ตอนที่แล้วตอนที่ 1270 หมาเฝ้าบ้านลืมเอากระดูกให้เจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1272 ดั่งวันวาน

ตอนที่ 1271 มีสุนัขชั้นต่ำที่ถูกทุบตี


จักรพรรดินีราตรีปล่อยวางความคิด

ดาราจักรเปล่งรัศมีและหมุนเร็วขึ้นทันที

ในบรรดาหมู่ดาวมีดาวทองเกือบร้อยดวงค่อยๆย่อลงกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มดาวนักษัตรที่จักรพรรดินีราตรีถนัดที่สุด กลุ่มดาวแกะ

นอกจากการกำเนิดขึ้นของกลุ่มดาวแกะพื้นที่สนามพลังดวงดาวทั้งหมดก่อเกิดเป็นพลังกฎสวรรค์ชนิดใหม่  นอกจากนี้ยังมีกลุ่มดาวนักษัตรอื่นที่อยู่ใกล้ๆช่วยสนับสนุน  พลังกฎของกลุ่มดาวคนคู่กลุ่มดาวกรกฎ (ปู) กลุ่มดาวราชสีห์ ฯลฯ กลุ่มดาวอีกหลายกลุ่มที่ค่อยๆเกิดขึ้นในทางช้างเผือก เมื่อกลุ่มดาวในทางช้างเผือกเกิดขึ้น พลังเทพของจักรพรรดินีราตรีจะเพิ่มสูงมากขึ้น  เมื่อใดก็ตามที่เกิดกลุ่มดาวในทางช้างเผือกสนามพลังดวงดาวจะเพิ่มความแข็งแกร่งอีกหนึ่งระดับ

ไม่ว่าเทพทวารบาลจางไห่จะไม่ธรรมดามากขนาดไหนก็ตาม  เขาจะต้องรู้สึกถึงความผิดปกติแน่นอน

คนผู้นี้เป็นศัตรูคนหนึ่งแน่นอน

เป็นนักสู้ชั้นเทพ

ไม่มีใครสงสัยในเรื่องนี้

จะล้มคนที่ทรงพลังมากขนาดนี้จักรพรรดินีราตรีต้องทุ่มเทพลัง

“ดวงดาว?  ของเล่นเล็กๆ น้อยๆ น่าสนใจนิดหน่อย  แต่พวกที่เพิ่งเลื่อนชั้นเป็นระดับเทพยังเป็นมือใหม่ ข้าผู้เป็นเทพนี้ต้องบอกเจ้าไว้ก่อนเลยว่ายังห่างไกลนัก!”  ในกระโจมที่พักน้อย จู่ๆพลังเทพก็ระเบิดออกมาเหมือนกับภูเขาไฟระเบิดบันไดสวรรค์ชั้นสิบสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งชั้น

สนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีก็เหมือนถูกปกคลุมด้วยพลังเทพมากมาย

หลังจากพลังเทพระเบิดออกจนถึงขีดจำกัด

ในพื้นที่ตรงกลางกระโจมน้อยที่พังปรากฏยักษ์ทองที่มีแสงเจิดจ้าทรงพลังมากกว่าดวงอาทิตย์

เห็นได้ชัดว่ายักษ์ทองเป็นร่างอวตารของเทพทวารบาลจางเว่ยสูงสามร้อยเมตรยืนอยู่ต่อหน้าสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีเขามีพลังกดดันที่น่ากลัวราวกับจะกลืนกินทั้งโลก

จักรพรรดินีราตรีโยนดาวแดงใส่ยักษ์ทองนี้

ร่างแท้จริงไม่คิดจะออกมาจากกระโจมทรุดโทรมองครักษ์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เทพทวารบาลจางเว่ยควบคุมยักษ์ทองโดยตรงผ่านสำนึกเทพ พลังกดดันจากประกายเทพ  ยักษ์ทองรับดาวยักษ์แดงด้วยพลังระเบิดไม่มีสิ้นสุด ธารน้ำแข็ง ภูเขาน้ำแข็งถูกยักษ์ทองระเบิด มิติระเบิดท้องฟ้าไร้สีสัน

อย่างไรก็ตามยักษ์ทองยังคงยืนเหมือนกับเสาค้ำฟ้า

ยืนอยู่ในท่ามกลางพายุมิติทำลายล้าง

ไม่มีความเสียหายแต่อย่างใด

“.....”  จักรพรรดินีราตรี นางรู้พลังของดาวยักษ์แดงดีและจางเว่ยไม่สามารถรอตัดสินได้

แม้ว่าสติของเขาไม่ค่อยดีแต่พลังของเขาแข็งแกร่งมาก

คนผู้นี้รู้ถึงประกายเทพด้วยหรือ?หรือว่ามีประกายเทพที่ไม่ธรรมดา

“พลังเท่าเมล็ดข้าวยังกล้าอวดโอ่อีกหรือ?”  จางเว่ยหัวเราะลั่นและกล่าว ยักษ์ทองซึ่งเป็นตัวแทนพลังเทพของเขาไม่เพียงแต่ไม่เป็นอันตราย  แม้แต่กระโจมน้อยทรุดโทรมและทหารเกราะทองก็ยังปลอดภัย  สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?นี่แสดงว่าเทพทวารบาลองครักษ์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์มีพลังเทพซึ่งสามารถแบ่งเป็นหลายส่วนได้ สามารถใช้ได้ทั้งรุกและรับทั้งสองด้าน

ร่างอวตารยักษ์ทองของจางเว่ยสะบัดฝ่ามือ

กวาดเอาทหารเกราะทองและผู้อาวุโสชุดทองที่ยืนอยู่หลบไปด้านข้าง

เขาขุดก้อนหินขนาดใหญ่กว่าภูเขาออกมาจากพื้นและชูอยู่เหนือศีรษะด้วยสองมือ จากนั้นแบกหินยักษ์ก้าวไปข้างหน้าและทุ่มหินยักษ์ขนาด600 เมตรใส่จักรพรรดินีราตรี สนามพลังดารารายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว

เพราะพลังเทพที่น่ากลัวหินยักษ์ถูกเปลี่ยนไปเป็นภูเขาไฟทันที

และถูกผลักดันด้วยพลังรุนแรงที่ทำลายได้ทุกอย่าง

สนามพลังดารารายซึ่งร่างของจักรพรรดินีราตรีซ่อนอยู่ถูกกระแทกเต็มที่

“.....”  จักรพรรดินีราตรีไม่พูดอะไรสักคำ  นางไม่ได้ถอยหรือหลบหน้าแรงกระแทกของภูเขานางเพียงแต่โบกมือเป็นวง

หลังจากภูเขาที่ลุกเป็นไฟพุ่งเข้าใส่สนามพลังดาราราย ทันใดนั้นมันละลายเหมือนก้อนหิมะใส่ในหม้อต้มน้ำ  ยกเว้นพลังปั่นป่วนในท้องฟ้าเล็กน้อย  ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแรงระเบิดของภูเขาไฟแทบจะไม่มีระลอกคลื่น เหมือนหินกระทบน้ำและจมหายมองไม่เห็น  บางครั้งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวก็แค่มีอาการแกว่งมีระยะไม่ถึงวินาทีก็ถูกยักษ์ทองของจางเว่ยจับอีกครั้ง

ดวงแสงสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ถูกสร้างขึ้นระหว่างฝ่ามือของยักษ์ทอง

ทันใดนั้นภูเขาพลันลุกไหม้

ระเบิดขึ้นในสนามพลังดาราราย

“ตายซะเถอะแม้แต่หินก้อนหนึ่งก็ยังจับไม่ได้ แต่ต้องการท้าทายปีศาจเฒ่าอย่างราชันย์ไร้ใจ  เจ้าต้องการให้คนอื่นหัวเราะจนฟันร่วงหรือ?!” จางเว่ยเชื่อว่าด้วยร่างยักษ์และการโจมตีด้วยหินขนาดใหญ่การโจมตีของพลังเทพก็เพียงพอจะบดขยี้ร่างของฝ่ายตรงกันข้ามและทำลายวิญญาณได้ อย่างน้อยก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส

บึ้ม บึ้ม บึ้ม.....

ในใจกลางสนามรบมีกลุ่มเมฆรูปดอกเห็ดสีแดงลอยสูงขึ้น

จากนั้นตามมาด้วยแรงระเบิดทำลายพื้นที่มิติจากพลังเทพ

ในขณะนั้นนั่นเองสนามรบทั้งหมดพังทลาย

ยกเว้นอวตารยักษ์ทองของจางเว่ยทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าใต้เท้าของมัน รวมทั้งพื้นโลกพื้นฟ้าแตกสลายและในที่สุดเมฆรูปดอกเห็นก็ถูกกลืนหายไปโดยรอยแยกมิติเวลาจนไม่เหลือให้เห็น

นอกเหนือจากพื้นที่มิติด้านหน้าของเขาแล้ว

ไม่มีอะไรให้เห็น

จักรพรรดินีราตรีและสนามพลังดารารายปกป้องนางดูเหมือนกับว่าไม่เคยมีอยู่ ในกระโจมทรุดโทรมมีเสียงเทพทวารบาลแค่นเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น  “เราเทพผู้นี้บอกแล้วว่านักรบแห่งหอทงเทียนล้วนแต่เป็นราชาขี้โม้โอ้อวดกันทุกคน นักสู้ระดับเทพคนไหนนางพญาผู้พิชิตล้วนแต่เป็นสวะทั้งนั้น! พวกเจ้ายังไม่ได้พบผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง แค่เอาชนะพวกเด็กๆได้แค่คนสองคนก็ภูมิใจอวดอ้างหน้าไม่แดง ไม่รู้จักละอายใจ  ถ้าได้พบกับเราผู้เป็นเทพในปีนั้นหัวนางพญาผู้พิชิตจะกลายเป็นแก้วใส่เหล้าของข้านางบอกว่าจะกวาดล้างแดนสวรรค์ที่ไร้เทียมทาน น่าขันเสียจริง!”

“โฮ่ง โฮ่ง!”

ไม่ทราบว่ามีเสียงสุนัขเห่าดังมาจากที่ใด

ดูเหมือนอสูรตัวนี้จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเทพทวารบาลจางไห่

หลังจากถูกยั่วโมโหเทพทวารบาลโกรธทันทีสุนัขจากที่ไหนบังอาจยั่วนักสู้เทพชั้นสูงให้โกรธได้

จากท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามีสุนัขธรรมดาตัวหนึ่งลิ้นยาวน่าตกใจ น้ำลายยืดเต็มปาก มันก้าวออกมาทีละก้าว  ถ้าเจ้านายของมันอยู่ที่นั่นด้วยคงไม่แปลกถ้ามันถูกเตะลงมาจากท้องฟ้า  โชคไม่ดีเขาไม่รู้ว่าหมาเฝ้าบ้านของใครวิ่งเข้ามาในสนามรบของเทพไม่สนใจความโกรธของเทพทวารบาลจางไห่องครักษ์อันดับหนึ่งแห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เจ้าสุนัขชั้นต่ำไร้สมองสงสัยทางบ้านของมันคงฝึกมาหนัก

หมาป่าสีสนิมชั้นบรอนซ์ระดับสามสิ่งมีชีวิตกระจอกอย่างนี้ถ้าเป็นเวลาปกติจางเว่ยจะไม่ชายตามองให้เสียเวลา

แต่ตอนนี้

เขาหมดความอดทนที่มีมาทั้งชีวิตแต่ยังระวังสังเกตสุนัขชั้นต่ำนี้อย่างระมัดระวัง

แม้ว่ามันจะดูแย่มากแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าสุนัขจรจัดนี่น่าตบแต่ว่ามันสามารถผ่านรอยแยกมิติเวลามาได้อย่างอิสระสิ่งที่ทำให้หัวหน้าองครักษ์นี้แทบบ้าก็คือเจ้าสุนัขนี่เอาแต่หยิ่งยโสไม่มีความละอาย  มันส่ายหน้าเชิดหัวจากนั้นผายลมดังป้าดไปทางกระโจมน้อยที่ร่างของเทพทวารบาลอยู่!  หลังจากการแสดงของเจ้าสุนัขยั่วโมโห มันทำสีหน้าเหมือนจะเยาะเย้ยว่าพอใจหรือยัง

จางเว่ยสาบานว่ามื้อต่อไปเขาจะต้องกินเนื้อสุนัข

ต้องกินให้ได้!

ถ้าเขาปล่อยให้เจ้าสุนัขชั้นต่ำนี้มีชีวิตต่อไปนั่นถือเป็นความน่าอับอายทั้งชีวิตของเขา

เขาเคยเห็นสุนัขมากมายแต่ไม่เคยเห็นสุนัขที่ล้อเลียนเขาได้มาก่อนในชีวิตมิหนำซ้ำยังเป็นสุนัขชั้นต่ำที่ไม่รู้จักประมาณตัวเอง!

“เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง?” เสียงของจักรพรรดินีราตรีดังออกมาจากรอยแยกมิติเวลาและมีดาวน้อยหนึ่งดวงลอยออกมา จากนั้นกลายเป็นดาราจักรที่มีดวงดาวนับไม่ถ้วนทันที

“เมี้ยว!”  เจ้าสุนัขชั้นต่ำยกขาหน้าขึ้นทำวันทยาหัตถ์เหมือนทหารรายงานตัว

“เดิมทีข้าคิดว่าจะต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดคาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมาถึงนี่ได้ ช่างเถอะ ข้ายกเจ้าผู้นี้ให้เจ้า ศัตรูยังมีอีกหลายคนข้าไม่อาจสู้ได้ทั้งหมด!” ในสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรี กลุ่มดาวเริ่มดับหายไปเหลือแต่เนบิวลาสุดท้ายที่ลึกลับครอบคลุมอยู่ โดยไม่สนใจความโกรธของจางเว่ยเงาร่างในแม่น้ำดวงดาวถอยห่างจากไป

“อะฮูวววววว!” เจ้าสุนัขชั้นต่ำมีความสุขมาก มันแสดงสีหน้าเจ้าเล่ห์ว่า มันต้องการกินเจ้าผู้นี้มานานแล้ว

มันส่งจักรพรรดินีราตรีด้วยความยินดี

จากสุนัขชั้นต่ำเปลี่ยนสีหน้าเป็นกราดเกรี้ยวรวดเร็วยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสือ

ในใจของจางเว่ยรู้สึกถึงขีดจำกัดยากจะทนทานเจ้าคิดว่านี่คือบ้านตัวเองหรือ? นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไปอย่างนั้นหรือ? และทิ้งการต่อสู้หนีไปกลางครันอย่างนี้หมายความว่ายังไง?  ไม่มีใครทนรับเรื่องแบบนี้ได้!

ตาย

ต้องตาย!

นอกจากนี้เขาจะไม่ยอมปล่อยเจ้าสุนัขนี่มีชีวิตรอดต่อไป!

มือยักษ์ทองของจางเว่ยยิงลำแสงพลังเทพออกจากนิ้วถี่หนาแน่นยิ่งกว่าสายฝน

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาต้องการกินเนื้อสุนัขต้มเขาเพียงแค่ทำลายทวีปที่อยู่ตรงหน้ายังง่ายกว่า ประสาอะไรกับการเอาชนะสุนัขเวรที่อยู่ข้างหน้า

“เฟี้ยว”  ลำแสงเทพยิงลงมาเป็นกลุ่มราวกับสายฝนเจ้าสุนัขชั้นต่ำอ้าปากหาวง่วงนอนอย่างเฉยเมยเหมือนสุนัขที่กินอิ่มและนอนหลับโชคดีที่นี่ไม่ใช่ทะเลมิฉะนั้นเจ้าสุนัขชั้นต่ำนี่คงกางเก้าอี้สวมแว่นกันแดดนอนอาบแดดอย่างสบายใจเป็นแน่  “ข้าผู้เป็นเทพสามารถฆ่าได้แม้กระทั่งเทพอย่าว่าแต่สุนัขชั้นต่ำตัวหนึ่ง!” จางเว่ยโมโหจนไฟแทบออกจากทวารทั้งเจ็ด

เขาต้องการหยุดพักและกินเนื้อสุนัข

คาดไม่ถึงแลย

กลับปล่อยให้สุนัขชั้นต่ำดูถูกเหยียดหยามได้

นี่เป็นเรื่องบัดซบ?แบบนี้เขายังจะมีชีวิตได้อีกหรือ?

หมัดยักษ์ทองเร็วกว่าสายฟ้าเป็นร้อยเท่ากระแทกลงที่เป้าหมายคือสุนัขเกียจคร้านที่ทำสะลึมสะลืออยู่ข้างหน้า

ปัง!

พลังของหมัดนี้ทำลายได้แม้กระทั่งมิติ

รอยแยกมิติเวลาแตกสลายมากกว่าเดิมแทบจะป่นเป็นผุยผง

เจ้าสุนัขชั้นต่ำรับพลังหมัดตรงๆไม่รู้ว่ามันถูกทำลายหรือไม่ หัวหน้าองครักษ์นี้คาดว่าแม้ว่าสุนัขชั้นต่ำนี้จะไม่ตาย แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะกลับมาเป็นสภาพสุนัขเดิมหลังจากจางเว่ยปล่อยพลังหมัดไปแล้ว เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อยเขาคิดว่าเขาควรจะจับสุนัขชั้นต่ำนี่ไว้ก่อนไม่ควรจะลงมือฆ่าทันทีเขาควรจะได้ระบายอารมณ์โกรธและความอึดอัดก่อนเคี้ยวกันลงไปในคำเดียว

ด้วยวิธีนั้นเขาค่อยระบายความเกลียดชังออกไปได้บ้าง

เพื่อระบายความอับอายให้ตนเองในฐานะที่เขาเป็นนักสู้ระดับเทพแต่ต้องมาถูกยั่วยุหยามหยันโดยสุนัขชั้นต่ำ

“ฮ้าดชิ้ว!” ไม่ทราบว่าเสียงสุนัขชั้นต่ำดังออกมาจากไหนมันจามอย่างแรงภายใต้สายตาของทุกคน เจ้าสุนัขชั้นต่ำวิ่งส่ายหัวออกมาจากมิติความว่างเปล่ามาจนกระทั่งถึงเท้ายักษ์ทองจากนั้นยกขาหลังฉี่รดยักษ์ทองอย่างหน้าตาเฉย

เหมือนกับว่ามันกลัวจะไม่มีใครเห็นมันทำท่าสะบัดฉี่ของมันไปที่ยักษ์ทองเจ็ดแปดครั้ง

เหมือนกับฉี่ไม่สุด

มันทำสีหน้าท่าทางทำนองว่า ‘ถ้าเจ้าไม่พอใจ ข้าฉี่ต่ออีกหน่อยก็ได้’ สีหน้าท่าทางเจ้าเล่ห์

เทียบกับเจ้าอ้วนแห่งหอทงเทียนแล้วเจ้าหมาชั้นต่ำนี้หน้าด้านกว่าเป็นร้อยเท่าต้องบอกว่ามันยั่วโมโหได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถ้าให้เทียบกับเจ้านายของมัน  เจ้าหมาชั้นต่ำนี้ยังต้องพัฒนาฝีมือ

จางเว่ยโมโหปอดแทบระเบิดและคิดแบบนั้นในใจ

เจ้าหมานี่ดูถูกเขา

เมื่อมันมาอยู่ต่อหน้าเขา

มันเกิดมาเพื่อโดนทุบตีโดยแท้!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด