ตอนที่แล้วChapter 198 The tentative plan of talent
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 200 True talent

Chapter 199 Finally gripped the time


终于握住了时间

เกี่ยวกับการออกแบบ“พิษยีนหมายเลข 2” ดูเหมือนว่าจะง่ายกว่าการศึกษายีนซะอีก,ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาถึงหนึ่งเดือน,ก็ประสบความสำเร็จแล้ว.

หลังจากที่หยาซานกลับมาห้องทดลอง ก็เอ่ยต่อซูเห่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ท่านบอกว่าเมล็ด ๆ พืชเหล่านี้,จะใช้ปลูกล้อมรอบเป็นวงนอกเมืองเอาไว้,พี่ใหญ่เหว่ย,ท่านต้องการใช้ต้นไม้นี้ทำอะไร?”

ซูเห่าเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“นี่ไม่ใช่ต้นไม้,แต่มันคือพื้นที่กักกันสัตว์กลายพันธ์.”

หยาซานเอ่ยด้วยความสงสัย“พื้นที่กักกันสัตว์กลายพันธ์?”

ซูเห่าเอ่ย“ยากที่จะอธิบายให้เจ้าฟัง,เมื่อเจ้าเห็นก็จะรู้เอง.”

หยาซานที่เกาศีรษะไปมา.

ซูเห่าที่ชี้นิ้วไปยังกรง“หยาซานเจ้านำหนูทดลองในกรงนั้น,ไปปล่อยในพื้นที่สัตว์กลายพันธ์ดู.”

เพียงไม่นานทั้งสองก็มาถึงภูเขาขนาดเล็กแห่งหนึ่ง,ซึ่งถูกปกคลุมด้วยต้นไม้ยืนต้นปลุกวนเป็นรั้วคลุมเอาไว้เป็นแถวที่เชิงเขา.

ต้นไม้เหล่านี้คือต้นไม้กักกันที่ซูเห่าเอ่ยถึง,เวลานี้อยู่ในขั้นทดลอง,ต้นไม้เหล่านี้มีเพียงสองแถวก็พอแล้ว.

เมื่อสร้างพื้นที่สัตว์กลายพันธ์ขึ้นมาในวันข้างหน้า,จะต้องขยายพื้นที่ปลูกขึ้นมาด้วย,เชื่อมต่อเป็นปม,เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์กลายพันธ์หนี.

ซูเห่าเอ่ย“หยาซาน,เจ้าขึ้นไปบนภูเขา,แล้วปล่อยหนูทดลองไว้บนนั้น.”

หยาซานรับคำ,หลังจากปล่อยหนูเสร็จเขาก็กลับลงมา,ซูเห่าก็เอ่ยออกมาว่า“ไป,พวกเรากลับ!”

หยาซานเผยท่าทางแปลก ๆ“กลับเลยรึ?”

ซูเห่าเอ่ย“แล้วจะอยู่ทำไมล่ะ?”

หยาซานที่ชงักไปชั่วขณะ,เอ่ยอย่างระมัดระวัง“แล้วพี่ใหญ่ให้ข้ามาดูอะไรอย่างงั้นรึ?”

ซูเห่าหัวเราะเอ่ยออกมาว่า“หากเจ้าอยากดูจริง ๆ,ก็รออยู่ที่นี่สักหนึ่งเดือนแล้วจะรู้.”

หยาซานที่เกาศีรษะไปมา“ข้าไม่อยากดูแล้ว.”

ซูเห่าเอ่ย“ไป! เจ้าจะรู้ในเร็ว ๆ นี้ว่าหนูที่ปล่อยไว้ข้างใน,ไม่อาจหนีได้,ขอเพียงมันกล้าหนีออกไปจากระยะต้นไม้,รับรองว่าต้องตาย,เจ้าหาคนสองสามคนให้มาเฝ้าที่นี่คอยบันทึกสถานการณ์ของหนูทดลอง,สองสามวันหลังจากนี้พวกเราค่อยมา.”

หยาซานพยักหน้ารับ“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย.”

ห้าวันหลังจากนั้น,ซูเห่าและหยาซานก็กลับมาที่เชิงเขาอีกครั้ง,พร้อมกับพบคนที่ให้มาบันทึกข้อมูล,หยาซานเอ่ยถาม“หนูบนภูเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลังจากชายคนดังกล่าวเห็นซูเห่าและหยาซานมา,ก็แสดงความเคารพเอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,พี่ใหญ่หยาซาน,หนูมากกว่าครึ่งยังอยู่บนภูเขา,สองวันก่อนหนูเกือบครึ่งลงมา,ทว่าทันทีที่พวกมันออกจากภูเขา,ก็ตกตาย,หนูตัวอื่น ๆ เห็น ก็ลงมาน้อยลงเรื่อย ๆ,วันนี้,ไม่พบหนูสักตัวหนีลงมา.”

หนูตัวน้อยที่รอดตาย,ไม่กล้าออกมาตามเหล่าหนูผู้กล้า,พวกมันก็จะเก็บสันชาติญาณนี้เอาไว้,ว่าสภาพแวดล้อมด้านนอกไม่อาจอยู่อาศัยได้.

ในบรรดาหนูกลุ่มใหญ่ที่หนีออกไปล้วนแต่ตายกันหมด,เหล่าหนูที่รอดมา,หลังจากออกลูกหลานของมันแล้วก็จะส่งต่อลักษณะความหวาดกลัวต่อพื้นที่ภายนอกต่อลูกหลานของมันไปด้วย.

นี่เป็นหนึ่งในกระบวนการทางธรรมชาติ,เป็นการคัดกรองสภาพแวดล้อมเพื่อให้มีชีวิตรอด.

หยาซานที่เผยความประหลาดใจ“ตายอย่างงั้นรึ? ยกเว้นหนู,สิ่งมีชีวิตอื่นตายด้วยหรือไม่?”

ผู้สังเกตเอ่ยตอบ“ตอนนี้ยังไม่พบว่ามีสิ่งอื่นตาย,นอกจากหนูทดลองเท่านั้น.”

หยาซานที่เผยความประหลาดใจ,จ้องมองต้นไม้พิเศษ,เอ่ยสอบถามซูเห่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ต้นไม้นี้คืออะไร? ลึกลับขนาดนี้เลยรึ?”

ซูเห่าเอ่ย“นี่คือต้นไม้กักกัน,นี่คือสิ่งที่ข้าบอกไปแล้วจะนำมาแบ่งแยกพื้นที่สัตว์กลายพันธ์.”

หยาซานเอ่ย“มันจะสังหารสัตว์จากพื้นที่อื่นไปด้วยหรือไม่? แล้วจะมีใครได้รับบาดเจ็บใหม?”

ซูเห่าเอ่ย”ไม่,เฉพาะสัตว์กลายพันธ์ที่พวกเราเลือกเท่านั้น,ไม่ว่าจะเป็นสัตว์กลายพันธ์ระดับใด,กล้าทะลวงผ่าน,ก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น.

หยาซานที่สูดหายใจเย็นยะเยือบ,จ้องมองต้นไม้กักกันที่อยู่ห่างออกไป.

ซูเห่าเผยยิ้ม“วางใจได้,ไม่มีอันตรายต่อคน!”

ซูเห่าคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนเอ่ยออกมาว่า”อาซานเจ้าสังเกตเปลือกของต้นไม้ให้ดี,จากนี้จะต้องปลูกอีกมาก,วิธีการปลูกและสังเกตุข้าจะเขียนเอาไว้ในคู่มือให้เจ้าคืนนี้.

จากนี้เจ้าจะต้องสร้างเขตแดนกักกันขึ้นในเมืองฮุยหยาน,หาสถานที่ใหญ่หน่อยที่ไม่มีคนเข้าไป,จะดีหากเป็นภูเขาลูกใหญ่มีป่าไม้ทุ่งหญ้า,ทะเลทราย แม่น้ำ,ลำธารและสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย,จากนั้นก็ปิดล้อมพื้นที่นั่นซะ,และค่อย ๆ ปลูกต้นไม้กักกันนี้ขึ้น,สร้างมันให้มันเป็นป่าไปเลย”

หยาซานที่เอ่ยตอบรับทันที“วางใจได้! พี่ใหญ่เหว่ย,ข้าจะจัดการอย่างระมัดระวัง!”

ซูเห่าพยักหน้ารับ“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน,ห้าปีน่าจะพอดี.”

การจะเกลี้ยกล่อมเมืองอื่น ๆ ทั้งหมดเพื่อสร้างพันธมิตรขึ้นมา,รวมตัวเป็นกลุ่มอิทธิพลใหม่เพียงแค่พูดคงไม่เพียงพอ,ทว่าจะต้องเผยความสำเร็จให้ทุกคนได้เห็นด้วย.

ความสำเร็จที่ชัดแจ้งถึงจะทำให้คำพูดเกลี้ยกล่อมมีพลังมากขึ้น.

หากฝ่ายตรงข้ามไม่เชื่อพื้นที่กักกันสัตว์กลายพันธ์ก็ให้มาดู,หากไม่เชื่ออีก...ก็เปลี่ยนคนซะ!

หลังจากเขาได้สร้างทิศทางขึ้นมาคราว ๆ แล้ว,ซูเห่าก็ไม่สนใจอีก! ขอเพียงแค่แผนการทุกอย่างประสบความสำเร็จ,แก๊งซือหลินจะต้องสนับสนุนเขาอย่างไม่มีเงือนไข.

ต้องไม่ลืมว่าสตรีสามคนที่มีระดับสูงได้กลายเป็นภรรยาหยาซาน,และมีบุตรให้หยาซาน...

....

เมื่ออธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ออกมาอย่างชัดเจนให้ทุกคนรับฟัง,ซูเห่าก็กลับห้องทดลอง,หลังจากพยายามมอบวิธีในการปลูกต้นไม้กักกันให้กับหยาซาน,เขาก็เก็บตัวศึกษาค้นหาสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ที่เหมาะในการสร้างยีนลำดับต่าง ๆ ขึ้นมา.

หกเดือนหลังจากนั้น,ซูเห่ามีอายุ 22 ปี.

ครึ่งปีมานี้,เขาได้ปรับแต่งและสร้างสิ่งมีชีวิตขั้นต่าง ๆ จากแปดลำดับขึ้นมาจนครบ.

ต้นไม้กักกันเองก็เติบโตแบ่งแยกพื้นที่สมบูรณ์,สามารถนำสัตว์ไปปล่อยได้แล้ว.

กล่าวอีกอย่าง,เขาเริ่มเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิประเทศของโลกนี้,โดยพึ่งพาอาศัยกำลังของแก๊งซือหลิน.

เกี่ยวกับเรื่องนี้ซูเห่าไม่มีทางเลือก,เพื่อที่จะจัดการให้เป็นไปตามความต้องการ,ใครก็ตามที่ต่อต้านจะถูกกำจัด,เหลือไว้เพียงคนที่เห็นด้วยเท่านั้น.

เป็นการกระทำที่เรียบง่ายและหยาบคาย,ซ้ำยังดูน่าเกลียด,แต่เพื่อเร่งรัดเวลาก็มีแต่ต้องทำ,เมื่อถูกขยายออกไปทั่วแผ่นดิน,เรื่องต่าง ๆ มันจะยิ่งยากที่จะจัดการ.

โลกนี้ใหญ่มาก,ไม่อาจสังหารทุกคนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามได้,ต้นไม้กักกันที่ปลูกไว้,อาจจะมีผู้ไม่หวังดีทำลาย,เมื่อถึงเวลานั้นเกรงว่าคงยากที่จะควบคุมสถานการณ์.

ดังนั้นเพื่อให้โครงการนี้เป็นไปอย่างราบรื่นสมบูรณ์,จึงต้องสร้างแก๊งซือหลินให้ยิ่งใหญ่มีพลังพอที่จะบัญชาการไปทั้งโลก.

ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องค้นหาคนที่มีพรสวรรค์ในด้านต่าง ๆ เข้ามาทำงานร่วมด้วย.

ดังนั้น,หลังจากนำสัตว์กลายพันธ์มาปล่อยยังพื้นที่กักกัน,จากนั้นจำเป็นต้องรอเวลาให้เกิดระบบนิเวศใหม่เกิดขึ้น.

ระหว่างรอซูเห่าก็กลับมาศึกษาเป้าหมายที่สาม คัดเลือกศึกษาโครงการวิทยาศาสตร์ในอดีตและกำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็น,และเป้าหมายที่สี่,การศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับพื้นที่พินบอล.

“น้อยครั้งจะมีเวลา,เวลานี้ควรจะตั้งใจศึกษาความรู้พื้นฐานในอดีต....”

ซูเห่าที่เข้าไปในพื้นที่พินบอลพร้อมกับเปลี่ยนห้องทดลองเปลี่ยนเป็นห้องหนังสือทันที.

เขานั่งอยู่บนเก้าอี้,เริ่มศึกษาตำรา“วิชาควอนตัมและการเสริมสร้างสภาวะจิตใจ” เขาที่เปิดหนังสืออ่านไปทีละหน้า ๆ,จากนั้นก็หยิบตำรา“การเปลี่ยนแปลงและปรากฏการที่สำคัญ”

อดไม่ได้เลยที่เขาจะเอ่ยพึมพำ“ดูเหมือนว่าการเรียนรู้ก็นับเป็นความสุขอย่างหนึ่ง,เมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต,มีอะไรที่เกิดขึ้นมากมายจริง ๆ.”

“ดูเหมือนว่า,เพื่อป้องกันความสุขของการเรียนรู้,จำเป็นต้องมีพลังที่แข็งแกร่งด้วย.”

“ยิ่งเรียนรู้,ก็ยิ่งได้รับพลัง,เมื่อมีพลัง,ก็จะสามารถปกป้องเวลาที่จะเรียนรู้.”

“เป็นการส่งเสริมกันและกัน!”

“บรรลุร่วมกัน!”

“ยอดเยี่ยมมาก!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด