ตอนที่แล้วตอนที่ 1245 สวรรค์และโลกคือกระดาน ทุกสิ่งอย่างคือตัวหมาก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1247 ต้นดอกหนาม ไม่ใช่อสูรอ่อนแอ

ตอนที่ 1246 ขุนพลเทพไท่หยาง


“ข้าจะเล่นหมากนี้กับเจ้า”  เย่ว์หยางสูดหายใจลึกปรับอารมณ์ตนเองให้อยู่ในสภาพดีที่สุด แล้วค่อยหยิบชิ้นหมากรุกขึ้นมาและค่อยๆวางลงบนกระดานหมากรุก

ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใดศึกนี้ก็ต้องสู้

ไม่เพียงแต่ต้องทุ่มเทเท่านั้น  แต่เขาต้องชนะ

ทำเพียงเท่านั้นก็พอ

หอทงเทียนจะมีอนาคตและรุ่งเรืองอย่างแท้จริง!  โลกจะได้เกิดใหม่ แม้จะต้องเจ็บปวดยากจะทนทานก็ต้องเสียสละอย่างไม่มีเงื่อนไขไม่เพียงแต่บุคคลเท่านั้นแม้แต่เผ่าพันธุ์ ประเทศ แม้แต่ทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้! ถ้าหอทงเทียนต้องการได้รับชีวิตใหม่และรุ่งเรืองขึ้นมาก็ต้องลุกขึ้นก้าวผ่านตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ต้องผ่านการทดสอบพวกเขาต้องออกมาจากเงาของแดนสวรรค์

แม้ว่าตงฟางผู้ทรยศหอทงเทียนนี้จะวางแผนมาเป็นเวลาหลายพันปีวางตาข่ายฟ้ากับดักกลไกเพื่อดูหอทงเทียนล่มสลายพังทลายลง

แต่เย่ว์หยางจะไม่ยอมให้เรื่องนั้นเกิดขึ้น

เขาไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำจะถูกต้องเต็มร้อย แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขามีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น  อย่างน้อยเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองได้

เริ่มด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน!

หากทุกคนในหอทงเทียนเปลี่ยนแปลงจากตัวเอง  อย่างนั้นเขาเชื่อว่าพลังใดๆ ในโลกรวมทั้งเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางผู้ทรยศหอทงเทียนมาเป็นหมื่นปีไม่มีใครที่มีพลังเอาชนะหอทงเทียนที่รวมตัวเหมือนเกลียวเชือกได้เด็ดขาด

การรุกรานครั้งใหญ่ของกองทัพแดนสวรรค์แทนที่จะบอกว่านี่คือหายนะครั้งสำคัญแต่ควรจะบอกว่าล้มเพื่อลุกขึ้นใหม่ต่างหาก

ขอเพียงแต่ออกจากหายนะและเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่ง

ด้วยวิธีนี้เท่านั้นพวกเขาจึงจะสามารถเชิดหน้ายืดอกกลายเป็นชาวหอทงเทียนที่มีความมาดมั่นภาคภูมิใจมีคุณสมบัติในการได้รับเกียรติอันสูงส่งเช่นเดียวกับบรรพบุรุษยุคก่อนโน้นอีกครั้ง!

“เกมหมากรุกนี้เจ้าแพ้แล้ว ก็เหมือนกับจ้านฟงที่พ่ายแพ้ในปีนั้น”  บัณฑิตวัยกลางคนยิ้มด้วยความมั่นใจ

“ข้าไม่ใช่จักรพรรดิอวี้จ้านฟง!”  เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชา

“เจ้าไม่ใช่เขาจริงๆ  เจ้ายังไม่เก่งเท่าเขา”  บัณฑิตวัยกลางคนหัวเราะลั่น  “ในแง่ความเจ้าเล่ห์ เจ้าเหนือกว่าเขา  แต่ในแง่อื่นเจ้าไม่สามารถเทียบได้ในเรื่องรูปแบบสงครามเลยไม่สิ ด้วยความแข็งแกร่งและความคิดในปัจจุบันของเจ้าเจ้าไม่สามารถเทียบการทำสงครามได้! หากไม่ใช่เพราะเฟ่ยเหวินหลีเก็บคอยสนับสนุนเจ้าอยู่ข้างหลังเจ้าจะจัดการจ้าวสุริยา หรือจักรพรรดินีฟ้าแห่งเผ่าเก้าแสงได้หรือ! ทำไมเจ้าถึงทำหยิ่งยโสต่อหน้าผู้อาวุโสเล่า? ผู้เยาว์อย่างเจ้าช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ”

บัณฑิตวัยกลางคนพูดจบก็โบกแขนเสื้อเบาๆอีกครั้ง

ภาพในท้องฟ้าไม่ได้หายไป

เจ้าอ้วนไห่เย่คงและเสวี่ยทันหลางกับพวกยังคงอยู่  แต่มีจุดแสงหนึ่งอยู่ข้างนอกภาพ

เป็นแสงสว่างยิ่งกว่าดวงดาวพุ่งตกลงมาด้วยความเร็วสูงตอนแรกยังห่างไกลจากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่แห่งไกล แต่ภายในไม่กี่วินาทีก็มีแสงสว่างรุนแรงชัดเจนไฟลุกพรึ่บพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

“บึ้ม!”

เสียงระเบิดดังสนั่น

ควันมืดครึ้มม้วนตัวขึ้นเป็นรูปดอกเห็ดขนาดใหญ่

แรงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวกวาดไปทั่วแผ่นดินแผ่นฟ้ากว้างใหญ่ทันทีเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ไม่สามารถอยู่ในท่ายืนได้รีบหมอบลงกับพื้นทันทีและในเวลาต่อมาพวกเขาถูกเหวี่ยงขึ้นลงจากแรงระเบิด  สองที่น้องตระกูลหลี่ลงมือพร้อมกันพวกเขาใช้ขาทะลวงลงไปในพื้น  อย่างไรก็ตามพื้นหินภายใต้เท้าทั้งสองคนแตกระเบิดอัดกระแทกทั้งสองคนลอยขึ้นไปเป็นหมื่นเมตร

แม้แต่คุณชายหลี่หมิงผู้ทรงพลังก็ยังกระเด็นถอยหลังเพราะแรงระเบิดควบคู่กับการใช้ของวิเศษช่วยปกป้องแต่ก็ยังหมุนคว้างอยู่ในท้องฟ้าหลายสิบตลบก่อนจะหลีกเลี่ยงแรงระเบิดและร่อนลงพื้นได้อย่างปลอดภัย

มีเพียงคนเดียวที่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยสองขาก็คือเสวี่ยทันหลาง

เขาผนึกพื้นที่รอบๆด้านด้วยพลังน้ำแข็ง

อย่างไรก็ตามแม้จะทำเช่นนี้

เสวี่ยทันหลางกับยักษ์พายุช่วยกันต้านพลังระเบิดอย่างเต็มที่ก็ยังถูกแรงระเบิดไถลออกไปถึงร้อยเมตร

ใต้ฝ่าเท้าของเขามีหลุมที่ค่อยๆลึกตามลำดับถึงครึ่งเมตรดูน่าตกใจปรากฏอยู่ข้างหน้าเสวี่ยทันหลางเป็นรอยที่เขาใช้พลังเท้าต้านรับพลังระเบิด..พร้อมกันนั้นองค์ชายเทียนหลัวและหญิงสาวเท้าเปล่าซึ่งวิวัฒนาการมาจากนกนางนวลสายลม

องค์ชายเทียนหลัวและนกนางนวลสายลมไม่มีพลังต้านทานที่แข็งแกร่งเหมือนเสวี่ยทันหลาง

ทั้งสองถูกแรงระเบิดอัดกระแทก

กระเด็นใส่ผนังหินยุบลงไปในพื้นหินเป็นรูปมนุษย์

สาวนกนางนวลยังพอทำเนาเพราะในช่วงนาทีสุดท้ายเจ้าอ้วนไห่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นใช้ร่างเลือดเนื้อรองรับอยู่ด้านหลังนางแม้ว่าจะเจ็บตัวเล็กน้อย แต่แรงกระแทกส่วนใหญ่ถูกเจ้าอ้วนไห่สลายออกไปได้ องค์ชายเทียนหลัวที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดตลอดทั้งร่างฝังเข้าไปในผนังหินกระดูกสันหลังและแขนหัก มีโลหิตไหลออกมาจากปาก เขาดูแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง

“หมากตานี้เจ้าต้องแพ้อย่างมิต้องสงสัย!” บัณฑิตวัยกลางคนยกเบี้ยสีขาวขึ้นเบาๆ และตบลงพื้นหินอย่างสง่างามและประกาศผลราวกับศาสดาพยากรณ์ “ในทุกตาเดินของเจ้าอยู่ในการคำนวณของข้าแล้ว  ทุกตาของเจ้ามีแต่ล้มเหลวพ่ายแพ้”

เขาวางหมากนี้ข้างๆหมากของเย่ว์หยาง

หากไม่มีขั้นตอนดังกล่าว

จากนั้นชิ้นหมากทั้งหมดบนกระดานดูเหมือนจะไม่มีปัญหาใดๆ  แต่ในตอนนี้เย่ว์หยางรู้สึกบางอย่างได้ทันทีหมากขาวที่กดอยู่ข้างๆ จะทำให้หมากพ่ายแพ้ทั้งกระดาน ฝ่ายตรงข้ามกดดันเย่ว์หยางจนอยู่ในสภาพแย่ที่สุด

เย่ว์หยางสีหน้าเปลี่ยน

แน่นอนว่าเหตุผลหลักสำหรับความตื่นตระหนกของเขาไม่ใช่เพราะเกมหมากรุกบนกระดาน  แต่เป็นการเปลี่ยนภาพ

ตอนนี้เย่ว์หยางไม่ต้องคาดเดาก็สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าทักษะแฝงเร้นหมากรุกของตงฟางกบฏแห่งหอทงเทียนที่อยู่ข้างหน้าเป็นทักษะชนิดใด  ทักษะแฝงเร้นนี้สามารถพัฒนาการต่อสู้ทั้งหมดได้ตามความต้องการของเจ้านาย  ตราบใดที่ตัวหมากถูกวาง ทักษะในการต่อสู้ที่สอดคล้องและมีความเหนือกว่าบางอย่างจะถูกตระเตรียมไว้!  หลังจากเกมหมากรุกจบลงฝ่ายที่ชนะ จะชนะทุกอย่างไม่ว่าจะต่อสู้รูปแบบใดฝ่ายพ่ายแพ้ที่ไม่เหลืออะไรจะตายไปทันที!

นี่ไม่ใช่หมากธรรมดาแม้แต่น้อย

แต่เป็นการประลองต่อสู้

การเดินหมากบนกระดานด้วยตัวหมากรุกจะเปลี่ยนทุกอย่างในโลกรวมถึงชีวิตของผู้เล่นทั้งสอง

“แม้ว่าข้าจะสามารถกดดันเจ้าต่อไปได้จนกระทั่งเจ้าสิ้นหวัง  แต่เพื่อไม่ให้เจ้าเล่นลิ้นข้าจะให้โอกาสเจ้า  เด็กหนุ่ม! อย่าหาว่าผู้อาวุโสอย่างข้ารังแกเจ้าเลย ตอนนี้ข้าให้โอกาสเจ้าได้เล่นอย่างยุติธรรม  เจ้าบอกไว้ไม่ใช่หรือว่าเจ้าฉลาดมาก มาเถอะดึงพลังที่เจ้าซ่อนไว้ทั้งหมดออกมา! เป็นไปได้ว่าเฟ่ยเหวินหลีคอยสนับสนุนเจ้าอยู่ด้านหลัง  นางพญาผู้พิชิตมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะกวาดแดนสวรรค์ทำไมไม่ให้นางออกมาและพลิกสถานการณ์ต่อสู้ของเจ้า?”  บัณฑิตวัยกลางคนยื่นข้อเสนอชัยชนะให้เย่ว์หยางเหมือนกับว่าครั้งหนึ่งนางพญาผู้พิชิตผู้ที่ทำให้นักสู้แดนสวรรค์ได้ยินชื่อแล้วต้องสั่นกลัวไม่เป็นภัยคุกคามเขาได้

เย่ว์หยางไม่ยอมประมาทในทันทีแต่มองดูการเปลี่ยนแปลงใหม่ในภาพ

ในพื้นที่กว้างใหญ่เจ้าอ้วนไห่ยืนหน้าคนอื่น

มีบุรุษร่างทองสูงใหญ่รัศมีเหมือนดวงอาทิตย์ค่อยๆปรากฏร่างจากควันสีดำ

ตอนแรกเขาโยนเงาบางเล็กในมือ จากนั้นยกข้อมืออย่างสบายๆ นิ้วทั้งห้าที่กางอยู่รวบกำเบาๆ ก้อนเมฆที่เกิดจากแรงระเบิดลอยสูงขึ้นหลายพันเมตรหดตัวอย่างรวดเร็วและถูกกลืนเข้าไปในหลุมดำ หลุมดำเกิดจากพลังหดตัวด้วยเจตจำนงของบุรุษร่างทองที่เปล่งรัศมีดุจดวงอาทิตย์ควบแน่นเป็นลูกบอลและหมุนอย่างช้าๆ ในอากาศ มองดูเหมือนดาวดวงเล็กที่อยู่บนฝ่ามือของบุรุษร่างทอง...เย่คงและเสวี่ยทันหลางเห็นภาพที่น่าตกใจ บุรุษทองร่างใหญ่แสดงท่าทางเหยียดหยาม “เจ้าพวกมดแมลง ข้าคือขุนพลเทพไท่หยางหนึ่งในสิบแปดขุนพลเทพของเจ้าตำหนักใหญ่ กำจัดมดแมลงน้อยอย่างพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้าตำหนักใหญ่ลงมือ  แต่เมื่อเป็นคำสั่งจากเจ้าตำหนักใหญ่ข้าขุนพลเทพจึงต้องลงมือ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสู้อย่างดีที่สุดต่อต้านให้เต็มที่อย่ายอมให้ข้าขุนพลเทพฆ่าพวกเจ้าง่ายเกินไปเล่ามิฉะนั้นคงจะน่าเบื่อเกินไป!”

กล่าวจบขุนพลเทพไท่หยางโยนเงาดำบางลงพื้นทันที

เย่คงกับพวกมองดูด้วยความหวาดหวั่น

เพราะนั่นคืออาจารย์จิ้งจอกเฒ่าผู้ซ่อนตัวอยู่ในทะเลฝนดาวตกหอทงเทียน

คาดไม่ถึงเขาคอยช่วยอยู่ข้างนอกกลับถูกขุนพลเทพไท่หยางจับโดยไม่ทันตั้งตัว นอกจากนี้ดินแดนกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตจะไม่มีใครเข้ามาได้อีกครั้งเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น...“ข้าไม่เป็นไร แค่กๆ!”  อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าไอ เขาได้รับบาดเจ็บที่อกถูกศัตรูทำร้ายซี่โครงหักหัวใจและปอดได้รับความกระทบกระเทือนทุกครั้งที่ไอจะมีเลือดออกทางปากและจมูกเป็นจำนวนมาก  แม้จะเจ็บปวดอย่างมากแต่อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าในฐานะครูยังคงแจ้งลูกศิษย์ของเขาก่อน  “ระวังด้วย, พวกเขามีกันสอง แค่กๆ  สอง หรือคนนี่แหละ!”

“ขุนพลเทพไท่หยินไม่สนใจจะเข้าร่วมสู้กับพวกเจ้าเหล่ามดแมลงแน่  ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าตำหนักใหญ่สั่งการด้วยตนเองข้าขุนพลเทพผู้นี้จะไม่มาส่งพวกเจ้ามดแมลงน้อยสู่ปรภพแน่ ภารกิจทางการของเราก็คือตามล่าสังหารนักสู้ของหอทงเทียนตัวอย่างเช่น เทียนหลุน เฉียนเย่และอู๋เซ่อที่เอาแต่ซ่อนตัวเป็นเต่าหดหัว!” ขุนพลเทพไท่หยางโบกมืออย่างไม่สนใจและอดมองคุณชายหลี่หมิงอย่างประหลาดใจไม่ได้ร่างของเขาเปล่งรัศมีเป็นประกายเหมือนพระอาทิตย์ดวงน้อย  แต่คุณชายหลี่หมิงเมื่อเทียบกับขุนพลเทพไท่หยางยังมีระยะห่างกันช่วงหนึ่งถ้าคุณชายหลี่หมิงเหมือนประทีปส่องในความมืดอย่างนั้นไฟของขุนพลเทพไท่หยางก็เหมือนกับภูเขาไฟ

เขาเชิดหัวอย่างภูมิใจโดยไม่สนใจเย่คงและเสวี่ยทันหลาง

ขุนพลเทพไท่หยางเหยียดนิ้วตรง  “มาสู้กับข้าข้าจะใช้แค่เพียงนิ้วเดียวบดขยี้พวกเจ้าจนเป็นผุยผง!  เจ้าพวกมดแมลง จงเร่งเร้าพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าออกมาแต่ผลลัพธ์จะไม่มีเป็นประการที่สอง จากนี้ไปเจ้าจะต้องร้องขอความเมตตากรุณาจากข้าขุนพลเทพนี้ให้เร่งฆ่าพวกเจ้า เพราะในไม่ช้าเจ้าจะพบว่าความตายของพวกเจ้าเลิศหรูแค่ไหน?”

บัดซบ!

เย่ว์หยางโกรธจัดจนหน้าบิดเบี้ยว

เจ้าผู้นี้ผายลมเหม็นคละคลุ้ง เขาไม่เคยเห็นคนผายลมเหม็นอย่างนี้มาก่อนในชีวิต

ถ้าเย่ว์หยางอยู่ในที่นั้น เขาจะต้องซัดสักสามหมัดสองเท้าให้เจ้าผู้นี้หน้าบวมเป็นหัวหมูจะต้องบีบบังคับเจ้าผู้นี้ต่อหน้า เจ้าตำหนักแสงจงหัวและจีอู๋ลี่เป็นเหมือนเด็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา   จ้าวสุริยาก็เกือบถูกเขาทำให้ร้องไห้มาแล้ว...  แต่น่าเสียดาย เย่ว์หยางโกรธโมโหแต่ไม่มีหนทางรีบไปในที่ต่อสู้ได้ ได้แต่มองพวกเย่คงและเจ้าอ้วนไห่ถูกรังแกอย่างไร้ประโยชน์

“ตอนนี้,ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้ลงมือบ้าง!”บัณฑิตวัยกลางคนยิ้มกว้างขึ้นทุกที “เจ้าเป็นคนเก่งไม่ใช่หรือ? เจ้าสามารถพลิกสถานการณ์ได้  มาๆไม่ต้องเกรงใจ อยากปกป้องพี่น้องของเจ้ามากที่สุดไม่ใช่หรือ? เจ้าต้องเร็วๆ หน่อยพวกเขากำลังจะถูกคนของข้าฆ่าตาย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด