ตอนที่แล้วNH-ตอนที่ 55 เวลาไม่คอยคนแม้แต่ดวอร์ฟ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปNH-ตอนที่ 57 ฉันไม่ตามลูกครึ่งเอลฟ์

NH-ตอนที่ 56 ศึกนองเลือดภายในรังโคโบลด์


คนแคระทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของคณะสำรวจได้กล่าวสาบานตนต่อเทพธิดาแห่งผืนดินที่พวกเขาเคารพบูชา

นี่เป็นคำสาบานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกคนแคระจะทำได้ แม้แต่คนแคระในโซไรอัสก็มีความคิดแบบเดียวกัน เมื่อพวกเขากล่าวคำสัตย์ปฏิญาณแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หากพวกเขาไม่ทำเช่นนั้นมันจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของพวกเขามาก เพราะนั่นหมายความว่าเมื่อพวกเขาตาย วิญญาณของพวกเขาจะถูกโยนทิ้งและเนรเทศออกจากอ้อมกอดของพระแม่ธรณีตลอดไป

“รักษาคำพูดด้วยล่ะ เจ้าลูกครึ่งเอลฟ์ หากไม่แล้ว ฉันให้สัญญาต่อเทพธิดาแห่งผืนดินเลยว่าจะไม่มีทางไว้ชีวิตแกแน่” เนฟเรียล กล่าวพูดด้วยน้ำเสียงที่คุกคาม

“งั้นมาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายผิดคำสาบานก่อนกัน” ลุกซ์ ตอบกลับด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “เอาล่ะ ฟังที่ผมพูดให้ดี เป้าหมายแรกของพวกเราคือกำจัดผู้คุมพวกนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้พวกโคโบลด์ในรังตื่นตระหนก”

“แน่นอนว่าสิ่งนี้จะใช้ได้ผลเพียงแค่ช่วงแรกของภารกิจช่วยเหลือเท่านั้น เมื่อพวกเราพบโคโบลด์ตัวอื่นในรังมันจะกลายเป็นสถานการณ์การต่อสู้ที่ยากลำบากทันที แต่ แผนของเรานั้นเรียบง่ายมาก จู่โจมอย่างรวดเร็ว และ เคลื่อนไหวให้เร็วที่สุด ยิ่งช่วยตัวประกันเร็วเท่าไหร่ พวกเราก็ยิ่งออกไปเร็วเท่านั้น”

“ผมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการออกคำสั่งพวกคุณก็แล้วกัน เพราะผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะช่วยเหลือเป้าหมายของพวกเราทั้งหมดในคราวเดียวกันด้วยกำลังคนในปัจจุบันที่มี ในเมื่อสิ่งสำคัญที่สุดของพวกคุณคือการช่วยเหลือโรบิน ดังนั้นหลังจากช่วยเหลือเขาแล้วก็ให้รีบพาเขาออกไป”

“อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาปลอดภัยดีแล้ว พวกคุณจะต้องประสานงานกับกำลังเสริมที่มาจากฐานที่มั่นนอร์เรีย เพื่อโจมตีรังและช่วยเหลือเพื่อนๆของผม เอาล่ะ มีใครค้านไหม?”

เนฟเรียล และ โบเรียส พยักหน้า ในใจลึกๆ พวกเขารู้สึกโล่งใจที่ ลุกซ์ เป็นคนมีเหตุผล เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่กำลังคนในปัจจุบันของพวกเขาจะเคลียร์รังโคโบลด์ได้

“ถ้าพวกคุณพร้อมแล้ว ก็ลงมือกันเลย” ลุกซ์ กล่าว “เฮเลน อยู่ใกล้ฉันไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ให้อยู่ข้างฉันไว้เข้าใจไหม?”

คนแคระเด็กพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ว่า ลุกซ์ จะไม่เตือนเธอ แต่เธอก็จะเกาะติดเขาเพราะพวกผู้ใหญ่เหล่านี้ทำให้เธอกลัว

_____

นักรบโคโบลด์ ยืนอยู่ในตำแหน่งของพวกมันอย่างไร้ความกังวล สำหรับพวกมัน การกระทำเช่นนี้เป็นงานที่น่าเบื่อ

แม้ว่าบนภูเขาจะมีพวกมอนสเตอร์พเนจรที่แข็งแกร่งกว่าพวกมัน แต่ก็ไม่มีโคโบลด์ตัวใดที่กลัวการถูกโจมตี เพราะพวกมันมีความคิดอยู่เสมอว่าไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยจำนวน

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์และเชี่ยวชาญในการขยายพันธุ์ พวกโคโบลด์ ถือเป็นหนึ่งในมอนสเตอร์ที่น่ารำคาญที่สุดในการต่อสู้ เนื่องจากความคิดเกี่ยวกับปริมาณและคุณภาพ

ในขณะที่ทหารยามทั้ง 3 ตัวกำลังคุยกันอย่างสบายๆ ขวานหลายเล่มก็บินมาทางพวกมัน สิ่งนี้ทำให้ ผู้คุมทั้ง 3 เสียชีวิตเกือบพร้อมกัน เนื่องจากขวานเหล่านี้ได้เจาะลงตรงหัว หลังคอ และ หน้าอกของโคโบลด์

ทันทีที่ โคโบลด์ ล้มลงกับพื้น คนแคระหลายคนก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อนและลากโคโบลด์ที่ถูกสังหารออกไปเพื่อซ่อนตัว

เพื่อการรับประกัน โบเรียสได้แทงหน้าอกของโคโบลด์ทั้ง 3 เพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันนั้นตายแล้วจริงๆ

เมื่อดำเนินการเสร็จ กลุ่มช่วยเหลือคนแคระ ก็บุกเข้าไปในรังและตามหาโรบินโดยเร็วที่สุด

ในทางกลับกัน ลุกซ์ ได้เรียก เดียโบล และ นักสู้โครงกระดูกทั้ง 4 ออกมาคุ้มกันด้านหลังของกลุ่ม เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามี โคโบลด์ ตัวใดกลับมาที่รังหรือไม่

เนฟเรียล และ โบเรียส พยักหน้าด้วยความชื่นชม เพราะพวกเขาไม่สามารถทิ้งคนให้ทำงานนี้ได้ โชคดีที่ ลุกซ์ มีกำลังคนมากพอที่จะทำงานสำคัญนี้ ทำให้ความโกรธของพวกคนแคระที่ถูกแบล็กเมล์ก่อนหน้านี้ลดลงเล็กน้อย

แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า ลุกซ์ ก็มีเหตุผลที่ปล่อยให้ เดียโบล และ นักสู้โครงกระดูกรั้งอยู่ด้านหลังเช่นเดียวกัน นอกเหนือจากระวังศัตรูด้านหลังแล้ว สิ่งของมีค่าทั้งหมด ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ก็สามารถเก็บมันไว้ได้แต่เพียงผู้เดียว

3 นาทีต่อมา ฝ่ายช่วยเหลือก็ได้พบกับ โคโบลด์ กลุ่มหนึ่งที่กำลังลาดตระเวนภายในรัง

สิ่งนี้ทำให้เกิดการตะลุมบอนขึ้นทันที โชคดีที่แนวหน้าของพวกคนแคระที่นำโดย เนฟเรียลและโบเรียส ส่วนใหญ่ล้วนเป็นมือใหม่แรงค์ D และ C ที่เทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับ 1 และ 2

ทำให้พวกนักรบโคโบลด์ธรรมดาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ปัญหาที่แท้จริงก็คือเมื่อพวกเขาเข้าใกล้ถ้ำขนาดใหญ่สถานที่หลบซ่อนตัวก็มีน้อยลงทุกที

หลังจากตรวจสอบบริเวณโดยรอบแล้ว เนฟเรียล และ โบเรียส ก็รู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบซ่อนตัวโดยไม่ให้พวกโคโบลด์รู้ตัว

มีโคโบลด์กว่าร้อยตัวในถ้ำ ซึ่งบางตัวกำลังทำอาหาร บางตัวกำลังเดินเล่น ในขณะที่บางตัวกำลังลับอาวุธ

นี่เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีนักรบโคโบลด์บางส่วนอาศัยอยู่

ใกล้ด้านหลังของถ้ำก็มีโคโบลด์สีดำ 3 ตัวที่ใหญ่กว่าตัวอื่นๆ พวกนี้คือผู้นำโคโบลด์ ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลกองกำลังของตนเองในการออกล่าหรือเข้าร่วมการโจรกรรมโดยขึ้นอยู่กับคำสั่งของหัวหน้าโคโบลด์

รังของโคโบลด์ทุกรังจะมีถ้ำส่วนกลางใกล้ทางเข้ารัง ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันหลักในกรณีที่พวกมันถูกรุกราน หน้าที่หลักของพวกมันก็คือแจ้งเตือนทั้งรัง หากมีความจำเป็นที่ทุกคนจะต้องลงมือ เพื่อที่จะได้ช่วยกันขับไล่ผู้บุกรุก

ลุกซ์ ขมวดคิ้วแน่น เช่นเดียวกับ เนฟเรียล และ โบเรียส เขารู้ว่าการต่อสู้แบบเต็มรูปแบบเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

โบเรียส ยกมือขึ้นและทำท่าทางส่งสัญญาณให้คนแคระคนอื่นๆ เตรียมความพร้อม

ครึ่งนาทีต่อมา กลุ่มคนก็บุกเข้าไปข้างในและเริ่มสังหารพวกโคโบลด์ที่ขวางทางทันที

ผู้นำโคโบลด์ทั้ง 2 ได้ลุกขึ้นและเผชิญหน้ากับพวกเขาในการต่อสู้ หลังจากนั้น โคโบลด์ ตัวอื่นๆ ก็เริ่มส่งเสียงดัง โดยบางตัวได้วิ่งเข้าไปในส่วนลึกเพื่อส่งเสียงอึกทึกครึกโครมเพื่อแจ้งเตือนให้พี่น้องของตนรู้ว่ามีศัตรูบุกรังของพวกมัน

คนแคระเหล่านี้ทำงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พวกเขาฆ่าศัตรูทั้งหมดภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 นาที

เนฟเรียล และ โบเรียส ไม่รอช้า พวกเขาได้ใช้ความสามารถของตัวเองเอาชนะ ผู้นำโคโบลด์ได้อย่างง่ายดาย

“ไปทางไหนต่อ?” เนฟเรียล ได้กล่าวถาม ลุกซ์ ที่เพิ่งฆ่า โคโบลด์ 2 ตัวที่พยายามโจมตีเฮเลนที่อยู่ข้างๆเขา

“ตรงไปและเลี้ยวซ้าย ที่นั่นจะมีทางแยก 3 ทาง พวกเราแค่มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเรื่อยๆ จากนั้นพวกเราจะไปถึงจุดที่โรบินและแอนดี้ถูกจับตัวเอาไว้”

เนฟเรียล พยักหน้าและนำการโจมตีไปพร้อมกับ โบเรียส ลุกซ์ และ เฮเลน รวมถึงคนแคระคนอื่นๆ ได้ตามมาโดยทิ้งฉากการสังหารไว้เบื้องหลัง

1 นาทีต่อมา เดียโบล และ นักสู้โครงกระดูก 3 ตัวก็เข้ามาภายในถ้ำ

ลุกซ์ ได้มอบหมายให้พวกเขาทำภารกิจสำคัญ

เป็นภารกิจที่พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามโดยไม่ล้มเหลว

เสียงกรีดร้องได้ดังขึ้นไปทั่วทั้งรังของ โคโบลด์ ขณะที่พวก โคโบลด์ และ กลุ่มคนแคระปะทะกัน แม้ว่าพวก โคโบลด์ จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกคนแคระ แต่พวกไรเดอร์จากนอร์เรีย ก็ยังได้รับบาดเจ็บหลายแห่งตามร่างกายของพวกเขา

บางคนโชคไม่ดีได้รับบาดเจ็บระหว่างต่อสู้ระยะประชิด โชคดีที่ เฮเลน เป็นนักบวช สิ่งนี้ทำให้คนแคระตัวน้อยได้รักษาทุกคนจนสุดความสามารถ และ เธอก็เคี้ยวลูกอมรสน้ำผึ้งที่ลุกซ์มอบให้เธอ

ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่ม ไม่ได้ลืมไปเยี่ยมคุณย่าแอนนี่ที่หมู่บ้านลีฟ เพื่อขอซื้อลูกอมทั้งหมดที่เธอมีสำหรับภารกิจนี้ โดยพื้นฐานแล้ว หญิงชรามีความสุขมากจึงขายลูกอมทั้งหมดที่มีให้กับลูกค้าประจำของเธอ ซึ่งมันได้ช่วยทั้งสองอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ ทัศนคติที่คนแคระเหล่านี้มีต่อ เฮเลน จึงเปลี่ยนไป โบเรียส ยังมอบหมายให้ผู้ใต้บังคับบัญชา 2 คน คอยคุ้มกัน เด็กสาวตัวเล็ก ๆ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าจะไม่มี โคโบลด์ ตัวใดมาคุกคามชีวิตให้เธอตกอยู่ในอันตราย

ลุกซ์พอใจกับข้อตกลงนี้มาก เพราะมันจะช่วยรับประกันความปลอดภัยของเฮเลน

ทางเดินที่นำไปสู่สถานที่ที่ โรบินและแอนดี้ถูกจับตัวเอาไว้ นั้นเปียกโชกไปด้วยเลือด

นี่เป็นครั้งแรกที่ ลุกซ์ ได้เห็นการต่อสู้ที่นองเลือดเช่นนี้ ประสาทสัมผัสของเขาได้ยกสูงขึ้นทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับกลิ่นของเขา สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก

นอกจากนี้ เขายังรู้สึกทึ่งกับการที่พวก โคโบลด์ ไม่มีความเกรงกลัวที่จะต่อสู้จนตัวตาย พวกมันเหมือนกับนักสู้ที่มีความตั้งใจเพียงอย่างเดียวคือการสร้างความเสียหายให้กับศัตรูให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะตาย

เมื่อ โคโบลด์ ตายไป โคโบลด์อีกตัวก็จะเข้ามาแทนที่

พวกเขาเข้ามาที่นี่ด้วยสมาชิกทั้งหมด 45 คน แต่ในช่วงระยะเวลาอันสั้น คนแคระ 5 คน ก็ได้ตายไปในการต่อสู้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้นักรบของนอร์เรียจะแข็งแกร่งขนาดไหน พวกเขาก็ยังสู้จำนวนที่ต่างกันอย่างท่วมท้นไม่ได้

สิ่งเดียวที่ช่วยให้พวกเขารอดก็คือ รังโคโบลด์มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แม้ว่าพวกโคโบลด์จะรวมตัวกันเป็นฝูง ก็ยังต้องใช้เวลากว่าพี่น้องที่เหลือของมันจะมาถึงตำแหน่งที่ตั้งของพวกเขา

“โรบินและแอนดี้อยู่ที่นั่น!” ลุกซ์ตะโกนขณะที่เขาชี้ไปที่กรงหลายกรงที่ทำจากไม้ซึ่งอยู่ห่างออกไป

เนฟเรียลผละออกจากการตะลุมบอน ตามมาด้วยคนของเขา 4 คน ที่รีบวิ่งไปที่กรง

โบเรียส และ คนของเขาได้ยืนหยัดเพื่อต่อสู้กับพวก โคโบลด์ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ลุกซ์ กัดฟันแน่นขณะที่เขายืนอยู่ข้างหน้าเฮเลนและต่อสู้กับ โคโบลด์ ทุกตัวที่บุกทะลวงแนวป้องกันเข้ามาได้

แขนของเขารู้สึกเจ็บปวดจากการแกว่งดาบอย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้หยุดพัก และเป็นตอนนี้เองที่เขารู้ว่าทุกคนในทีมกู้ภัยใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว

แม้แต่ เฮเลน ที่คอยรักษาพวกคนแคระอย่างต่อเนื่องก็หอบหายใจอย่างหนัก เหงื่อได้ไหลลงมาตามใบหน้าของเธอในขณะที่เธอร่ายมนตร์ไม่หยุดเพื่อไม่ให้มีใครตาย

“ถอยเร็ว!” เนฟเรียล ตะโกนขึ้นขณะที่เขาแบกร่างของ โรบินที่หมดสติไว้บนบ่าเหมือนกับกระสอบข้าว

แอนดี้ ก็ปลอดภัยเช่นเดียวกัน เขาได้ถูกอุ้มโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของเนฟเรียลอีกคน โดยทั้งกลุ่มรีบกลับไปทางเข้าโดยมี โบเรียส และ นักรบที่แข็งแกร่งของนอร์เรียคอยคุ้มกันอยู่ด้านหลัง

โชคไม่ดีที่พวกเขาพบกลุ่มโคโบลด์ตรงทางแยกที่นำไปสู่ทางเข้า จึงเกิดการต่อสู้นองเลือดขึ้นอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ มีตัวเป้งของพวกโคโบลด์โผล่ออกมาจึงทำให้การต่อสู้กลายเป็นยากมากยิ่งขึ้น

มันคือ นักเวทย์โคโบลด์ ที่เป็นมอนสเตอร์ระดับ 3 และ มีด้วยกันถึง 4 ตัว ในตอนนี้มันได้ร่ายคาถาลูกบอลไฟจนทำให้คนแคระ 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกตนเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เนฟเรียล ก็ไม่ลังเลที่จะสั่งให้ทุกคนฝ่าวงล้อมออกไปให้ได้

ทันใดนั้น 1 ใน นักเวทย์โคโบลด์ ก็ปล่อยสกิลผืนดินสั่นสะเทือนจนทำให้พื้นดินใต้เท้าของทุกคนสั่นไหวอย่างรุนแรง

ลุกซ์ รู้ดีว่าพื้นดินใต้เท้าของเขาและเฮเลนกำลังจะพังลง ดังนั้นเขาจึงยกเด็กสาวตัวน้อยและเหวี่ยงเธอไปทางโบเรียสด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี

“คุณโบเรียส! รับเธอ!” ลุกซ์ ตะโกนขึ้นขณะที่พื้นดินใต้เท้าของเขาถล่มลงมา

โบเรียส ที่ได้ยินเสียงตะโกนของ ลุกซ์ เขารีบคว้าเด็กสาวตัวน้อยที่กำลังกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง

นั่นคือสิ่งที่ ฮาล์ฟเอลฟ์หนุ่มตัดสินใจก่อนที่เขาจะตกลงไปในส่วนลึกที่สุดของรังโคโบลด์

เหล่าคนแคระรู้ว่า ลุกซ์ ได้กลายเป็นบุคคลหายสาปสูญ และ ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำเพื่อช่วยเขา

แม้แต่ตอนนี้ชีวิตของพวกเขาก็ตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นพวกคนแคระจึงรีบล่าถอยด้วยการงัดทุกอย่างที่มีออกมา ในขณะเดียวกัน ฝูงโคโบลด์ที่โกรธเกรี้ยวก็ไล่ตามพวกเขาด้วยความคิดเดียวในใจก็คือ การตามล่าพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะหนีออกจากรังไปได้อย่างสมบูรณ์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด