการเป็นเทพราชันย์.. เย่ว์หยางหรือคุณชายสามตระกูลเย่ว์สามารถแบกความหวังที่สูงลิบนี้ เพื่อฟื้นฟูหอทงเทียนให้กลับสู่ความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหรือ?

แม้แต่เจ้าอ้วนไห่เย่คงและเสวี่ยทันหลางที่สนับสนุนเย่ว์หยางอย่างมากที่สุดแต่ในใจของเขาคิดว่าพวกเขาคือสหายสนิท

นอกจากนี้ยังอดมีข้อสงสัยบ้างไม่ได้

เพราะยักษ์แห่งโชคชะตาที่ความสูง 18,000กิโลเมตรต่อหน้าเขาตกตะลึงจริงๆ ภายใต้การมองเช่นนั้น นั่นคือเทพผู้น่ากลัว เขารู้สึกอ่อนแอและไร้ประโยชน์เหมือนมดเมื่อเปรียบเทียบ

นี่คือพลังควบคุมชะตากรรม!

แม้แต่ชะตาก็สามารถควบคุมได้และสามารถย้อนกลับได้

ดังนั้นพลังเทพจะไม่น่ากลัวได้อย่างไร?  เขาจะไม่สั่นกลัวได้อย่างไร?จะไม่กลัวและกังวลได้อย่างไร?

“บางทีข้าอาจตายแต่ความตายจะไม่สามารถคุกคามข้าได้ ข้าไห่ต้าฟู่ ไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดิน ข้าเป็นพี่ใหญ่ที่ดีที่สุดในโลก และยินดีจะทุ่มเทสละทุกอย่าง  ก่อนนั้นข้ามีความสุขที่ข้าพลาดไป  ก่อนนั้นข้าเคยก่อเรื่องน่าอับอายก่อนนั้นความสามารถไม่ได้เรื่อง ก่อนหน้าที่จะถูกโจมตีนั้นชีวิตของข้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดสมาชิกครอบครัวของข้ามีเป็นจำนวนมากถูกฟันถูกทำร้าย จนถึงทุกวันนี้ความสุขนั้นกำลังจะถูกพรากไปและทำให้ข้าได้ภูมิใจที่ได้ยืนหยัดอยู่ในท่ามกลางกองกำลังของหอทงเทียนทั้งชีวิตได้กอบกู้คืนมาและพัฒนาขึ้นมาเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นความกล้าหาญใดๆ  ทำให้ข้ากลายเป็นที่อิจฉาและมีแม้ความปรารถนาโลกๆ ข้าต้องการยืนหยัดต่อต้านศัตรู ส่งเสียงต่อต้านศัตรูร่วมกับสหายเพื่อพิทักษ์หอทงเทียนข้าคือพี่ใหญ่ที่มีความภาคภูมิใจ  ....เทพโบราณ ถ้าท่านมีอยู่จริง โปรดรับทุกอย่างของข้าไป ข้าต้องการทุ่มเททุกอย่างที่ข้ามีเพื่อแลกกับวันพรุ่งนี้และการบรรลุในอนาคตของเรา  หอทงเทียนจะไม่มีเจ้าอ้วนที่น่าตาย  ข้าอยู่ไม่ได้โดยไม่มีเขา  หากไม่มีเขาเป็นไปไม่ได้ที่จะมีข้าในวันนี้ เอาทุกอย่างที่ข้ามีไปได้ ตราบใดที่ข้าสามารถแบกรับพลังชะตาไว้ได้ชั่วคราว  ข้าขอวิงวอน นี่คือสิ่งที่ข้าผู้เป็นรุ่นพี่สามารถทำได้เพื่อเขา  ในชีวิตข้า ข้าขอทำสิ่งนี้อย่างดีที่สุด”

เจ้าอ้วนไห่พึมพำกับตนเอง

ในสายตาของเขามุ่งมั่นอย่างไม่เคยมีมาก่อนในชีวิต

ร่างของเขาดูเหมือนจะสูงขึ้นทันที  พลังภายในรวมเป็นหนึ่งกับภาพของเขาเหมือนกับภูเขาที่ผุดขึ้นมาจากพื้นโลกตั้งตระหง่าน

แรดเพชร ฮิปโปขาวอสูรที่ทำสัญญาก่อนนั้นพากันออกมาทีละตัวและสนับสนุนเขา

นางนวลสายลมที่ทำสัญญากับเขาไม่รู้ว่าลงมาอยู่บนหัวเจ้าอ้วนไห่ในรูปนกนางนวลตั้งแต่เมื่อใด นางใช้ปากจิกเจ้าอ้วนไห่เบาๆและลงมาบินรอบตัวเขาสามครั้งจากนั้นลงมาอยู่บนพื้นกางปีกเปลี่ยนเป็นร่างวิวัฒนาการใช้มือกดที่หัวใจของเจ้าอ้วนไห่เป็นการสนับสนุนเขา

“บางทีเจ้าอาจถูกบดขยี้เละในวินาทีต่อไปก็ได้รู้หรือไม่?” เจ้าอ้วนไห่หันกลับไปมองนางด้วยความจริงใจ

“ข้าไม่คิดเลยว่าฉลาดๆ อย่างข้าจะมาตายพร้อมกับเจ้าหมูโง่!” นางนวลสายลมถ่มน้ำลายพูดตามตรง

“เจ้าฉลาด แต่ก็เลอะเลือนได้ชั่วขณะ”  เจ้าอ้วนไห่เมื่อได้ยินก็เริ่มหัวเราะอย่างมีความสุข

“น่าเสียดาย! มันสายเกินกว่าจะถอนสัญญาแล้ว...”  นกนางนวลถอนหายใจเบาๆจากนั้นแบ่งพลังและความอดทนที่ยิ่งใหญ่จากโลกวิญญาณผนวกรวมพลังกับเจ้าอ้วนไห่ร่วมแบกรับพลังชะตาที่ครอบงำทุกสิ่ง

“ถ้าชาติหน้ามี ข้าจะปล่อยให้เจ้าตีไม่ว่าจะมีชาติหน้าหรือไม่!” เจ้าอ้วนไห่กัดฟันแน่นแบกรับพลังชะตามหาศาลเขาใกล้จะพังทลายพบกับความตายในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ เสียงของเขาเบามาก นกนางนวลรู้สึกตัวว่าชีวิตกำลังจะถูกทำลายภายใต้พลังเทพชะตาเมื่อใดก็ได้ที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจนทำให้นางแทบหายใจไม่ออก  นางใช้พลังอึดสุดท้ายตะโกนว่า  “เจ้าหมูอ้วน เจ้าเป็นหนี้ชีวิตข้าเป็นหนี้มาสองสามครั้งแล้ว ถ้าเจ้ายังไม่ได้ใช้คืนก็ออกไปจากที่นี่ซะ!”

“.....” เจ้าอ้วนไห่รู้สึกคอแห้ง และตาร้อนผ่าวความในใจเหมือนกับจะหลั่งไหล่ออกมาราวกับน้ำหลาก

เขาหลั่งน้ำตา

โดยไม่รู้ตัว

เขาต้องการหันไปกอดนางและบอกนางว่าเขาเต็มใจเป็นหนี้นางตลอดไป

อย่างไรก็ตามคำพูดทั้งหมดจุกอยู่ที่ลำคอเขาไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้ เขาหลั่งน้ำตาพรั่งพรูราวสายฝน ดื่มด่ำกับความรู้สึกผ่านการเชื่อมโยงทางใจที่ไม่มีทางระบายออกเขามีความสุขในช่วงเวลาขณะนั้น

ทันใดนั้นเจ้าอ้วนไห่ตัวสั่นและกำหมัดแน่น

ความรู้สึกตื้นตันจนหลั่งน้ำตาเปลี่ยนเป็นวิญญาณความปรารถนาต่อสู้ไม่มีที่สิ้นสุดเขาเงยหน้ามองฟ้าและคำรามเหมือนสัตว์ประหลาดยุคโบราณ

ร่างของเขาขยายอย่างรวดเร็ว สองเมตรสามเมตร ห้าเมตร สิบเมตร ยี่สิบเมตร...กล้ามเนื้อในร่างทั้งหมดสีเข้มแข็งราวกับหล่อขึ้นจากทองแดง มีขนปกคลุมร่างเขี้ยวเล็บงอกออกจากปากและนิ้วตาแดงก่ำกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกลียดแบกรับพลังชะตาที่มีแรงกดดันหนักหน่วง  เขาส่งเสียงคำรามและยืดตัวขึ้นทีละนิดมองไปบนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า

แม้ว่าจะมีพลังของเทพชะตากดลงที่แขนของมันซ้ำๆแต่สัตว์ประหลาดนี้กลับทนได้อย่างเหลือเชื่อ

มันยังมีความมุ่งมั่น

“กรรร กรรร!” เสียงคำรามของสัตว์ประหลาดกึกก้องสะท้านโลก ภายใต้แรงกดดันของพลังชะตาพลังเพิ่มขึ้นสูงระดับห้าสิบเมตร และมันยกขึ้นได้ในระดับความสูงที่เท่าร่างของมันลำแสงเทพชะตา

สัตว์ประหลาดน่าเกลียดมีดวงตาสีแดงเลือดน่ากลัวแต่ในทันใดดวงตาของมันพลันอ่อนโยนชั่วขณะ

มันมองกลับมาที่นางนวลสายลมมองอย่างลึกซึ้ง

จากนั้นหันหน้ากลับไปอย่างมุ่งมั่น

หางของมันเสียงดังลั่นฝ่าอากาศหวีดหวิวฟาดใส่ร่างของนางนวลสายลมที่เปราะบางแทบจะทนไม่ได้กระแทกนางออกไปพ้นจากระยะพลังชะตาที่สัตว์ประหลาดน่าเกลียดแบกรับอยู่

“อั้ก!” นางนวลสายลมกระอักโลหิตกระเด็นไปราวกับว่าวขาดลอยร่วงลงในที่ห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตร

“โฮกกกก!”ดวงตาของสัตว์ประหลาดกลับมาแดงกระหายเลือดมันหยิบคัมภีร์อัญเชิญที่ลอยอยู่ด้านล่างขึ้นมาเทินไว้บนศีรษะใช้หัวคอและไหล่แขนดันขึ้นเต็มแรงเส้นเอ็นเส้นเลือดบนร่างสัตว์ปูดโปนน่าเกลียดและเริ่มปริแตกทำลายด้วยความเร็วอย่างเห็นได้ชัดมองเห็นมัดกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้อย่างชัดเจนที่สั่นสะท้านถูกบดขยี้ขณะที่นกนางนวลสายลมส่งเสียงร้องโหยหวน ภายใต้สายตาของเย่คงแลพวกเสวี่ยทันหลางสัตว์ประหลาดน่าเกลียดขยายร่างสูงถึง 60 70เมตรและภายใต้แรงกดดันของพลังชะตาสัตว์ประหลาดน่าเกลียดนี้รับน้ำหนักได้ถึงร้อยเมตร

ร่างทั้งหมดสีแดงฉาน

นี่ไม่ใช่รูปร่างและผิวหนังแต่เป็นการย้อมเลือดลงบนผิวหนังหลังจากเส้นเอ็นเส้นเลือดปริแตกฉีกขาด

เหมือนกับว่ามีน้ำตกสีเลือดไหลออกมาจากสัตว์ประหลาดอัปลักษณ์มันกัดฟันถือคัมภีร์อัญเชิญไว้ในฝ่ามือค้ำพลังชะตาที่มากกว่าร้อยเมตรด้วยความสามารถของตนเอง“ไม่ ไม่นะ” นกนางนวลสายลมกรีดร้องน้ำตาไหลพราก

นางพบว่าสัญญาถูกยกเลิก

เจ้าคนน่ารังเกียจเลือกเดินเส้นทางไปตามลำพังรับแรงกดดันในอากาศทิ้งให้นางไว้ตามลำพังตัวเองกลับท้าทายพลังชะตาอย่างโง่เขลา

ไม่!

นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการที่สุด!

เขาเป็นคนโง่โง่กว่านางเป็นร้อยเท่า  แต่ทั้งที่นางฉลาดทำไมนางถึงไม่อาจยอมรับจุดจบอย่างนี้ได้?

“อย่าคิดว่าจะทิ้งข้าไว้คนเดียวง่ายๆนักสิ,  เว้นแต่ข้ายินยอม  เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธข้า เจ้าคนโง่!”นางนวลสายลมกางปีกกระพือพยายามบินกลับไปหาเขาเหมือนก่อนเพื่อเริ่มทำสัญญากับอีกฝ่ายหนึ่งอย่างกระตือรือร้น

นางต้องการให้เขารู้ ว่าเขาปฏิเสธนางไม่ได้

ไม่มีสิทธิ์

มันเป็นเรื่องผิด

นางมักเป็นฝ่ายตัดสินใจเสมอ และความปรารถนาสุดท้ายของนางไม่ใช่รับการปกป้องจากเขา  นางไม่ต้องการรอสัญญาชีวิตชาติหน้านางต้องการตอนนี้และตลอดไป

นางจะไม่ยอมรอ นางกลัวอนาคตที่คาดเดาไม่ได้

ก็เหมือนกับการทำสัญญาทั่วไปที่นางได้ทำสัญญาอย่างมีความสุข และนางไม่สบายใจกับการถูกหักหลังนางเหมือนเป็นผู้ปกครอง

แน่นอนว่าในครั้งนี้นางตัดสินใจว่าไม่ว่าอย่างไรในอนาคตนางจะไม่มีทางยกเลิกสัญญา นางต้องการให้เขารู้ว่าบางคนไม่สามารถเสนอให้ผ่อนปรนสัญญาได้ บางคนไม่สามารถแก้ปัญหาให้นางได้ นางต้องการเป็นสมบัติที่รักไปตลอดชีวิต!

อย่างไรก็ตาม

เวลานี้นางไม่รู้สึกว่ามีการตอบสนองอีกต่อไป

ต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิงไม่มีความประหลาดใจและความสุขใจรออยู่ ตอนนี้ไม่มีอะไรนอกจากความมืดมนเงียบสนิทเหมือนตายมองเห็นคัมภีร์อัญเชิญขนาดเล็กเมื่อเทียบกับอสูรอัปลักษณ์มีการเปลี่ยนรูปเล็กน้อยและเริ่มจางลงทีละน้อยและนางเห็นปีศาจอัปลักษณ์แบกพลังชะตามีเลือดทะลักออกมาตามตัวและตามหน้า  เลือดปนน้ำตาไหลมาตามใบหน้าที่น่าเกลียดทันที...เห็นม่านตาสีแดงขยายตัวพลังวิญญาณนับไม่ถ้วนเชื่อมโยงวิญญาณจริงนางนวลสายลมเข้าใจสามารถทำสัญญาได้โดยไม่ต้องรอให้เขาตอบสนอง

เพราะความอดทนและความรักของเขาทำให้เขาเคลื่อนหนีออกไป

วิญญาณของเขาหนีห่างออกไป

“ไม่, อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว!” นางร่ำไห้โหยหวนราวกับมีเลือดหยาดหยดในใจเจ็บปวดและสิ้นหวัง  “ข้าผิดไปแล้ว ข้าจะไม่ทำตัวดื้อดึงอีก เจ้ากลับมาเถิดมาทำสัญญากันใหม่ อย่าทิ้งข้าไว้แบบนี้ ข้าไม่มีคนที่ชื่นชอบอีกแล้ว  ข้าไม่ต้องการคนรุ่นหลังอีกข้าต้องการเจ้าเท่านั้น ต่อไปข้าจะไม่ตีเจ้าอีก ข้าขอร้องเจ้า มาทำสัญญากันอีกครั้ง ข้าจะแบ่งปันชีวิตกับเจ้าอย่าทิ้งข้าไว้อย่างนี้ ข้าไม่ยอม!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด