ตอนที่แล้วตอนที่ 1257 ทักษะแฝงเร้นเสน่ห์นางงาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1259 เจ้าคิดว่าเย่ว์ไตตันตายหรือ?

ตอนที่ 1258 จักรพรรดิทอง


แท่นบูชายัญหุบเขาแม่น้ำขาว บันไดสวรรค์ชั้นห้า

เมื่อเย่ว์หยางเสนอต่อสู้เดิมพันไม่ว่าจะเป็นเผ่าปีศาจทมิฬ เผ่ามังกรฟ้าหรือเผ่าเก้าหัว ไม่มีใครตอบสนองทันที คนขึ้นเวทีก่อนไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้สามารถกินปูได้คนแรก  ตรงกันข้ามคนแรกมักถูกกำจัดก่อนกลายเป็นหินรองเท้าให้คนอื่นก้าวข้าม จะยิงนกก็ต้องยิงตัวที่โผล่หัวออกมาไม่ว่าหอทงเทียนและแดนสวรรค์ก็เข้าใจความจริงข้อนี้

ขณะที่หลายคนทำเป็นเงยหน้ามองฟ้าทำเป็นไม่ได้ยินเย่ว์หยางมีคนผู้หนึ่งก้าวขึ้นเวที

เขาขึ้นไปนั่งบนแท่นบูชายัญ

เงียบไม่พูดอะไร

ไม่สำคัญว่าใครจะรู้จักเขาหรือไม่  ทุกคนไม่คิดว่าคนผู้นี้ควรต่อสู้เพื่อลิ้มรสผลแห่งชัยชนะเป็นคนแรก

ทำไม?

คำถามนี้อย่าว่าแต่พวกเขาเลย  แม้แต่คนที่เตรียมตัวไว้ดีอย่างเย่ว์หยางและบัณฑิตวัยกลางคนก็งงเช่นกัน

คนที่เป็นไปได้น้อยที่สุดที่สมควรลงมือต่อสู้กลับอาสาออกมาเป็นคนแรก

และเป็นฝ่ายเริ่มสู้กับเย่ว์หยาง

ทำไมกัน?

ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นทั้งหมดมองดูเขา

คนผู้นี้ดูแข็งแกร่งมากและดูไม่เหมือนว่าสมองตาย

ลักษณะของเขาแข็งแกร่งรูปหน้าเหมือนรูปแกะสลักผมสั้นลู่เอนต้านลมเหมือนเข็มรูปหน้าของเขาเป็นแนวเส้นชัดเจนราวกับสลักขึ้นด้วยมีดหรือสิ่วราศีของบุรุษผู้ถ้าย้อนเวลากลับไปช่วงที่เป็นหนุ่มอาจทำให้สาวๆ ที่เห็นใจเต้นรัวใบหน้าของเขามีความเป็นผู้ใหญ่ ดวงตาเด็ดเดี่ยว และร่างของเขายืนเด่นราวกับป้อมปราการที่แข็งแกร่งทรงพลังน่าเกรงขาม

เมื่อเห็นบุรุษผู้สง่างามมีพลังสามารถกลืนโลกและสวรรค์ได้ก้าวเดินทีละก้าวๆ มังกรสองหัวรู้สึกอึดอัดทรมานอย่างช่วยไม่ได้

ราชินีเหม่ยเยี่ยนผู้มีเปลวไฟคลุมทั้งร่างมองดูด้วยความสั่นกลัวนางเค้นเสียงออกมาจากลำคออย่างช่วยไม่ได้

“ท่านคือจักรพรรดิทองท่านคือเจ้านายใหญ่แห่งเผ่ากาทองสามขา หุบเขาสุริยันต์”

จักรพรรดิทอง!

ทันทีที่ชื่อนี้ถูกระบุบรรยากาศผู้อยู่ในเหตุการณ์เปลี่ยนเป็นหนักอึ้งหลายเท่าทันที

แม้ว่าพวกมังกรสองหัวจะคาดเดาได้ถูกต้อง  แต่เขาไม่ต้องการระบุชื่อออกมาได้ง่ายๆ เพราะนั่นเป็นชื่อที่ทรงพลังน่าเกรงขามอย่างยิ่ง  ตอนนี้ราชินีเหม่ยเยี่ยนพูดออกมาโดยไม่ตั้งใจ  ทุกคนที่ได้ยินอดใจสั่นสะท้านไม่ได้

มังกรสองหัวตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจชัดนักว่าทำไมผู้แข็งแกร่งอย่างจักรพรรดิทองถึงไม่รอให้จบการต่อสู้และเหตุการณ์นิ่งเสียก่อน?  เขาไม่จำเป็นต้องลงมือเลยแม้แต่น้อยไม่ว่าข้อพิพาททั้งหมดได้รับการตัดสินทุกคนล้วนยินยอมแบ่งส่วนแบ่งให้กับเผ่ากาทองสามขาอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นแดนสวรรค์หรือหอทงเทียนไม่มีใครกล้าทำเช่นนั้น

เชื่อได้ว่าแม้กระทั่งเจ้าตำหนักสูงสุดยอดนักสู้อันดับหนึ่งผู้แข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์ก็คงลังเลที่จะมีสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับจักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขา

จักรพรรดิทองสามารถกำชัยชนะสุดท้ายได้โดยไม่ต้องลงมือ ทำไมเขาต้องอาสาสู้กับเย่ว์ไตตันผู้นั้นก่อน?  เขาไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้เลยแม้แต่น้อย!  ด้วยตัวตนและสถานะของเขา ด้วยพละกำลังของเขาเขาสามารถมอบหมายยอดฝีมือในตระกูลมาแทนเขาเพียงแต่รอชัยชนะสุดท้ายที่สมควรได้ แต่นี่เขากลับอาสาด้วยตนเองเพื่อต่อสู้ตั้งแต่รอบแรกเลยทีเดียว หมายความว่าจักรพรรดิทองมีความเป็นศัตรูหรือหนี้เลือดกับหอทงเทียนที่ไม่มีใครรู้?

เย่ว์หยางเองก็ยังคงงงอยู่มาก

เจ้านายใหญ่ควรอยู่ในอาณาเขตตนเองรอให้ทุกคนลงมือไปก่อนไม่ใช่หรือ

ทำไมเขาถึงวิ่งเข้าหามือใหม่? นอกจากนี้ดูเหมือนเป็นผู้เล่นที่มีความคิดเป็นของตนเอง?  มีเหตุผลพิเศษอะไรหรือเปล่า?

“นี่เรารู้จักกันหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางตัดสินใจถามตรงๆ

“ไม่รู้” จักรพรรดิทองปฏิเสธ

“อย่างนั้นข้าเคยวางเพลิงเผาบ้านเจ้าพังประตูบ้านเจ้าจนต้องเปลี่ยนใหม่หรือเปล่า?” เย่ว์หยางลูบหลังหัวเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดมาก่อน

“ไม่” จักรพรรดิทองส่ายหน้า

“อย่างนั้นหน้าของข้ากวนโมโหหรือเปล่า?”  เย่ว์หยางหดหู่ใจใบหน้าของเขาดึงดูดความเกลียดชังของผู้คนหรือเปล่า?

“ข้าดูไม่ออกเหมือนกัน”  จักรพรรดิทองบอกว่าไม่ใช่เหตุผลนี้

“อย่างนั้นท่านรีบออกมาสู้กับข้าด้วยเหตุผลอะไร?  ใบหน้าของข้าก็ไม่ได้ยั่วยวนกวนโมโหท่านสักหน่อย  ท่านดูดีมีราศี ท่านไม่ควรรังแกผู้น้อยกว่านั่นไม่ใช่การกระทำของผู้เจริญเลย!”  เย่ว์หยางกังวล  เขาแสดงสีหน้าทำนองว่า ‘ถ้าเจ้ากล้ารังแกข้า  ข้าจะร้องไห้จริง’

“ข้าขอโทษ” จักรพรรดิทองขอโทษเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกจริงใจ “ที่จริงแล้วข้าไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า แต่เป็นเพราะข้าเป็นหนี้บุญคุณใหญ่ของคนบางคน  ข้าจึงต้องลงมืออย่างช่วยไม่ได้”

“ท่านเป็นหนี้บุญคุณก็ไม่ควรมาทุบตีข้าเพื่อทดแทนบุญคุณ!”  เย่ว์หยางรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเกินไป

“แม้ว่าต้องลงมือกับเจ้าบ้าง แต่ข้าคาดว่าการทดแทนคุณครั้งนี้ก็แทบทำอะไรเจ้าไม่ได้”  จักรพรรดิทองตอบตามตรง

“ยังมีบุญคุณอื่นๆ อีก  ข้าช่วยลูกท่าน สะใภ้ท่านและหลานของท่านไว้!  แล้วนี่จะนับได้อย่างไร?” เย่ว์หยางจำองค์ชายแปดอูไห่ได้ทันทีว่าดูเหมือนจะเป็นบุตรของผู้อาวุโสท่านนี้เริ่มแรกเขาช่วยไข่ที่เป็นลูกขององค์ชายอูไห่และสนมกระเรียนมงกุฏส่วนเป่าเอ๋อช่วยไข่แฝดอีกใบไว้ได้ แม้ว่าการทำดีนี้จะเป็นเรื่องที่ได้เปรียบ แต่เย่ว์หยางยังไม่ถึงกับเป็นเยาวชนตัวอย่างที่ทำดีโดยไม่ต้องการผลตอบแทน ตอนนี้เป็นวิกฤตของหอทงเทียนว่าจะอยู่รอดได้หรือไม่  ถ้าเขาสามารถอ้างเอาบุญคุณได้  อย่างนั้นก็ต้องพูด  ต่อให้ต้องทำหน้าด้านเข้าไว้ก็ไม่เป็นไร!

“ข้าเคยได้ยินเรื่องนี้และข้าก็รู้สึกซาบซึ้งขอบคุณในการช่วยเหลือของเจ้า  ลูกดื้อที่ไม่เชื่อฟังสมควรตายแต่หลานน้อยผู้น่ารัก ถ้าไม่ได้เจ้าช่วยไว้ บางทีอาจกลายเป็นอาหารหรือกลายเป็นอสูรศึกที่ถูกทหารรับจ้างชั้นต่ำกดขี่ข่มเหง” จักรพรรดิทองพยักหน้ายืนยันว่าสิ่งที่เย่ว์หยางทำนั้นเป็นความดี

มังกรสองหัวเมื่อได้ยินรู้สึกไม่ชอบใจ  เขาหันไปมองบัณฑิตวัยกลางคนทันที

ตอนนี้ดูเหมือนลมเปลี่ยนทิศหรือเปล่า?

จักรพรรดิทองผู้นี้เป็นคนเมตตารู้คุณคนยิ่งนักเขาถูกเชิญมาให้พิชิตหอทงเทียน แต่ลูกหลานของเขากลับประทับใจเย่ว์ไตตันลึกซึ้ง  และเขาไม่เคยรายงานเลยว่าเขาเป็นคนแรกที่อาสาก่อนใคร หรือว่าเขาต้องการจะคืนดีกับเย่ว์ไตตันผู้นี้  หากเป็นเช่นนี้จริง นับว่าน่าเสียดายจักรพรรดิทองเป็นผู้ช่วยสำคัญของแดนสวรรค์ เมื่อมีเขาอยู่ด้วยยิ่งมีโอกาสชนะถึงเจ็ดส่วน

ในทางกลับกันถ้าจักรพรรดิทองชอบเย่ว์ไตตันจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก

เขาควรจะทำประการใด?

ทุกคนให้ความสนใจบัณฑิตวัยกลางคนอีกครั้ง

พวกเขาหวังว่าด้วยชื่อเสียงนักยุทธศาสตร์อันดับหนึ่งของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์เขาจะพูดเหมือนกับที่ส่งข้อความให้ทุกคน และให้ความมั่นใจกับทุกคนได้

บุรุษวัยกลางคนไม่พูดหน้าของเขายังคงยิ้มราวกับว่าไม่ได้ยินการสนทนาระหว่างเย่ว์หยางกับจักรพรรดิทองความมั่นใจในตนเองที่คาดคิดไม่ถึงของเขาทำให้มังกรสองหัวตะลึงมากยิ่งขึ้น  คนอย่างเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางยังสงบอยู่ได้หรือว่าเขามีไม้ตายลับอย่างอื่นอีก?

“ข้าทำดีกับท่านและไม่ได้รุกรานยั่วยุท่านก็เหมือนคนกันเองอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรเล่า?”  เย่ว์หยางสรุป

“เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนจากศัตรูกลายเป็นสหาย”  จักรพรรดิทองส่ายหน้าช้าๆ  “ถ้าเราผู้เฒ่าฆ่าเจ้า อย่างนั้นเจ้าก็ให้ลูกหลานมาล้างแค้นข้าเมื่อพวกเขาเติบโตเพื่อทวงบุญคุณความแค้นที่ได้รับการช่วยเหลือตอนนั้น”

“โธ่เว้ย!”  เย่ว์หยางโมโหจนอยากอาเจียนเป็นเลือด

คุณชายผู้นี้จะฆ่าผู้อาวุโสอย่างท่านก็ต้องให้หลานตัวเองหาทางล้างแค้นเหมือน ข้าไม่ต้องให้เจ้าคิดแทนก็ได้

มังกรสองหัวและพวกฟังคำพูดของจักรพรรดิทองก็อดหัวเราะไม่ได้ ในเวลาเดียวกันพวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นเป็นร้อยเท่าในแผนกลยุทธ์ของบัณฑิตวัยกลางคนสมกับเป็นคนที่ฉลาดที่สุดจากตำหนักกลางถ้าเป็นเขาทำ อย่างนั้นต้องแน่ใจว่าไม่มีช่องว่าง! ไม่ว่าเย่ว์ไตตันจะมีพลังยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตาม  แต่สำหรับเผ่ากาทองสามขา  ดูเหมือนว่าหัวใจของจักรพรรดิทองจะไม่เปลี่ยนใจ  มีจักรพรรดิทองเป็นศัตรูที่ทรงพลังเย่ว์ไตตันนี้แม้มีความสามารถต้านสวรรค์ก็ไม่มีทางต่อต้านจักรพรรดิทองได้  เขาต้องตายแน่นอน

เย่ว์หยางไม่เคยเป็นฝ่ายถูกรังแกมาก่อนในชีวิต  เขามักเป็นฝ่ายรังแกคนอื่นอยู่เสมอ ทุกวันนี้คนที่ถูกเขารังแกก็ยังมิอาจทวงคืนความยุติธรรมได้

เขางงพูดไม่ออก

ต่อไปเขาได้แต่ยอมรับเงียบๆหรือว่าจะฉีกศัตรูกลืนกินลงท้องดี?

อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางไม่เคยยอมรับว่าเป็นผู้นั้น

เขาไม่ใช่คนที่ถูกกลั่นแกล้งแล้วเงียบเฉยแน่นอน

ยืนหยัดสู้จนตายดีกว่าคุกเข่าเพื่อให้มีชีวิตอยู่

สู้

ต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว

นี่คือคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้มีชื่อเสียงแห่งหอทงเทียน

เย่ว์หยางค่อยๆดึงดาบจันทร์เสี้ยวมาถือไว้ในมือ สูดหายใจลึก และผ่อนลมหายใจระบายความรู้สึกแง่ลบในใจออก

ปลายดาบชี้ตรงมาที่จักรพรรดิทองผู้ยืนอยู่ตรงหน้ามั่นคงไม่หวั่นไหวและท้าทาย  “เข้ามา!  จักรพรรดิทองแห่งเผ่ากาทองสามขาหุบเขาสุริยันต์ หากเจ้ารู้สึกว่าการรังแกคนรุ่นหลังสามารถสนองตอบอารมณ์และทดแทนบุญคุณของตัวเจ้าได้ก็เข้ามา ข้าผู้เป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่แห่งหอทงเทียนขอบอกเจ้าไว้ก่อน  ข้าคือศิษย์ของนางพญาผู้พิชิตและขอบอกเจ้าข้าคือเจ้าของในอนาคตของดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจะบอกเจ้าเองว่าอะไรถูกอะไรผิด!  สิ่งที่เจ้ายืนยันเป็นเพียงข้ออ้างไร้สาระที่เจ้าสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความคิดที่บิดเบือนของเจ้า อย่ามัวดื่มด่ำหลงระเริงกับคำพูดและการกระทำของเจ้าเพียงเพราะเจ้าคิดว่าตนเองเป็นผู้อาวุโส  ในโลกนี้ข้อแก้ตัวที่ไร้สาระเป็นเรื่องน่าตลกเสมอไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้และโน้มน้าวใจได้”

“ข้ารู้แต่เพียงว่าเทพเท่านั้นที่พูดจริง” จักรพรรดิทองเงยหน้าและระเบิดพลังเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์กาทองทำให้ให้มังกรสองหัวและคนอื่นต้องถอยออกไปทันที รัศมีจากร่างของเขาทรงพลังยิ่งกว่าดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าเป็นพันเท่า

จักรพรรดิทองใช้พลังเทพจ้องมองมาทางเย่ว์หยาง

เขายื่นมือออกและฉายรังสีสุริยันต์

เขาชี้มาทางเย่ว์หยาง  “หนุ่มน้อย ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า  ข้าเป็นนักสู้ระดับเทพแท้  ดังนั้นสิ่งที่ข้าพูดไม่ว่าเจ้าจะคิดว่าถูกหรือผิดนั้นไม่สำคัญ เพราะมันคือสัจธรรมความจริงชนิดหนึ่งที่เป็นของข้าอยู่กับข้าซึ่งมีพื้นฐานเป็นเทพและพลังเทพของข้าไม่ตาย และไม่ถูกทำลาย หนุ่มน้อยเจ้าได้ยินชัดเจนแล้วใช่ไหม?”

ภายใต้แสงเจิดจ้าของพลังเทพจักรพรรดิทองเย่ว์หยางไม่สามารถเผชิญหน้าเขาโดยตรงได้

เขายกมือป้องดวงตาของเขา

แม้ว่าเขาจะมีจักษุญาณทิพย์

แต่เขาไม่สามารถลืมตาในท่ามกลางแสงเจิดจ้านี้

นี่คือพลังเทพของจักรพรรดิทองที่เกิดจากประกายเทพของจักรพรรดิทองรวมทั้งพลังเจตจำนง

“ถ้าเจ้าได้ยินชัดเจน ก็จงตายอย่างวางใจได้!  เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะรอดชีวิตจากเจตจำนงของข้าในโลกนี้ได้  เพราะเจ้าไม่ใช่เทพและเจ้าไม่ใช่เทพแท้ที่มีประกายเทพและพลังกฎสวรรค์!”  เสียงของจักรพรรดิทองเหมือนกับสายฟ้าไกลๆเมื่อเขาพูดจบเขาชูมือฉายลำแสงที่สว่างรุนแรงกว่าดวงอาทิตย์พันเท่าและหมื่นเท่าทันที

ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ข้างหน้าเขาไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทำลายไม่ได้ของแท่นบูชายัญมิติบันไดสวรรค์ที่มีผนึกป้องกันถูกทำลายทันที

สูญสลายหายไป

จักรพรรดิทองที่อยู่ข้างหน้าคือเทพแท้

สิ่งมีชีวิตใดๆที่ละเมิดเจตจำนงของเขาจะหายไปและตายไปตลอดกาลทันที

****** ***

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด