ตอนที่แล้วบทที่ 25-26
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 29-30

บทที่ 27-28


บทที่ 27

เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

 

เมื่อพวกเธอเห็นรอยสักรูปกากบาทตรงข้อเท้า พันหม่าลี่ขมวดคิ้วแล้วร้องโวยวายเสียงดังทันที

นอกจากนี้ ตั้งแต่หัวจรดเท้ามีรอยฟกช้ำสีม่วงเขียวคล้ำมากมาย ทำให้เมื่อยิ่งมองยิ่งรู้สึกน่ากลัว

สุดท้ายแล้วพันหม่าลี่ได้รู้ว่าตัวเองโหดเหี้ยมมากแค่ไหน!

“ไม่นะ…” หวงหมาวและเป้าจ้าต่างส่งเสียงคร่ำครวญขณะที่พวกเขากำลังดึงกระสอบออกมา ถังซือซือเห็นแบบนั้นก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว

เมื่อกระสอบถูกดึงออกมา

เผยให้เห็นร่างของหลี่จิ้งอี๋ในสภาพดวงตาแข็งทื่อ นอนขดตัว และมีอาการสั่นไปทั่วร่าง สภาพเธอในตอนนี้บอกไม่ได้เลยว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มอันธพาลหญิงจริงรึเปล่า?

เสื้อผ้ายับยู่ยี่ทั้งตัว มีแต่รอยฟกช้ำกับทรงผมที่ดูยุ่งเหยิง น้ำตาของเธอทำให้เมคอัพบนหน้าละลายจนดูเหมือนผี ด้วยสภาพนี้เธอสามารถไปเที่ยวงานปาร์ตี้วันฮาโลวีนได้เลยโดยไม่ต้องแต่งหน้าเพิ่ม

นอกจากรอยฟกช้ำแล้ว พอเปิดดูตามร่มผ้าก็พบว่าแม้แต่ผิวพรรณที่อยู่ภายใต้ร่มผ้ายังมีรอยฟกช้ำด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีถุงเท้าส่งกลิ่นเหม็นอับสีแดงสดอุดปากอยู่ด้วย ซึ่งสีตรงกันกับถุงเท้าอีกข้างหนึ่งของถังซือซือ

เป้าจ้ารู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูกก่อนเอื้อมหยิบถุงเท้าออกจากปากของหลี่จิ้งอี๋ หลังจากนั้น หลี่จิ้งอี๋ก็ร้องไห้ออกมา ราวกับว่าเธอได้รับความเจ็บปวดทางกายอย่างรุนแรง

พันหม่าลี่มองหลี่จิ้งอี๋ที่สภาพเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในใจพันหม่าลี่รู้สึกโกรธที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน แล้วกลัวว่า   หลี่จิ้งอี๋จะหันหลังให้กับเธอ กังวลว่าพ่อแม่ของอีกฝ่ายจะเรียกร้องค่าเสียหายมากมาย

พันหม่าลี่อดรู้สึกโกรธตัวเองไม่ได้ เธอนึกขึ้นได้ว่าจะ   ถังซือซือจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย สายตาเหลือบไปเห็นไม้แบดมินตันที่อยู่ถัดจากถังซือซือพอดี

“ฉันจะตีแกให้ตาย!”

ถังซือซือสงบนิ่งอย่างใจเย็น ก่อนจะเหยียดมือซ้ายออกไปด้วยความเร็วสูง ตบไม้แบดมินตันในมือของพันหม่าลี่จนร่วงลงกับพื้นทันที

“ตึง!” ไม้แบดมินตันชื่อดังที่ลือกันว่ามีคุณภาพดีนักหนาแตกหักออกเป็นสองท่อน จนทุกคนตกตะลึง!

อีกมือหนึ่งของถังซือซือรีบเอื้อมออกไปคว้ามือของ       พันหม่าลี่ไว้

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!” พันหม่าลี่ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนหมูโดนเชือด เธอคุกเข่าลงกับพื้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดเผือดราวกับกระดาษ

แค่ถังซือซือออกแรงเล็กน้อย ข้อมือของพันหม่าลี่ก็พลิกจนเคล็ดขัดยอก

พันหม่าลี่กลัวจนถึงขีดสุด เหงื่อไหลออกมาทั่วใบหน้า ท่วมตัวจนเปียกโชกเสื้อผ้าไปหมด!

“ไม่ๆๆ!”

หวงหมาวรีบวิ่งหนีออกจากประตูไปอย่างไม่คิดชีวิต   ถังซือซือหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนสวนกลับด้วยลูกเตะอันสวยงามเข้าไปเต็มรักกลางอกของหวงหมาวทันที

หวงหมาวล้มลงนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ปวดร้าวเหมือนอวัยวะภายในจะแหลกเป็นเสี่ยง ๆ

ในขณะที่เป้าจ้ากำลังดูอาการหลี่จิ้งอี๋ จู่ ๆ ร่างก็สั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อเผลอเหลือบไปสบตาถังซือซือ ทั้งยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไปจนหวาดกลัวและไม่กล้าลุกหนีไปไหน

เดิมทีหวงหมาวและเป้าจ้าคอยติดตามหลี่จิ้งอี๋เสมอมา แต่พอผู้นำพ่ายแพ้ พวกเธอหรือจะกล้าลงมือด้วยตัวเองได้?

ความกลัวเริ่มกัดกินหัวใจของพวกเธอรวมถึงพันหม่าลี่ด้วย แม้แต่ตอนนี้พันหม่าลี่ก็ไม่สามารถโต้กลับอะไรได้เช่นกัน

พวกเธอทั้งหมดถูกความกลัวครอบงำจนสมบูรณ์!

เมื่อถังซือซือมองสีหน้าพันหม่าลี่อีกครั้ง สีหน้าของเธอดูเหมือนทำใจรับไม่ได้ที่เจอการสวนกลับแบบนี้

พันหม่าลี่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าถังซือซือจอมขี้ขลาดคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างไม่น่าเชื่อ!

ถังซือซือรู้สึกขบขันในใจ เพราะเธอเคยเป็นนักสู้ระดับปรมาจารย์ก่อนที่จะมาเกิดในโลกใหม่นี้ ความแข็งแกร่งของชาวดาวเคปเลอร์นั้นมากกว่าผู้คนบนโลกนี้อยู่มาก แม้ว่าร่างกายในตอนนี้จะอ่อนแอปวกเปียกก็ตาม แต่ก็ยังสามารถฟื้นฟูแล้วสร้างความแข็งแกร่งขึ้นใหม่ได้

“คุกเข่าลง!” ถังซือซือตะโกนออกไปด้วยความโกรธ เสียงดังมาก จนทำให้ทุกคนหูหนวกไปครู่หนึ่ง!

“ดะ เดี๋ยวก่อน!” หวงหมาวและเป้าจ้าคุกเข่าลงบนพื้นทันที ราวกับยอมจำนนต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่า

พวกเธอเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าจะยังติดสอยห้อยตาม หลี่จิ้งอี๋ต่อไปดีรึเปล่า? เพราะผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอนั้นคู่ควรแก่การติดตามมากกว่า

ถังซือซือถุยเศษขนมในปากลงพื้น ก่อนเหลือบมองไปที่เตียงของเธอ

หึ

ร่องรอยเย้ยหยันอันน่ากลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้า

บทที่ 28

ลืมไปแล้วรึไง

 

หวงหมาวและเป้าจ้าตัวสั่นด้วยความกลัวมากขึ้น

ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะ และเตียงนอนของถังซือซือ เต็มไปด้วยรอยหมึกปากกาที่เขียนคำสบถไม่น่าอ่านมากมาย รวมทั้งยังมีของใช้ส่วนตัวบางส่วนที่ถูกทำลายอีกด้วย

หมอนบนเตียงมีสภาพไม่ต่างจากกองขยะขนาดย่อม ไม่ว่าจะเป็นหนูที่ตายแล้วกับเข็มหมุดแหลมที่ถูกโปรยอยู่บนหมอน

“รุ่นพี่ซือซือ... พี่สาว... เดี๋ยวพวกเราทำความสะอาดให้นะ... ไม่ต้องกังวล...”

หวงหมาวและเป้าจ้าลุกขึ้นยืนด้วยอาการสั่นเทา

ไม่สนุกกันแล้วเหรอ เห็นเมื่อกี้ด่าฉันกันสนุกปากเลยนี่? ทำไมเปลี่ยนสีเปลี่ยนข้างเร็วจังล่ะ?

“พวกเราขอโทษ ทั้งหมดเป็นคำสั่งของพี่หม่าลี่กับจิ้งอี๋ พวกเราไม่ได้ตั้งใจ”

หวงหมาวรู้สึกกดดันมากขึ้นจนยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วมีความลังเลที่จะพูดอะไรต่อ

ถังซือซือถอนหายใจแล้วกะพริบตา ก่อนสังเกตเห็นว่าหวงหมาวกับเป้าจ้ากดดันจนตัวสั่นมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก

“เธอ หน้าตาดูดีนี่ แต่เรียนไม่ค่อยเก่งเลยเที่ยวไปแกล้งคนอื่นในมหาลัยสินะ พ่อแม่เธอรู้เรื่องบ้างไหม?” ถังซือซือชี้นิ้วไปที่หวงหมาว

หวงหมาวไม่กล้าตอบกลับอะไร

“เธอไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าผมทรงเอฟโฟร์เนี่ยมันเชยชะมัดยาด? ไม่รู้สึกขายขี้หน้าเวลาแบกทรงผมฟู ๆ เป็นขนตูดเป็ดเดินว่อนในมหาลัยบ้างเหรอ?”

เป้าจ้ารู้สึกอับอายขายขี้หน้าทันที เธอทนรอแทบไม่ไหวที่จะหยิบกล่องกระดาษมาคลุมหัว

“เธอก็อีกคน คนอื่นเขาทำผมสีม่วงเพื่อให้ดูลึกลับและดูดีมีสไตล์ แต่นี่อะไรของเธอ ฮึ ปล่อยให้สีผมทรงคุณค่าต้องต่ำต้อย ไม่รู้สึกว่าตัวเองดูน่าเกลียดบ้างรึไง?”

หลี่จิ้งอี๋นอนขดตัวไม่ลุกไปไหนแล้วเริ่มร้องไห้ออกมา

“แล้วก็...” ถังซือซือเหลือบมามองพันหม่าลี่อีกครั้ง เธอรู้สึกได้ว่าพันหม่าลี่ยังคงตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

“คนที่มีเงินควบคุมได้ทุกอย่าง พ่อแม่พวกเธอได้สั่งสอนให้รู้จักประโยคนี้บ้างไหม?”

หวงหมาวและเป้าจ้าพยายามคาดเดาว่าเธอกำลังจะทำอะไร พันหม่าลี่รู้สึกประหม่าขึ้นมา

“ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็ขึ้นราคาหมดเลยแฮะ แต่ทำไมของพวกนี้ถึงถูกจัง?”

ถังซือซือพูดจบแล้วก็แสดงสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนกดอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถือดัง “ติ๊ดๆๆ” อยู่สักพัก

“ผ้าห่มสามร้อยผืน หมอนห้าสิบใบ แล้วก็โคมไฟเล็กอีกห้าสิบดวง...”

“ทั้งหมดเก้าร้อยแปดสิบหยวน จ่ายเงินสดดีไหมนะ?”

ทั้งสามคนตกตะลึง เมื่อได้ฟังคำพูดของถังซือซือ

“พรุ่งนี้จะมีโพสต์วิดีโอใหม่ในกลุ่มข่าวหลักของมหาวิทยาลัยรึเปล่า ลองทายซิ? พาดหัวว่า ‘พันหม่าลี่จากคลาส E ของแผนกวรรณกรรม รวบรวมนักศึกษาอันธพาลมาทำลายทรัพย์สินของเพื่อนร่วมห้องในหอพัก แล้วไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง’ แบบนี้ไหม?”

วิดีโอ?

มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?

ถึงจะมืดไปหน่อยแต่เสียงก็ชัดเจนดี!

ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป โทษน้อยที่สุดพวกเธอก็แค่โดนสอบวินัย แต่จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ถ้าพวกเธอไม่ได้รับใบรับรองจบการศึกษา!

“ฉันจะจ่ายเงินคืนให้! พี่ซือซือ! ได้โปรดล่ะ ฉันขอร้อง!”

พันหม่าลี่รีบสะบัดมือออกแล้วไปหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาทันที เธอร้อนรนจนกดรหัสบัญชีผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“เอาล่ะ จ่ายฉันมาพันแปดร้อยหยวน”

อะไรกัน?

เมื่อกี้ยังเก้าร้อยแปดสิบอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?

เมื่อเห็นว่าพันหม่าลี่เริ่มแข็งข้อ ถังซือซือเอ่ยปากเตือนอย่างเย็นชา

“ลืมค่าอาหารเช้าที่ผ่านมาทั้งหมดไปแล้วรึไง?”

“ไม่ลืมหรอกซือซือ! เป็นความผิดของฉันเอง! ฉันจะโอนเงินคืนให้เดี๋ยวนี้แหละ”

“อืม คิดแค่สองร้อยแล้วกัน รวมเป็นสองพันหยวน”

“โอเค ดีเลย!” พันหม่าลี่น้ำตาซึม หลังจากพ่ายแพ้อย่างหมดรูป สูญเสียผู้สนับสนุน เสียเงินสำหรับใช้จ่ายตลอดทั้งเดือน เธอรู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อคิดถึงความพ่ายแพ้นี้

“โอเค”

เมื่อเห็นเงินจำนวนสองพันหยวน ถังซือซือออกคำสั่งไล่พวกเธอออกไปทันที

“ฉันไม่อยากนอนดึกเท่าไหร่ พวกเธอรีบไสหัวออกไปซะ”

“โอเค ได้ๆๆ!” พวกเธอยอมล่าถอยอย่างเต็มใจ

ทั้งสามไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ก่อนจะรีบอุ้มร่างของหลี่จิ้งอี๋ที่นอนหมดสภาพ แล้วรีบวิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็ว

ถังซือซือหยิบเสื่อโยคะออกมาจากตู้เสื้อผ้า

ขณะเดียวกัน ด้านนอกห้องมีนักศึกษาหลายคนโผล่หัวออกมาจากห้องพักของตัวเองเพื่อดูเหตุการณ์ พอพวกเธอเห็นกลุ่มของพันหม่าลี่ถูกไล่ตะเพิดออกมา ก็รีบแยกย้ายกันกลับห้องอย่างรวดเร็ว