ตอนที่แล้วตอนที่ 1281 ผู้พิทักษ์เกราะแก้ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1283 เอาชนะ ชิงสมบัติ

ตอนที่ 1282 หิวและกระหาย


“ออกมาหาที่ตายเองชัดๆ!” ถูว่านคิดว่าในขณะที่ต้องใช้เวลากับสตรีเหล่านี้อย่างอดทนเป็นเพราะด้านหน้ามีพลังปราการแก้วป้องกันพวกนางอยู่และพลังป้องกันนี้เหนือกว่าพลังของเขาอย่างคาดไม่ถึง  แต่สตรีผู้ถือดาบเทพออกมาพูดจาด้วยความหยิ่งยโสทอดทิ้งสหายผู้คุ้มกันไว้ด้านหลังและออกมาด้านหน้าด้วยความโอหัง

นางจะสู้เขาด้วยดาบเทพในมือของนางอย่างนั้นหรือ?

ดาบเทพนั้นก็คือดาบเทพจักรพรรดิอวี้ในตำนาน

แต่นางจะสำแดงพลังของมันออกมาได้มากเพียงไหน?

ลึกลงไปในแววตาของถูว่านมีแววอำมหิต

เพราะสิ่งที่เขากำลังจะทำลายก็คือนักรบหญิงแห่งหอทงเทียนที่สมบูรณ์แบบ เขาจะทำลายความจองหองของเด็กสาวผู้หยิ่งยโสนางนี้และเหยียบนางไว้ใต้เท้าให้นางได้รู้ถึงความสำเร็จในหัวใจของเขา

บางทีในเวลาไม่กี่นาทีนางจะต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาเหมือนสุนัขราคาถูกร้องขอชีวิตกับเขา

สตรีผู้หยิ่งยโสนี้  เขาจะใช้วิธีทรมานนางให้ได้รับความอัปยศดีไหม?  ให้นางคุกเข่าเลียนิ้วเท้าของเขาหรือจะถลกหนังที่ไร้ตำหนิของนางดี? ใช่แล้ว บางทีควรดึงอวัยวะภายในของนางออกมาใช้ไส้นางต่างด้ายทำให้นางเป็นว่าวมนุษย์บินในท้องฟ้า....  “พลังสี่ศักดิ์สิทธิ์”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค่อยๆเหยียดมือซ้ายของนาง จากนั้นรวบนิ้วทั้งห้าเป็นกำปั้น

เหนือศีรษะของนางประกายไฟฟ้าเป็นพันๆสายควบแน่นจนอยู่ในรูปของมังกรฟ้าที่ไม่มีใดเหมือนและน่าทึ่ง มันคล้ายกับการปรากฏของรังสีกระบี่ที่มีลวดลายอักขระรูนวิเศษ ปีกเปลวไฟที่เผาทุกอย่างกระโดดขึ้นที่ด้านหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ความร้อนขนาดนั้นบังคับให้ยักษ์ทองถูว่านต้องถอยออกไปอย่างช่วยไม่ได้ปลุกถูว่านตื่นขึ้นจากจินตนาการเมื่อถูว่านรู้สึกตัวเขาพบว่าใต้เท้าของเขาตั้งแต่น่องลงไปปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่น่ากลัวสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดก็คือพลังแช่แข็งและความร้อนไม่ได้หักล้างกันแต่เป็นการเสริมเติมเต็มกันและกันทำให้ร้อนมากกว่าปกติ และเย็นผิดกว่าปกติ

นอกจากนี้

ถูว่านยังคงรู้สึกถึงรังสีสังหารซ่อนแฝงอยู่ในนั้นลึกๆแต่ว่ามีอยู่แน่นอน

เทียบกับสายเลือดสังหารของเขาเองนับว่าไม่เลวเลยทั้งอาจเป็นพลังที่ก้าวร้าวรุนแรงยิ่งกว่า

รอจนพลังสี่สายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงสายฟ้าอัคคี น้ำแข็งและจิตสังหารผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวสมบูรณ์แล้วนางจึงใช้ดาบเทพเพื่อแสดงพลังนั้น....ถูว่านลอบกลืนน้ำลายอยย่างยากลำบากจากความคิดที่ดูแคลนกลายเป็นระมัดระวัง

ตอนนี้

เขาเข้าใจในที่สุด

ปรากฏว่าการฝึกฝนของสตรีชาวหอทงเทียนนั้นมีความพิเศษ

สตรีเมื่อครู่นี้มีพลังป้องกันที่บริสุทธิ์แข็งแกร่งไม่มีพลังรุกโจมตีใดๆ ด้วยความช่วยเหลือจากพลังโล่ปราการแก้วซึ่งเป็นทักษะแฝงเร้นของนางสามารถหยุดป้องกันอาวุธง้าวสายเลือดของเขาได้ตอนนี้สตรีคนนี้กลับทำตรงกันข้าม นางฝึกวิชาแนวรุกแกร่งกร้าวไม่มีการป้องกันใดๆเลย และทุ่มกำลังทั้งหมดของนางในการรุกเข่นฆ่า เป็นการสู้เสี่ยงชีวิต

ตราบเท่าที่หลบดาบแรกของนางได้จากนั้นนางเป็นอันจบสิ้น

ไม่มีพลังป้องกันมีแต่เพียงพลังรุกโจมตีอย่างเดียว ไม่ต่างอะไรกับคนพิการขาเดียวไม่มีอะไรต้องกลัว

“ตาย!”

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชูดาบเทพพยัคฆราชขึ้นสูง

พลังศักดิ์สิทธิ์สี่ชนิดกลั่นตัวรวมเข้าด้วยกันและระเบิดออกไปอย่างสมบูรณ์แบบ  ขณะนั้นฟ้ากับดินสั่นคลอนภายใต้จิตสังหารของนาง

“โชคดีที่หลบได้”  ยักษ์ทองถูว่านแสดงความตั้งใจอย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะเป็นนักสู้ระดับเทพ  แต่เขาไม่ใช่เป็นคนสมองตาย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตัดศีรษะคนอื่นในสภาพเช่นนี้  เขาไม่จำเป็นต้องเสี่ยงบาดเจ็บโดยไม่จำเป็น สิ่งที่ต้องการคือหน้าและเกียรติยศไม่ใช่หรือ?  ผู้ที่ได้รับชัยชนะสุดท้ายเท่านั้นและยังยืนหยัดอยู่ในสนามรบเท่านั้นคือผู้ชนะที่แท้จริง

ยิ่งกว่านั้นไม่จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่สิ้นหวังเช่นนี้

แค่หลบหลีกเรื่องก็ง่ายดายแล้ว

เป็นวิธีประหยัดเรี่ยวแรงมากที่สุด

เมื่อได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทำไมเขาถึงไม่ทำอย่างนั้น?

ถูว่านสะบัดอาวุธสายเลือดและตัดผ่านมิติและในขณะที่กฎสวรรค์และโลกปิดลงเขาก็พุ่งทะยานกลายเป็นแสงสีทองเข้าไปในความว่างเปล่าไม่รู้จบสิ้น และในวินาทีที่เขาจะกลับมาเขาชื่อว่าเขาสามารถย้อนกลับมาต่อสู้ตอบโต้เมื่อฝ่ายตรงข้ามใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดล้มเหลวเขาจะปรากฏตัวที่ด้านหลังของนางและตัดร่างนางให้ขาดครึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเชื่อว่าสีหน้าของนางคงต้องดูดีมาก

เมื่อเขาหลบเข้าไปในมิติว่างเขาไม่เห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังใช้พลังฟันโจมตีเต็มที่แต่ในเสี้ยววินาทีองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนส่งสำนึกไปที่พลังศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ซึ่งดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดและควบคุมได้ยากโดยไม่ส่งพลังโจมตีออกไป

ราชันย์ปีศาจใต้ยืนขึ้นเหมือนกับไม่รู้อะไร

มือขาวดุจหยกของนาง

กรีดนิ้วลงที่สายผีผาหยกเบาๆ

เสียงติงตังดังขึ้นเหมือนกับน้ำพุในป่า

ในขณะที่ถูว่านคิดอยู่เหมือนกันนั้นแม้แต่สหายจากเผ่ามังกรกลืนสวรรค์คิดว่าถูว่านเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในมิติว่างได้นั้นจู่ๆ เขาไม่สามารถซ่อนตัวได้และร่างของเขาปรากฏอยู่ต่อหน้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเขามองดาบเทพพยัคฆราชที่อยู่เหนือศีรษะของนางด้วยความประหลาดใจ  “กลับมาฟังเสียงดนตรีที่ไพเราะหรือ?  แล้วพายุอีกระลอกเล่า?นั่นคือเสียงสวรรค์ที่สามารถทำให้มิติแตกแยกได้!  ราชันย์ปีศาจใต้กรีดนิ้วลงบนสายผีผาหยกอย่างงดงามและโลกทั้งใบสลายกลายเป็นกระแสหมุนวนทันที

“ไม่!” นักสู้จากเผ่ามังกรกลืนสวรรค์หลายคนตกใจเมื่อพบว่าถูว่านที่ตั้งใจจะจู่โจมตอบโต้มิทราบหายไปที่ใดเพราะมิติแตกและพวกเขาหลายคนถูกกระแสพายุมิติดูดกลืนเข้าไปไม่สามารถหลบออกมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ด้านบนดาบเทพพยัคฆราชไม่สนใจว่ามีอะไรขัดขวาง

เริ่มตัดลงมาทีละนิ้วๆ

เจตจำนงทำลายล้างไม่มีพลังที่สองในโลกสามารถท้าทายได้แน่นอน

ด้วยวิธีนี้มองเห็นภาพเหตุการณ์ที่อยู่ข้างหน้าต่อให้นักสู้ทรงพลังก็ไม่สามารถแสดงพลังออกมาได้...นักสู้ของเผ่ามังกรกลืนสวรรค์ร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง  แน่นอนว่าเสียงของพวกเขาไม่ดังออกมาข้างนอกถูกพายุมิติดึงดูดลงไปไม่มีทางที่จะส่งเสียงแสดงความกลัวออกมาได้สิ่งที่ทำให้พวกเขาสิ้นหวังมากกว่าเดิมคือดาบเทพไม่ได้ผ่าร่างของเขาขาดครึ่งเหมือนดาบธรรมดาแต่ฟันเข้าไปในมิติว่างอย่างรุนแรงทำลายมิติคั่นโลกและสวรรค์อย่างสิ้นเชิง

ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแกร่งขนาดไหนแม้ว่าจะกลายเป็นผุยผงไปแล้วและใช้ทักษะแฝงเร้นคืนสภาพก็เปล่าประโยชน์เพราะที่นางทำลายไม่ใช่ร่างมนุษย์ แต่เป็นมิติพื้นที่นี้

พายุมิติแตกทำลายอีกครั้ง

มันพังทลายภายใต้พลังดาบเทพ

ครั้งแรกระเบิดออกมาข้างนอก แต่ก่อนที่จะขยายแรงระเบิดออกไปอย่างเต็มที่กฎสวรรค์โบราณได้คืนสภาพอยู่ในสภาพดั้งเดิมนิรันดร

นักสู้เผ่ากลืนสวรรค์ผู้อยู่ในใจกลางพื้นที่มิติทำลายไม่มีเวลาร้องไห้เศร้าโศกก็ถูกกำจัดเข้าไปในหลุมดำที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่ว่าจะเป็นร่างมนุษย์หรือวิญญาณถูกทำลายกลับไปสู่สถานะเดิม

ผนึกอมฤต?

กำจัดและผนึกที่แม้แต่เทพเจ้าในตำนานไม่อาจหลบหนีออกมาได้ต่อไป...บางทีอาจเป็นเช่นนี้!

ก่อนที่วิญญาณของพวกเขาจะถูกทำลายทันใดนั้นพวกเขานึกพลังทำลายล้างของเทพที่น่ากลัวที่สุด ‘ผนึกอมฤต’!

ถูว่านพบว่าตนเองหลงอยู่ในมิติว่างและสถานที่ซึ่งเขาจะต้องกลับไปโดยพลังชี้นำลับๆ ถูกทำลายอย่างลึกลับ บางทีนี่อาจเป็นแผนการคิดและเล่ห์เหลี่ยมของสตรีชาวหอทงเทียนพวกนางไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้ แต่กลับบังคับให้เขาต้องถอยไปได้ อย่างไรก็ตามถ้าพวกนางคิดว่าแค่นี้จะทำให้พวกนางปลอดภัยได้อย่างนั้นก็เป็นเรื่องผิดพลาดครั้งใหญ่

ไม่ว่ามิติว่างจะไปไกลแค่ไหนเขาก็จะไม่ออกไปจากหอทงเทียน

เพราะในร่างของเขามีทักษะนำทางของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางไม่ว่าเขาจะโดนโยนออกไปไกลจากหอทงเทียนเพียงไหนก็ตาม

สตรีชาวทงเทียนเหล่านี้เมื่อพบเจอพวกนางครั้งต่อไปเขาเชื่อว่าพวกนางคงหน้าถอดสีแน่นอน ถูว่านควงง้าวสายเลือดและปล่อยให้สำนักนำทางกลับหอทงเทียน

บางทีครั้งนี้แนวโน้มสถานการณ์จะต้องเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

แต่มันจะสำคัญอะไร?

ก็แค่ในหอทงเทียน

สตรีเหล่านั้นและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในหอทงเทียนเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีพ้นจากชะตาถูกตัดศีรษะ!

เผ่ากลืนสวรรค์หาทางล้างแค้นมาหลายพันปีแล้วและจะเริ่มอย่างเป็นทางการในบัดนี้! เมื่อถูว่านกลับไปที่หอทงเทียนและย่างเท้าลงบนพื้นที่หอทงเทียนเขาอดคำรามด้วยความหยิ่งยโสไม่ได้ ต้องการใช้มิติว่างดักเขางั้นหรือ? ฝันไปเถอะ!

“ท่านเทพนักรบ! เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางได้สั่งให้ข้ารอการมาถึงของท่านเป็นพิเศษ”  ในท้องฟ้าไม่ไกลนักทหารเกือบหนึ่งร้อยคนจากแดนสวรรค์พุ่งเข้ามาหาเหมือนลูกธนู มีอยู่ห้าคนคุกเข่ากับพื้นแสดงความเคารพนักสู้ระดับเทพ หัวหน้าทหารผู้น้อยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองดูถูว่านได้แต่แสดงคารวะอยู่แทบเท้าของถูว่านเป็นการรายงานตัวต่อเทพที่ลงมาเยือน  “สถานที่ท่านอยู่ตอนนี้คือบันไดสวรรค์แห่งหอทงเทียนยังอยู่ห่างจากหุบเขาแม่น้ำขาวของบันไดสวรรค์ชั้นห้าซึ่งเป็นทางเข้าบันไดสวรรค์ที่แท้จริงไม่ถึงหมื่นกิโลเมตร”

“ดีมาก,ท่านตงฟางมักเตรียมการล่วงหน้าให้คนอื่นอยู่เสมอข้าพอใจกับงานที่พิถีพิถันของเขามาก” ถูว่านพอใจยินดีที่ทูตหมอบอยู่แทบเท้าของเขา เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเอื้อเฟื้อของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง

มีคนอยู่มากมายในแดนสวรรค์แต่จะมีสักกี่คนที่ได้รับการต้อนรับอย่างสุภาพเช่นนี้?

จักรพรรดิทอง?  จักรพรรดิอสูร?

ต้นทุนของพวกเขาจะเทียบได้กับตัวของเขาหรือ?

ไม่ต้องพูดถึงจอมภพแดนสวรรค์ตะวันออกตะวันตกและเหนือ  พวกเขาชอบเล่นตามลมแต่ในที่สุดพวกนี้ก็ว่างเปล่าไม่มีอะไร!

ถูว่านมีความสุขและทันใดนั้นเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องแสดงน้ำใจต่อเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางอย่างเร่งด่วนเพื่อตอบแทนความเอื้อเฟื้ออย่างดีของเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟาง  “ว่าไปซิ,เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางของเจ้าต้องการทำอะไร? แม้ว่าเราผู้เป็นเทพนี้มีเจตจำนงราชันย์แต่ก็ไม่รังเกียจจะฟังแผนการของสหายเก่า และข้าเชื่อมั่นในภูมิปัญญาของเขา  เขาคงต้องคิดอะไรบางอย่างไว้แล้วใช่ไหม?”

“ถูกแล้ว,เจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางพบว่ามีหนูตัวเล็กตัวน้อยของหอทงเทียนบางตัวที่ต้องการลอบสนับสนุนจักรพรรดินีราตรีให้สู้กับราชันย์ไร้ใจ ข้าหวังว่าท่านจะสามารถลงมือสกัดกั้นและฆ่าเจ้าพวกตัวตลกเหล่านี้ที่บังอาจขัดขวางการต่อสู้”  หัวหน้าทหารจากแดนสวรรค์มีคารมคมคายนักเขาประจบสอพลออย่างชาญฉลาดทำให้ถูว่านพึงพอใจราวกับได้ดื่มเหล้าชั้นดี

“กลับไปบอกเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางของพวกเจ้า  เรื่องนี้ง่ายมากเทพผู้นี้สามารถจัดการได้ง่ายๆ ครั้งต่อไปอย่าให้เทพอย่างข้าต้องมารับภารกิจอย่างนี้อีกมันไม่มีความท้าทาย  ช่างเถอะไม่ต้องบอกพวกเจ้าให้ชัดเจนนักก็ได้ เจ้ากลับไปรายงานหลังจากที่ทำตามคำสั่งแล้ว!  ไม่เพียงแค่หนูตัวน้อยที่แอบเข้ามาเท่านั้นแต่ยังเป็นจักรพรรดินีราตรีที่บังอาจคิดสู้กับราชันย์ไร้ใจเราผู้เป็นเทพจะสังหารนางเองในท่าเดียว!”ถูว่านโบกมืออย่างหยิ่งยโสไล่ให้ทหารเหล่านั้นกลับไป

เขาถือง้าวสายเลือดและใช้สำนึกเทพส่งออกไปในระยะพันลี้

ตรวจหาหนูน่ารำคาญหรือ?

ข้าจะต้องเข่นฆ่าสังหารดับความกระหายเลือดของข้าเสียที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด